Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 877 นายฆ่าซอมบี้เลย เดี๋ยวฉันตามเอง
”และนี่”จู่ๆเฉินช่าวเย่ก็พูดขึ้น ลดน่องไก่ที่กำลังลงและใช้นิ้วเยิ้มน้ำมันชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ “หัวหน้าบอกว่าถ้าเป็นหัวหน้าที่ต้องการโจมตีค่าย หัวหน้าจะเลือกใช้วงกตภูเขาลึกลับนี่แน่นอน มันเป็นจุดที่เหมาะกับการดักซุ่ม”
หลิวยู่ติงจับคางและเริ่มจมอยู่ในความคิด”แต่ตำแหน่งก็ดูไม่ค่อยเหมาะกับการป้องกันเหมือนกัน ถ้าพวกเขาเลือกเข้าไปในนี้เมื่อไหร่ ไม่ช้าก็เร็วเราเองก็จะแย่”
เหอเฟิงมองทั้งสองอย่างชื่นชมอดไม่ได้ที่จะหยิบปากกาขึ้นมาวงจุดทั้งสองที่ถูกพูดถึงบนแผนที่ “มีอีกหลายจุดที่ไม่สามารถหาพวกมันเจอ และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเราอาจจะไล่ตามพวกมันไม่ทันเวลา พวกเราด้อยกว่ามันในเรื่องของจำนวนคน และเราสนใจเรื่องการหาตำแหน่งเจาะจงมากเกินไป” ”หรือเราจะจำลองสถานการณ์ไล่ไปแต่ละวิธีดู?”กูเหลียงเฉินถามเพื่อการคาดการณ์ทุกอย่างล่วงหน้า เพื่อให้การแปรขบวนรบทำได้เร็วขึ้นและรวมกับข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มันก็จะพัฒนาไปเป็นแผนการรบ
”ไม่การคาดเดามันไร้ประโยชน์” เหอเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธทันที “กองทัพเขี้ยวหมาป่ากลับมาจากเมืองโรแมนติกหรือยัง?”
”พวกเขาอยู่ระหว่างทางคาดว่าน่าจะมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าเย็นวันนี้ครับ” เจียงเทียนชิงที่รู้ตำแหน่งของคนในค่ายดีที่สุดรายงานตอบทันที
”ให้พวกเขาพักผ่อนทันทีที่กลับมาถึงจากนั้นให้พวกเขาเตรียมตัวเข้าสู่สภาวะสงคราม การต่อสู้มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกที่” เหอเฟิงออกคำสั่งน้ำเสียงนิ่ง แววตาดุดันเป็นประกายจ้า “ทั้งสามทีม นักฆ่าขนนก หลงยา และฮูหยาจะถูกย้ายกลับไปที่กลุ่มต่อสู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม ทีมความลับของพระเจ้าก็คอยทำหน้าที่อพยพผู้คนต่อไป ส่วนทีมลาดตระเวน…”
เหอเฟิงร่ายแผนการแปรพลไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังอย่างมากก่อนจะสบตากับเจียงเทียนชิง “คอยจับตาดูเหล่าผู้รอดชีวิตที่เดินทางมายังค่ายเขี้ยวหมาป่า” novel-lucky
ทันใดนั้นทุกคนก็แอบสบตากันทันทีพวกเขามีลางสังหรณ์ไม่ดี
เหอเฟิงเริ่มพูดสิ่งที่เจาคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ครั้งนี้ออกมา”พวกมันต้องการซอมบี้มากกว่านี้ เพราะงั้นเหล่าผู้รอดชีวิตคือเป้าหมายของพวกมัน ตราบใดที่เราตอบโต้ทันทีที่พวกมันโจมตี เราก็จะสามารถไล่ตามเบาะแสไปจนถึงตำแหน่งที่ซ่อนของลูกผสมและซอมบี้ได้”
ทุกคนตาโตแววตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง ครั้งนี้สงครามแห่งเมืองอันลูได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
———-
ขณะที่ในเมืองหลวงหนานตู้ชูฮันนอนพักฟื้นร่างกายอยู่บนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ และในที่สุดเขาก็ได้พลังและความสามารถกลับคืนมา ชูฮัยเริ่มขยับตัวได้ในตอนเที่ยงของวันถัดมา แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูธรรมดาและไม่ได้มีระดับสูงเท่ากับความสามารถทำให้การฟื้นตัวจึงเป็นไปอย่างค่อยๆ และยิ่งร่างกายที่โดยเกาช้าวฮุ่ยลากจนกระแทกไปมาทำให้ร่างกายเขายิ่งบอบช้ำกว่าเดิม
การฟื้นตัวที่ค่อนข้างรวดเร็วของชูฮันทำให้เกาช้าวฮุ่ยสยองอดไม่ได้ที่กวาดตามองสำรวจชูฮันทั้งตัว “มันแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง นายไม่เป็นไรแล้วเนี่ยนะ!”
ชูฮันไม่คิดจะพูดกับคนคนนี้เขาไม่สามารถทำความเข้าใจการทำงานของสมองเกาช้าวฮุ่ยได้
ชูฮันรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่มือทั้งสองข้างของตัวเองจากนั้นก็มองไปที่ถนนด้านล่างที่มีซอมบี้อัดแน่นเต็มไปหมด และก็ต้องถอนหายใจเมื่อนึกถึงขวานซิ่วโหลและหวังไคที่หายไป แม้ว่าเขาจะรีบตามหาบริเวณทั่วไปจนหมดแล้วแต่เขาก็ไม่เจออะไร มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในเวลาสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาและมีหลายเรื่องที่เขาไม่รู้ และก็คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าทำไมจู่ๆเกาช้าวฮุ่ยถึงมาโผล่ต่อหน้าเขาได้ในพริบตาและช่วยชีวิตเขาเอาไว้อีก
”ซอมบี้เยอะมากนายจะจัดการมั้ย?” คำพูดของเกาช้าวฮุ่ยทำให้ชูฮันหมดคำพูดอีกครั้ง
”นี้กวนประสาทกันใช่มั้ย?”ชูฮันชี้ไปที่แผลที่แขนของเขาซึ่งยังคงเหมือนเดิม และเลือดที่แห้งกรังติดตามหน้าและตัว และบาดแผลอีกหลายจุด
เกาช้าวฮุ่ยกระพริบตา”ฉันต้องทำเหรอ?”
”แม่ง!”ชูฮันอดไม่ไหวจนต้องสบถออกมา “อยากให้ฉันเดินไม่ได้อีกรอบใช่มั้ย?”
”ไม่มีทาง”เกาช้าวฮุ่ยยักหน้าอย่างไม่แยแส “แล้วก็แค่หนีพวกมันหรือรอให้ร่างกายนายรักษาตัวเองดีกว่าแล้วลุกมาจัดการพวกมัน สั้นๆนะฉันไม่อยากฆ่าคนที่มีชีวิต” ครั้งนี้ชูฮันชะงักค้างไปเลยจ้องเกาช้าวฮุ่ยตรงหน้าไม่วางตา อารมณ์ไม่จะเชื่อพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก
นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินสมาชิกของตระกูลลึกลับพูดว่ากลัวจะทำคนตาย?!
”ซอมบี้มันไม่ใช่คนนายฆ่าพวกมันได้” ชูฮันพยายามควบคุมอารมณ์
”หึ”เกาช้าวฮุ่ยไม่ลังเลที่จะส่ายหัวปฏิเสธ “พวกเขาเคยเป็นคนที่มีชีวิต และตอนนี้ก็ยังขยับตัวได้อยู่ มันไม่แน่”
เมื่อได้เห็นทัศนคติที่หนักแน่นของเกาช้าวฮุ่ยชูฮันก็ได้แต่พยายามคุมความดันของตัวเองไว้ไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตกตายซะก่อน ด้วยสายที่เต็มไปด้วยการคาดคั้นไต่สวน เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ดูเหมือนนายจะเป็นเด็กน้อยขี้กลัวที่มีเรื่องฝังใจ หรือว่าเคยฆ่าคนแล้ว?”
เกาช้าวฮุ่ยสบตากับชูฮันก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่เคย” แววตาของชูฮันเป็นประกายและมีร่องรอยขบขันก่อนจะไม่พูดอะไรอีกเขาพยายามทำความเข้าใจในหัวตัวเอง…สมาชิกตระกูลลึกลับที่มีระดับพลังสูงกว่ามนุษย์วิวัฒนาการทุกคนกลับกลัวการฆ่า
นี้จะต้องเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดแน่และมันก็เป็นการแสดงให้เห็นด้วยว่าครั้งนี้เกาช้าวฮุ่ยที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิต
แต่ยังไม่ทันได้ดีใจเพราะที่เกาช้าวฮุ่ยพูดว่าจะไม่ฆ่าสิ่งมีชิตถ้่อย่างนั้นลูกผสมก็ยังต้องเป็นชูฮันที่ต้องการจัดเอง
”แกร๊ง!กึก!”
ชูฮันกระชากแท่งเหล็กบนหลังคาออกมาพร้อมส่ายหัวอย่างไม่พอใจ”ดี”
เกาช้าวฮุ่ยกระตือรือล้นที่จะตามชูฮันไป
ชูฮันพยายามใช้ความคิดอย่างเต็มที่พละกำลังของร่างกายเขาครึ่งนึงที่มีนั้นมากพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้ แม้ว่าแท่งเหล็กในมือจะห่างไกลกับขวานซิ่วโหลราวฟ้ากับเหวแต่มันก็เพียงพอที่จะสู้กับซอมบี้บนถนน
”พรึบ!”
ชูฮันกระโดดลงมาจากดาดฟ้าทันทีระยะหนึ่งเมตรก่อนจะถึงพื้นในมือหมุนควงแท่งเหล็กอย่างเร็วจนเกิดเสียงประกอบกับเสียงร่างของซอมบี้ที่ถูกแท่งเหล็กฟาดดังขึ้นต่อเนื่องในอากาศ
ซอมบี้ที่ได้ยินเสียงยิ่งตื่นตัวพวกมันไม่รู้หรือมีความคิดใดๆทั้งนั้นว่าพวกพ้องของตัวเองกำลังถูกฆ่า จิตใต้สำนึกของพวกมันทำให้พวกมันสั่งให้พวกมันอ้าปากคำราม วิ่งกรูเข้ามาหาอาหาร
เกาช้าวฮุ่ยที่ไม่ได้กระโดดตามลงมาและยังอยู่บนดาดฟ้าเหมือนเดิมรู้สึกกลัวสำหรับคนที่ไม่เคยฆ่าอะไรเลย ยิ่งการได้เห็นกลุ่มซอมบี้จำนวนมากถูกชูฮันฆ่าเรื่อยๆก็ยิ่งรู้สึกแย่ พวกมันตายง่ายเกินไป
”พั้วะ~” แท่งเหล็กที่อัดแน่นไปด้วยพละกำลังอันแรงกล้าจากชูฮันฟาดตัดอากาศลงมา!
”ปัก!ปัก!”
เสียงแตะระเบิดดังต่อเนื่องมันรวดเร็วจนมองไม่ทัน