Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 90 ที่ก้นทะเลสาบ
ทันใดนั้นซางจิ่วตี้และเลาเสี่ยวเสียวก็จับปืนไรเฟิลในมือตัวเองกันแน่น หน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความเครียดและกังวล มันเกิดจากเสียงปืนที่ดังมาจากทางทะเลสาบ
เฉินช่าวเย่เองก็ยืนอยู่ข้างๆปืนไรเฟิลของเขา รู้สึกตึงเครียดเหมือนกับผู้หญิงทั้ง2คนเหมือนกัน ด้วยกลัวว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับท่อนไม้ ตากวาดมองไปรอบๆไม่หยุด
ขณะที่อีกทาง….ชูฮันหยิบขวานเหล็กของเขาขึ้นมาพร้อมกับเดินไปที่หน้ากลุ่ม เลาเสี่ยวเสียวและซางจิ่วจี้เดินตามเขาไปหาแหล่งที่มาของเสียงปืนนั่น เขาแหวกตัดพวกวัชพืชตามข้างทางทิ้งด้วยขวาน ทำให้พวกมันล้มลงไปนอนแผ่บนน้ำในบ่อที่เย็นจัดราวกับน้ำแข็งจนเกิดเสียงน้ำกระเซ็น พวกเขาเดินหน้าต่อไปทางทะเลสาบแม้จะรู้สึกได้ถึงน้ำเย็นเฉียบตรงนิ้วเท้าก็ตาม
ความแข็งแรงระดับ1ของชูฮัน ทำให้เขารับรู้อะไรเพิ่มขึ้นกว่าคนปกติ อย่างในตอนนี้เขารู้สึกว่าเลาเสี่ยวเสียวกำลังตัวสั่นเทาอย่างตระหนก ส่วนซางจิ่วตี้ก็หายใจเข้าออกรุนแรงด้วยความกังวล
ทันใดนั้นเอง ชูฮันก็หยุดเดิน
มีเสียงน้ำสาดกระเซ็นดังขึ้นมาแทนความเงียบ ข้างหลังชูฮัน เลาเสี่ยวเสียวและซางจิ่วตี้กำลังกลั้นหายใจพร้อมกับยืนนิ่งทื่ออยู่ที่เดิม
ซู่…ซู่…
ห่างออกไป มันมีเสียงน้ำสาดดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบ
ถึงแม้พระจันทร์ในคืนนี้จะไม่สว่างมาก หากมันยังมีแสงของดวงจันทร์ส่องจางๆไปที่บริเวณนั่นมากพอ ประกอบกับดวงตาของพวกเขาเริ่มจะปรับตัวได้กับความมืด จึงทำให้พวกเขาเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน
มันคือ ป่ายหวีเนอ…
เธอกำลังว่ายน้ำอยู่ตรงใจกลางของทะเลสาบ หลังเปลือยเปล่าของเธอหันเข้าหาชูฮันและทุกคน ผมยาวสลวยของเธอพาดไปบนใบหน้า เผยให้เห็นลำคอสง่างามราวกับหงส์ของเธอ หากมันยังมีน้ำปกปิดร่างทั้งร่างอยู่ เธอยกแขนขึ้นและตีลงไปข้างหน้า จนเกิดเสียงกระทบของน้ำที่กระเซ็น
“แม่ง! กับแค่อาบน้ำใช้เวลานานเกินไปมั้ย!” เลาเสี่ยวเสียวโมโหมาก “ฉันคิดว่ามีอะไรซะอีก ทำไมยัยนั่นถึงว่ายไปไกลขนาดนั้น?”
ที่ๆป่ายหวีเนอออกไปอาบน้ำอยู่ห่างจากที่พักของพวกเขาพอสมควร
ซางจิ่วตี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมกับปาดเหงื่อที่ไหลบนหน้าออก
ชูฮันไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ มีแววตาแปลกๆฉายวูบขนาดมองป่ายหวีเนอ
เลาเสี่ยวเสียวไม่คิดจะเบาเสียงเธอลงเลย เธอจงใจพูดเสียงดังให้ป่ายหวีเนอได้ยินที่เธอพูด ป่ายหวีเนอหมุนตัวกลับมา ร่างกายเปลือยเปล่าเผยต่อหน้าทุกคน รูปร่างที่เรียกได้ว่าเกือบสมบูรณ์แบบของเธอนั้นปรากฏต่อสายตาทุกคน ทว่าเธอกลับไม่มีท่าทางเคอะเขินเลยแม้แต่น้อย
ท่าทางที่เย็นชา กระดูกไหปลาร้าที่ดูเย้ายวน และแขนยาวสลวยไร้รอยตำหนิ เผยต่อหน้าชูฮันและผู้หญิงอีก2คนราวกับสินค้าสำหรับการประมูล
“ค่อก! ค่อก! ค่อก!” เลาเสี่ยวเสียวสำลักน้ำลายตัวเอง
หน้าของซางจิ่วตี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความเขิน และอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองชูฮัน…เขากำลังมองป่ายหวีเนอยู่อย่างตั้งใจ! อยู่ดีๆซางจิ่วตี้ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา เธอมองหุ่นตัวเองเปรียบเทียบกับของป่ายหวีเนอ
ขณะที่ซางจิ่วตี้และเลาเสี่ยวเสียวยังคงตกอยู่ภวังค์ช็อค ก็มีเสียงสาดกระเซ็นของน้ำดังมาให้ได้ยินอีกครั้ง
ซู่…..
ละอองของน้ำกระเด็นมาโดนส่วนล่างของทั้ง3คน ทำให้กางเกงของพวกเขาเปียกโชก แถมมันยังทำให้พวกเขาหนาวขึ้นไปอีก
“กรี๊ดดดด !!” จู่ๆเลาเสี่ยวเสียวก็กรี๊ดออกมา
หน้าของซางจิ่วตี้กลายเป็นซีดทันทีขณะมองไปที่เลาเสี่ยวเสียว
น้ำมันใสกริ้งจนทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงก้นทะเลสาบได้ มีลูกตานับไม่ถ้วนและชุดฟันกระจายเรียงกันอยู่ที่ก้นทะเลสาบ
มันคือซอมบี้!
มีซอมบี้จำนวนมากอยู่ในทะเลสาบ
หัวของซอมบี้จำนวนมากลอยขึ้นมาเต็มผิวน้ำจนเกิดเป็นรูปร่างคล้ายกับรังผึ้ง พร้อมกับการสาดกระเซ็นของน้ำ มันจึงยิ่งไหลมาทางที่กลุ่มชูฮันยืนอยู่เร็วขึ้น มีแม้กระทั่งปลาตายไหลตามกระแสน้ำมาด้วย!
ซอมบี้จำเป็นต้องกิน พวกมันกินเกือบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เนื้อมนุษย์อย่างเดียวแต่รวมถึงเนื้อสัตว์ด้วย พวกมันกินทุกอย่างที่มีชีวิต
มันไม่แปลกที่จะมีซอมบี้ในน้ำเพราะพวกปลาก็เป็นอาหารที่พวกมันกินกันเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันชอบกินเนื้อมนุษย์มากที่สุด!
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงก้าวถอยหลังพร้อมกับเสียงสาดน้ำผสมกันทำให้เลาเสี่ยวเสียวถอยหลังหนีไปที่ฝั่งอย่างตื่นตระหนก
ซางจิ่วตี้ตัวสั่น ถึงแม้เธอจะไม่เหมือนคนทั่วไปแต่ยังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกกลัวแต่เธอไม่ปล่อยให้มันครอบงำตัวเอง
“เธอฆ่าพวกมันเหรอ?” ชูฮันมองไปที่ป่ายหวีเนอที่อยู่อีกฝั่งของทะเลสาบ
หัวของซอมบี้ที่ลอยอยู่บนน้ำดูน่ากลัวและน่าขนลุก ร่างของพวกมันจมลงไปที่ก้นทะเลสาบ มีแต่หัวของพวกมันที่ลอยอยู่และทุกตัวดูเหมือนจะถูกฆ่าตายด้วยวิธีเดียวกันหมด
“ใช่” ป่ายหวีเนอตอบอย่างสบายๆพร้อมกับหันไปอาบน้ำต่อ เธอไม่ได้รู้สึกเคอะเขินและไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย ซางจิ่วตี้และเลาเสี่ยวเสียวต่างช็อคทั้งคู่หากพวกเธอไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ “นี่เธอยังคงเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?” ชูฮันหรี่ตาคิดอยู่ในใจ…ป่ายหวีเนอไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้นด้วยเพราะเธอยังอยู่ในช่วงขั้นตัวอ่อนของเครื่องจักรสังหาร…เธอเกิดมาเพื่อฆ่า
ภายในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงจำนวนซอมบี้ที่เธอฆ่าไปนั้นหยั่งไม่ถึง
ความสามารถของเธอที่ไม่อาจคาดเดาได้ได้เพิ่มอันตรายขึ้นไปอีกระดับแล้ว แม้แต่ตัวชูฮันเองก็เริ่มจะรู้สึกกลัวเธอขึ้นมาเหมือนกัน
โชคดีที่เขาไม่ใช่ศัตรูของป่ายหวีเนอ
โชคดีที่เขาได้พบเธอก่อนที่เธอจะกลายเป็นบ้า
ชูฮันมองที่เหล่าหัวซอมบี้มากมายที่ลอยคออยู่บนน้ำ อดไม่ได้ที่จะถามกับตัวเองในใจ
“เธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์จริงๆเหรอ?”
เขาไม่เห็นว่าจะมีอะไรอธิบายความสามารถในการต่อสู้ของเธอได้ดีกว่าคำว่ามนุษย์กลายพันธุ์แล้ว เพราะไม่มีทางเป็นแค่เด็กสาวอายุ17ปีแน่ๆ แต่เขาก็ยังไม่สามารถยืนยันสมมติฐานของเขาได้แน่ชัด และเพราะเมื่อเขามาถึงป่ายหวีเนอได้หยุดต่อสู้ไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ทันได้สัมผัสความผันผวนของเธอ
คนที่พัฒนาการแล้วหรือมนุษย์กลายพันธุ์ จะสร้างความผันผวนของต้นกำเนิดที่ไม่รู้ที่มาขึ้นมาระหว่างการต่อสู้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยมนุษย์กลายพันธุ์ด้วยกันเอง การผันผวนพวกนี้จะโตขึ้นไปพร้อมกับความแข็งแรงของมนุษย์กลายพันธุ์ แต่มนุษย์ธรรมดาหรือช่วงเวลาที่เงียบสงบจะไม่สามารถรู้สึกถึงได้ มันเป็นเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ชูฮันสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดต่อ “เนื้อเน่าและเสือดสีดำจะกระจายไปทั่วทั้งทะเลสาบในไม่ช้า เธอควรรีบอาบน้ำให้เสร็จไวๆ”
“ได้” ป่ายหวีเนอยังคงตอบแบบสบายๆเหมือนเดิม ทว่าเธอก็รีบทำทุกอย่างให้เสร็จจริงๆ…เธอฟังที่ชูฮันพูด
ชูฮันมองไปที่ก้นทะเลสาบที่ตอนนี้ดูราวกับหลุมฝังศพขนาดใหญ่ เลาเสี่ยวเสียวและซางจิ่วตี้นั้นต่างหวาดกลัวและขนลุกกับภาพที่เห็น มันไม่ใช่แค่ศีรษะของซอมบี้นับไม่ถ้วนลอยเต็มผิวน้ำไปหมดที่ทำให้พวกเธอกลัว แต่มันเป็นท่าทางสบายๆของป่ายหวีเนอที่ยังคงอาบน้ำต่อหลังจากพึ่งฆ่าซอมบี้มากมายขนาดนี้ไปต่างหากที่ทำให้พวกเธอกลัว
เธอยังสามารถอาบน้ำในทะเลสาบที่เต็มไปด้วยซอมบี้ที่ตายแล้วได้ไง? มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ควรจะไปอาบน้ำในที่ๆมันสุขอนามัยกว่าและน่าขนลุกน้อยกว่านี้
คนธรรมดาจะทำได้แบบที่เธอทำมั้ย?