Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1516 เปิดฉากเข่นฆ่า
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1516 เปิดฉากเข่นฆ่า
ฟุ่บ!
เงาร่างของหลินสวินลอยล่องลงสู่พื้น สายตากวาดมองซากศพของติงซานเหอ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายตายสนิทจึงผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
ก่อนหน้านี้เขาเคยสังหารอริยะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เกือบทั้งหมดล้วนเป็นการพึ่งพาพลังภายนอก
อย่างการใช้พลังของ ‘จิตสถูปปลิดชีพ’ มาสังหารเหล่าอริยะที่นอกเมืองหม่อนหิมะ
มีเพียงตอนนี้ที่เขาได้ใช้พลังของตนสังหารอริยะ!
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวชุดแดงที่ฆ่าไปในตอนต้น หรือจะเป็นพวกอริยะอย่างติงซานเหอก็ล้วนเป็นเช่นนี้!
โดยเฉพาะยามสังหารติงซานเหอ ถึงแม้จะมีเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าคอยช่วย แต่หลินสวินก็ไม่ได้ใช้อภินิหารหยุดเวลา กลับจู่โจมสังหารในการต่อสู้ซึ่งหน้าอย่างแข็งกร้าว
และด้วยเหตุนี้ ค่าตอบแทนที่หลินสวินต้องจ่ายก็เป็นแค่การบาดเจ็บหนักเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่าเมื่อผลงานการต่อสู้นี้เปิดเผย จะต้องชักนำคลื่นลมใหญ่เป็นแน่!
ถึงอย่างไรตั้งแต่โบราณมา ไม่ใช่แค่ในดินแดนรกร้างโบราณ ต่อให้อยู่ในแปดดินแดนอื่น ผู้แข็งแกร่งที่สามารถใช้พลังปราณระดับอมตะเคราะห์ข้ามระดับมาสังหารอริยะได้เหมือนหลินสวินคงแทบจะหาไม่พบ
ถ้าจะพูดให้ถูกคือ เรื่องที่สะเทือนใต้หล้านี้ก็เหมือนตำนานที่เป็นไปไม่ได้อย่างหนึ่ง
“ยินดีด้วยขอรับนายท่าน”
เสี่ยวอิ๋นพุ่งเข้ามาจากจุดที่ห่างออกไป สีหน้าเจือความเคารพนับถือ
ขณะกล่าวเขายกมือเหวี่ยงเฟิงผิงจื่อกลิ้งลงไปกองกับพื้น ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เสี่ยวอิ๋นฉวยโอกาสจับตัวอีกฝ่ายไว้นานแล้ว
“นายท่าน ควรจัดการอย่างไรดีขอรับ” เสี่ยวอิ๋นถาม
ฟุ่บ!
คำตอบของหลินสวินนั้นง่ายมาก เงื้อดาบฟาดฟัน สังหารอีกฝ่ายจนจิตสิ้นวิญญาณสลาย
ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เจ้าเฟิงผิงจื่อที่มาจากเผ่าผึ้งมารลายดำนี่นำทาง เขามีหรือจะถูกตามฆ่าถึงขั้นนี้
หลังจากนั้นหลินสวินเริ่มจัดการกับทรัพย์หลังศึก
การสังหารพวกติงซานเหอ ทำให้หลินสวินรวบรวมสมบัติอริยะได้หลายชิ้น และมีสมบัติล้ำค่าอย่างลูกกลอนโอสถ เจตวัตถุอีกบางส่วน
หากอยู่ในสายตาคนอื่น ทรัพย์หลังศึกเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ
แต่สำหรับหลินสวินในตอนนี้ก็ไม่เท่าไร
กลับเป็นชะตามรรคและผลงานรบที่ได้มาจากการล่าอริยะหลายคนที่ทำให้หลินสวินพอใจยิ่งนัก
“นายท่าน ตอนนี้อันตรายถูกกำจัดไปหมดแล้ว พวกเราจะจากไปเลยหรือไม่ พวกเราสังหารอริยะไปมากเช่นนี้จะต้องปิดบังไม่อยู่แน่ ถ้าดึงให้มกุฎอริยะมาลงมือ เช่นนั้นก็คงยุ่งยากแล้ว”
เสี่ยวอิ๋นกล่าว
หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็กล่าว “ช่วงนี้พวกเราไม่รู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในโลกภายนอก สามารถฉวยโอกาสนี้มาทำความเข้าใจสักหน่อย”
แดนลับวังใต้ดินยังมีการเคี่ยวกรำและบททดสอบไม่น้อย ทั้งผีเสื้อมารแยกฟ้ายังต้องดูดกลืนพลังของซากศพอสูรอริยะอากาศนั่นด้วย
หลินสวินตัดสินใจแล้วว่าจะให้แดนลับวังใต้ดินเป็น ‘จุดพัก’ ที่ใช้หลบพิบัติเคราะห์ ถ้าเจอกับอันตรายที่ไม่อาจคลี่คลายได้อีกก็จะกลับมาที่แดนลับวังใต้ดิน
“ทางนั้น!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นแต่ไกล
ไม่นานเงาร่างมากมายก็ปรากฏ มีผู้แข็งแกร่งของเผ่างูมารทองคำ และมีบุคคลร้ายกาจของเผ่าอื่นในดินแดนโบราณมารโลหิตบางส่วน
มีมากนับร้อยคน
พวกเขาต่างได้รับข่าวจากเฟิงผิงจื่อก่อนหน้านี้ จึงมาที่นี่ตามคำสั่ง
แต่เมื่อมาถึงและได้เห็นสภาพนองเลือดไปทั่วหัวระแหง แต่ละคนก็เบิกตากว้าง เผยสีหน้าตระหนก
ในข่าวที่พวกเขาเข้าใจ เหยื่อที่มีชื่อว่าหลินสวินนั้นถูกอริยะหลายคนปิดล้อมอยู่ที่นี่
ไหนเลยจะคิดว่าเมื่อมาถึงนี่กลับเห็นภาพน่าสยดสยองเช่นนี้ได้
บนพื้นดินมีซากศพหลายร่าง มีแอ่งโลหิตนอง พื้นดินใกล้เคียงยังทรุดตัวแตกระแหง เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความเกลื่อนกลาดระเนระนาดและพังทลาย
“สวรรค์! เป็นใต้เท้าติงซานเหอ เขา… เขาประสบเคราะห์แล้ว!”
มีคนร้องเสียงหลง ก่อให้เกิดความแตกตื่นในที่นั้นทันที
“แม้แต่ใต้เท้าจี้ชิ่งก็ตายแล้ว นี่เป็นไปได้อย่างไร”
ไม่นานจี้ชิ่งก็ถูกคนพบศพ ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่กลุ้มรุมกันมาพวกนั้น แต่ละคนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ เหงื่อกาฬเย็นเยียบไปทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า
เป้าหมายยังไม่บรรลุอริยะไม่ใช่หรือ แต่ทำไมอริยะพวกนี้ถึงประสบเคราะห์ได้เล่า
“เป็นเจ้าหมอนั่น!”
ในชั่วขณะหนึ่งสายตามากมายต่างมองไปยังหลินสวินที่กำลังนั่งสมาธิห่างออกไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เสื้อผ้าเขาเปื้อนเลือด ผมเผ้าสยายยุ่ง บนร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ดูแล้วน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นฝีมือเขาจริงรึ”
ผู้คนมากมายสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ไม่กล้าเชื่ออย่างสิ้นเชิง การตายของพวกติงซานเหอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ที่ท่าทางดูน่าอนาถคนนี้หรือ
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกไปอยู่บ้างเล่า”
มีคนกล่าวเสียงสั่นเครือ
“คิดเรื่องพวกนี้ไปทำไม สังหารเจ้าเด็กนั่นก่อน ดูไม่ออกรึว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
มีคนก้าวออกมา นัยน์ตาฉายแววดุดัน
ตึง!
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ร่างของคนผู้นี้พลันล้มพับลงไปกองกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง แต่จิตวิญญาณของเขาถูกลบหายไปแล้ว
ทุกคนแข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วขณะเดียว พากันหลบหลีกตามจิตใต้สำนึก
ผิดแปลกเกินไปแล้ว!
บนสนามรบนองเลือด ภาพที่อริยะถูกสังหารเดิมทีก็ทำให้ผู้คนพรั่นพรึง รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ถึงกับมีคนตายคาที่กะทันหันเพราะประโยคเดียว
บรรยากาศที่น่ากลัวเช่นนี้ทำเอาทุกคน ณ ที่นั้นสั่นสะท้าน แต่ละคนต่างตกใจจนจิตวิญญาณสั่นระรัว สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นเสียดกระดูก
เวลานี้หลินสวินยืนขึ้นมา แม้ร่างกายเขาจะเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่นัยน์ตาดำยังล้ำลึก สีหน้าราบเรียบ มีความน่าเกรงขามที่ยากจะบรรยาย
“ไม่มีอริยะนำทางก็กล้ามาที่นี่ ไม่กลัวประสบเคราะห์หรือ”
หลินสวินเอ่ยปาก
“ใช้อุบายลวงคน พวกเราจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้!”
ผู้แข็งแกร่งของเผ่างูมารทองคำคนหนึ่งหลบอยู่ในฝูงชนแล้วตะโกนออกมา
ฟุ่บ!
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง คนผู้นี้ก็หงายหลังลงไปตายคาที่
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้น!?”
คนมากมายตกใจจนเบิกตากว้าง ขนลุกไปทั้งตัว ในใจหวาดกลัวหาใดเปรียบ
พวกเขาตัดสินใจถอย ได้ยินว่าส่วนลึกของป่าหลอมจิตนี้เต็มไปด้วยความลี้ลับและอันตราย ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!
แต่ก็มีคนไม่เชื่อ ตะโกนลั่นขึ้นมาทันที “ลงมือพร้อมกัน ไม่เชื่อหรอกว่าคนที่บาดเจ็บหนักคนหนึ่งอย่างเขาจะต้านทานพวกเราได้”
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ผู้แข็งแกร่งที่มีความคิดเหมือนกันสิบกว่าคนออกลงมือพร้อมกันแล้ว ทั้งหมดล้วนพุ่งเข้าไปหาหลินสวิน เรียกสมบัติและสำแดงวิชามรรคออกมา
หลินสวินก้าวไปข้างหน้า รอบตัวเขามีเหวลึกหลุมหนึ่งปรากฏ ดวงดาวดับสลายอยู่ภายใน ราวกับประตูนรกถูกเปิดออก
ปึงๆๆ!
เพียงพริบตาผู้แข็งแกร่งที่พุ่งเข้ามาล้วนระเบิดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ถูกเหวลึกพิฆาตจนกลายเป็นฝนโลหิต ไม่อาจเข้าใกล้!
รวมถึงวิชามรรคและสมบัติที่บุกจู่โจมเข้ามาพวกนั้นก็ถูกกดอัดแตกสลายไปจนสิ้น ละอองแสงเริงระบำเหมือนหมอกควันส่องประกายลอยละล่อง งามแปลกตาหาใดเปรียบ
และหลินสวินก็ก้าวออกมาจากแสงประกายเจิดจ้านี้
“แม้ข้าจะได้รับบาดเจ็บ แต่การฆ่าพวกเจ้ากลับเป็นเรื่องง่าย”
เสียงราบเรียบดังก้องขึ้น ผนวกกับภาพนองเลือดต่างๆ เมื่อครู่จึงทำให้ทุกคนขวัญหนีดีฝ่อ ตะโกนอย่างหวาดกลัว
พวกเขาไม่กล้าอยู่ต่ออีก พุ่งหนีไปคนละทิศละทาง
“ในเมื่อมาแล้ว มีหรือจะจากไปได้ง่ายๆ”
หลินสวินกล่าวด้วยเสียงปกติ แต่กลับมีความน่าเกรงขามอันน่าพรั่นพรึง
จากนั้นเงาร่างเขาก็หายไปจากจุดเดิม เริ่มเปิดฉากเข่นฆ่า
ตูม!
ศพแล้วศพเล่าแหลกกระจายไปทั่ว ทั้งหมดล้วนถูกฆ่าตายคาที่ด้วยการระเบิดร่าง ภายใต้การจู่โจมสังหารที่ดุดันราวเขาถล่มสมุทรคำราม
หลินสวินไม่แม้แต่จะมองสักนิด แผ่ไอสังหารร้ายกาจไปทั้งตัวราวเทพมารมาเยือนโลก ทุกครั้งที่ปีกผลาญเทพกะพริบวาบ ต้องตามมาด้วยเลือดแดงก่ำร้อนฉ่าสาดกระจาย
พลังทำลายรุนแรง อานุภาพไม่อาจต้าน!
ตอนแรกเขาถูกตามฆ่าในป่าหลอมจิตนี้มาตลอดทาง ภายใต้ความจำยอมจึงได้แต่กระโดดเข้าไปในเหวลึก
ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังถูกเหล่าอริยะปิดล้อมเหมือนเดิม พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าเขา
นี่ทำให้ในใจของหลินสวินเก็บกลั้นความโกรธและเคียดแค้นสุมอกไว้นานแล้ว
โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกจับมาพวกนั้น ไม่เพียงแต่ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี ยังถูกสังหารตามใจชอบ เหตุการณ์นองเลือดและอัปยศทั้งหมดนั้น ถึงตอนนี้ยังคงทำให้หลินสวินไม่กล้าลืมเลือน!
และตอนนี้เขาก็จะเอาคืน เลือดต้องล้างด้วยเลือด!
“ไม่…!”
“แพะสองขาบัดซบ เจ้าต้องถูกกรรมตามสนอง!”
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่รึ ทำไมถึงได้น่ากลัวเช่นนี้”
“เจ้าหมอนี่มันไม่ใช่คน!”
เสียงหวีดร้อง คำราม ก่นด่าด้วยความเกรี้ยวกราดและสิ้นหวัง ก้องสะท้อนอยู่กลางฟ้าดินอย่างต่อเนื่อง
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะร้องโหยหวนอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินก็ไม่สงสารแม้แต่น้อย สีหน้าเยียบเย็นไม่มีคลื่นอารมณ์แม้เศษเสี้ยว
นี่คือหนี้เลือด ไม่จำเป็นต้องสงสารแม้แต่น้อย!
ในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ หลินสวินได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าถ้าอยากจะรอดต่อไปก็จำเป็นต้องใจแข็งเหมือนเหล็ก สังหารอย่างไร้ปรานี
มีบางคนหนีไปได้ แต่ระหว่างทางก็ยังถูกเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าร่วมมือกันปลิดชีพอย่างไร้สุ้มเสียง
บ้างร้องขอความเมตตา แต่แน่นอนว่าเปล่าประโยชน์ ถูกสังหารอย่างหมดจดชัดเจน
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง
ในสนามรบนองเลือดนี้ก็มีซากศพหลายสิบกองอยู่
อีกทั้งเหตุการณ์นองเลือดนี้ยังคงแสดงอย่างต่อเนื่อง
ผู้แข็งแกร่งบางส่วนหนีเข้าไปในป่าหลอมจิต แต่หลินสวินก็ตามหลังพวกเขาไปติดๆ อาศัยความเร็วที่เทียบได้กับการเคลื่อนย้ายของปีกผลาญเทพ ทำให้หลินสวินคร่าชีวิตไปได้ไม่รู้เท่าไหร่ตลอดทาง
“บังอาจ!”
ทันใดนั้นเสียงตวาดเดือดดาลราวฟ้าคำรามดังก้องขึ้น ชายวัยกลางคนเสื้อผ้าหรูหราทองอร่ามไปทั้งตัวคนหนึ่ง มีลักษณะพลังของระดับอริยะแผ่กระจาย พุ่งวาบมากลางอากาศ
นี่ทำให้คนไม่น้อยเผยสีหน้ายินดี คิดว่าใกล้จะได้รับความช่วยเหลือ
แต่ยังไม่รอให้ชายวัยกลางคนชุดหรูคนนั้นเข้าใกล้ ก็เห็นเขาส่งเสียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวดหาใดเปรียบทันที สองมือกุมขมับ ร่วงลงมาจากกลางอากาศ
เป็นเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าออกโจมตีพร้อมกัน!
หากเป็นติงซานเหอ แน่นอนว่าคงไม่มีทางโง่จนไม่ป้องกันตัวเอง ด้วยเขารับรู้ถึงความผิดแปลกและน่ากลัวของพวกเสี่ยวอิ๋นยามสังหารจี้ชิ่งและอริยะสองคนมาก่อนแล้ว
ที่น่าเสียดายคือชายวัยกลางคนขี้โมโหนี้ดันด่วนเข้ามาช่วย ด้วยความที่ไม่รู้อะไรจึงถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวทันที
ฟุ่บ!
ดาบหักตัดผ่านอากาศ ไม่รอให้ชายวัยกลางคนชุดหรูได้ตอบสนองก็ตัดหัวเขาแล้ว
ผู้แข็งแกร่งที่เผยสีหน้าปิติยินดีเหล่านั้นต่างพังทลายไปทั้งอย่างนั้นในชั่วขณะเดียว อริยะแท้คนหนึ่งเชียวนะ! แต่เพียงพริบตาก็ถูกสังหารไปแล้ว!?
ใครจะกล้าเชื่อ
“เผ่นโว้ย!”
“รีบหนีเร็ว เจ้าหมอนั่นคือมารร้าย ไม่ น่ากลัวยิ่งกว่ามารร้ายเสียอีก!”
เสียงคำรามลนลานและหวาดกลัวต่างๆ ดังขึ้นในป่าหลอมจิตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนหลินสวินก็ยังไล่ตามต่อไป
ตอนแรกเขาถูกศัตรูพวกนั้นตามฆ่าทุกวิถีทาง แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นเขาที่โจมตีกลับแล้ว!
ในป่าหลอมจิตที่กว้างใหญ่นั้น บรรยากาศที่เดิมเงียบสงัดถูกทำลายลง ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ที่เดิมทีกระจายตัวอยู่ในป่าล้วนถูกทำให้ตกใจ พากันหยุดการเคลื่อนไหว
แต่ไม่รอให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์แน่ชัด การสังหารจากหลินสวินก็มาเยือน!
ครั้งนี้หลินสวินคิดจะก่อเรื่องให้เต็มที่ จากนั้นค่อยหาโอกาสจากไป มิฉะนั้นเขาคงไม่อาจระงับความชิงชังในใจที่สะสมมานานนี้ลงได้!
………….