Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 89 บรรยากาศแปลกๆ
“คุณกำลังมองหาอะไรอยู่?” จู่ๆป่ายหวีเนอที่นั่งอยู่ข้างเขาก็โพล่งขึ้นมากลางอากาศ
พวกเขายืนกรานที่จะออกจากเมืองตงทันที เพราะฉะนั้นสภาพของเธอจึงดูเละเทะ ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง แถมเสื้อผ้ายังสกปรกเลอะเทอะอีก
ชูฮันมองที่ป่ายหวีเนอ ตาของเขาเหมือนจะเจาะทะลุทุกสัดส่วนของเธอ ตลอดทั้งการเดินทาง เขามองไปที่เธอเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งนั่นคือเมื่อ5นาทีที่แล้ว
ป่ายหวีเนอหันหน้ามา พูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์เล็กน้อย “ฉันต้องการอาบน้ำ”
ชูฮันเกือบสำลัก เสียงนิ่งสงบของเขาสะท้อนดังออกมา “คุณไม่ควรเสียน้ำแร่ทิ้งเปล่าๆ อดทนไปก่อนสักพัก”
————
หนึ่งเดือนหลังจากการปะทะ….10 สิงหาคม 2015
ชูฮันและกลุ่มของเขาทำระยะได้ดีพอสมควร พวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไปด้วยความเร็วสูง G55นั้นรับศึกมาหนักพอสมควรระหว่างสงครามที่ผ่านมา ชูฮันไม่ได้เอาG55ไปเก็บไว้ในค่ายระหว่างการสู้รบ หากเขากลับนำมันออกมาวางเรียงกับรถคันอื่นๆเพื่อสร้างเขาวงกต
ผมของป่ายหวีเนอปลิวไสวไปตามอากาศที่พัดผ่านจากหน้าต่างด้านหลัง ยิ่งเพิ่มความแปลกประหลาดขึ้นไปอีกกับรูปลักษณ์ของเด็กสาว ที่เป็นคนที่ไร้อารมณ์
ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความอิจฉาริษยา ความรัก และความกลัว
เช่นเดียวกับตอนนี้ เธอกำลังมองชูฮันโดยไม่มีความอบอุ่นในสายตาเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว มันล้วนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาของเธอ เธอมักจะมองเขาเหมือนกับมองข้อมูลอยู่ ไม่ใช่มนุษย์
ตาของชูฮันเบนจากป่ายหวีเนอไปที่ข้างหน้าขณะที่หยิบวิทยุขึ้นมาพูด “เจ้าอ้วนเฉิน เราจะแวะพักกัน”
ซึซซซซซซ…….
เสียงของเฉินช่าวเย่ดังตอบกลับมา “ครับ หัวหน้า!”
จากนั้นรถทั้ง2คันก็จอดกันอยู่ตรงข้างถนน วัชพืชมากมายขึ้นเรียงรายตามริมถนน ความมืดมิดระหว่าง6ชั่วโมงดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงพวกวัชพืชเช่นกัน เหล่าวัชพืชที่รอดตายได้ ได้กลายพันธุ์ พวกมันเติบโตขึ้นสูงกว่าปกติและอุดมสมบูรณ์อย่างไม่น่าเป็นไปได้
ตอนนี้มันเกือบจะเป็นช่วงกลางคืนแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่นี่เป็นที่พักสำหรับคืนนี้
“พี่ชูฮัน!” เลาเสี่ยวเสียววิ่งไปหาชูฮัน ความภักดีของเธอสูงถึง80% นั่นจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เธอนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชูฮัน
ป่ายหวีเนอลงมาจากG55 ท่าทางของเธอเย็นชาเหมือนเคย
เลาเสี่ยวเสียวถอยไปที่หลังของชูฮัน เฉินช่าวเย่และซางจิ่วตี้เดินไปหยิบอาหารออกมาจากรถตู้
ชูฮันมองไปที่ปฏิกิริยาของคนในกลุ่ม จากนั้นก็หันไปมองป่ายหวีเนอ เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ภูเขาน้ำแข็งนี้จะละลาย อีกไม่นานพระอาทิตย์จะหลบไปในแนวเทือกเขา ขณะเดียวกันก็เริ่มมีกลิ่นปรุงอาหารลอยกระจายไปทั่วบริเวณ มีกองไฟตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรถทั้ง2คัน พวกเขาจำเป็นต้องมีกองไฟถึงแม้มันจะเป็นเดือนสิงหาคมแล้วก็ตาม แต่ตอนกลางคืนกลับยังหนาวเหมือนหน้าหนาว
ชูฮันยืนอยู่บนริมถนนมองไปทางทิศเหนือที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เป็นเส้นทางไปเมืองอันลู
“คุณกำลังมองดูอะไรอยู่?” เสียงของป่ายหวีเนอแทบจะเหมือนเสียงกระซิบของผี
“คุณจะไปอาบน้ำใช่มั้ย?” ชูฮันชี้ไปทางสถานที่ข้างหลังริมฝั่งถนน “โยนวัชพืชไปไว้ข้างๆและคุณจะเห็นบ่อน้ำ”
มันมีบ่อน้ำให้เห็นอยู่ตรงนั่นซ่อนตัวอยู่ใต้เหล่าวัชพืช ทั้งสถานที่ดูเงีบบสงบเหมือนจะไม่มีอันตราย
“เธอจะอาบน้ำในทะเลสาบ?” ซางจิ่วตี้เดินไปหาป่ายหวีเนอพร้อมกับพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ “แต่ตอนนี้อากาศมันหนาวมาก!”
ชูฮันหัวเราะออกมาเบาๆ “เธอไม่กลัวความหนาวเย็นหรอก”
“ฉันจะไปกับเธอ!” ซางจิ่วตี้กล่าว
ป่ายหวีเนอเดินไปตามทางที่ชูฮันชี้ ไม่มีอารมณ์ใดๆของเธอแสดงให้เห็น หากฝีเท้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“พวกมนุษย์กลายพันธุ์!” เลาเสี่ยวเสียวด่าป่ายหวีเนอ
“โอเค” ชูฮันตบที่ไหล่ของเลาเสี่ยวเสียว “เป็นเด็กไม่ควรด่าคนอื่น”
“ถึงเวลามื้อเย็นแล้ว ไปกินกันเถอะ” เฉินช่าวเย่พูดกับทุกคนในกลุ่ม “ในที่สุดเราก็สามารถผ่อนคลายกันได้ซะทีเวลาที่ป่ายหวีเนอไม่อยู่”
เลาเสี่ยวเสียวเป็นคนแรกที่แสดงท่าทางตอบโต้ ราวกับเห็นด้วยที่เฉินช่าวเย่พูด ผู้หญิงคนนั้นช่างเย็นชา ซางจิ่วตี้ลังเลอยู่สักพักหากเธอก็ถูกอาหารเย็นดึงดูดความสนใจไป
ชูฮันเองก็เดินไปหาของกินเหมือนกัน
“หัวหน้า” เฉินช่าวเย่กำลังกินเนื้ออยู่ เขากินข้าวทั้งชามหมดในภายในเวลารวดเร็ว จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงค่อยๆ “เรากำลังไปเมืองอันลูใช่มั้ย?”
เขาจำที่ชูฮันพูดได้ว่าพวกเขาควรเดินหน้าไปเมืองอันลูต่อ ถึงแม้จะระทางมันจะห่างออกไปไกลพอสมควร หากความคืบหน้าในปัจจุบันก็เป็นที่น่าพอใจอยู่ คำพูดของเฉินช่าวเย่ทำให้ซางจิ่วตี้และเลาเสี่ยวเสียวชะงัก
ชูฮันยิ้ม “พวกเราจะหยุดพักที่เมืองชือระหว่างทาง”
“คุณ…พวกเรา…” ขบวนความคิดในหัวซางจิ่วตี้นั้นตีกันวุ่นวายไปหมด
“ใช่ เราจะแยกย้ายกันที่เมืองชือ” ชูฮันพูดอย่างใจเย็น ไม่มีน้ำเสียงความไม่พอฉายออกมา
ริมฝีปากของซางจิ่วตี้ขยับคล้ายกับจะพูดอะไรบางอย่างหากเธอทำท่าราวกับจะสำลักคำพูดตัวเอง
ความนุ่มนวลและความลังเลเป็นท่าทางยโสที่ปรากฏให้เห็นเป็นปกติของเธอ เธอรู้ดีว่าการจะได้พบกันหลังจากแยกย้ายกันไปแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ทว่าเธอไม่อยากที่จะแยกจากชูฮัน
ตาของเลาเสี่ยวเสียวกลายเป็นแดงก่ำพร้อมกับวางจานข้าวลง
“ฟังฉันนะ” เสียงของชูฮันดูแฝงไปด้วยประกายความอบอุ่น “เมืองอันลูอันตรายมากเพราะฉะนั้นพวกเธอไม่สามารถไปกับฉันได้”
อีกอย่าง เขาตองการอิทธิพลทางทหารของเลาเสี่ยวเสียว ถ้าความภักดีของเธอขึ้นไปถึง90%เมื่อไหร่ เขาวางแผนที่จะใช้เส้นทางที่แตกต่างไปสู่เพื่อเป้าหมายของเขา
เขามีความทะเยอทะยาน เขาไม่พอใจที่จะอยู่ในที่เล็กๆ การอยู่รอดไม่ได้เป็นแค่เรื่องเดียวที่เขาต้องการอีกต่อไป
“แต่ฉันไม่ต้องการที่จะแยกกับพี่!” เลาเสี่ยวเสียวร้องไห้ออกมา น้ำตาของเธอไหลทะลักดูราวกับลูกแมงที่ถูกทิ้ง
ชูฮันตบไหล่หัวเสี่ยวเสียวเบาๆเพื่อปลอบ “เราจะได้พบกันอีกครั้งแน่นอน ฉันสัญญา”