Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1161 นองเลือด
“หนีเร็ว! เทพมารหลินบุกสังหารเข้ามาแล้ว!”
ถิ่นที่พักของสำนักยุทธ์นครนิลทั้งหมดคือตำหนักโบราณที่งามวิจิตรหลังหนึ่ง กินพื้นที่กว้างขวาง
ในอดีตที่แห่งนั้นราวกับสถานที่ต้องห้าม ผู้ฝึกปราณทั่วไปต่างไม่กล้าเข้าใกล้
ทว่าบัดนี้ตำหนักใหญ่เกิดเสียงอึกทึกครึกโครม ชุลมุนวุ่นวายไม่สิ้น
ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์นครนิลทั้งหมดต่างวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก รู้สึกเหมือนฟ้าจะพังครืนลงมา คาดไม่ถึงเลยว่าการเคลื่อนไหวปิดล้อมเทพมารหลิน จะแปรเปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้
เพียงแต่หลินสวินมาถึงเร็วเกินไป พริบตาก็เหยียบย่ำลงที่นี่ เริ่มทำการกวาดล้างทันที
พรูดๆๆ!
ผู้แข็งแกร่งทั้งแถบถูกเด็ดชีวิตประหนึ่งต้นหญ้า เลือดสาดกระเซ็น
บางคนหลบหนี ทว่าหลบไปไม่ไกลเท่าไรก็ถูกหลินสังหาร
นี่คือการกวาดล้างให้สิ้นซากอย่างชัด
ผู้ชมการต่อสู้ที่ติดตามอยู่ห่างๆ อย่างใกล้ชิดใจไหวสะท้าน เทพมารหลินสังหารยกใหญ่เช่นนี้ เป็นการรื้อรากถอนโคนสำนักยุทธ์นครนิลให้หมดสิ้นไปจากแดนมกุฎ!
สิ่งที่ต้องรู้คือสำนักโบราณแต่ละแห่งในยุคปัจจุบันต่างยกพลเคลื่อนเข้าสู่แดนมกุฎ ล้วนเพื่อขุดค้นเสาะหาศุภโชคและวาสนาจำนวนมาก เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพตอบแทนคุณสำนัก
เมื่อถิ่นที่พักถูกทลายลง แผนการในแดนมกุฎย่อมพังครืนไปด้วย!
ฆ่า!
หลินสวินทะลวงเข้าไปตลอดทาง ผมดำพลิ้วไหว สำแดงพลังต่อสู้อันไร้เทียมทาน อานุภาพดุจผ่าลำไผ่ ไม่มีผู้ใดทัดเทียม
เพียงไม่นานรอบๆ ตำหนักงามวิจิตรและเก่าแก่แห่งนี้คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ซากศพ และเสียงร้องโหยโหนที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับแดนนรกปรากฏบนโลกก็ไม่ปาน
นอกเมืองเมื่อเมี่ยวเฉินผู้แข็งแกร่งระดับราชันแห่งสำนักยุทธ์นครนิลรู้ข่าว เบื้องหน้าก็มืดมัวลงพลัน โกรธจนกระอักเลือดออกมา ส่งเสียงกรีดร้องก้องฟ้า
นางเสียดาย!
เสียดายนักที่ยามหลินสวินปรากฏตัวเมื่อห้าวันก่อน ทำไมถึงไม่สามารถสังหารเขาให้สิ้นซาก!
มาบัดนี้ที่แรกที่หลินสวินเหยียบย่างก็คือถิ่นที่พักของสำนักยุทธ์นครนิล เห็นได้ชัดว่านี่คือการล้างแค้นนางอย่างแน่นอน!
พวกอูหยวนเจิ้น ซางชง หวังอวิ๋นทงซึ่งอยู่คนละขุมอำนาจ บัดนี้สีหน้าของพวกเขาล้วนแต่ย่ำแย่เช่นกัน
ห้าวันก่อน พวกเขามองว่าหลินสวินเป็นหนอนแมลงไร้กำลังต่อต้าน ทำการปิดล้อมเขาไว้ มีหรือจะคาดคิดว่าห้าวันให้หลัง หนอนแมลงตัวนี้จะเปิดฉากการแก้แค้นนองเลือดไร้ใดเปรียบเช่นนี้!
พรูด!
พลังหมัดเคลื่อนกวาด ภายในตำหนักโบราณหลังจากผู้ฝึกปราณคนสุดท้ายถูกสังหาร บนลานนอกจากหลินสวินแล้วก็ไม่ปรากฏผู้ใดอีก
ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วพื้น!
ผู้แข็งแกร่งที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวต่างขนลุกขนพอง รับรู้ได้ว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ต่อให้มีผู้ฝึกปราณสำนักยุทธ์นครนิลหลงเหลืออยู่ แต่สำนักนี้ก็ได้สูญเสียอิทธิพลไปแล้ว!
“สิ่งของในนี้ ผู้ใดกล้าแตะต้องย่อมเป็นศัตรูของข้าหลินสวิน!”
พลันนั้นหลินสวินหมุนตัว นัยน์ตาดำเยียบเย็นจับจ้องไปยังพวกที่มองดูการต่อสู้ ทำให้พวเขาตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง ใจเต้นตุบ
ในหมู่พวกเขาย่อมมีผู้แข็งแกร่งที่คิดกวนน้ำจับปลา อาศัยโอกาสนี้ฉกฉวยผลประโยชน์เข้าตัวเองอย่างแน่นอน
นี่เป็นถิ่นที่พักของสำนักยุทธ์นครนิล ช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเขากอบโกยสมบัติไว้เป็นจำนวนมาก มากเสียจนทำให้ใครๆ ต่างอิจฉาตาร้อน
ทว่าหลังถูกหลินสวินเตือนเช่นนี้ พวกเขาเหมือนถูกน้ำเย็นสาด ความโลภในใจดับมอดในชั่วพริบตา
แม้สมบัติเป็นสิ่งที่ดี หากแต่เทียบกับการเป็นศัตรูกับเทพมารหลินแล้ว ย่อมไม่คุ้มค่าแม้แต่น้อย
ฟึ่บ!
เมื่อพูดจบหลินสวินก็ทะยานจากไป
เขาต้องแข่งกับเวลา จึงจะสามารถเก็บกวาดศัตรูได้มากที่สุด มิฉะนั้นหากขุมอำนาจสำนักอื่นๆ ไหวตัวทัน ต้องรีบเผ่นหนีออกนอกเมืองในทันใดเป็นแน่
‘เสี่ยวอิ๋น เจ้าเก็บสมบัติรออยู่ที่นี่ จากนั้นค่อยมาเจอกัน’
ก่อนไปหลินสวินให้เสี่ยวอิ๋นรั้งอยู่ที่นี่
ความโลภของมนุษย์น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง บางทีสามารถกำราบได้ แต่หากคิดตัดรากถอนโคนกลับเป็นเรื่องยาก!
มนุษย์ต่างมอดม้วยด้วยเงินทอง เหล่านกกาตายเพราะอาหาร
ห้าวันก่อนขณะที่หลินสวินบาดเจ็บปางตาย ผู้ฝึกปราณบางส่วนยังกล้ามองว่าเขาเป็นแกะอ้วน เห็นได้ว่าภายใต้ความละโมบโลภมาก ไม่ว่าเป็นเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายเช่นใดย่อมเกิดขึ้นได้
ในหมู่ผู้ชมการต่อสู้ บางทีอาจมีคนสะใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเขากวาดล้างทั่วทุกหย่อมหญ้า
ทว่าหลินสวินไม่ยอมให้พวกเขาเอาเปรียบอย่างหน้าตาเฉยเป็นแน่!
ภายในห้าวันนี้เขาถูกขุมอำนาจใหญ่ล้อมโจมตี ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วย
ตอนนี้ยังมีหน้ามาตามตูดต้อยๆ หวังเอาเปรียบเป็นเสือนอนกินหรือ
ไม่มีวันหรอก!
หลินสวินจากไปอย่างรวดเร็ว โคจรพลังด้วยความเร็วสูงสุด เคลื่อนเข้ากำราบอีกครา กวาดล้างสังหารถิ่นที่พักของเขาวิญญาณหมื่นอสูรจนย่อยยับ อานุภาพศักดิ์สิทธิ์เข้าบดขยี้ศัตรู
ยังดีที่ขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้ยามเลือกที่ลงหลักปักฐานล้วนเลือกบริเวณใจกลางเมือง ระยะห่างกันไม่มาก ทำให้หลินสวินต้องไม่ขยับตัวมากไปให้เปลืองแรง ประหยัดเวลาไปได้มาก
ไม่นานนักถิ่นที่พักของเขาวิญญาณหมื่นอสูรพังทลายลง เลือดไหลนองกลายเป็นสายน้ำ!
ก่อนหน้าสำนักนี้หมายจะกำราบเสี่ยวอิ๋น ถึงขั้นบีบจนเสี่ยวอิ๋นเลือกสละชีวิต หลินสวินย่อมไม่ปล่อยพวกเขาให้ลอยนวลอย่างแน่นอน!
ที่นอกเมือง ผู้แข็งแกร่งเขาวิญญาณหมื่นอสูรคนหนึ่งเลือดขึ้นตา โกรธเกรี้ยวกัดฟันกรอดจนแทบหัก การชำระแค้นเช่นนี้ สำหรับเขาวิญญาณหมื่นอสูรของพวกเขา เป็นการโจมตีที่สาหัสรุนแรงจนไม่อาจแรงไปได้มากกว่านี้แล้ว
ถัดไปไม่นาน ถิ่นที่พักของเผ่าวิญญาณสมุทรก็ถูกบดขยี้เช่นกัน จากนั้นก็คือถิ่นที่พักของลัทธิบูชาจันทร์…
บรรดาขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้ ในระหว่างที่รีบเร่งมีผู้ฝึกปราณบางคนหนีไม่ทันด้วยซ้ำ
ยิ่งกว่านั้นหลินสวินรวดเร็วเกินไป จึงบาดเจ็บล้มตายอย่างอเนจอนาถไม่น้อยหน้าสำนักยุทธ์นครนิลและเขาวิญญาณหมื่นอสูร
ที่นอกเมืองกลุ่มราชันตะโกนกู่ร้อง เดือดดาลจนแทบคลั่ง
ทว่ากฎต้องห้ามของเมืองโบราณเผาเซียนควบคุมพลังของพวกเขาเอาไว้ ทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าไปในเมืองได้ จึงทำได้แค่เพียงยืนมองเหตุกาณ์ดำเนินไป
นี่เป็นรสชาติที่เจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุด!
ใครเล่าจะคาดคิด เวลาเพียงแค่ห้าวัน เทพมารหลินที่บาดเจ็บเจียนตายกลับสำแดงการโต้กลับจนเลือดนองเช่นนี้
มิหนำซ้ำดูท่าทางแล้ว เห็นชัดว่าเขาต้องการใช้เลือดล้างขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ขุดรากถอนโคนพวกเขาออกจากเมืองโบราณเผาเซียน!
เพียงแต่แม้ความเร็วของหลินสวินจะเร็วมาก แต่ด้วยข่าวที่แพร่สะพัดออกไป ก็ยังมีขุมอำนาจไม่น้อยถอนตัวหนีได้ทัน
เช่นเผ่าอีกาทอง เผ่าโบราณแสงทมิฬเป็นต้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ การฆ่าสังหารที่เขาสร้างไว้ก็ยังสะเทือนขวัญสะท้านโลก ยามข่าวแพร่กระจายออกไปทั่ว ถิ่นที่พักของหกขุมอำนาจก็พังทลายลงแล้ว!
นี่ทำให้ผู้คนตื่นตระหนก ยังมีคนส่วนหนึ่งไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ด้วยเหตุที่หลินสวินเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไป เข้าสังหารอย่างง่ายดายต่อเนื่อง ราวกับพายุที่พัดผ่าน ทุกที่ที่ผ่านไปผู้แข็งแกร่งล้วนล้มตาย!
เมืองโบราณเผาเซียนวุ่นวายถึงขีดสุด!
นับแต่เปิดแดนมกุฎจนบัดนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบครึ่งปี กระนั้นก็ยังไม่เคยปรากฏศึกที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อน
ผู้ฝึกปราณในเมืองกว่าล้านคน ทว่าคนที่ได้เห็นหลินสวินกรำศึกกับตาตัวเองกลับมีจำนวนไม่มาก
เมื่อผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่รู้ข่าวต่างก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้ลง เทพมารหลินไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังกวาดล้างทำลายถิ่นที่พักของขุมอำนาจทั้งหลาย ประหนึ่งเทพมารที่แท้จริงเคลื่อนกวาดกำราบ!
“นี่… แข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง เขาไม่ใช่ว่าได้รับบาดแผลมรรคและถูกกำหนดให้ต้องร่วงหล่นหรือ ไฉนถึงสามารถเคลื่อนกวาดกำราบเหล่าผู้กล้า ขุดรากถอนโคนถิ่นที่พักของขุมอำนาจต่างๆ ได้”
“สวรรค์! นี่เป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนใต้หล้าแน่นอน เก็บตัวเงียบหายไปเกือบครึ่งปี พอเทพมารหลินปรากฏตัวก็ผงาดขึ้นมาอีก เลือดศัตรูชโลมทั่วทั้งเมืองโบราณ!”
“ตอนนี้เขาแข็งแกร่งถึงขั้นไหนแล้วกันแน่”
ข่าวพวกนี้ราวกับมรสุมลูกใหญ่โหมกระหน่ำ พัดเข้าทำลายล้างเมืองโบราณเผาเซียน
ทุกคนล้วนหวาดกลัว ผู้ฝึกปราณมากมายต่างตื่นเต้นจนตัวสั่น เลือดลมสูบฉีด รู้สึกสะใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขุมอำนาจใหญ่ทั้งหลายทำการควบคุมแดนโบราณเผาเซียนเอาไว้ เพื่อกอบโกยรวบรวมศุภโชคและวาสนา ย่อมทำให้พวกเขาไม่พอใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
การสังหารที่ดุเดือดของหลินสวินในครานี้ ทำการฆ่าล้างขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นจนเลือดไหลนองเป็นสายน้ำ ใครเล่าจะไม่สะใจ
“ขอบเขตราชันมกุฎ ไม่เช่นนั้นจะแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร”
สัตว์ประหลาดยุคโบราณและปีศาจแห่งยุคบางส่วนต่างก็ตกตะลึง ต่างกำลังวิเคราะห์และคาดเดาพลังต่อสู้ที่หลินสวินครอบครองอยู่ในตอนนี้
“รอดูเถอะ เขาจะต้องเข้าไปในหอมกุฎ เมื่อถึงเวลานั้นดูอันดับของเขาก็น่าจะรู้ถึงพลังที่แท้จริงของเขาได้!”
มีคนคาดเดาไว้เช่นนี้
หอมกุฎ ภายในนั้นมีบททดสอบหลายด่าน มีเพียงแค่ผู้ติดอันดับพันคนแรกถึงจะมีสิทธิ์ไปยังแดนเก้าบน!
แน่นอนว่าระดับราชันก็ย่อมไปยังแดนเก้าบนได้เช่นเดียวกัน
เพียงแต่สำหรับผู้กล้าที่ปรารถนาจะบรรลุขอบเขตมกุฎระดับราชันนั้น การผ่านหอมกุฎเพื่อเข้าสู่แดนเก้าบนจึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง
เนื่องจากครึ่งปีมานี้หลังจากผ่านการวิเคราะห์และคาดเดามากมาย ทุกคนต่างก็ได้ข้อสรุปเดียวกัน
หากหมายจะบรรลุขอบเขตมกุฎระดับราชันในสามพันแดน ไม่ใช่ไม่มีหวัง เพียงแต่ยากจะพบเห็นเท่านั้น
จำเป็นต้องใช้ศุภโชคพลิกฟ้า!
ทว่าศุภโชคพลิกฟ้าในสามพันแดนนั้นมีอยู่อย่างจำกัด แต่ละแดนมีมากสุดเพียงแค่หนึ่งเดียว
ถึงขั้นที่มีแดนมากมายไร้ซึ่งศุภโชคพลิกฟ้า
ทำให้บุคคลขอบเขตมกุฎทั้งหลายที่หมายจะบรรลุขอบเขตมกุฎระดับราชัน การเข้าสู่แดนเก้าบนจึงเป็นหาทางปกติ
จนถึงตอนนี้หลินสวินยังไม่ได้กลายเป็นราชัน ดังนั้นจึงถูกคาดการณ์ไว้ว่าก่อนครบหนึ่งปี เขาจะต้องมุ่งหน้าไปยังหอมกุฎแน่นอน
“นับแต่วันนี้ ขอเพียงแค่หลินสวินไม่ออกจากเมือง ผู้ฝึกปราณในเมืองใครจะกล้าเป็นศัตรูกับเขา”
ผู้คนมากมายล้วนทอดถอนใจ สัมผัสได้ว่าเมืองโบราณเผาเซียน… ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว!
ต่อให้เป็นขุมอำนาจสำนักอื่นๆ ที่ไม่เคยล่วงเกินเทพมารหลิน ในเวลานี้ต่างไม่กล้าแตะต้องหรือท้าทายง่ายๆ
…
ภายในเมืองกำลังเกิดความโกลาหล นอกเมืองก็ไม่สงบเช่นกัน
กลุ่มราชันตะโกนกู่ร้องโทสะยากจะรับไหว ผู้ฝึกปราณขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ที่หลบหนีออกจากเมืองต่างหน้าดำคร่ำเคร่ง เพิ่มความโกรธเข้าไปอีก
เพียงคนคนเดียว สังหารจนพวกเขาต้องระเห็จออกนอกเมืองเพื่อรักษาชีวิต!
นี่เป็นความอัปยศครั้งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย
แต่ทุกคนย่อมรู้แก่ใจ ขอเพียงเทพมารหลินไม่ออกจากเมือง พวกเขาก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
“รอดูไปก่อเถอะ ยังมีเวลาอีกครึ่งปี เส้นทางไปสู่แดนเก้าบนจะต้องเปิดออก ขอเพียงเทพมารหลินกล้าเข้าไป นั่นก็คือเวลาล้างแค้นของพวกเรา!”
อูหยวนเจิ้นกัดฟันกรอด ไอสังหารแผ่พุ่งรอบทิศ
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ต่างก็ใจไหววูบ ใช่แล้ว ขอเพียงอดกลั้นอีกครึ่งปี แค่เพียงเข้าสู่แดนเก้าบน เทพมารหลินย่อมไม่อาจหลบซ่อนภายใต้การคุ้มครองของเมืองโบราณเผาเซียนเช่นนี้ได้อีก!
“แต่ว่า… หากพวกเราไม่เข้าเมือง แล้วจะติดอันดับหนึ่งพันคนแรกของหอมกุฎได้อย่างไร”
บุคคลขอบเขตมกุฎคนหนึ่งอดพูดออกมาไม่ได้
คำพูดนี้พาให้ผู้แข็งแกร่งขอบเขตมกุฎที่เหลือรอดในขุมอำนาจต่างๆ ล้วนใจหนักอึ้ง สัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรงอยู่ครู่หนึ่ง
มีเทพมารหลินปีศาจตัวฉกาจอยู่ พวกเขาไหนเลยจะมีโอกาสเข้าไปในหอมกุฎ
นี่เท่ากับว่าเป็นการปิดตายเส้นทางสู่แดนเก้าบนของพวกเขา!
“บางทีพวกเราอาจสามารถลอบปะปนเข้าไป ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเทพมารหลินจะเฝ้ารอพวกเราอยู่หน้าประตูเมืองทุกวัน!”
มีคนเสนอความเห็นขึ้นมาเช่นกัน
“ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง นั่นก็คือ… กลายเป็นราชัน”
ผู้แข็งแกร่งขอบเขตมกุฎคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ คำว่า ‘กลายเป็นราชัน’ ที่กล่าวออกมานั้นแน่นอนว่าไม่ใช่การบรรลุขอบเขตมกุฎระดับราชัน
หากตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว ย่อมหมายความว่ายอมสละโอกาสในการกลายเป็นขอบเขตมกุฎระดับราชันบนมรรคา
ราคาที่ต้องแลกนี้หนักหนาเอาการอย่างไม่ต้องสงสัย!
“เจ้าเทพมารหลินสมควรตาย!”
ชั่วขณะนี้ผู้แข็งแกร่งจากขุมอำนาจใหญ่ที่อยู่นอกเมืองเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับราชันหรือคนอื่นๆ ต่างมีสีหน้าเคียดแค้นในตัวหลินสวินทั้งสิ้น
เนื่องด้วยเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ ทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์!
…………………………