Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 890 เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได
ณค่ายจินหยาง เรื่องข่าวชัยชนะกองทัพซอมบี้เองก็ค่อนข้างเลื่องลือกันอย่างมากเช่นกัน ทุกคนมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป ชาวบ้านที่อยู่อาศัยเดิมไม่สนใจอะไรนอกจากตัวเอง พวกเขาส่วนใหญ่ชอบการซุบซิบนินทาเท่านั้น ส่วนพวกระดับสูงของค่ายกับมีความกังวลในใจ หลังจากสงครามของค่ายหนานตู้จบลง พวกเขาอยู่ภายใต้การนำของจงคุยที่คลั่งจนขาดสติ
หลังจากที่สองพ่อลูกจงคุยและจงไค ได้ยินข่าวชัยขนะของค่ายหนานตู้ ทั้งสองก็คุ้มคลั่งพังทุกอย่างจนไม่เหลือซาก!
แม้ว่าปกติทั้งสองพ่อลูกจะมีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดอยู่ทว่าสำหรับเรื่องนี้แล้วปฏิกิริยาตอบสนองของทั้งสองในเรื่องนี้นั้นเหมือนกันเป๊ะ ทั้งโกรธและไม่พอใจ
ค่ายหนานตู้ชนะสงครามจริงๆงั้นเหรอ?!
กองทัพซอมบี้มหาศาลถูกพวกนั้นกำจัดจนหมด?ค่ายที่ถูกหลายฝ่ายทอดทิ้งและคาดว่าจะต้องพังทลายไม่เหลือซากกลับไม่เป็นอย่างที่คิด?
ทำไม?
นี้มันเป็นกองทัพที่เต็มไปด้วยซอมบี้500,000 ตัว?!
ลองนึกภาพว่าถ้าเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นกับค่ายจินหยางภายใต้การเคลื่อนพลและจัดสรรทรัพยากร ค่ายจินหยางไม่สามารถต้านทานได้ถึงหนึ่งอาทิตย์อย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสิบวันเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งคิดมากเท่านั้นความอับอายและความไม่พอใจก็ยิ่งปะทุขึ้นมาในอกของสองพ่อลูก ค่ายหนานตู้ที่ต้องรับมือกับสงครามครั้งนี้ทั้งที่อยู่ห่างไกลจากค่ายอื่นๆอย่างมาก ความช่วยเหลือจึงมีมาน้อย ในขณะที่ค่ายจินหยางของเขาทั้งๆที่อยู่ภายในระยะห่างที่สามารถส่งทหารไปช่วยเหลือได้หากพวกเขาเลือกจะเมินเฉยเพราะคิดว่ายังไงค่ายหนานตู้ก็ไม่มีทางรอด แต่ตอนนี้ใครจะรู้ว่าค่ายหนานตู้จะรอดมาได้ แล้วผลลัพธ์จากการที่ค่ายจินหยางไม่ส่งทหารไปช่วยมันจะเป็นยังไงละทีนี้?!
ขณะที่กำลังพยายามความโกรธของคุยและจงไคไต่ขึ้นมาถึงระดับสูงสุดและทันใดนั้นเองทั้งคู่ก็ได้รับรายงานที่ไม่น่าเชื่อในเวลาเดียวกัน
”อะไรนะ?”จงไคตกใจตะลึง แววตาดุดันประกายจ้าในนัยน์ตา “ฟานแห่งทีมหลงยา? แน่ใจเหรอ?”
”จริงที่ว่าระยะทางยังค่อนข้างห่างจากค่ายจินหยางคาดว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงเธอจะมาถึงประตูค่ายจินหยางครับ ยังไม่แน่ชัดว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเข้ามาทางประตูหลักหรือว่าจะแอบลอบเข้ามาครับ” เจียงเหว่ยแห่งหน่วยข่าวกรองลับของกองทัพเขี้ยวหมาป่าซึ่งแฝงตัวมาเป็นสายสืบให้กับชูฮันโดยตอนนี้เขาก็สามารถไต่อันดับขึ้นมาเป็นคนสนิทของจงไคได้แล้วและกำลังรายงานข้อมูลให้จงไค
คนของเหมิงชีเหว่ยก็สามารถแฝงตัวเข้ามาในค่ายจินหยางได้อย่างแนบเนียนเช่นกันตอนนี้จะพูดก็ได้ว่าค่ายจินหยางเป็นฐานตั้งมั่นของสมาชิกหน่วยข่าวกรองลับแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า พวกเขาใช้โอกาสในวินาทีสุดท้ายเมื่อตอนที่มีข่าวการตายปลอมของชูฮันแพร่สะพัด เหมิงชีเหว่ยก็ตั้งใจใช้ข่าวนี้เพื่อให้คนของเขาเข้าไปค่ายจินหยางได้สำเร็จ แม้แต่ตอนเริ่มติดต่อกลับไปยังหน่วยข่าวกรองลับที่ค่ายเขี้ยวหมาป่ามันยังใช้เวลาน้อยกว่าตอนภารกิจแฝงตัวเข้าไปในค่ายเจี๋ยนอี๋ซะอีก การลักลอบเข้ามาในค่ายจินหยางมันง่ายดายแค่ปลายเล็บเท่านั้น
จงไคกระพริบตาปริบๆอย่างสติหลุดทันใดนั้นในใจก็มีความทะเยอทะยานพุ่งทะลุขึ้นมาอย่างแรงกล้า “ฟานไม่ใช่คนธรรมดา แม้ว่าทีมหลงยาจะถูกประกาศว่าตายไปแล้ว แต่เขี้ยวมังกร อี้และฟานก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีมาของซางจิง ความสามารถและพละกำลังของพวกเขานั้นเหนือเกินกว่าทุกๆคน มันจะต้องไม่ใช่เรื่องธรรดาแน่ๆที่จู่ๆทีมหลงยาจะมาค่ายจินหยางของเรา มันต้องมีอะไรแน่ๆ”
”ถ้างั้น”เจียงเหว่ยแอบกรอกตาก่อนจะพูดต่อ “ท่านอยากเจอเธอมั้ยครับ?”
”แน่นอนฉันอยาก”จงไคพยักหน้ายืนยัน “แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่เป็นปัญหา เราไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาที่นี้ และอีกฝ่ายก็ต้องการที่มาเจอพ่อแก่ใกล้ตายของฉัน ไม่ใช่ฉัน”
”ไม่ว่าอย่างไรพลเอกจงคุยก็จะได้รับรายงานข่าวเดียวกัน ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายท่านพลเอกจงคุยก็ต่างไม่แน่ใจในเจตนาของฟานทั้งคู่ ข้อแตกต่างก็คือแต่ละฝ่ายจะทำอย่างไรถ้าฟานไม่ได้ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ?” คำพูดของเจียงเหว่ยทำให้อารมณ์ของจงไคปะทุขึ้นมาทันที หากเขาพยายามระงับมันไว้และคิดตาม
”นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะคาดเดาได้ถ้าค่ายจินหยางเป็นแค่ทางผ่านของฟาน มันคงไม่ใช่เรื่องดีที่จู่ๆเราจะลงมือทำอะไร แต่ถ้าฟานจงใจมาที่นี้ เราก็ต้องแสดงให้ทุกคนเห็น น่าเสียดายไม่ว่าทางไหนผู้นำค่ายอย่างตาแก่จงคุยก็ไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ฉันต้องการจะแสดงเรื่องนี้ให้ทุกคนได้เห็นต่อหน้าฟาน” จงคุยคิดฝันไปไกลถึงอำนาจที่ตัวเองจะมีโดยไม่ทันได้คิดระแวงเจียงเหว่ยเลย เขาลืมคิดถึงเจตนาที่แท้ของเจียงเหว่ยไปอย่างสิ้นเชิง
เจียงเหว่ยเริ่มประมวลผลในหัวก่อนจะยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ที่จริงแล้ว ในความคิดของผม มันง่ายมากที่จะได้การสนับสนุนจากฟาน”
”ยังไง?”จงไคสนใจอย่างมาก
”เราต้องออกกไปดักและหยุดฟานเอาไว้ก่อน!”
”จะบ้าเหรอไง?!”จงไคหงุดหงิดทันที
”มีสองเหตุผลครับข้อหนึ่งคือเพื่อแสดงให้เห็นความสามารถในการลาดตระเวนที่แข็งแกร่งกว่าจงคุย และท่านก็จะเป็นคนที่ชิงลงมือก่อนพ่อของท่าน” เจียงเหว่ยพูดเสียงนิ่ง”ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ตอนนี้ฟานมาปรากฏตัวที่นี้ เราแค่ต้องรอดูว่าเธอมาที่นี้ด้วยเรื่องอะไร เราจะใช้ประตูทางลับพาฟานเข้ามาและออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเธอไม่พอใจและโมโหขึ้นมา เราก็จะแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้จักเธอ ยังไงก็ตามท่านก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่านผู้นำ เธอคงไม่กล้าทำอะไรท่านอยู่แล้ว”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียงเหว่ยทันใดนั้นแววตาของจงไคก็มีประกายความพอใจฉายชัดออกมาชัดเจน “นายนี่สมกับเป็นคนสนิทของฉันจริงๆ ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไงฟานก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ ถึงจะต้องใช้อำนาจของตาแก่จงไคนั้นก็เถอะ”
”ใช่ครับ!”เจียงเหว่ยยิ้มและพูด “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”
”ลงมือเลย!เดี๋ยวนี้!” จงไคอดไม่ได้ที่จะออกคำสั่งทันที “ไปหยุดเธอเอาไว้ก่อน ฉันไม่สะดวกที่จะเคลื่อนไหว ส่วนนายก็คอยรายงานฉันตลอดเวลาล่ะ!” ”ครับ!”
ในเวลาเดียวกันภายในบ้านของจงคุยบทสนทนาในรูปแบบเดียวกันที่บ้านพักของจงไคก็เกิดขึ้นในบ้านของคุย ซึ่งคนที่เป็นคนมารายงานข้อมูลแก่จงคุยนั้นก็เป็นสายสืบที่เหมิงชีเหว่ยส่งตัวเข้ามาเหมือนกัน
ความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวขึ้นโดยไม่มีใครรับรู้นี้จะนำพาหายนะมาสู่ค่ายจินหยางทั้งสองพ่อลูกจะเข่นฆ่ากันเองจนตาย
เพราะถึงอย่างไรแล้วเสือสองตัวก็ไม่สามารถอยู่ในถ้ำเดียวกันได้