Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 8 เครื่องสำอางค์เธอเลอะหมดแล้ว
ในสายตาของกู๋เสี่ยวตง สถานการณ์ในตอนนี้ก็คือเจ้าขี้ขลาดเฉินช่าวเย่กำลังนั่งอยู่ในรถที่กว้างขวางคนเดียว และเธอ…หญิงสาวสวยคนเดียวที่อยู่ที่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่ชูฮันจะปฏิเสธเธอ เธอไม่อยากอยู่ในรถเล็กๆคันนั้น เธอต้องการอยู่ในรถที่กว้างขวางและนอนหลับสบายของชูฮัน
“ขอโทษ รถของฉันเต็มแล้ว” ชูฮันปฏิเสธ
“คุณ!” เสน่ห์ของเธอดูเหมือนจะทำอะไรชูฮันไม่ได้เลย กู๋เสี่ยวตงรู้สึกอึดอัด มันเหมือนกับเธอพึ่งกลืนแมลงเข้าไป
เธอรีบก้มมองดูตัวเอง มั่นใจว่าเธอมีรูปร่างที่ดี ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่ไม่มีสมองพอที่จะชื่นชมกับความงามของเธอ
ชูฮันยังคงนิ่งเงียบ มองตรงไปที่หน้าของกู๋เสี่ยวตง อายไลเนอร์และมาสคาร่าที่เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าของเธอ มันดูสกปรกมากจนดูราวกับเธอถูกฝังลงในกองถ่านหินและยังไม่ได้ล้างมันออก การแต่งหน้าหนาๆทำให้เธอดูมอซอ คนอื่นๆอาจคิดว่าเธอเป็นซอมบี้ได้
ชูฮันไม่สนใจกู๋เสี่ยวตง ยังยืนคุ้มกันรถพร้อมกับขวานในมือต่อไป
ในตอนนั้นเอง จางจือหวีและเฉินช่าวเย่วิ่งมาทางที่พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ จางจือหวีดูแย่มากขณะที่เฉินช่าวเย่ก้มหน้ามองต่ำไปที่พื้น เขากลัวเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมา
“ฟานเว่ย?” ชูฮันขมวดคิ้วพลางถาม
จางจือหวีถ่มน้ำลาย “อึของเจ้าอ้วนนี่เหม็นมากจนฟานเว่ยทนไม่ไหวและวิ่งหนีไป”
“หึ!” กู๋เสี่ยวตงมองไปที่เฉินช่าวเย่และยิ้มเยาะ เธอได้ตั้งฉายาให้ชูฮันว่าเขาเป็นคนบ้า ตั้งแต่เขาพาไอ้ขยะนี่มาด้วย เธอไม่มีทางข้องเกี่ยวกับมันแน่ๆถึงแม้เธอจะสามารถหาผลประโยชน์จากมันได้ก็ตาม
เฉินช่าวเย่ยืนนิ่งเงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ชูฮันนิ่วหน้าพลางมองตรงไปข้างหน้า ไม่มีอะไรให้มองเห็นในความมืด หากแต่มันก็อาจจะมีอะไรปรากฏขึ้นมาได้ตลอดเวลาเช่นกัน
“กลับเข้าไปข้างใน” เพื่อความระมัดระวัง ชูฮันเดินไปที่G55ทันที เนื่องจากมันอาจจะมีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เฉินช่าวเย่เดินตามทันที เขากลัวว่าชูฮันจะทิ้งเขาถ้าหากเขาก้าวตามไม่ทัน และมันก็จริง เพราะชูฮันจะทิ้งชายผู้ที่จะกลายเป็นคนเข้มแข็งอย่างมากในอนาคตผู้นี้ ถ้าหากเขาไม่มีสัญชาตญาณและสัมผัสของการเอาชีวิตรอด
กู๋เสี่ยวตงไม่ได้ยอมแพ้ หากเธอต้องกลับไปยังรถคันเล็กนั่น เมื่อชูฮันปิดประตูใส่เธอ
“อ๊าก! ช่วย—-” ราวกับว่าคอของเขาถูกตัดด้วยอะไรบางอย่าง เสียงของฟานเว่ยอยู่ดีๆก็หยุดชะงักและเงียบไป
หัวใจของชูฮันเต้นรัวแรง เขาสตาร์ทรถอย่างรีบร้อน เปิดไฟหน้าขึ้นทันที ตาของเขามองจ้องไปข้างหน้าเพื่อมองหาฟานเวิ่ย
“อะไร มีอะไรเกิดขึ้น? มีผีเหรอ? โอ้ ไม่นะ ซอมบี้?” กู๋เสี่ยวตงตกใจจนหน้าซีดอยู่ในรถ
จางจือหวีก็ไม่ได้ดีกว่าเท่าไหร่ เขาล็อคประตูได้ทันเวลาและสตาร์ทรถด้วยมือสั่นเทา
เราควรทำอย่างไรในตอนนี้? หนี? เราจะไปไหนได้? จะทำอย่างไร?
“ขับตามรถไป ชูฮันหายไปแล้วเนี่ย!” กู๋เสี่ยวตงตะโกนขึ้นอย่างดังเมื่อเธอเห็นว่าG55 หายไปแล้ว เธอรู้สึกว่ามีเพียงชูฮันผู้ซึ่งไม่กลัวซอมบี้จะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้
“หุบปาก ฉันกำลังสตาร์ทรถ!” จางจือหวีกังวลเป็นอย่างมาก ช่างน่าสมเพชที่รถเป็นเกียร์ธรรมดา (ซึ่งต้องบิดกุญแจเพื่อสตาร์ท)ด้วยร่างกายที่สั่นเทิ้มของเขา รถจึงสตาร์ทไม่ติดสักที
ฟานเว่ยไม่ได้ไปไหนไกล ชูฮันพบเขาหลังจากขับมาได้ไม่ไกลนัก เขากำลังวิ่งพร้อมกับเลือดท่วมตัว มีซอมบี้จำนวนมากกำลังวิ่งตามมาทางเดียวกัน พวกมันคำรามอย่างตื่นเต้น จากแวบแรกที่เห็นมีซอมบี้มากกว่า 50 ตัว
เฉินช่าวเย่ ผู้ซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับ ตะลึงเงียบด้วยความกลัวจัด
ทำไมถึงมีซอมบี้มากขนาดนี้? ชูฮันขมวดคิ้วพลางมองไกลออกไปตามแสงไฟหน้ารถ
แม่งเอ้ย! มันมีรถบัสจอดเสียอยู่ข้างถนน รถบัสน่าจะชนและผู้โดยสารในนั้นได้กลายร่างเป็นซอมบี้
“อ๊าก! อ๊าก!” ฟานเว่ยที่อยู่ห่างออกไป10ไมลล์กลัวจนสติหลุด เขาไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้ เขาจึงทำได้แต่เพียงแต่ตะโกนดังๆ
ชูฮันขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม ฟานเว่ยถูกกัดหรือไม่ถูกกันแน่?
ในช่วง3เดือนก่อนที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะปรากฏตัวขึ้น ร่างกายของมนุษย์อ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้กับไวรัสภายในตัวของซอมบี้ได้ คนที่ถูกกัดหรือข่วนจากซอมบี้จะติดเชื้อทันทีและแน่นอน มันมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงมาก เห็นได้ชัดว่าฟานเวิ่ยไม่ใช่คนประเภทนั้น…
ในอดีต ชูฮันจะเมินเฉยต่อสถานการณ์เช่นนี้และคงจะเหยียบคันเร่งขึ้นเพื่อวิ่งผ่านไป หากเขาได้เปลี่ยนความคิดเมื่อมองไปที่เฉินช่าวเย่
“เจ้าอ้วน จัดพื้นที่หน่อย เปิดประตูและลากเขาขึ้นรถมา” ชูฮันบังคับรถให้วิ่งช้าลง พลางพูดกับเฉินช่าวเย่ในเวลาเดียวกัน
“ได้” เฉินช่าวเย่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพียงแค่ตอบตกลงชูฮันออกไปอย่างไม่มีสติด้วยความกลัวเป็นอย่างมาก
ชูฮันเหยียบเบรกอย่างแรง จนล้อรถส่งเสียงดังเพราะแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น อาหารทั้งหมดที่อยู่ในรถตกลงมากลิ้งตามพื้นเพราะแรงที่เกิดขึ้น ขวดต่างๆแตกเละอยู่ในรถ
ชูฮันรู้ว่าหากเขาไม่ลดความเร็วของรถลง เจ้าอ้วนเฉินจะไม่สามารถลากฟานเวิ่ยเข้ามาในรถได้ อย่างไรก็ตาม มันอันตรายมากที่จะทำแบบนั้น ซอมบี้บางตัวที่วิ่งเร็วกว่าตัวอื่นเริ่มใกล้เข้ามาทุกที เฉินช่าวเย่เปิดประตูออกไปด้วยความกังวล ความร่วมมือของพวกเขาเป็นศูนย์เพราะฟานเว่ยเองก็กลัวจนทำอะไรไม่ถูก ในตอนนั้นเอง G55เกิดสั่นขึ้นมา มีรถคันหนึ่งวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืน ด้วยความเร็ว180 ไมล์ต่อชั่วโมง มันหายไปหลังจากพุ่งชนซอมบี้ไปหลายตัว
“พวกเขา พวกเขา?” เสียงของเฉินช่าวเย่แหบอย่างมาก
“อ๊าก!” ฟานเว่ยคำรามด้วยความโกรธสุดอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะนั่นคือรถของเขา!
จางจือหวีและกู๋เสี่ยวตงคือคนที่อยู่ในรถที่ดูเหมือนจะบินได้นั่น เห็นได้ชัดว่า พวกเขาได้เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าจะหนีไปด้วยกัน
ชูฮันยิ้มเยาะ เพราะรถที่กระจกมองหลังพังเป็นของพวกนั้น ไม่ใช่G55ของเขา
ในตอนนี้ซอมบี้สองตัวเข้ามาใกล้แล้ว ตัวหนึ่งห่างออกไปจากคอของฟานเวิ่ยเพียง10 เซนติเมตร อีกตัวอยู่ตรงหน้าชูฮัน พวกมันทุบหน้าต่างด้วยมือเน่าเปื่อย
“จับให้แน่น!” ชูฮันร้องบอกพลางเปลี่ยนเกียร์เพื่อหมุนรถกลับ เขาวางเท้าขวาลงบนคันเร่งและเหยียบอย่างแรง
ปัง! G55ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ภายในพริบตา ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างออกไป20เมตรจากซอมบี้ ปัญหาเดียวในตอนนี้คือ ของต่างๆในรถกระจัดกระจายไปทั่วหมดแล้ว
เพราะเฉินช่าวเย่จับแขนของฟานเว่ยไว้ ฟานเว่ยจึงไม่ปลิวหลุดออกไป หากเขาถูกลากออกมาพร้อมกับรถประมาณหนึ่ง ทำให้รองเท้าขูดกับพื้นจนใช้งานไม่ได้แล้ว
“เร็ว! เข้ามา!” เจ้าอ้วนเฉินกลัวอย่างมากจนเหงื่อเปียกท่วมตัวขณะลากฟานเว่ยเข้ามาในรถและในที่สุดเขาก็ปิดประตูลง
รถมีขนาดใหญ่จนคน2คนสามารถนั่งบนเบาะเดียวกันได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นหนัก95กิโลกรัม หรือก็คือเจ้าอ้วนนั่นเอง
ชูฮันมองไปที่ไหล่ของฟานเว่ย มันมีเลือดไหลและรอยกัดที่เห็นชัดเจนภายใต้เสื้อที่ฉีกขาดอยู่…