Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1913 สังหารต่อเนื่อง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1913 สังหารต่อเนื่อง
ตอนที่ 1913 สังหารต่อเนื่อง!
ขบวนของชายวัยกลางคนชุดม่วงเหินข้ามห้วงอากาศ แห่ห้อมล้อมกรอบเป็นรูปพัดเข้ามา
กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนเรียกได้ว่าน่าสะพรึง ประหนึ่งมหาสมุทรใหญ่ยักษ์ปิดครอบฟ้าดินละแวกใกล้เคียงเอาไว้ภายในนั้น
เฮ่อเหลียนฉีไล่ตามมาติดๆ อยู่หลังสุด สีหน้าเจือแววฮึกเหิมยากปกปิด
อันดันหนึ่งศึกถกมรรคแคว้นเมฆาแล้วอย่างไร
หลังจากวันนี้ บนโลกก็จะไม่มีจินตู๋อีอีกต่อไป!
“พวกเรากึ่งจักรพรรดิหกคนลงมือพร้อมกัน ออกจะให้ค่าเจ้าหมอนี่เกินไปหน่อยหรือไม่”
หญิงชุดเงินคนหนึ่งเอ่ยปาก เจือแววถือดี
“อย่างไรเสียก็เป็นคนหนุ่มที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง ซ้ำเพิ่งจะคว้าอันดันหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคมาได้ ย่อมควรค่าให้พวกเราให้ความสำคัญเช่นนี้”
ชายชราอ้วนเตี้ยกล่าวยิ้มๆ
“ทุกคนระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า คนหนุ่มเช่นนี้ ในเมื่อกล้าเดินทางคนเดียว ในมือจะต้องมีวิธีการรักษาชีวิตมากมายเป็นแน่ จะให้เสียเรื่องไม่ได้เป็นอันขาด”
ชายวัยกลางคนชุดม่วงที่เป็นผู้นำเอ่ยเตือนเสียงเข้ม
หลังจากศึกถกมรรคแคว้นเมฆาครั้งนี้สิ้นสุด พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว จับจ้องหลินสวินไม่คลาดสายตาตลอดทาง
เหตุที่เลือกลงมือเวลานี้ หนึ่งเพราะมั่นใจว่าหลินสวินจะเดินทางคนเดียวอย่างแน่นอน
สองก็คือพื้นที่แถบนี้ตั้งอยู่ส่วนลึกของหมู่เขาเวิ้งว้าง ไม่ค่อยเห็นเงาคน เมืองที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไปหลายหมื่นลี้
ฆ่าหลินสวินตรงนี้เสีย ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกคนพบเข้า
อย่างไรหลินสวินในตอนนี้ก็เป็นอันดันหนึ่งของศึกถกมรรคแคว้นเมฆา อีกไม่กี่เดือนก็จะเป็นตัวแทนแคว้นเมฆาไปเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรค
ภายใต้สถานการณ์ระดับนี้ หากให้คนรู้ว่าพวกเขาฆ่าหลินสวินไปแล้ว นั่นย่อมนำมาซึ่งผลกระทบร้ายแรงถึงที่สุดแก่พวกเขาอย่างแน่นอน
“เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดแล้วว่าจะตามพวกเขาไปแต่โดยดีใช่หรือไม่”
มีคนเอ่ยถามอย่างเนิบช้า
เวลานี้พวกเขาปิดผนึกพื้นที่แถบนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว มองหลินสวินเป็นตะพาบในไห แกะที่รอถูกเชือด
หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย ยิ้มกล่าว “เดิมข้าคิดว่าคนของเกาะเทพเวหาทมิฬจะอดไม่ไหวโร่ออกมาจัดการกับข้าเป็นคนแรก กลับคิดไม่ถึงว่าผู้มาจะเป็นเจ้าเฒ่าโง่หน้าไม่อายอย่างพวกเจ้า บอกตามตรง ในใจข้าค่อนข้างผิดหวังอยู่บ้าง”
ขณะพูด พลังที่ดุจดั่งหินหนืดพลุ่งพล่านโคจรอยู่ภายในร่างหลินสวิน
“เฮอะ ปากคอเราะราย ไม่รู้จักเป็นตาย!”
หญิงชุดเงินแค่นเสียงเย็น ถูกคนรุ่นเยาว์อย่างหลินสวินด่าว่าหยาบคายซึ่งหน้า ทำเอานางยังนึกประหลาดใจไปพักหนึ่ง เจ้าหมอนี่ไม่รู้สถานการณ์ของตัวเองเลยหรือ
สวบ!
นางเงื้อมือขึ้นโบกคราหนึ่ง ประกายแสงเทพสีม่วงแถบหนึ่งพุ่งโฉบ แสงมรรคแวววาวเจิดจ้าสอดประสาน พุ่งปิดครอบไปทางหลินสวินที่อยู่ไกลๆ
นี่คือพลังที่ของระดับกึ่งจักรพรรดิ ดูคล้ายเรียบง่ายแผ่วเบา แต่ความจริงอานุภาพกลับเรียกได้ว่าน่าสะพรึง สามารถทำให้ทุกคนหวาดกลัว
หลินสวินเก็บรอยยิ้ม
ตูม!
รอบกายเขาปรากฏหุบเหวกว้างแห่งหนึ่ง พวยพุ่งแผ่กว้างดุจดั่งแดนแรกกำเนิด คล้ายเตาหลอมก็ไม่ใช่ คล้ายหุบเหวก็ไม่เชิง
ฮูม…
แสงประกายสีม่วงแถบนั้นยังไม่ทันมาเยือนก็ถูกกลืนกินจนหมด หยดละอองไม่มีเหลือ
หญิงชุดเงินหน้าเปลี่ยนสี
เงาร่างหลินสวินพริบวาบทันใด พุ่งโจมตีเข้าไป
ปลายนิ้วของเขาตวัดวาดปราณกระบี่เจิดจรัสสายหนึ่งออกมา
คมประกายของมันไร้ที่เปรียบ อานุภาพของมันไร้เทียมทาน
ไปไร้หวน!
พลังขีดสุดที่ต่อให้เป็นในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาก็ยังไม่เคยถูกหลินสวินสำแดงออกมา ในเวลานี้ล้วนผสานลงไปในกระบี่นี้ทั้งหมด
แย่แล้ว!
หญิงชุดเงินใจสั่นสะท้าน ร่างกายแข็งทื่อ กลางนัยน์ตาปรากฏแววยากจะเชื่อ ชั่วอึดใจนี้นางถึงกับเกิดภาพประหนึ่งว่ากำลังประจันหน้ากับความตายอย่างหนึ่ง
ภายใต้แรงกระตุ้นตามสัญชาตญาณที่บ่มเพาะจากการกรำศึกนานปี ทำให้นางโจมตีเต็มกำลังโดยไม่ลังเล เริ่มทำการต่อต้าน
วู้ม!
บนกายนางปรากฏวงแสงรุ้งศักดิ์สิทธิ์วงแล้ววงเล่า เจิดจ้าจรัสแสง ล้วนควบรวมจากพลังกฎเกณฑ์มหามรรคของระดับกึ่งจักรพรรดิ
กระบวนท่านี้ถูกขนานนามว่าเคล็ดวิชาแปดร้อยแสงเทพ พลังป้องกันน่าทึ่ง
“ฟัน!”
แสงกระบี่เย็นเยียบสายหนึ่งพุ่งทะยาน ฟันฉับลงมาโดยพลัน
ตูม!
ห้วงอากาศแตกระเบิด ปราณกระบี่ไร้ทัดเทียมดุจดาบเบิกฟ้า ฟันทลายวงแสงรุ้งเทพวงแล้ววงเล่าข้างกายหญิงชุดเงินให้แตกดับได้อย่างง่ายดาย
ภาพนั้นราวกับมีดคมเฉือนเนื้อเต้าหู้ เคล็ดวิชาแปดร้อยแสงเทพที่หญิงชุดเงินภาคภูมิใจนักหนาพลันดับสิ้นในชั่วพริบตา
“ไม่…!”
หญิงชุดเงินส่งเสียงกรีดร้องเจือแววตกใจแกมหวาดกลัว
แต่เสียงก็หยุดชะงักทันที
เพราะกระบี่นี้ได้ฟันทั้งร่างนางออกเป็นสองท่อน จากนั้นร่างโชกเลือดสองท่อนก็ระเบิดกระจายกลางห้วงอากาศไปตรงๆ หมอกโลหิตแผ่คลุ้ง
เพียงชั่วอึดใจ หนึ่งกระบี่สังหารกึ่งจักรพรรดิ!
การเปลี่ยนแปลงที่มาเยือนปุบปับเช่นนี้ทำเอาพวกชายวัยกลางคนชุดม่วงต่างเข้าไม่ช่วยไม่ทัน ตอนที่มีปฏิกิริยากลับมาก็เห็นภาพเหตุการณ์ที่หญิงชุดเงินถูกสังหารแล้ว ต่างล้วนตะลึงอึ้งค้าง หวาดผวาหน้าเปลี่ยนสี
นี่เป็นไปได้อย่างไร
มกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง กลับใช้มาดประหนึ่งเหยียดเย้ยฟ้า หนึ่งกระบี่สังหารกึ่งจักรพรรดิ ทอดสายตามองทั่วหล้า ใครเคยเห็นภาพน่าสยองสะท้านโลกเช่นนี้บ้าง
น่ากลัวเกินไป!
เงาร่างหลินสวินหายวับ ครู่ต่อมาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าชายชราอ้วนเตี้ยคนนั้น
ตูม!
ฝ่ามือเขาทำมุทราประทับ ตบออกไปอย่างแรง
เพียงแค่ประทับฝ่ามือเดียวเท่านั้น กลับดุจดั่งสามารถกลืนกินฟ้าดิน ปรากฏอานุภาพน่าสะพรึงไร้สิ้นสุด
ชายชราอ้วนเตี้ยยังไม่ทันคืนสติกลับมาจากอาการตกใจ ก็เผชิญกับการเข่นฆ่าเช่นนี้ ทั่วร่างล้วนสั่นเทิ้ม โจมตีเต็มกำลังโดยไม่ลังเล
สิบนิ้วของเขาดุจตะขอ เกาะเกี่ยวห้วงอากาศตรงหน้า
วู้ม!
สัญลักษณ์อักขระสีทองอร่ามควบรวมออกมา แสงระเรื่อเจิดจ้า มีพลังกฎระเบียบที่เรียกได้ว่าสะท้านโลกไหลเวียน
เสียงกระแทกหนักทึบดังก้องดุจฟ้าคำราม
สัญลักษณ์อักขระสีทองอร่ามนั้นแตกระเบิดโดยพลัน แต่ประทับของหลินสวินกลับถูกสกัดเอาไว้ได้ในท้ายที่สุด
ทว่าไม่รอให้ชายชราอ้วนเตี้ยหายใจหายคอ เบื้องหน้าก็เจ็บปวดรุนแรง
ก็เห็นในดวงตาของหลินสวินที่อยู่ตรงข้ามปรากฏเปลวเพลิงน่าสะพรึงประหนึ่งจะหลอมละลายสรรพสิ่งก็ไม่ปาน พวยพุ่งออกมาฉับพลัน
เนตรผลาญเผา!
เสียงตูมดังคราหนึ่ง ชายชราอ้วนเตี้ยส่งเสียงร้องโหยหวน ทั้งตัวล้วนถูกกระแสเพลิงดุจโปร่งแสงปิดครอบ
เพียงชั่วอึดใจเท่านั้นก็มลายลับไปกลางอากาศ!
นี่ก็คือพลังอหังการของเนตรผลาญเผา ตอนแรกในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา หลินสวินก็เคยใช้ เพียงแต่ไม่เคยสำแดงอานุภาพทั้งหมด
ทว่าเวลานี้เนตรผลาญเผาที่ปลดปล่อยเต็มที่ ได้เผาระดับกึ่งจักรพรรดิไปคนหนึ่งในชั่วพริบตา!
หลังจากหญิงชุดเงิน ชายชราอ้วนเตี้ยก็ถูกสังหารต่อเนื่อง
ตั้งแต่ต้นจนจบเพียงแค่ไม่กี่ชั่วดีดนิ้ว!
“สารเลว!”
“ลงมือ!”
“รีบฆ่าเขาเร็วเข้า!”
พวกชายวัยกลางคนชุดม่วงต่างเคลื่อนไหว แต่ละคนสีหน้าเขียวคล้ำเปี่ยมด้วยแววเดือดดาล
ใครก็คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเริ่มต้น เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นถึงกับมีพวกพ้องสองคนถูกสังหารตายคาที่
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตั้งตัวไม่ทัน และอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
โดยเฉพาะพลังน่าสะพรึงที่หลินสวินสำแดงออกมา ทำให้พวกเขาต่างเริ่มรู้สึกใจสะท้านและกริ่งเกรง ไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อว่านี่คือพลังที่ระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งจะมีได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาในเวลานี้ล้วนไม่กล้าลังเลใดๆ อีก!
และยามนี้เงาร่างของหลินสวินก็ขยับไหวกลางอากาศ ขณะที่ปรากฏตัวอีกครั้ง กลิ่นอายทั้งตัวเขาพลันเปลี่ยนไป
เขาในชุดขาวพระจันทร์นัยน์ตาดำลึกล้ำ ทั่วร่างมีประกายศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นพัน ไม่ได้เดือดปะทุดุจเปลวเพลิงเหมือนก่อนหน้านี้อีก ทระนงโอหัง
แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความลึกล้ำดั่งหุบเหว ราบเรียบดุจสายน้ำ
เพราะเขาในเวลานี้ ได้ใช้ร่างเดิมแล้ว!
และนับตั้งแต่เขาขึ้นยานลมกรดเหินข้ามฟ้าดารามาถึงโลกใหญ่หงเหมิงจนบัดนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ใช้ฐานะเดิมในการต่อสู้!
——