Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 735 ตลกเหรอไง?
ตอนที่ 735 ตลกเหรอไง?
ไม่นานหลังจากความเงียบเกิดขึ้นก็มีชายหนุ่มที่ดูอายุประมาณยี่สิบปีเดินเบียดแทรกตามทางเดินฝูงชน อาจจะเป็นเพราะเขาต้องเบียดฝ่าฝูงชนมหาศาลมาเรื่อยๆ เสื้อผ้าจึงยับยู่ยี่ หน้าตาก็ชุ่มเหงื่อ แต่ท่าทางที่ทุกคนปฏิบัติต่อชายหนุ่มคนนี้ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาคือมู๋หรงยู่เฉิง คนสนิทของฉางกวนหลง
มีอีกสามคนเดินตามหลังของมู๋หรงยู่เฉิงออกมาด้วยพวกเขาก็เบียดฝ่าฝูงชนออกมาเหมือนกัน เสื้อผ้าจึงยับยู่ยี่ไม่ต่างกัน พวกเขาพยายามเบียดตัวเพื่อเปิดทางให้มู๋หรงได้เดินโดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง
ในที่สุดมู๋หรงยู่เฉิงก็ฝ่าฝูงชนออกมาได้ก่อนที่มู๋หรงจะทันได้เห็นเหตุการณ์เต็มตา—-
”ท่านมู๋หรง!”เสี่ยวเย่วิ่งเข้าถลาเข้าไปหามู๋หรงทันที เขาลงไปกอดขากางเกง น้ำเสียงดุดันด้วยความแค้นใจ “พ่อของผมถูกฆ่า! พวกมันฆ่าพลโทแห่งหนานตู้!”
หลังจากที่พ่อของเสี่ยวเย่ถูกมีดตัดขั้วหัวใจและตายทันทีความแค้นของเสี่ยวเย่ก็ทวีคูณขึ้นมหาศาลเข้าไปอีก เขาจะต้องหาทางเอาคืนกลุ่มชูฮันที่ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามให้ได้
ในขณะที่เสี่ยวเย่ร้องไห้เสียงดังทุกคนก็มองไปที่เสี่ยวรุ่ยและต้องตะลึงค้างเมื่อได้เห็นว่าเสี่ยวรุ่ยไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว ที่หน้าอกมีแผลเปิดและเลือดที่ยังคงไหลทะลักออกมาไม่หยุด มันสามารถมองได้ชัดเจนเลยจากด้านนอกว่ามีดตัดลงไปลึกขนาดไหน
มู๋หรงยู่เฉิงถูกภาพตรงหน้าดึงความสนใจไปทันทีหากไม่นานเข้าก็รีบดึงสติตัวเองกลับมาที่เสี่ยวเย่ที่มีสีหน้าเคียดแค้นรุนแรง “ฝีมือใคร?!”
”พวกมันครับ!”เสี่ยวเย่ชี้นิ้วไปกลุ่มของชูฮันที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป “พวกมันไม่ได้แค่ฆ่าพ่อผมเท่านั้น แต่มันยังทำร้ายทหารของทีมกฏหมายอีก คนที่เป็นคนออกคำสั่งคือคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุด มันเป็นโจรชั่ว!”
ข้อกล่าวนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือสำหรับคนมาใหม่เพียงแค่แปปเดียว ไม่ว่าจะเหล่าผู้ลี้ภัยที่อยู่ด้านนอกประตูค่ายมาตั้งแต่แรก หรือประชาชนของค่ายที่พึ่งออกมา หรือมู๋หรงยู่เฉิงที่พึ่งมาถึง สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ชูฮันกันหมด
และทันทีที่เห็นภาพเท้าของชูฮันกำลังเหยียบอยู่บนหัวของทหารจากทีมกฏหมายคนหนึ่งความโกรธของมู๋หรงยู่เฉินก็ระเบิดโพล่งออกมา “คุณเป็นฆ่าพลโทเสี่ยวรุ่ยของค่ายเราใช่มั้ย?!”
”มันนั่นแหละ!”เสี่ยวเย่ดังวลมากจนตะโกนขัดขึ้นมา
มู๋หรงยู่เฉิงยังไม่ปักใจเชื่อทันทีแม้ตัวเองจะอยู่ภายใต้อารมณ์โกรธจัดเขาตวัดสายตาคมกริบใส่เสี่ยวเย่ให้หุบปาก
เสี่ยวเย่ตกใจค้างรีบปิดปากตัวเองฉับ ภายในใจเกลียดแค้นมู๋หรงยู่เฉิงสุดๆ…ทั้งๆที่หลักฐานมันก็ชัดเจนยังจะต้องถามอะไรอีกอยู่ได้
ขณะที่ชูฮันกำลังสงสัยว่าจะบอกเรื่องราวยังไงดี—–
”ท่านครับ!”ฮวงชูเจิ้นที่ถูกมัดและยังคงนอนอยู่ที่พื้น ส่งเสียงขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “ท่านมู๋หรงยู่เฉิง!”
มู๋หรงยู่เฉิงตกใจและหันกลับไปตามเสียงและได้เจอกับฮวงชูเจิ้นที่นอนอยู่ที่พื้น เนื้อตัวมีรอยเท้าเต็มร่างไปหมด “ฮวงชูเจิ้น ใครทำอะไรคุณ?”
”ท่านมู๋หรงยู่เฉิงครับ”ฮวงชูเจิ้นมองมู๋หรง ยู่เฉินด้วยแววตาสิ้นหวัง น้ำเสียงวิตกกังวล “คนพวกนี้ไม่ได้ฆ่าทีมกฏหมาย แต่พวกเขาเพียงแค่ตัดมือและเท้าเพราะทีมกฏหมายไล่ฆ่าผู้คนที่ประตูเมืองตามคำสั่งของพลโทเสี่ยวรุ่ย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดเท้ามือทีมกฏหมายเพื่อหยุดการกระทำครับ”
”ฮวงชูเจิ้นแกกล้าเข้าข้างพวกมันงั้นเหรอ?!” เสี่ยวเย่เดือดจัด จากนั้นก็หันไปฟ้องมู๋หรงยู่เฉิงทันที “ฮวงชูเจิ้นมันเป็นคนทรยศ มันคอยช่วยเหลือกลุ่มผู้กระทำผิดพวกนี้ แถมยังโยนความผิดให้หัวหน้าทีมบังคับใช้กฏหมายอีก และถึงแม้ทีมบังคับใช้กฏหมายจะทำตามคำสั่งที่ได้รับมาได้ด้วยความซื่อตรง แต่อีกฝ่ายและเป็นใคร เป็นแค่คนระดับต่ำสุด พวกผู้ลี้ภัยที่ไม่ต่างอะไรกับขยะสังคม พวกมันมีสิทธิอะไรจะมาเทียบเท่ากับทีมบังคับใช้กฏหมาย? แล้วการที่มันฆ่าพลโทก็คือความจริง และโทษของพวกมันคือความตาย!”
คำประกาศของเสี่ยวเย่ดังก้องเขาโยนความผิดทั้งหมดไปให้กลุ่มชูฮัน และมั่นใจว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะป้องกันและต่อให้มีฝีมือขนาดไหนแต่คราวนี้จะไม่มีใครหนีรอดไปได้ทั้งนั้น
มู๋หรงยู่เฉิงรู้สึกแปลกนิดๆกับคำพูดของเสี่ยวเย่เขาหันกลับไปมองชูฮันและพรรคพวก “พวกคุณ 50 คนเอาชนะชนะทีมบังคับใช้กฎหมาย 200 คนและยังฆ่าเสี่ยวรุ่นวิวัฒนาการระยะ 4 อีก?”
ชูฮันพยักหน้ารับจ้องตากับมู๋หรง ยู่เฉิงพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากอันเป็นเอกลักษณ์ “ทีมบังคับใช้กฎหมายของค่ายคุณฆ่าคนบริสุทธิ์ด้านนอกค่าย และยังคิดจะฆ่าข้ามระดับ ฉันให้บทลงโทษพวกเขากลับคืน ก็ยุติธรรมแล้วหนิ”
”ข้ามระดับ?ยังไง?” มู๋หรง ยู่เฉิงตะลึงและจับคำแปลกๆของชูฮันได้
”ไอ้เวร!”เสี่ยวเย่ที่ในที่สุดก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแหกปากใส่ชูฮัน “แกมันปลอม แกมีสิทธิอะไรมาให้บทโทษกับทีมบังคับใช้กฏหมายของหนานตู้ แล้วแกมีสิทธิอะไรมาพูดเรื่องรักษาความยุติธรรม? แกมีสิทธิพิเศษอะไร? อย่าโง่ไปหน่อยเลย แล้วไอ้ขยะหลูปิงเซ่อนี่มันเป็นใคร มันก็ขยะชั้นต่ำ ถ้าทีมบังคับใช้กฏหมายจะฆ่ามันก็สมควรแล้ว!”
หลังจากเสี่ยวเย่ระเบิดออกมารอยยิ้มของชูฮันก็กว้างกว่าเดิม แววตาล้อเลียนยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนรอบๆเริ่มส่งเสียงซุบซิบออกมาแววตาจับจ้องมาชูฮันด้วยความสงสัย
มีเพียงแค่ฮวงชูเจิ้นที่ได้รับการปล่อยจากเชือกที่มัดไว้เขาวิตกกังวลขณะเดินเข้าไปหามู๋หรงยู่เฉิง “ท่านมู๋หรงยู่เฉิง พวกเขาเป็นทีมของจีน!”
พรึบ!
แทบจะทันทีทันใดสีหน้าของมู๋หรงยู่เฉิงก็เปลี่ยนไปทันที เขากวาดสายตามองไปที่ชูฮันและทีมกุ้งเสือดำที่อยู่ด้านหลัง แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
”ทีมที่ไหนจะฆ่าทหารด้วยกันฮวงชูเจิ้นแกมันก็แค่หาข้ออ้างให้พวกตัวเอง แกมันเป็นสายลับ!” เสี่ยวเย่ทนไม่ได้และแหกปาก “ท่านมู๋หรง ท่านก็เห็น ไอ้ฮวงชูเจิ้นมันเป็นคนรอบคอบ มันเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!”
มู๋หรงยู่เฉิงเพิกเฉิยต่อคำพูดของเสี่ยวเย่คิ้วของเขาย่นเข้าหากันและมองไปที่ชูฮันด้วยแววตาอิจฉา น้ำเสียงที่ใช้พูดกับชูฮันเปลี่ยนไปทันที “ทีมของท่าน เป็นทีมของจีน?”
ชูฮันยิ้มเย้าหยอก”ใช่”
”ใช่”
ทันทีที่ได้ยินคำตอบมู๋หรงยู๋เฉิงก็หลังตรงยืนนิ่งอย่างแสดงความเคารพ “ท่านสะดวกที่จะเปิดเผยมั้ยครับว่าเป็นทีมหลงยาหรือฮูหยา?”
จีนมีทีมที่เป็นที่รู้จักกันดีไม่แค่กี่ทีมเท่านั้นและทีมที่โด่งดังที่สุดคือทีมหลงยาและฮูหยา และซางจิงก็ได้ปล่อยข่าวว่าสมาชิกเกือบทั้งหมดของทั้งสองได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว เหลือเพียงแค่สมาชิกไม่กี่คนที่รอดมาได้ ทว่าทั้งสองทีมถูกทำลายไปแล้ว
แต่ตอนนี้มีทีมปรากฏตัวขึ้นที่นี้แล้วมู๋หรงยู่เฉิงจะไม่ตกใจได้อย่างไร ถ้าคนพวกนี้เป็นสมาชิกของทีมหลงยาหรือฮูหยาที่ยังไม่ได้ตายจริงๆ มันก็คือพรมาโปรดของทั้งจีนไม่ใช่หรือไง!
เสี่ยวเย่ที่เห็นการกระทำที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของมู๋หรงยู่เฉิงความไม่พอใจก็พวยพุ่งขึ้นมาทันที นี้พวกมันเป็นทีมที่ว่านั่นจริงๆเหรอ?
น่าเสียดายชูฮันเพียงส่ายหัวและชี้นิ้วไปที่ด้านหลังตัวเอง “ไม่ใช่ทั้งสอง ทั้ง 50 คนด้านหลังฉันเป็นทีมกุ้งเสือดำ ข้างๆนี้คือหลูปิงเซ่อกัปตันทีมความลับของพระเจ้า ในแง่ของลำดับชั้น พวกเขามีตำแหน่งสูงกว่าทั้งทีมบังคับใช้กฏหมาย คนของฉันลงโทษทีมบังคับใช้กฏหมายตามเขตอำนาจก็ถูกต้องแล้ว”
ทันทีที่ชูฮันเอ่ยออกมาฮวงชูเจิ้นก็ตะลึงค้าง “ทีมกุ้งเสือดำ? ทีมความลับของพระเจ้า? นี้มันเรื่องตลกหรือไง?!”