Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 95 เขามีมันมาตั้งแต่เกิดเหรอ?
งบนพื้นแสดงให้เห็นผิวขาวเนียนนุ่มไร้รอยตำหนิใดๆ บ่งบอกว่ามันเป็นของหญิงสาวที่ยังอ่อนเยาว์อยู่ และหญิงสาวคนนั้นก็สวมชุดสีขาว
“ป่าย..ป่ายหวีเนอ?” เสียงของเฉินช่าวเย่สั่นขณะมองไปที่ศพที่นอนเหยียดอยู่ตรงพื้น “นั่นใช่ป่ายหวีเนอมั้ย?”
ซางจิ่วตี้และเลาเสี่ยวเสียวเองก็คิดเหมือนกัน ชุดสีขาว รูปร่างและสัดส่วน แถมยังมีผมยาวสีดำ ทุกอย่างต่างชี้ไปที่คนๆเดียว…ป่ายหวีเนอ!
เธอตายแล้ว?
ปัง! ปัง! ปัง!
มีเสียงปะทะของบางอย่างดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง มีอะไรบางอย่างล่วงลงพื้นอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงกระทบดังสนั่น ทั้ง4คนไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ด้วยเพราะทั้งสถานที่มันมืดมัวจนแทบมองอะไรไม่เห็น
ชูฮันหรี่ตาลงพร้อมกับจัดการกับซอมบี้หลายตัวที่วิ่งพุ่งมาทางพวกเขา จากนั้นก็รีบมุ่งไปข้างหน้าอย่างไว ท้ัง3คนที่เหลือดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงอะไร สายตาของพวกเขายังคงยึดติดอยู่กับศพบนพื้น ความหวาดกลัว ความเศร้า และความสิ้นหวังแสดงออกมาบนหน้าพวกเขา พร้อมกับที่ต่างคนต่างเริ่มรู้สึกยอมแพ้กับความตายมากกว่าการดิ้นรนเพื่ออยู่รอดต่อไป
ความหวังได้เลือกที่จะทอดทิ้งโลกที่ได้พังพินาศไปแล้ว…
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ชอบทัศนคติของป่ายหวีเนอ และพวกเขาเองก็ไม่เคยพูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ หากพวกเขาก็เป็นเพื่อนร่วมทางกันมานาน ต่อสู้กับซอมบี้มาด้วยกัน แม้แต่ยังกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันมา ส่วนเลาเสี่ยวเสียวและซางจิ่วตี้นั้นคุ้นเคยกับป่ายหวีเนอมาแล้วหลายปี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันแบบนี้ทำให้พวกเธอช็อคมาก
เธอตายได้อย่างไร? มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
ชูฮันไม่ได้รอพวกเขา ทว่าเขารีบพุ่งไปข้างหน้าตามแหล่งที่มาของเสียงกระแทกนั่น
จนมาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายตัวขวางมุมมองของชูฮันไว้
มีเสาเหล็กความยาวประมาณ2เมตรกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ดูเหมือนกับถูกโยนมาจากที่ไหนสักที่ เสียงกระทบดังก้องออกมาเหมือนกับมีบางคนใช้เสาเหล็กเพื่อต่อสู้อยู่
ชูฮันเงยหน้าขึ้นมอง มันไม่มีอะไรในอากาศ จากนั้นก็มองออกไปรอบๆต่อ ทว่ามันไม่มีเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงของเสาเหล็กปะทะ
มีบางอย่างผิดปกติ!
แม้ว่ามันจะมีซอมบี้แค่ไม่กี่ตัวที่นี่ แต่มันก็มีมากพอที่จะสู้กับกลุ่มของชูฮัน เสียงคำรามของซอมบี้ยังดังออกมาไม่หยุด ทว่ามันกลับไม่มีซอมบี้สักตัวในห้องโถงนี่!
พวกมันไม่ได้ซ่อนตัวหากกลับมุ่งหน้าไปตามทางที่พวกมันรู้สึกได้ถึงมนุษย์
ทันใดนั้น ก็มีลมกระโชกแรงพัดผ่านไป ขณะที่ชูฮันจับขวานไว้แน่นอย่างกังวล
และในตอนนั้นเอง…
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงกระแทกอย่างรุนแรงดังกระหึ่มดังตามออกมาเป็นระลอกๆ เสียงมันมาจากใกล้ตรงที่ชูฮันยืนอยู่ มีเพียงแค่เครื่องจักรสูงใหญ่กั้นขวางชูฮันกับเสียงนั้นไว้
ชูฮันวิ่งไปข้างหน้า ยกขวานขึ้นพร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ
ชั้ว!
ทันใดนั้น…
มีร่างผอมบางกระโดดเข้ามาตรงทางเดินระหว่างเครื่องจักร ผมบางส่วนของเธออยู่ในปาก ชุดสีขาวบางส่วนของเธอฉีกขาด เผยให้เห็นขาขาวไร้ที่ติ ดวงตาแสนเย็นชาเปล่งประกายไปด้วยรังสีสังหาร หากจู่ๆมันก็ถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นยามที่เธอมองมาที่ชูฮัน
ป่ายหวีเนอ!
ชูฮันหรี่ตาลง ประมวลผลทุกอย่างอยู่ในหัวไม่หยุด จากนั้นก็พุ่งไปข้างหน้า ยกขวานขึ้นเพื่อจะฆ่าซอมบี้ทั้งหมด!
พัฟ!
ของเหลวอุ่นๆกระจายเปรอะไปทั่วใบหน้าและลำคอของชูฮัน ขณะที่บางส่วนก็กระเด็นไปโดนชุดของป่ายหวีเนอที่ขยับตัวออกไปด้านข้างเพื่อให้ชูฮันได้เคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่
ว๊ากกกกก!
จู่ๆก็มีเงาบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ถอยกรูหนีชูฮันไป เขาไม่สามารถมองเห็นรูปร่างจริงของมัน ทว่าเขาเห็นเลือดสีดำที่เปรอะอยู่บนหน้าเขาได้ชัด!
ในตอนนั้นเอง ป่ายหวีเนอใช้จังหวะนั้นหมุนตัวกลับ ผมของเธอปลิวสยายขณะที่ชุดสีขาวสะบัดไปตามลม การเคลื่อนไหวของเธอให้ความรู้สึกถึงผีเสื้อที่กำลังโบยบินอย่างอิสระ เสาเหล็กยาว2เมตรที่เธอถืออยู่ส่งเสียงขูดกับพื้นดังออกมา เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่ชูฮันด้วยซ้ำ กลับรีบพุ่งตัวไปทางซอมบี้ที่ถอยกำลังหนีไป
ชูฮันเองก็ไม่ได้มองตามป่ายหวีเนอที่วิ่งออกไป แม้เธอจะเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด ขาอันเรียวยาวที่เผยให้เห็นยามที่เธอที่ขยับตัว
เมื่อมองไปที่สิ่งที่เคยเป็นซอมบี้ เขาสามารถมองออกได้เลยว่ามันเป็นซอมบี้ระยะที่2
เส้นประสาทของชูฮันตึงแน่น ด้วยเพราะเขาไม่คิดว่ามันจะมีซอมบี้ระยะที่2อยู่ตรงนี้ และที่มากไปกว่านั้น เขามองเห็นได้ชัดเลยว่ามันแข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ซะอีก
พวกเวรตะไลพวกนี้แม่งพัฒนาเร็วชะมัด!
ผมยาวสลวยสีดำของเธอปลิวกระทบใบหน้าของชูฮัน ขณะที่เขาพยายามจะวิ่งตามเธอให้ทัน การเดือดพล่านของเธอทำให้ชูฮันตกใจ ทว่าสิ่งที่ชูฮันตกใจยิ่งกว่าก็คือความจริงที่ว่าเขาสัมผัสได้ถึงรังสีความผันผวนมาจากตัวเธอ
เธอยังไม่เคยกลายพันธุ์ จึงยังไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับชูฮันได้
ป่ายหวีเนอเป็นแค่คนธรรมดา!
เธอสามารถต่อสู้กับซอมบี้จำนวนมากได้ทั้งๆที่มีรูปร่างเหมือนคนธรรมดาทั่วไป? ทำไมความสามารถในการต่อสู้ของเธอถึงได้แข็งแกร่งนัก? นี่มันเรื่องตลกใช่มั้ย?
สิ่งที่ชูฮันพึ่งตระหนัก ณ เดี๋ยวนี้ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา เขาคิดว่าป่ายหวีเนอได้วิวัฒนาการระยะที่1ไปแล้ว ด้วยเพราะเขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะต่อสู้ด้วยร่างกายที่ไม่ยืดหยุ่นและดูอ่อนแอแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ป่ายหวีเนอรู้สึกได้ว่าชูฮันเชื่อในความแข็งแกร่งของเธอ ขณะที่กำลังร่วมมือกับชูฮันสู้กับซอมบี้
เ*ย!
ชูฮันเกือบจะหลุดสบถออกมา เขาไม่แปลกใจเลยที่เธอจะไปจุดสูงสุดได้อนาคต แค่ตอนที่เธอมีร่างกายปกติแบบนี้เธอก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว แล้วคิดดูสิว่าเธอจะทรงพลังมากขนาดไหนถ้าได้วิวัฒนาการ?
อีกอย่างนอกจากสัญชาตญาณในการต่อสู้ของเธอแล้ว เธอยังเป็นแค่เด็กสาวอายุ17ปีเท่านั้น
ในขณะนั้น ชูฮันและป่ายหวีเนอเหมือนจะเคลื่อนไหวเหมือนกัน ทั้งคู่พุ่งไปข้างหน้าอย่างว่องไวและเงียบกริบ
ชั้ว!
ชั้ว!
ปรากฏเงาของร่างสองร่างที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันนึงตัวสูง อีกอันเตี้ย อันนึงมีร่างกายสมบูรณ์ อีกอันผอมแห้ง อันนึงสีดำขณะที่อีกอันสีขาว
มันเป็นถนนแห่งความตาย ชูฮันและป่ายหวีเนอยืนอยู่ตรงมุม และมีซอมบี้ร่างสูงใหญ่ระยะที่2 ยืนอยู่ตรงข้ามพวกเขา มันยืนผิงหลังกับกำแพง ลูกตาของมันไม่เหมือนกันซอมบี้ที่พวกเขาเคยเจอมา บาดแผลบนไหล่ของมันยังคงเลือดไหลออกมาไม่หยุด กล้ามเนื้อของมันตึงแน่นราวกับพร้อมที่จะปล่อยพลังออกมาได้ทุกเมื่อ
ชูฮันเหวี่ยงขวานพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้า เสียงของอากาศที่ถูกตัดผ่านดังออกมาพร้อมกับที่ขวานเหวี่ยงไปรอบๆ!
ฟืด!
เสาเหล็กขนาด2เมตรก่อให้เกิดเสียงผ่าอากาศ พร้อมกับที่ป่ายหวีเนอที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังชูฮัน!
ทั้งคู่มองมาที่ซอมบี้ที่อยู่ตรงข้าม ไม่ได้จ้องหน้ากันและกัน พวกเขาได้ก้าวข้ามไปถึงระดับสูงของการเข้าใจกันโดยปริยาย แม้แต่ตอนที่พวกเขาจะไม่พูดใส่กันก็ตาม