Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 866 คิดไปเอง
มู๋หรงยู่เฉิงยังพูดไม่ทันจบทันใดนั้นฉางกวนหลงก็พูดขัดขึ้นมาก่อน แววตาเต็มไปด้วยความกังวล “เร็วเข้า! ห้ามให้ยวีซินรู้เรื่องนี้เด็ดขาด!”
มู๋หรงยู่เฉิงสบตากับฉางกวนหลงพยักหน้าเหงื่อตก ด้วยอารมณ์ของฉางกวนยวีซินแล้ว ถ้าเธอรู้ว่าชูฮันตายแล้วละก็…
แต่ทันทีหลังจากที่ทั้งคู่กำลังคิดจะปิดบังเรื่องนี้จากฉางกวนยวีซินประตูในห้องก็ถูกเคาะขึ้นมากระทันหันอีกครั้งหนึ่ง ร่างของฉางกวนยวีซินปรากฏขึ้นและเดินเข้ามา เธอสบตากับพ่อของเธอก่อนจะเอ่ยถามออกมา “จริงเหรอ? ชูฮัน เขา…มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ?”
มองเห็นสีหน้าสิ้นหวังของลูกสาวฉางกวนหลงก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองแน่น สุดท้ายแล้วเขาก็พูดอะไรไม่ออก
ทำไมฉางกวนยวีซินถึงเปิดเผยทุกอย่างชัดเจนแบบนี้? สายตาของฉางกวนยวีซินกวาดมองรายงานด่วนในมือของมู๋หรงยู่เฉิงตามมาด้วยรอยยิ้มข่มขืนที่ปรากฏบนสีหน้า ความสิ้นหวังและหัวใจที่แตกสลายค่อยๆแสดงอาการออกมาให้เห็น
”หลังจากสถานการณ์ที่ค่ายของเราดีขึ้นแล้ว”ฉางกวนยวีซินเอ่ยเสียงแผ่ว เธอสบตากับฉางกวนหลงด้วยแววตาสั่นไหว “ส่งหนูไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า”
”ลูก?”ฉางกวนหลงไม่เข้าใจ “ชูฮันตาย…ลูกจะไปทำอะไรที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า?”
หยดน้ำตาเม็ดใหญ่ตกลงมาจากนัยน์ตาของฉางกวนยวีซินทันใดนั้นเธอก็เอ่ยประโยคต่อมาที่ทำให้ฉางกวนหลงอึ้ง “แม่ของชูฮันอยู่ที่นั่น”
แม้ว่าจะเป็นประโยคสั้นๆที่ไม่มีคำอธิบายใดๆเพิ่มเติมหากมันกลับเป็นเหตุผลที่ฉางกวนหลงไม่สามารถคัดค้านได้เลย ชูฮันตายแลเวและลูกสาวของเขาต้องการไปแสดงความขอโทษต่อแม่ชูฮันและดูแลแม่ชูฮันแทนด้วยตัวเธอเองเพื่อชดใช้!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองภายในพื้นที่ผู้ลี้ภัยของค่ายหนานตู้ ภายในบ้านที่สภาพปรุพัง ทรุดโทรมดูไม่ได้ หากภายในบ้านกลับมีสมาชิกหน่วยข่าวกรองลับใต้ดินของชูฮันรวมถึงซงเสี่ยว ไก๋หนาน ฟานเจี้ยนและหลูปิงเซ่อที่นั่งล้อมโต๊ะด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป
แต่ละคนมีความสามารถในการเก็บอารมณ์อยู่แล้วสีหน้าจึงไม่แสดงอะไรออกมา บรรยากาศจึงเงียบสนิท
ซงเสี่ยวที่อายุน้อยที่สุดหากกลับนิ่งเงียบไม่เหมือนกับเด็กอายุ 13 ปีเลยสักนิด
หลูปิงเซ่อเป็นคนที่เงียบน้อยที่สุดตั้งแต่ซุปเปอร์ซอมบี้ได้รับการจัดการ เขาก็ไม่จำเป็นต้องคอยออกไปจัดการซอมบี้ด้านนอกค่ายอีก เขาเหนื่อยล้าไปจนถึงกระดูกติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน ในตอนนี้เมื่อได้นั่งพักบนเก้าอี้ข้างๆราชานักล่า เขาจึงนั่งแทะเมล็ดแตงเล่นอย่างผ่อนคลายอารมณ์
ฟานเจี้ยนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดหลายคนในค่ายหนานตู้ไม่รู้จักชื่อเสียงของราชานักล่ามาก่อนเลย แต่หลังจากเรื่องของซุปเปอร์ซอมบี้ ชื่อเสียงของเขาก็แพร่หลายและกลายเป็นที่รู้จักดีในค่ายหนานตู้และค่ายใกล้เคียง และการที่เขาปรากฏตัวขึ้นในบ้านหลังนี้ตอนนี้ คนที่ไม่รู้เรื่องราวของฟานเจี้ยนกับชูฮัยมาก่อนจึงตะลึงค้างมองมาด้วยความตกใจ
อย่างเช่นไก๋หนานที่ชะงักไปสักพักหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ระลึกได้ถึงจุดประสงค์ของการเดินทางมาในครั้งนี้ เขารีบตบโต๊ะและพูดขึ้นทันที “พวกคุณแต่ละคนคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ชูฮันกำลังแย่ พวกคุณยังมีเวลามาเอ้อระเหยลอยชายอยู่ที่นี้อีก?!”
มันไม่ใช่เพราะว่าไก๋หนานตื่นเต้นเกินไปที่จริงเขาก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะใช้อารมณ์เกินไปทว่าเมื่อเห็นท่าทางของแต่ละคนในตอนนี้ มันทำให้เขาอดจะโมโหไม่ได้ โดยเฉพาะหลูปิงเซ่อที่ดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
เมื่อได้เห็นอารมณ์รุนแรงของไก๋หนานหลูปิงเซ่อก็เริ่มเคลื่อนไหว และในจังหวะที่ไก๋หนานคิดว่าหลูปิงเซ่อจะขอโทษหรือพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นหลูปิงเซ่อก็ทำเพียงสะบัดหัวและแทะเมล็ดแตงต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย novel-lucky
ครั้งนี้มันทำให้ไก๋หนานเดือดอย่างมาก เขาชักดาบขึ้นมาชี้ไปที่คอหลูปิงเซ่อทันที “แกมันเป็นคนน่ารังเกลียด วันนี้ฉันจะฆ่าแกเพื่อชูฮัน!”
หลูปิงเซ่อเลียเมล็ดแตงอีกครั้งมองไก๋หนานด้วยแววตาแปลกๆและพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร “โง่สิ้นดี”
”แก?!”ไก๋หนานเลือดขึ้นหน้าทันที และยิ่งกดแรงลงที่ปลายดาบมากกว่าเดิม
เหล่าสมาชิกหน่วยข่าวกรองลับใต้ดินเงียบสนิทกันหมดหลายคนเริ่มส่งสายตากันไปมา ขณะมองภาพทั้งสองคนที่เหมือนกำลังจะสู้กันตรงหน้า
ฟานเจี้ยนแสนจะขี้เกียจเขายังนั่งอยู่ที่เดิม สีหน้าไร้อารมณ์ ขี้เกียจเกินกว่าจะขยับตัว
ไก๋หนานที่เห็นภาพและท่าทางของทุกคนที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยก็เดือดปุด”ตอนนี้เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชูฮันเป็นตายร้ายดียังไง มีแต่คนพูดกันไปหมดว่าลูกผสมฆ่าชูฮันตายแล้ว แกในฐานะลูกน้องของเขา ไม่แม้แต่จะแก้แค้นให้เขา แต่แม้แต่ความเสียใจยังก็ยังไม่มีให้เห็น?!”
หลังจากได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของไก๋หนานซงเสี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะหยุดไก๋หนานไม่ให้ทำตัวขายหน้าไปมากกว่านี้ เขาเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ “ไก๋หนาน ชูฮันยังไม่ตาย”
”อะไรน่ะ?”ทันทีที่ได้ยินคำบอกของซงเสี่ยวที่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ไก๋หนานก็รู้สึกโง่ขึ้นมาทันที ตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “รู้ได้ยังไงว่าเขายังไม่ตาย! แต่เดี๋ยวก่อนทำไมนายถึงรู้?”
ซงเสี่ยวนิ่วหน้ามีท่าทีลังเลก่อนจะตอบคำถาม “ฉันไม่แน่ใจ แต่มันน่าจะใช่ ดูจากปฏิกิริยาของทุกคนแล้ว”
ทันทีที่ซงเสี่ยวพูดจบสมาชิกหลายคนของหน่วยข่าวกรองลับก็มองซงเสี่ยวด้วยแววตาประหลาดใจ เรื่องเจาะจงอย่างรายชื่อบนเสาหินนั้นมีแค่ไม่กี่คนที่รู้ ยังดีที่ชูฮันให้ข้อมูลพวกเขาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว มีแค่ทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินซงเสี่ยวที่ไม่ใช่สมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเป็นทางการพูดแบบนี้ มันจึงค่อนข้างน่าตกใจสำหรับพวกเขา
ฉลาดเกินไป?
”นายหมายความว่าไง?”มีแต่ไก๋หนานผู้โง่เง่าที่ยังคงไม่เข้าใจอะไรเลย
”ใช่บอกมาสิ นายรู้ได้ยังไง?” หลูปิงเซ่อเองก็เกิดความสงสัย ซงเสี่ยว…ผู้ที่พึ่งจะมาถึงค่ายหนานตู้ เขาก็อยากจะเห็นว่าจะฉลาดมากขนาดไหน
”อันดับรายชื่อ”ซงเสี่ยวตอบสั้นๆ แววตาวาววับฉายชัดถึงความเฉลียวฉลาด “ฉันศึกษามันมาสักพักแล้วและพบว่าชื่อบนเสาหินจะหายไปทันทีที่คนคนนั้นตายไป แต่ชื่อของชูฮันยังอยู่บนเสาหินที่ระยะ 4 อันดับที่หนึ่งของรายชื่อ แล้วเขาจะตายได้ยังไง?”
ไก๋หนานหน้าชาเหมือนกับถูกฟาดแม่งเอ๊ย ทำไมเขาไม่สังเกตเห็นรายละเอียดนี้เลย?
”ปะปะ ปะ!”
ฟานเจี้ยนปรบมือและมองซงเสี่ยวด้วยแววตาประหลาดใจ”ฉลาดมากสำหรับเด็กอายุแค่ 13 ปี ถ้าบอกว่าเป็นลูกชายชูฮันจริงๆฉันก็เชื่อ!”
”ฉันนามสกุลซง!”ซงเสี่ยวไม่พอใจ แต่ขี้เกียจจะพูดมากความ
ฟานเจี้ยนยิ้มมุมปากสบตากับหลูปิงเซ่อก่อนจะพูดขึ้น “หลูปิงเซ่อไม่ต้องมาทำเนียน ก่อนหน้านี้ทำไมนายถึงมีท่าทีกระวนกระวาย มีเรื่องอะไรที่นายยังไม่ได้บอกพวกเรา?”
เฮือก!
หลูปิงเซ่อชะงักมือที่กำลังแทะเมล็ดแตงทันทีตามมาด้วยความเงียบกริบ
บรรยากาศตกอยู่ในความตึงเครียดทันทีสายตาของหลายคนเริ่มขุนมัว มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นงั้นเหรอ?
หลังจากเงียบอยู่สักพักหลูปิงเซ่อก็ค่อยๆพูดขึ้นช้าๆ “ก่อนหน้านี้ฉันส่งเพื่อนสัตว์ทั้งหลายไปเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับหัวหน้าโดยฉันจะติดต่อกับหัวหน้าและส่งข่าวผ่านทางเพื่อนๆ ซึ่งฉันก็คอยติดต่ออยู่ตลอด แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ฉันก็ขาดการติดต่อกับทั้งหัวหน้าและเพื่อนสัตว์ ไม่ใช่แค่ไม่สามารถหาทางติดต่อได้แต่ตอนนี้เหมือนช่องทางการติดต่อถูกขวางไว้ด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น!”