Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 832 เรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเชื่อ
เหนือความคาดหมายเสี่ยวเย่ส่ายหน้าด้วยความอับอาย “พ่อของผม ถูกชูฮันฆ่าตายที่ค่ายหนานตู้ หัวหน้าทีมบังคับกฏหมายของหนานตู้กลับถูกตัดหัวโดยไม่มีความผิด ผมแอบลักลอบหนีมาโดยไม่มีใครรู้ ตอนนี้ผมไม่มีที่ไปแล้วครับ ผมขออยู่กับท่านซาวได้มั้ยครับ?”
เสี่ยวเย่ฝืนความอายเอ่ยขอร้องซาวชุนฮุยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม ในความคิดของเสี่ยวเย่…เขาได้ช่วยส่งข้อมูลภายในค่ายมาให้ซาวชุนฮุยตั้งมาก เพราะฉะนั้นซาวชุนฮุยจะต้องไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน
และในตอนนี้ที่เสี่ยวเย่ไม่เหลือทางออกใดๆแล้วคนคนเดียวที่เขาสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ก็มีเพียงแค่ซาวชุนฮุยคนเดียวเท่านั้น!
ฮูเหมิงฮาวพลันแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับมองเสี่ยวเย่ด้วยสายตามีเลศนัยในความคิดของฮูเหมิงฮาว…นอกจากซาวชุนฮุยจะไม่ช่วยเสี่ยวเย่แล้ว ยังจะผลักตกเหวอีกต่างหาก
เหนือความคาดหมายซาวชุนฮุยจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ เขาส่งแววตาเห็นอกเห็นใจมาให้เสี่ยวเย่ จากนั้นก็ตบไหล่เบาๆอย่างให้กำลังใจและเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความแคลงใจและสงสัยของทุกคนในที่นี้ “ไม่เป็นไร ฉันจะดูแลคุณเอง แต่นายต้องทำบางอย่างให้ฉันก่อน”
เสี่ยวเย่ตาเป็นประกายเขารีบพยักหน้าตอบรับทันที “ว่ามาเลยครับท่าน!”
ซาวชุนฮุยไม่ได้พูดออกมาตรงๆแต่กลับหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาเขียนบางอย่างลงไป จากนั้นก็ส่งให้เสี่ยวเย่ดู “เข้าใจมั้ย?”
เสี่ยวเย่ที่เห็นภาพว่าซาวชุนฉุยไม่เชื่อใจคนรอบตัวแต่กลับเลือกที่จะเชื่อใจตัวเอง ในใจของเสี่ยวเย่ก็ยิ่งลิงโลดด้วยความปิติยินดีขึ้นไปอีก เขาพยักหน้ารับแสดงความเคารพ “เข้าใจครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด”
ซาวชุนฮุยส่งยิ้มจางๆให้เสี่ยวเย่จากนั้นก็เดินไปที่ลิฟต์ทันทีโดยไม่หลังกลับมา เหมือนกับอยากออกไปจากตรงนี้เต็มทนแล้ว
”เดี๋ยวครับ!”ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเย่ก็ส่งเสียงขึ้นอีกครั้ง “ท่านซาว ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมไม่มีอะไรเลย…”
ความรังเกลียดปรากฏบนสีหน้าของซาวชุนฮุยเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะหายไปและหันไปออกคำสั่งกับคนที่อยู่ถัดไป “เอาอาหารและเหรียญล่มสลายให้เขาซะ”
”ครับ”ชายคนนั้นตอบรับและปฏิบัติทันที
ฮูเหมิงฮาวที่สังเกตเหตุการณ์ทุกอย่างมาตลอดเกิดความคลางแคลงขึ้นในใจและมันก็มากขึ้นเรื่อยๆทำไมซาวชุนฮุยถึงมอบหมายงานให้เสี่ยวเย่? แล้วทำไมถึงต้องระมัดระวังขนาดไม่ให้ใครรู้?
แม้ว่าจะสงสัยใคร่รู้มากขนาดไหนแต่ฮูเหมิงฮาวก็ไม่มีโอกาสได้รู้คำตอบ
เสี่ยวเย่ยืนมองดูภาพกลุ่มคนลงลิฟต์และจากไปความอิจฉาริษยาเริ่มฝังรากลึกลงในใจขณะมองตามภาพลิฟต์ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวลง จากนั้นดินทรายก็กลับมาคลุมหน้าหลุมเอาไว้เหมือนในตอนแรก
เสี่ยวเย่กำอาหารในมือตัวเองแน่นตาก็จ้องเขม็งไปที่เหรียญล่มสลายไม่กี่เหรียญในมือตัวเอง แม้จะไม่พอใจขนาดไหนแต่เนื่องด้วยสภาพของเขาในตอนนี้ เขาไม่มีสิทธิบ่นหรือเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ทำได้แค่กินให้เสร็จเพื่อให้ท้องอิ่มและออกเดินทางไปทำงานที่ได้รับมอบหมายมา และในจังหวะที่เสี่ยวเย่กำลังหมุนตัวกลับหลังหัน——- novel-lucky
”ฟรึบ!”
เกิดแสงสว่างวาบขึ้นจากนั้นเสี่ยวเย่ก็สัมผัสได้วัตถุเย็นๆแข็งๆที่ลักษณะคมกริบสุดๆ
เสี่ยวเย่ตะลึงมองไปที่ดาบยาวทั้พาดอยู่ที่คอความกลัวสุดขีด ขาเริ่มสั่นเทิ้มจนแทบจะยืนไม่อยู่
”ไม่นะขอร้อง ยกโทษให้ผมด้วย” แทบจะทันที เสี่ยวเย่เริ่มอ้อนวอนขอชีวิต ความกลัวฉายชัดเต็มนัยน์ตาของเขาขณะจับจ้องอยู่ที่ดาบยาวไม่วางตา และทันทีที่เลื่อนสายตาไปมองตรงหน้า
เสี่ยวเย่ก็แทบจะช็อคค้างทันที!
ไม่ใช่แค่คนๆเดียวที่อยู่ตรงหน้าแต่เป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างคุ้นเคย
”พวก?พวกแก?” เสี่ยวเย่กลัวจนพูดไม่ถูก “ทีมกุ้งเสือดำ?”
ทีมกุ้งเสือดำแค่บังเอิญเดินทางผ่านเส้นทางนี้พอดีและเมื่อเห็นเสี่ยวเย่…หวังหลินที่เร็วที่สุดก็เข้าถึงตัวเสี่ยวเย่ก่อน
และด้านหลังของทีมกุ้งเสือดำก็มีฟานฮงเหวียนและคนอื่นๆที่เดินทางมาด้วยกัน
เสี่ยวเคินมองพื้นที่เป็นเนินลาดชันซึ่งไม่มีร่องรอยผิดสังเกตใดๆให้เห็นจากนั้นก็หันมากวาดสายตาสำรวจเสี่ยวเย่ตรงหน้าอย่างละเอียด “มาคุยกัน”
ง่ายๆชัดเจน และตรงไปตรงมา!
เสี่ยวเย่รู้สึกเสียหลักเขาอุตส่าห์หนีออกมาจากค่ายหนานตู้ได้และพึ่งรับมอบหมายงานจากซาวชุนฮุยมาสดๆร้อนๆ โดยที่ยังไม่ทันเริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเจอศัตรูมาโผล่มาถึงตรงหน้า
เขาไม่ได้ลืมว่าพ่อของเขาตายด้วยน้ำมือของพวกนี้!
เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ชูฮันประสบความสำเร็จ!
เป็นเวลาพักหนึ่งก่อนเสี่ยวเย่จะตัดสินใจแสร้งทำเป็นยอม “ฉันยอมแล้ว ห้ามฆ่าฉัน? ฉันขอร้อง ฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยนะ”
ยังไม่ทันที่เสียงของเสี่ยวเย่จะจางหายไป—–
”เขาโกหก”จู่ๆเหอซางหยิบกล่องแปลกประหลาดออกมาพร้อมเดินมุ่งหน้า เขาเขย่ากล่องใบนั้นอยู่หน้าเสี่ยวเย่อยู่หลายครั้ง จากนั้นก็พยักหน้ารัวๆกับตัวเอง “สองประโยคแรกโกหก เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาดักรอเราแต่เขาทำสิ่งไม่ดีไว้เยอะมาก” เสี่ยวเย่หลุบตาลงต่ำเหงื่อเริ่มตก อดไม่ได้ที่จะหลุดโพล่งออกมา “รู้ได้ยังไง? ไอ้กล่องย้านั่นมันอะไร?”
”เครื่องจับโกหกแบบไร้สาย”เหอซางตอบเสียงรายเรียบไร้ซึ่งอารมรณ์ หัวล้านที่สะท้อนกับประกายความกลัวในแววตาของเสี่ยวเย่ “เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดพึ่งประดิษฐ์เสร็จได้สองวัน คุณโชคดีสุดๆ”
นี้มันโชคร้ายชัดๆ!
เสี่ยวเย่แทบจะหมดสติเขาไม่สนใจกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น และตอนนี้ดาบยาวที่จ่ออยู่ก็เริ่มเข้าใกล้เส้นเลือดแดงมากขึ้นเรื่อยๆ
”ซาวชุนฮุยเอาอะไรให้แกดู?แกติดต่อและเข้าสู่ถ้ำใต้ดินนี่ยังไง?” เสี่ยวเคินถามสิ่งที่อยากรู้ออกมาในทีเดียว
”เขาไม่ใช่ซาวชุนฮุย”เสี่ยวเย่ตอบออกไปตามจิตใต้สำนึก
”นี้มันงี่เง่าชะงัด!”ครั้งนี้ไม่ใช่เหอซาง “ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งนั้น ถ้าพบตัวเมื่อไหร่ยิงได้ทันที”
”ไม่!”เสี่ยวเย่รีบเอ่ยห้ามเสียง
”เร็วเข้าฉันไม่มีเวลามาเล่นกับแก รีบๆพูดมาให้จบๆ” เสี่ยวเคินแปลกกว่าปกติ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดคำไหนเลยว่าจะยอมให้เสี่ยวเย่จากไปวันนี้
เสี่ยวเย่มองกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ตรงหน้าพร้อมกลืนน้ำลายอึกด้วยความกลัว “ท่านซาวชุนฮุยปล่อยฉันให้ไปซางจิงเพื่อตามหาคนคนหนึ่งชื่อว่าโมเซอ…”
วินาทีถัดไปทั้งเสี่ยวเย่เสี่ยวเคินและทีมกุ้งเสือดำทั้งหมดก็ตวัดสายตามาหาทันที
โมเซอ?!
ไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมโลกมันถึงบังเอิญได้มากขนาดนี้และทีมกุ้งเสือดำเป็นทีมที่เจอแต่ความบังเอิญเต็มไปหมด