Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1567 เผยวิชาออกมาจนหมด
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1567 เผยวิชาออกมาจนหมด
“ต่ำช้า!”
เจี้ยนชิงเฉินตวาดเดือดดาล เขาผมเผ้าสยายยุ่ง หน้าอกมีรูโหว่ชุ่มเลือดหนึ่งที่ยังหลั่งโลหิต ใบหน้าซีดเผือดหาใดเปรียบ
สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดคือพลังกระบี่นั้นของหลินสวินน่ากลัวเกินไป กลิ่นอายมรรคกระบี่ที่ทิ้งร่องรอยไว้ยังโหมทำลายอยู่ภายในร่าง!
เจี้ยนชิงเฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ากระบวนท่าที่สามของหลินสวินจะใช้สมบัติอริยะที่อัศจรรย์เกินคาดเดาชิ้นหนึ่งเข้ามาช่วย ทั้งอานุภาพนั้นยังน่าหวาดกลัวเช่นนี้ด้วย
หากไม่ใช่ว่าบนตัวเขามีเกราะศึกระดับอริยะชั้นสูงปกคลุมอยู่ แค่กระบี่เดียวนี้ก็สามารถโจมตีเขาจนถึงแก่ชีวิตได้แล้ว!
“เจ้าเคยพูดไม่ใช่หรือ ว่าคนอย่างเจ้ากับข้าไม่มีทางใส่ใจคำวิจารณ์โจมตีและคำตัดสินใดๆ ทำไมตอนนี้เจ้ากลับอับอายจนกลายเป็นโกรธก่อนเล่า”
ท่ามกลางเสียงเฉยชาเยียบเย็น เงาร่างหลินสวินพุ่งทะยานมาถึง กระบี่ยอดสังหารในมือเอ่อท้นแสงนองเลือดแปลกประหลาดแล้วฟาดผ่าลง
ตูม!
ปราณกระบี่ดุจคลั่งโทสะ แหวกผ่านฟากฟ้า
“ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะต่ำช้าเช่นนี้!”
เจี้ยนชิงเฉินหน้าคล้ำเขียว เบื้องหน้าพลันปรากฏกระบี่เทพเล่มหนึ่งที่ดำสนิทเหมือนเหล็ก ประทับด้วยอักษรอริยมรรคแน่นขนัดฟาดผ่าออกไป
เคร้ง!
ท่ามกลางเสียงปะทะเสียดหูหาใดเปรียบ ประกายไฟพุ่งสาดทั่วทิศ แสงศักดิ์สิทธิ์ระเบิดกระจาย
เจี้ยนชิงเฉินเดิมทีก็บาดเจ็บสาหัส แม้จะขวางกระบี่นี้ไว้ได้ แต่ทั้งตัวกลับถูกซัดจนกระอักเลือดเซถอยหลัง ร่างเกือบร่วงคะมำลงมากลางอากาศ
เขาสูดหายใจลึก ควบคุมความคับข้องในใจอย่างเต็มที่ บนหน้าซีดเผือดเหมือนจะโปร่งแสงเต็มไปด้วยความเยียบเย็น
ในฐานะที่เป็นบุคคลแห่งยุคคนหนึ่ง สภาวะจิตและเจตจำนงของเขาเคี่ยวกรำถึงขั้นน่ากลัวสุดขีดนานแล้ว ต่อให้อยู่ในสถานการณ์อันตรายก็จะไม่ลนลานด้วยเหตุนี้
แต่ความโกรธและความแค้นในใจกลับควบคุมไม่อยู่อย่างสิ้นเชิง!
ประมาทเกินไปแล้ว เขาคิดว่าหลินสวินจะต้องไม่กล้าสู้จนบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายกับตนเป็นแน่
ด้วยไม่มีประโยชน์ทั้งต่อค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณและค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว มีแต่จะถูกดินแดนอื่นเอาเปรียบ
แต่ไหนเลยจะคิดว่าหลินสวินจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้อย่างเห็นได้ชัด ช่างเหมือนคนบ้าที่ไม่หวาดกลัวอะไรจริงๆ คิดจะฉวยโอกาสนี้ตัดสินเป็นตาย!
ไม่อาจคิดมากความ ด้วยหลินสวินพุ่งสังหารมาอีกครั้ง
“ชีวิตของแม่นางคนนั้นเจ้าก็ไม่ต้องการแล้วใช่ไหม!?”
นัยน์ตาของเจี้ยนชิงเฉินเต็มไปด้วยแววเยียบเย็น ฝ่ามือเขาควบรวมเป็นประทับกฎเกณฑ์ประหลาดหนึ่งโดยไม่ลังเล
วู้ม!
เบื้องหน้าเขาพลันปรากฏกระบี่ไม้เล่มหนึ่ง
กระบี่ไม้กว้างสามนิ้วมือ ยาวสองฉื่อสี่ชุ่น พู่กระบี่แดงก่ำพลิ้วไหว คมกระบี่หนาทื่อ บนตัวกระบี่สลักอักษรมหามรรคเรียบง่ายแปลกประหลาดไว้คำหนึ่ง…
บัญชา!
กระบี่ไม้เป็นของธรรมดา แต่ด้วย ‘อักษร’ นี้เลยเสริมกลิ่นอายสูงส่งที่เหมือนบงการใต้หล้า
ตูม…
ทันทีที่หลินสวินเข้าใกล้ก็ถูกกลิ่นอายของปราณกระบี่ไร้รูปกีดขวาง แม้แต่กระบี่ที่ฟันออกไปก็ยังยากเข้าใกล้แม้สักก้าว
เป็นกลิ่นอายของกระบี่ไม้เล่มนั้น!
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด
เวลานี้สีหน้าของเจี้ยนชิงเฉินเยียบเย็นและเด็ดเดี่ยว กล่าวเย็นชา “สมบัติ ข้าก็มี!”
เขาสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
กระบี่ไม้ที่จารึกอักษร ‘บัญชา’ พลันส่งเสียงกัมปนาท ในความรางเลือนเหมือนมีร่างกำยำสูงใหญ่ยิ่งร่างหนึ่งเหยียบอยู่บนกระบี่ไม้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาปกคลุมฟ้าดิน ยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุดเหมือนนายเหนือหัวแห่งมรรคกระบี่
เมฆาเคราะห์ที่ม้วนตัวอยู่บนเวิ้งฟ้านั้นยังถูกทำให้สั่นสะเทือน ซัดโหมรุนแรงขึ้นมา
ขณะเดียวกันร่างกายของหลินสวินแข็งทื่อ แสบผิวไปทั้งตัว อานุภาพกดดันของมรรคกระบี่ชวนประหวั่นถาโถมเข้าใส่
นี่คือไพ่ตายของเจี้ยนชิงเฉินอย่างไม่ต้องสงสัย!
ในฐานะที่เป็นอันดับหนึ่งของคนรุ่นเยาว์แห่งดินแดนโบราณต้าหลัว เจี้ยนชิงเฉินย่อมไม่ขาดสมบัติก้นหีบเป็นธรรมดา
แต่กระบี่ไม้เล่มนี้กลับเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในบรรดาสมบัติทั้งหมดของเขา ถูกเขาเก็บรักษามาตลอด ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานก็จะไม่ยอมใช้เด็ดขาด
“กระบี่นี้บางทีอาจฆ่าเจ้าไม่ตาย แต่กลับทำลายพิบัติเคราะห์ของแม่นางคนนั้นได้อย่างเหลือเฟือ”
นัยน์ตาของเจี้ยนชิงเฉินเต็มไปด้วยแววเฉียบคม
เขาแค้นนัก!
ตั้งแต่ฝึกปราณมาถึงวันนี้ เขายังไม่เคยเสียเปรียบมากเช่นนี้มาก่อน ยามนี้ถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส นี่จะไม่ให้เขาแค้นได้อย่างไร
ยิ่งเป็นพวกที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ก็ยิ่งไม่อาจทนต่อการโจมตีเช่นนี้ได้ง่ายๆ!
“ไป!”
ริมฝีปากเขาขยับพูดคำหนึ่งอย่างแผ่วเบา เผยความหยิ่งผยองออกมาอย่างสมบูรณ์
กระบี่ไม้ทะยานสู่ฟากฟ้า ทะลวงขึ้นเหนือเมฆ อักษรบัญชาหนึ่งคำเอ่อท้นกลิ่นอายเร้นลับสูงสุด ทำให้เงาร่างกำยำที่ปรากฏอยู่บนกระบี่นั้นราวกับทวยเทพ!
แต่พริบตานี้หลินสวินก็เคลื่อนไหวแล้ว
กฎระเบียบที่ปกคลุมอยู่กลางฟ้าดินแถบนี้พลันหยุดชะงักไปเสี้ยวหนึ่ง ตกอยู่ในสภาพค้างแข็งชั่วพริบตา
โลกทั้งใบราวกับหยุดนิ่ง!
เหมือนภาพวาดที่หยุดตรึง ส่วนหลินสวินก็กลายเป็นวงโคจรเพียงหนึ่งเดียวที่เคลื่อนไหวได้บนภาพวาดนั้น
อภินิหารหยุดเวลา!
ตูม!
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดปรากฏ เพียงพริบตาก็เปล่งแสงมรรคทองนิลกาฬไร้สิ้นสุดออกมาปกคลุมกระบี่ไม้เล่มนั้นไว้ภายใน
เมื่อเจี้ยนชิงเฉินตอบสนอง ก็เห็นว่ากระบี่ไม้ที่ถูกเขามองเป็นสิ่งล้ำค่ายังไม่ทันได้สำแดงอานุภาพ ก็ถูกเจดีย์สมบัติที่เหมือนหล่อจากทองเทพองค์หนึ่งกำราบอย่างแข็งกร้าวพอดี
สิ่งสำคัญคือเขาไม่สังเกตเห็น ว่าเจดีย์สมบัตินั่นปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร!
“นี่…”
ต่อให้เจี้ยนชิงเฉินมีประสบการณ์มากแค่ไหน แต่ไหนเลยจะเคยเจอเหตุการณ์ประหลาดที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้ ร่างกายพลันสั่นสะท้านทันที
ปึง!
จากนั้นก็เห็นกระบี่ไม้เล่มนั้นถูกกำราบแล้วเก็บเข้าไปในเจดีย์สมบัตินั้นโดยตรง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่อาจสลัดออกไปได้
ขณะเดียวกันเจี้ยนชิงเฉินพลันกระอักเลือดคำโตราวกับถูกฟ้าผ่า ตั้งแต่พริบตาแรกที่สังเกตเห็น ความสัมพันธ์ของเขากับกระบี่ไม้ก็ถูกตัดขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง
“ไม่! นี่เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นถึงกระบี่ที่มหาจักรพรรดิชิงอวี่พกติดตัวยามแจ้งมรรคระดับจักรพรรดิ จะถูกกำราบชิงเอาไปได้อย่างไร”
ต่อให้จิตใจของเจี้ยนชิงเฉินแข็งแกร่งแค่ไหน ยามนี้ก็อดลนลานไม่ได้แล้ว รู้สึกตื่นตระหนกไม่กล้าเชื่อตาตัวเอง
เขารู้ชัดถึงความไม่ธรรมดาของกระบี่ไม้นี้ดี หากไม่ใช่ว่าถูกจำกัดด้วยพลังกฎระเบียบของสมรภูมิเก้าดินแดน อานุภาพของกระบี่นี้ก็สามารถสังหารมหาอริยะ ทำให้ราชันอริยะหวาดกลัวได้ถึงสามส่วน!
ด้วยในกระบี่นี้มีประทับที่ระดับจักรพรรดิคนหนึ่งเหลือไว้ยามแจ้งมรรค พลังนั้นมีหรือจะเป็นสิ่งที่สมบัติอริยะทั่วไปเทียบเทียมได้
แต่ตอนนี้ กระบี่ไม้นี่ยังไม่ได้สำแดงอานุภาพก็ถูกกำราบแล้ว!
นี่จะให้เจี้ยนชิงเฉินยอมรับได้อย่างไร
“นี่ก็คือวิชาก้นหีบของเจ้าหรือ ช่างน่ากลัวจริงๆ น่าเสียดายที่ดูไปแล้วเหมือนจะใช้การไม่ได้”
หลินสวินพุ่งทลายอากาศ นัยน์ตาดำเยียบเย็น กระบี่ยอดสังหารแดงก่ำซัดกระแสธารโลหิตชวนประหวั่นพุ่งสังหารออกไป
ตูม!
มองจากไกลๆ จะคล้ายแม่น้ำนรกสายหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า หมายดับฝังทุกสรรพสิ่ง
เจี้ยนชิงเฉินหันหลังหนีโดยไม่ลังเล
อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสถึงที่สุด ถ้าล่าช้าต่อไปอีกสถานการณ์จะมีแต่ย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ
น่าเสียดาย เขาประเมินความแน่วแน่ของหลินสวินที่ต้องการฆ่าเขาต่ำไป
จ้าวจิ่งเซวียนเหมือนต่อมโมโหในใจของหลินสวิน แต่เจี้ยนชิงเฉินคิดจะกำราบจ้าวจิ่งเซวียนแล้วเก็บนางไว้ข้างกาย นี่จะให้หลินสวินอดกลั้นได้อย่างไร
พูดได้ว่าตั้งแต่พริบตาแรกที่เจอเจี้ยนชิงเฉิน หลินสวินก็ไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไปอยู่แล้ว!
ฆ่า!
กระบี่ยอดสังหารม้วนเข้าปกคลุมทั่วทิศ
เจี้ยนชิงเฉินเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศด้วยความเร็วว่องไว จึงหลบการโจมตีนี้ไปได้ในพริบตา เท่านี้ก็มองความน่ากลัวของคนผู้นี้ออกแล้ว
ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นนี้แล้วยังหลบการโจมตีที่มาจากหลินสวินได้ หากเปลี่ยนเป็นมกุฎอริยะคนอื่นคงถูกฆ่าตายไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
เพียงแต่ยังไม่รอให้เจี้ยนชิงเฉินโล่งอก เงาร่างเขาก็หยุดชะงักทันที ตกตะลึงหน้าเปลี่ยนสี ถึงกับกระโจนถอยหลังโดยไม่ลังเล
ฟุ่บ!
ในจุดที่เขายืนอยู่แต่เดิม แสงดาบเหมือนมายาสายหนึ่งพลันมาเยือน ห้วงอากาศแถบนั้นถูกเฉือนตัดเป็นรอยแยกตรงดิ่งอย่างไร้สุ้มเสียง
ดาบหัก!
เพียงแต่ดาบหักในตอนนี้ต่างจากแต่ก่อน เผยความศักดิ์สิทธิ์จากภายใน คมดาบแผ่แสงแวววาวประหนึ่งหยก ลายมรรคเร้นลับทั้งสามบนตัวดาบเปล่งแสงราวอริยเทพ
สรุปง่ายๆ ก็คือดาบหักในตอนนี้เป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์ที่แท้จริงเล่มหนึ่งแล้ว!
ตั้งแต่จากค่ายทัพในโลกรกร้างโบราณมา ในช่วงหลายเดือนนี้หลินสวินผ่านมาหลายอาณาเขต ดาบหักที่ถูกเขาฟูมฟักอยู่ใน ‘ถ้ำผสาน’ ภายในร่างก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เปลี่ยนจากศาสตราราชันบริสุทธิ์เป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์เล่มหนึ่ง!
แม้ว่ามันยังบกพร่อง แต่อานุภาพนั้นไม่อาจนำมาเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ดาบหักถูกหลินสวินกระตุ้นด้วยนัยเร้นลับแห่งกระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้ สกัดกั้นหนทางของเจี้ยนชิงเฉินได้สำเร็จ บีบจนอีกฝ่ายไม่อาจไม่ถอย
ตูม!
ส่วนด้านหลัง หลินสวินที่คว้าโอกาสได้ก็ฟาดฟันกระบี่ออกไป
เจี้ยนชิงเฉินผมสยายยาว รู้ว่าใกล้ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง ส่งเสียงคำราม “เปิดทาง!”
ตามหลังเสียงปะทะกึกก้องชวนประหวั่น ร่างกายของเจี้ยนชิงเฉินถูกซัดร่วงกลางอากาศ ตกลงมากระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง
ร่างกายเขาแตกละเอียด เลือดแดงสดหลั่งริน กล้ามเนื้อและกระดูกฉีกแตก
เพียงแต่ต่อให้เขามีแรงเหลือก็ไม่รู้จะสำแดงวิชาลับอะไร ดีดตัวพุ่งแหวกอากาศหนีไปอีกครั้ง
นี่ทำให้หลินสวินอดไหวหวั่นไม่ได้
บุคคลแห่งยุคอย่างเจี้ยนชิงเฉินไม่ใช่พวกที่ฆ่าง่ายดังคาด ไม่เพียงครอบครองมรดกและสมบัติลับมากมาย พลังของเขาก็น่ากลัวถึงที่สุดเช่นกัน
เพียงแต่นี่ก็ทำให้หลินสวินมุ่งมั่นที่จะฆ่ายิ่งกว่าเดิม
ตูม!
หนทางต่อจากนั้น เจี้ยนชิงเฉินหนี หลินสวินตาม
ทุกการโจมตีที่หลินสวินฟาดฟัน ล้วนถูกเจี้ยนชิงเฉินใช้วิชาเอาตัวรอดนานัปการขวางไว้ มีวิชาลับมหัศจรรย์ และมีสมบัติที่ทำให้ผู้คนลายตา
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นเจี้ยนชิงเฉินก็เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตัวเองไม่ได้ หลินสวินไล่บี้ไม่ปล่อยเหมือนเงาตามตัว ไม่คิดปล่อยโอกาสให้เขาพักหายใจแต่แรก
ตลอดทางเจี้ยนชิงเฉินกระอักเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า รากฐานมหามรรคถูกทำลาย ร่างกายก็บาดเจ็บ เหมือนสำลีชุ่มเลือด
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาถูกตามฆ่าจนน่าอนาถเช่นนี้!
ภายใต้แรงผลักดันของความตาย ทั้งตัวเขาราวกับคลุ้มคลั่ง ความคิดเดียวก็คือหนีตาย ขอแค่รอดต่อไปได้ก็มีวันที่จะทวงคืน!
ไม่ทันไรบนเส้นขอบฟ้าที่ห่างออกไปก็มีบานประตูลอยอยู่กลางอากาศ นั่นคือทางออกของแดนลับ
เจี้ยนชิงเฉินที่เดิมทีหายใจรวยริน บาดเจ็บหนักเจียนตาย ยามนี้ได้ระเบิดความเร็วและพลังอย่างไม่เคยมีมาก่อน พุ่งตัวไปเต็มอัตรา
“หลินสวิน ความแค้นนี้วันหน้าข้าจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า!”
เจี้ยนชิงเฉินส่งเสียงคำรามอาฆาต ขณะกล่าวเขาก้าวกระโดดจะพุ่งเข้าไปในบานประตูลึกลับนั่น
“น่าเสียดาย เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว”
แต่พริบตานี้เงาร่างของหลินสวินปรากฏอยู่หน้าบานประตูลึกลับแล้วขวางอยู่ตรงนั้น กระบี่ยอดสังหารในมือฟาดฟันออกไปนานแล้ว
ปราณกระบี่แดงก่ำโหมกระหน่ำ เหมือนแม่น้ำนรกเชี่ยวกรากตกลงมาจากฟากฟ้า
เวลานี้ความอาฆาตและเดือดดาลบนหน้าของเจี้ยนชิงเฉินพลันค้างแข็ง ดวงตาปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด คล้ายยากจะเชื่อ
‘ที่แท้ตลอดทางมานี้เขากังวลว่าข้าจะโต้กลับสุดตัวก่อนตาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ลงดาบสังหารอย่างจริงจัง กระทั่งพลังของข้าถูกใช้ไปหมดเพื่อหนีตาย เขาจึงลงมือโดยไม่ลังเล…’
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นในหัว จิตวิญญาณ ครรลองสายตา ร่างกายของเจี้ยนชิงเฉินก็ถูกปลายกระบี่สีเลือดไร้ขอบเขตเข้าปกคลุมแล้ว
………….