Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 737 หลอกลวง
ตอนที่ 737 หลอกลวง
”หึ!”ฉางกวนหลงแสยะยิ้ม “มีหลักฐานไหม?”
”พยานหมื่นคนข้างหลังผม”ชูฮันเผชิญหน้าเต็มที่ “และตามกฎระเบียบส่วนของผมซึ่งเป็นพลเอก คนของพี่ดูถูกผม ดังนั้นผมจึงมีสิทธิจะฆ่าพวกเขาได้ทันที”
สีหน้าของฉางกวนหลงตึงเครียดแววตาไหววูบ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคล้อยตามชูฮัน
แต่ทั้งสองพลเอกของจีนดูเหมือนจะลืมเลือนฝูงชนรอบๆที่กำลังหวาดกลัวไปเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชูฮันและทีมกุ้งเสือดำที่ยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบได้สร้างความกลัวให้แก่ผู้ลี้ภัยบางคนที่ก่อนหน้านี้ดูถูกชูฮัน แต่แล้วเมื่อความจริงปรากฏว่าชูฮันคือชูฮันผู้โด่งดัง พวกเขาก็เริ่มกลัวตาย
ส่วนกลุ่มผู้ลี้ภัยที่พยายามจะช่วยเหลือชูฮันก่อนหน้านี้ก็สับสนจนหัวหมุนพวกเขาคิดว่าชูฮันและพรรคพวกเป็นแค่กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นชูฮันผู้โด่งดังทั้งพลังและอำนาจ จนจัดการทีมกฏหมายและฆ่าเสี่ยวรุ่ยได้อย่างง่ายๆ
ชูอันไม่ได้มีท่าทีเขินอายเลยด้วยซ้ำนอกจากตาที่สั่นระริกและกระตุกเบาๆเพราะความชอบใจ
แต่วันนี้ข่าวลือที่ทุกคนเคยได้ยินกลับผิดแปลกไปอย่างสิ้นเชิง พลเอกหนุ่มคนนี้ปกป้องเหล่าผู้ลี้ภัยที่มักไม่มีใครแยแส พลังการต่อสู้ที่น่ากลัวราวกับปีศาจ รักษาความยุติธรรม ไม่กดขี่คนของตัวเองเหมือนกับเสี่ยวเย่ ชูฮันเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี!
ทุกคนรู้สึกอิจฉาประชากรของค่ายเขี้ยวหมาป่า…
ฮวงชูเจิ้นรู้สึกว่าทุกอย่างในวันนี้มันมากมายเกินไปสถานการณ์ที่พลิกผันไปมาจนเขารู้สึกอึดอัด ในคราวแรกเขาคิดว่ากลุ่มของชูฮันคือทีมของจีนแต่ผลลัพธ์กลับไม่ใช่ และเขาคิดว่าชูฮันเป็นคนหลอกลวงที่หาโอกาสแอบอ้างแต่กลับกลายเป็นพลเอก!
มู๋หรงยู่เฉิงไม่ได้พูดอะไรเลยเขารู้สึกเหมือนกับคนโง่เง่า เขาไม่กล้าจะขยับตัวอะไรทั้งนั้นอีก คนแรกที่ซวยก็คือเขา เมื่อเทียบกับคนอื่นๆเขารู้ดีกว่าถึงพลังอำนาจของชูฮัน
เขาต้องระวังตัวและการกระทำของตัวเองให้ดี!
หากเพียงไม่นานหลังจากความตกใจผ่านพ้นไปเสี่ยวเย่มองร่างของพ่อเขาที่พื้น พยายามควบคุมความสิ้นหวังภายในใจของตัวเอง และจ้องหน้าฉางกวนหลงที่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา “ท่านพลเอกฉางกวนหลง ผมไม่รู้ว่าเขาคือชูฮันครับ พ่อผมก็ไม่รู้ แต่เขาฆ่าพ่อผมเพราะทำตัวไม่เหมาะสม นั่นมันเกินไปรึเปล่าครับ?”
ฉางกวนหลงเหลือบมองร่างของเสี่ยวรุ่ยที่พื้นมีรอยยิ้มบางๆเกิดขึ้นซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ไม่มีใครเข้าใจ หากชูฮันเข้าใจ มันไม่มีพลเอกคนไหนช่วยเหลือกันและกัน ทุกคนแย่งที่จะเป็นที่หนึ่งกันทั้งนั้น “ท่านพลเอกชูฮัน การรักษาสิทธิพิเศษในการใช้กฏระเบียบของคุณช่างน่าอิจฉา แต่คนหนุ่มรุ่นใหม่อย่างคุณจะทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแบบนี้งั้นเหรอ คุณคงตั้งใจที่จะมาเจอหน้าแก่ๆของฉันสินะ?”
เสี่ยวเย่ที่ได้ยินคำพูดของฉางกวนหลงก็เริ่มโมโหขึ้นมาอีกครั้งหัวใจเต้นรัวจนแทบระเบิด
”ท่านพลเอกฉางกวนหลง!”เสี่ยวเย่ที่คิดออกแล้วก็รีบพูดขึ้นต่ออีกครั้ง “ชูฮันคนนี้ไม่ได้แค่ฆ่าพ่อของผมเท่านั้น แต่เขายังตัวต่อต้านเป็นศัตรูกับทีมกฏหมายของค่ายหนานตู้ ท่านดูทหารที่บาดเจ็บร้ายแรงที่พื้นพวกนี้สิครับ ทุกคนต้องกลายเป็นคนพิการทั้งหมด ถึงแม้เขาจะเป็นพลเอก แต่เขามีอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้ในค่ายหนานตู้แบบนี้เหรอครับ?”
ฉางกวนหลงมองตามมือของเสี่ยวเย่ที่ชี้บอกและเป็นอีกครั้งที่เขาเผยรอยยิ้มที่ไม่มีใครรู้จักออกมา “ท่านพลเอกชูฮัน คนพวกนี้ที่ท่านสู้ด้วย ผมไม่มีอะไรจะพูด แต่สำหรับการตายของทีมกฏหมายและเสี่ยวรุ่ย ที่จริงมันไม่เกี่ยวกับอะไรกับคุณเพราะคุณมีอำนาจของพลเอกที่ไม่มีใครควบคุมคุณได้ แต่คนของคุณทั้งหลายไม่ได้มีสิทธินั้นด้วย พวกเขากล้าดียังไงถึงฆ่าคนของค่ายหนานตู้?”
คำพูดของฉางกวนหลงเป็นการประกาศให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการให้ชูฮันรอดตัวไปได้เหล่าผู้คนรอบๆเริ่มหัวใจเต้นแรง ติตดามเหตุการณ์ที่ดำเนินไปเรื่อยๆอย่างไม่รุ้จุดจบ
มีเพียงแค่มู๋หรงยู่เฉิงที่ยังคงไม่พูดอะไรสักคำราวกับคนที่ไม่มีตัวตน
ชูฮันย่นคิ้วเล็กน้อยฉางกวนหลงนี่จงใจตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา?
หวังไคก็เข้ามาในความคิดและเริ่มปรึกษากับชูฮันในหัว”ชูฮันไม่ใช่ว่าฉางกวนหลงเป็นเพื่อนของเราหรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงต่อต้านนายล่ะ?”
ชูฮันหยุดคิดครู่หนึ่งจากนั้นก็เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดกับหวังไคในหัว “อาจจะเป็นไปได้ว่าเพราะฉันลักพาตัวลูกสาวเขาไป”
”ฟู่~”หวังไครู้สึกเหนื่อยใจ “นายลักพาตัวลูกสาวเขาเพื่อ?”
”ลูกสาวของเขาคือฉางกวนหวีซิน”ชูฮันตอบท่าทางสบายๆ “เธอเป็นคนดีมาก”
หวังไคส่ายหัวแทบจะหมดคำพูดกับชูฮัน”ชูฮัน เลิกเล่นได้แล้ว รีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซะ ไม่อย่างนั้นพลเอกฉางกวนหลงอาจจะขับไล่พวกเราออกไปจากค่ายหนานตู้”
ชูฮันยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆขณะที่ฉางกวนหลงกำลังรอคอยคำตอบของชูฮันอยู่ก็ยิ้มมุมปาก “ไม่ใช่ว่าฉันเข้าข้างคนของฉัน? แต่เสี่ยวรุ่ยซึ่งเป็นพลโทก็มีตำแหน่งสูงกว่าไม่ใช่หรือไง?”
ชูฮันยิ้มมุมปากกลับไปเช่นกันยกนิ้วขึ้นชี้ไปที่หลูปิงเซ่อ “ท่านผู้นำ คนคนนี้คือหลูปิงเซ่อ กัปตันของทีมความลับของพระเจ้า คุณอาจจะไม่รู้จักทีมความลับของพระเจ้าแต่น่าจะรู้จักทีมนักฆ่าขนนกใช่มั้ย? ทั้งทีมนักฆ่าขนนกและทีมความลับของพระเจ้าเป็นทีมของฉันที่กองทัพเขี้ยวหมาป่าและพวกเขามีระดับความสามารถเท่ากัน ดังนั้นเมื่อทีมบังคับใช้กฏหมายกำลังจะฆ่าหลูปิงเซ่อ โทษของพวกเขาจึงมีแค่ความตายเท่านั้น เข้าใจรึยัง!”
ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงที่แสดงถึงอำนาจที่แผ่กระจายอย่างล้นหลามที่ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้งแต่เป็นเพราะทุกคนได้ยินคำว่า ‘นักฆ่าขนนก’
ใครจะไม่รู้จักทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ของกองทัพเขี้ยวหมาป่า…นักฆ่าขนนก?
เมื่อตอนที่เกิดสงครามกลางภูเขาทีมนักฆ่าขนนกคือทีมแรกที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าสายตาของทุกคน สมาชิกทุกคนในทีมล้วนเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่กันหมด พวกเขาทำสถิติการฆ่าลูกผสมได้สูงสุด
เมื่อได้ยินชื่อทีมนักฆ่าขนนกและยิ่งชูฮันบอกว่าทีมความลับของพระเจ้ามีระดับความสามารถเท่ากับทีมนักฆ่าขนก แล้วทุกคนจะไม่ตกใจได้อย่างไรกัน?
เสี่ยวเย่ยืนนิ่งค้างสติลอยหากเมื่อได้สติเขาก็รีบฉวยโอกาสที่ฉางกวนหลงเข้าข้างตัวเองก่อนหน้านี้ตะคอกใส่ชูฮัน “แกมันหลอกลวง! ใครจะไม่รู้จักทีมนักฆ่าขนนกแต่ความลับของพระเจ้าไม่เคยมีใครได้ยินชื่อนี้ทั้งนั้น คิดว่าแค่จะดึงชื่อขึ้นมาลวกๆแล้วบอกว่าเป็นทีมของกองทัพเขี้ยวหมาป่าแล้วพวกเราจะเชื่อเหรอไง? ตลกสิ้นดี!”
ทันทีหลังจากเสียงของเสี่ยวเย่หายไปมันก็เกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายขึ้น
”นี่คือกัปตันของทีมความลับของพระเจ้า?”จู่ๆฉางกวนหลงก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีใครเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไรอยู่ แววตามีร่องรอยของความประหลาดใจแฝงอยู่ เขามองหลูปิงเซ่ออยู่สองสามครั้ง “ชื่อที่รอคอยมานาน แต่ทีมความลับของพระเจ้าแตกแล้วเหรอ? ทำไมกัปตันถึงได้มาอยู่ที่นี้คนเดียว?”
คนอื่นๆไม่รู้จักทีมความลับของพระเจ้าแต่ฉางกวนหลงรู้ว่าทีมความลับของพระเจ้าเป็นหนึ่งในสองทีมใหม่ที่เหอเฟิงส่งสมาชิกของทีมหลงยาและฮูหยาจากซางจิงไปอยู่