Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 806 ฉันยินด
”แกกล้าดียังไง!กล้าดียังไง?!” จงคุยเค้นเสียงตะคอกออกมาสุดแรง ตัวสั่นเทิ้มอย่างโกรธจัด “กล้าทำให้ฉันอับอายขายหน้าต่อทุกคน? ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!”
ชูฮันยิ้มมุมปากอย่างชอบใจสายตาจับจ้องไปที่รอยเลือดบนหน้าของจงคุย ขวานซิ่วโหลยังคงไม่ผละออกไป มันคงจ้องส่องประกายวาวจ่ออยู่ตรงหน้าของจงคุยเหมือนเดิม
ชูฮันไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศรอบๆเริ่มค่อยสงบลงอีกครั้ง ทุกสายตาต่างพุ่งมาที่ชูฮันกันหมดอย่างรอคอย
ชูฮันจะจบเรื่องนี้อย่างไร?
ไม่เพียงแต่รู้ว่าจงคุยมีความสำคัญอย่างไรแต่ชูฮันยังจงใจกดจงคุยเอาไว้ด้วยทัศนคติที่เย่อหยิ่ง ชูฮันนี่ช่างเหนือฟ้าจริงๆ!
สัมผัสได้ถึงอันตรายมหาศาลตรงหน้าจงคุยในตอนนี้เหมือนกับขี่อยู่บนหลังเสือ ความอับอายอย่างรุนแรงได้ผลักเขามาถึงทางตันแล้ว โดยเฉพาะต่อหน้าสายตาชูฮันที่กำลังจ้องมา และขวานยักษ์ที่จ่อหน้าอยู่ตอนนี้โดยไม่คิดจะเอาออกไป ความหมายของมันก็คือ…
การบังคับให้เขาตาย!
”ตอนนี้ฉันขอออกคำสั่งกับแกในฐานะหนึ่งในผู้นำของค่ายที่ใหญ่สี่อันดับสูงสุดของจีนค่ายจินหยาง วางขวานลงเดี๋ยวนี้!” จงคุยที่หมดความอดทนเริ่มแสดงตัวตนของตัวเองออกมา “ชูฮัน อย่าลืมสถานะของตัวเอง อย่าบังคับให้ฉันต้องเป็นศัตรูกับค่ายเขี้ยวหมาป่า!”
ความอ่อนแอที่แท้จริงได้สะท้อนออกมาให้เห็นผ่านคำพูดของจงคุยไม่ว่าจงคุยจะพยายามทำท่าเก่งกล้าขนาดไหน แต่ทุกคนๆรอบก็สัมผัสได้อยู่ดีว่าจงคุยยังด้อยกว่าชูฮันอยู่มาก
ขวานจ่ออยู่ที่คอของจงคุยหน้ามีรอยบาด สภาพของจงคุยตอนนี้ดูย่ำแย่จนไม่เหลือความเป็นผู้นำค่ายที่ใหญ่ที่สุดสี่อันดับของจีนเลย!
ชูฮันหัวเราะในลำคออย่างเห็นได้ชัดขณะยังคงจ่อขวานไปที่คอของจงคุยอย่างเย่อผยิ่ง แววตาเริ่มฉายความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “บังคับ? ฉันก็แค่ถามว่าแกเป็นใคร? โง่รึไง ไอ้แคระ?”
”ฮือฮา ~”
เป็นอีกครั้งที่ฝูงชนเจ็บแปลบในอกกับคำพูดของชูฮันที่มีต่อจงคุยครั้งนี้ไม่ใช่แค่ชูฮันจะต่อว่าจงคุยเต็มไปแล้วแต่ยังเน้นคำว่า ‘แคระ’ อีก
จงคุยโกรธจนคลั่งถ้าไม่ใช่เพราะมันมีใบมีดคมกริบของขวานยักษ์จ่ออยู่ตรงหน้าแทบจะติดแบบนี้ละก็ ก็อยากจะฉีดร่างชูฮันออกเป็นชิ้นๆซะ!
เมื่อเห็นความโกรธของจงคุยชูฮันก็เบื่อที่จะแกล้งให้อีกฝ่ายกลัวแล้ว ชูฮันเหลือบมองไปที่หลูปิงเซ่อ “ฉันได้ยินว่าคุณพูดจาดูถูกทหารของฉัน และยังเหมือนจะสั่งฆ่าเขาด้วย? อธิบายมาซะ!”
คำพูดง่ายๆหากน้ำเสียงที่ใช้นั้นทั้งดุดันและหนักแน่นไม่รู้ทำไมหากทุกคนที่อยู่รอบๆกลับรู้สึกตื่นเต้นไปกับน้ำเสียงของชูฮัน
ในยุคแห่งความปั่นป่วนนี้คนที่ชอบคุยอวดมักจะถูกกำจัดออกไป และคนที่มีความสามรถและกล้าที่จะลงมือทำอย่างชูฮันกลับสร้างความประทับใจฝังลึกในใจของผู้คน คนที่ไม่กลัวต่ออำนาจและหลักการ!
เมื่อได้เห็นภาพกลุ่มที่แสดงความชื่นชอบในตัวชูฮันในสถานการณ์นี้จงคุยก็ยิ่งอับอายยิ่งเข้าไปอีก ไม่สนใจคำสั่งของชูฮันแต่จงคุยเลือกจะแหกปากด่าทอใส่ชูฮันกลับไป “แกมันไอ้เด็กเวรนอกคอก! แม้แต่ค่ายระดับต้นของจีนแกยังเพิกเฉยต่อกฏระเบียบ คิดจะใช้ความรุนแรงกดขี่คนอื่น? จะทำร้ายฉัน? คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ? คิดว่าทุกคนในจะยอมปล่อนผ่านเรื่องนี้เหรอ?” novel-lucky
ความเหยียดในแววตาของชูฮันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆตอนนี้มันเริ่มเป็นแววตาดูถูกพร้อมกับชูฮันเอ่ยตอบคำถามของจงคุยออกมาช้าๆเสียงฟังชัด “ใช่”
”เอ่อ—?อะไรน่ะ?” จงคุยตะลึงค้าง
คนที่เหลือเองก็เงียบอย่างมึนงงชูฮันพูดแบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่?
มีเพียงแค่ฉางกวนหลงเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นของชูฮันเขาอยากจะหาโอกาสออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้สักที เขามีลางสังหรณ์ว่าประโยคต่อไปของชูฮันจะต้องเปิดโลกใบใหม่ของทุกคนแน่ๆ
ชูฮันแสยะยิ้ม”ฉันบอกว่าใช่ ฉันชอบการใช้กำลัง แล้วถ้าฉันใช้พลังของวิวัฒนาการกดขี่คุณ คุณมีพลังจะต่อต้านมั้ยล่ะ?”
”$%^&$%^@#$!!”
ทุกคนหลุดอุทานอย่างตกใจราวกับน้ำต้มที่กำลังรอเวลาเดือด ชูฮันจะคลั่งเกินไปแล้ว!
กลุ่มเหล่าผู้มีอำนาจที่มาเยือนค่ายหนานตู้ยิ่งชื่นชมความสามารถของชูฮันเข้าไปอีกก่อนหน้านี้พวกเขาก็ได้แอบเห็นความเป็นชูฮันที่งานเลี้ยงมื้อค่ำมาบ้าง ชูฮันไม่ชอบตอบโต้ราวกับขี้เกียจและไม่สนใจใดๆ แถมตอนนี้กับจงคุย…ชูฮันยังไม่สนใจเรื่องกฏระเบียบใดๆ ทั้งยังเอาขวานจ่อจี้คอจงคุยอีก ทุกคนต่างรีบขอบคุณในใจที่ตัวเองไม่ได้คิดเป็นปรปักษ์กับชูฮัน
ถ้าใครล้ำเส้นชูฮันชูฮันที่เต็มไปด้วยความกล้าและไม่เกรงกลัวต่ออะไรทั้งนั้นก็พร้อมจะฆ่าคนคนนั้นทิ้งทันทีอย่างไม่ลังเลเลยสักเสี้ยววินาทีเดียว!
หลูปิงเซ่อปรบมืออย่างพอใจอยู่ข้างสนามมันเป็นเรื่องน่าสนุกที่ได้เห็นหัวหน้าลงมือด้วยตัวเอง ได้เห็นหัวหน้าข่มจงคุยจนหงอแบบนี้!
จงคุยหวาดกลัวจนหน้าชุ่มเหงื่อเขาทั้งโกรธและอยากจะฆ่าชูฮันทิ้ง แต่เขาก็กลัวและอับอายพอๆกัน การกระทำนี้มันไม่ต่างอะไรกับดูถูกศักดิ์ศรีของค่ายจินหยาง!
”แกกำลังประกาศสงคราม!”จงคุยตาปูดแดงพร้อมแหกปากลั่น “แกอยากจะเป็นศัตรูกับทั้งค่ายจินหยาง? แกมันก็แค่พลเอกคนใหม่ในยุคโลกาวินาศ ไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าอวดดีที่นี่?”
ฝูงชนที่กำลังเดือดเข้าสู่ความสงบทันทีโดยเฉพาะกลุ่มนายพลหนุ่มที่กำลังตื่นเต้นก็เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน…พลเอกจงคุยพูดถูก ทุกอย่างมันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชูฮันนั้นกล้าแกร่งมากจนไม่คิดไว้หน้าจงคุยเลย ซึ่งมันอาจจะสร้างสงครามระหว่างสองค่ายขึ้นมาในภายหลัง
โดยไม่คาดคิดชูฮันกรอกตาใส่ “อย่าขยับถ้าอยากช่วยค่ายจินหยางของแก ถ้าอยากจะช่วยค่ายตัวเองจริงๆอย่าพูดอะไรเกี่ยวกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าอีก แต่ถ้าแกอยากจะเทียบ ฉันก็ยินดีเสมอ”
จงคุยรู้สึกหนักอึ้งในใจเขาอยากจะเถียงกลับใส่ชูฮัน แต่กลับไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เพราะความสับสนในใจที่มากเกินไป
ในเวลานี้ชูฮันมีจุดมุ่งหมายชัดเจนชูฮันดันขวานเข้าไปใกล้จงคุยเข้าไปอีก “พวกเราสองคนก็อยู่ในตำแหน่งเท่ากัน ในจีน คุณเป็นผู้นำของค่ายคุณ และฉันเองก็เป็นผู้นำของค่ายฉัน ตำแหน่งของเราเทียบเท่าเสมอกัน แล้วพฤติกรรมที่ทำตัวเหนือกว่าพยายามกดคนอื่นของคุณนี่มันคืออะไรไม่ทราบ”
ชูฮันพูดตรงๆไม่คิดอ้อมค้อมแววคมกริบดั่งใบมีด “ทั้งฉันและคุณต่างก็รอเวลากันทั้งนั้น แต่คุณบอกว่าฉันใช้กำลังกดขี่คนอท่น คุณพูดถูก ฉันเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 สูงสุด ทำไมฉันจะใช้ขวานจ่อคอคุณไม่ได้ แม้แต่ชาวบ้านอ่อนแอที่ไร้ซึ่งพลัง ทุกคนก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดให้เป็นยามที่ต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ แล้วคุณล่ะ? คุณผ่านสงครามมากี่สนามกันหลังจากเกิดการปะทุ ฆ่าซอมบี้หรือลูกผสมมาแล้วกี่ตัว?”
หลังจากชูฮันพูดจบเหงื่อเย็นๆก็ผุดขึ้นตามกรอบหน้าของจงคุย ความวิตก ความเครียด ความอ่อนแอต่างปะทุขึ้นมา
ชูฮันแสยะยิ้มและยกมือขึ้นขวานยักษ์สีดำฟาดลงที่หน้าจงคุยเป็นครั้งที่สอง
”พรึบพรึบ!”
เสียงฟาดฟันเบาๆท่ามกลางความเงียบกริบ
”ไม่เคยฆ่า?”ตามมาด้วยเสียงนิ่งๆหากแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งของชูฮัน “แม้แต่ซอมบี้ก็ไม่เคยฆ่า แล้วคุณมาแหกปากน่ารำคาญอะไรอยู่ที่นี่?”