Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1932 เลิศล้ำทรงพลัง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1932 เลิศล้ำทรงพลัง
ตอนที่ 1932 เลิศล้ำทรงพลัง
หลังจากหลอมกายมรรคทองขาวออกมา หลินสวินก็จดจ่อจิตใจไปกับการทำให้เขตแดนมรรคสมบูรณ์
วู้ม…
เมื่อเขาพลิกฝ่ามือ จานมหามรรคไร้ตัวตนที่แวววาวมนกลมดุจดวงจันทร์ก็ปรากฏ สัญลักษณ์ลึกลับที่เหมือนปลาแหวกว่ายคู่หนึ่งในจานสำแดงร่องรอยแห่งมรรคอันเร้นลับอัศจรรย์ออกมา
จานมหามรรคไร้ตัวตน สามารถช่วยผู้ฝึกปราณอนุมานและหยั่งถึงแก่นดั้งเดิมแห่งมหามรรค!
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จิตใจจมดิ่งอยู่ภายในนั้น
ชั่วขณะเดียวพลังมหามรรคที่เขาครอบครอง ปรากฏอยู่ในจานมหามรรคไร้ตัวตนราวกับรอยแผลสายแล้วสายเล่า
อย่างเช่นมรรคดับดารากลืนกิน มรรคเจินหลง มรรคแห่งน้ำและไฟ มรรคยอดเอกอุ มรรคไร้มรณะ…
ล้วนปรากฏภายในจานมหามรรคไร้ตัวตนอย่างละเอียด และจากนั้นก็อาศัยลักษณ์วิเศษอัศจรรย์ที่ชัดเจนสะท้อนสู่จิตใจของหลินสวิน
พร้อมๆ กับที่เขาหยั่งรู้และอนุมานอย่างตั้งใจ พลังแปลกพิกลวูบหนึ่งก็พุ่งทะลักออกมาจากภายในจานมหามรรคไร้ตัวตน ทำให้ความเร็วในการหยั่งรู้และอนุมานมหามรรคของเขาพลันพุ่งทะยานขึ้นช่วงใหญ่ในทันที!
จุดที่รู้สึกเลือนราง คลุมเครือ กังขานับไม่ถ้วนที่ผ่านมา ล้วนคลายออกทุกจุด
ความรู้สึกที่ได้รับหลังจากปมคลี่คลายเช่นนั้น ทำให้ทั้งตัวหลินสวินล้วนจมอยู่ในนั้น ชื่นมื่นสุขสมไม่อาจถอนตัว
และพร้อมกันนั้นด้านหลังร่างเขาเขตแดนมรรคปรากฏ บางครั้งกลายเป็นเตาหลอม บางคราววิวัฒน์เป็นหุบเหวใหญ่ บ้างก็หวนสู่สภาพแรกกำเนิดอีกครั้ง
พลังมหามรรคที่รวมอยู่ในนั้น พร้อมๆ กับการอนุมานและหยั่งถึงไม่ขาดสายของหลินสวิน ก็พลอยเปลี่ยนเป็นหนาแน่นและแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
……
เวลาดั่งกระสวยพวยพุ่ง ผ่านไปสองสามเดือนอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ตอนที่หลินสวินกำลังปิดด่านฝึกปราณ โลกภายนอกต่างก็มีคลื่นลมโหมกระพือ
พร้อมๆ กับเวลาของงานชุมนุมถกมรรคที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในโลกใหญ่หงเหมิงนอกจากแคว้นกลางมรรค การคัดเลือกถกมรรคของสี่สิบแปดแคว้นอื่นๆ ต่างก็ปิดม่านลงเรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกับแคว้นเมฆา ในเขตแคว้นเหล่านี้ล้วนคัดเลือกผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกออกมาผ่านวิธีคัดเลือกถกมรรค
สี่สิบแปดแคว้น นั่นก็หมายความว่ามีผู้แข็งแกร่งแห่งยุคสี่ร้อยแปดสิบคนที่ผ่านการคัดเลือก หลังจากนี้ไม่นานก็จะเข้าร่วมในงานชุมนุมถกมรรค!
โลกใหญ่หงเหมิงกว้างใหญ่ไพศาลปานใด ต่อให้ตัดแคว้นกลางมรรคทิ้งไม่เอ่ยถึง ภายในแคว้นอื่นๆ ก็มีสรรพชีวิตมากมายกระจายตัวอยู่
ทว่าท้ายที่สุดกลับมีเพียงสี่ร้อยแปดสิบคนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรค
ไม่ต้องสงสัยสักนิด สี่ร้อยแปดสิบคนนี้จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่สะดุดตา เฉิดฉายที่สุดในหมู่มกุฎราชันอริยะเป็นแน่
เพียงแต่คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ก็ยังเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละแคว้นอยู่ดี
“แม่นางเสวียนเยวี่ย พวกนี้ก็คือข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาได้ในระยะนี้ ในนั้นแจกแจงรายชื่อ พลังปราณ และที่มาของสิบอันดับแรกในแต่ละเขตแคว้น”
ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างพวกเจียงเหิง จีเฉียนอยู่ด้วยกัน มอบม้วนหยกม้วนหนึ่งให้จินเทียนเสวียนเยวี่ย
“ขอบคุณยิ่งแล้ว”
หลังจากจินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าวขอบคุณก็เริ่มพลิกอ่าน
สายตาของนางพุ่งไปยังรายชื่ออันดับหนึ่งของแต่ละแคว้น ส่วนคนอื่นๆ ล้วนถูกนางมองข้ามไปชั่วขณะ
‘หวังอี้เฉิน อันดันหนึ่งในการคัดเลือกถกมรรคแคว้นเขียว ผู้สืบทอดแกนหลักอันดับหนึ่งของสำนักกระบี่หิมะวิญญาณ สำนักอันดับหนึ่งในแคว้นเขียว ปราณมกุฎราชันอริยะขั้นสมบูรณ์ ผู้คนขนานนามว่า ‘ราชันอริยะมรรคกระบี่อันดับหนึ่งแห่งแคว้นเขียว’’
‘หมิงฉี่ยั่ง อันดับหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคแคว้นยมโลก ผู้นำคนรุ่นเยาว์สำนักยุทธ์ยมโลก ฝึกคัมภีร์มรรคเทพนรก ถูกขนานนามว่าราชันอริยะปราณวิญญาณอันดับหนึ่งแห่งแคว้นยมโลก’
‘สวีชิงเจียน อันดับหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคแคว้นดารา อันดับหนึ่งระดับมกุฎราชันอริยะสำนักยุทธ์หมู่ดารา…’
…มองดูแต่ละชื่อพาให้ในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยยังบังเกิดแรงกดดันอย่างบอกไม่ถูก
ในรายชื่อชุดนี้ ลำพังแค่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่อันดับหนึ่งในสี่สิบแปดแคว้น แต่ละคนก็เรียกได้ว่าเป็นพวกชั้นนำแห่งยุค โดดเด่นเฉิดฉายแห่งแคว้น เจิดจ้าเหนือปวงชน!
‘ต่อให้อันดับหนึ่งแต่ละแคว้นพวกนี้จะไม่สามารถเทียบชั้นคุณชายได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเหมือนผู้แข็งแกร่งแห่งยุคอย่างพวกลู่ตู๋ปู้ อู่หวง’
จินเทียนเสวียนเยวี่ยพึมพำในใจ
นี่เป็นเพียงพวกสะดุดตาที่ปรากฏในอาณาเขตสี่สิบแปดแคว้นเท่านั้น จากที่นางรู้มา บุคคลแกนหลักในหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ในแคว้นกลางมรรค มีแต่จะยิ่งแข็งแกร่ง แต่ละคนต้องร้ายกาจและวิปริตข่มกันไม่ลงอย่างแน่นอน!
นับประสาอะไรผู้ที่สามารถเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ได้ ไม่ได้จำกัดแค่ในโลกใหญ่หงเหมิงเท่านั้น ในฟ้าดาราโลกอื่นก็มีพวกปีศาจแห่งยุคไม่รู้เท่าไหร่มาเยือนด้วยเช่นกัน จับจ้องงานชุมนุมถกมรรคในครั้งนี้ตาเป็นมัน
“ศึกถกมรรคแคว้นเมฆาครั้งนี้ ทำให้พวกข้าตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”
เจียงเหิงทอดถอนใจอยู่ด้านข้าง “และยามนี้ ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนงานชุมนุมถกมรรคก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ถึงตอนนั้นยังจะมีผู้แข็งแกร่งสะท้านโลกที่น่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นอีกไม่รู้เท่าไหร่”
ประโยคเดียวทำเอาผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างจีเฉียนต่างทอดถอนใจไม่ว่างเว้น
บนโลกใบนี้ไม่ขาดแคลนผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ร้ายกาจยิ่งกว่า ใครกล้าประกาศตนว่าไร้ศัตรูอย่างแท้จริง แล้วจะมีใครบ้างกล้าบอกว่าจะไม่พ่ายแพ้
เนิ่นนานจินเทียนเสวียนเยวี่ยพับเก็บรายชื่อฉบับนี้อย่างระมัดระวัง นางไม่มีทางลืมเด็ดขาด ก่อนคุณชายปิดด่านเคยกำชับให้นางรวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับงานชุมนุมถกมรรคไว้มากๆ
“อันดับหนึ่งที่คัดเลือกจากทั้งสี่สิบแปดแคว้น ยามนี้ล้วนถูกผู้กล้าแห่งยุคบางส่วนของแคว้นกลางมรรคจับจ้องไว้แล้ว”
จู่ๆ จีเฉียนก็เอ่ยขึ้น “ถึงขั้นมีคนคุยโวว่ายามอันดับหนึ่งเหล่านี้เข้าสู่แคว้นกลางมรรค ไม่รอให้งานชุมนุมถกมรรคเริ่มก็จะต้องแสดงอำนาจให้พวกเขาเห็นเสียหน่อย”
ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ก็พาให้ผู้คนไม่น้อยใจสะท้าน
หากบอกว่าโลกใหญ่หงเหมิงเป็นโลกใหญ่อันดับหนึ่งของทางเดินโบราณฟ้าดารา เป็นโลกอันดับหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกหล้าต่างรู้จัก
เช่นนั้นแคว้นกลางมรรคก็คือแคว้นอันดับหนึ่งของโลกใหญ่หงเหมิง!
หกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ รวมถึงขุมอำนาจเผ่าจักรพรรดิที่น่าสะพรึงหาใดเปรียบมากมายต่างตั้งถิ่นฐานอยู่ในนั้น และด้วยเหตุนี้จึงปรากฏพวกปีศาจที่เจิดจรัสพราวตาไม่รู้เท่าไหร่
อย่างงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ เหตุใดจึงสามารถดึงดูดความสนใจของทั่วหล้าได้
นั่นก็เพราะผู้ที่จัดงานชุมนุมในครั้งนี้ คือหกเรือนมรรคใหญ่!
และในหกเรือนมรรคใหญ่เหล่านี้ มีเรือนมรรคใดที่ไม่มีพวกปีศาจกร้าวแกร่งถึงขั้นไม่อาจใช้หลักการณ์ทั่วไปมากะเกณฑ์ได้อย่างสิ้นเชิง
หากคนเหล่านี้เพ่งเล็งอันดับหนึ่งของสี่สิบแปดแคว้น นั่นย่อมสามารถทำให้ใครก็ตามล้วนไม่อาจไม่ให้ความสำคัญ!
“นี่หาใช่คำกล่าวเลื่อนลอย เท่าที่ข้ารู้ ข่งเจาศิษย์แกนหลักอันดับหนึ่งของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ที่มีฉายา ‘เลิศล้ำทรงพลัง’ คนนั้นเคยพูดว่า ก่อนงานชุมนุมถกมรรคเริ่มต้นขึ้น ก็จะทำให้อันดับหนึ่งแต่ละแคว้นก้มหัวให้!”
จีเฉียนกล่าว
ทันทีที่ประโยคนี้ดังออกมา จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ข่งเจา!
เป็นไปได้หรือที่นางจะไม่เคยได้ยิน คนผู้นี้ไต่เต้าขึ้นสู่อันดับห้าของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ เมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อนก็สะเทือนฟ้าดารา ทั่วหล้าต่างรู้จัก
คนผู้นี้มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง ทั้งฉายาไพเราะว่า ‘เลิศล้ำทรงพลัง’ และมีสมญาว่า ‘ที่สุดแห่งตระกูลข่ง’
ข่าวและฉายาที่เกี่ยวกับเขามีมากยิ่งกว่ามากจริงๆ
‘ตอนนั้นบนยานลมกรด คุณชายเคยฆ่าผู้แข็งแกร่งตระกูลข่งไปไม่น้อย หลังจากมาถึงโลกใหญ่หงเหมิงยิ่งสังหารคนของข่งอวี้จากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ หากให้ข่งเจารู้เรื่องพวกนี้ จะต้องหันปลายหอกมาที่คุณชายเป็นแน่…’
จินเทียนเสวียนเยวี่ยนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ภายในใจก็เป็นกังวลอยู่บ้าง
ของเพียงสามารถติดสิบอันดับแรกกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ ใครบ้างที่ไม่ใช่พวกผู้กล้าแห่งยุคซึ่งชื่อเสียงเกรียงไกรทั่วฟ้าดารา
และข่งเจา อยู่อันดับที่ห้าเชียว!
‘แต่คุณชายก็ไม่ใช่คนที่พวกธรรมดาทั่วไปจะเทียบชั้นได้ ข่งเจานี่หากกล้ากวนใจคุณชายจริงๆ แพ้ชนะยังพูดยาก’
จินเทียนเสวียนเยวี่ยจมสู่ภวังค์ความคิด
“ข่งเจาที่อยู่อันดับห้ายังกล้าพูดเช่นนี้ออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกคนที่อยู่อันดับก่อนหน้าเขาจะน่ากลัวปานใดกัน…”
มีคนพึมพำ
“จากที่ข้ารู้มา พวกที่อยู่สิบอันดับแรกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ในตอนนี้ หากไม่ใช่เพื่อจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ ป่านนี้คงทะลวงระดับ แจ้งมรรคกึ่งจักรพรรดิไปแล้ว”
มีคนเอ่ยเสียงต่ำลึก “สรุปแล้วพวกปีศาจเหล่านี้ แต่ละคนต่างกำลังข่มระดับ ในงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ ใครเจอเข้าคนนั้นดวงซวย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก จากที่ข้ารู้มา กระดานราชันอริยะปวงสวรรค์เป็นแค่อันดับรายชื่ออย่างหนึ่งเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะรวมพวกร้ายกาจทั่วหล้าเอาไว้ในนั้น”
และมีคนกล่าววิเคราะห์ “อย่างในหมู่พวกปีศาจแห่งยุคที่มาจากโลกอื่นเหล่านั้น จะต้องมีพวกสะท้านโลกที่ไม่ด้อยไปกว่าคนระดับข่งเจาอย่างแน่นอน”
“ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น เอาแค่สหายยุทธ์จินตู๋อี ชื่อนี้ก็ไม่ได้ปรากฏอยู่ในกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ด้วยซ้ำ แต่ยามนี้เขาเป็นถึงอันดับหนึ่งของศึกถกมรรคแคว้นเมฆาของพวกเราเชียว!”
คำพูดเดียวเรียกเสียงคล้อยตามได้ไม่น้อย
“ถูกต้อง ข้าเองก็เคยได้ยินว่า เพราะงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ดึงดูดสายตาทุกคู่ทั่วโลกหล้า เรือนมรรคโลกาสวรรค์ยังตัดสินใจ จะทำการจัดอันดับกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ขึ้นใหม่อีกครั้งในการชุมนุมครั้งนี้อีกด้วย”
จู่ๆ จีเฉียนก็เอ่ยขึ้น “อย่างสหายยุทธ์จินตู๋อี ไม่ว่าอยู่อันดับที่เท่าไหร่ในงานชุมนุมถกมรรค อาศัยแค่พลังต่อสู้ในปัจจุบันของเขาก็สามารถขึ้นสู่กระดานอันดับได้อย่างง่ายดายแน่นอน ส่วนผลสุดท้ายจะสามารถครองอันดับที่เท่าไหร่ นั่นก็ต้องดูฝีมือในงานชุมนุมถกมรรคของเขาแล้ว”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยฟังอย่างเงียบๆ ไม่ได้เสนอความเห็นใด
แต่นางรู้ดีว่าในงานชุมนุมถกมรรค จากพลังต่อสู้ของคุณชาย เกรงว่าอาจจะพบเจอศัตรูตัวฉกาจที่คาดไม่ถึงบางส่วน
อย่างไรเสียอิทธิพลของงานชุมนุมครั้งนี้ล้วนสามารถใช้คำว่าเอิกเกริกเป็นประวัติการณ์ หมื่นปียากจะพานพบมาบรรยายได้ ยอดอัจฉริยะ ปีศาจ ผู้กล้าในหมู่คนระดับเดียวกันต่างรวมตัว ความแข็งแกร่งของแต่ละคนมีแต่จะยิ่งวิปริตมากขึ้นเรื่อยๆ!
‘แค่ไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้วคุณชายจะคว้าอันดับที่เท่าไหร่ในงานชุมนุมถกมรรคมาได้…’
จินเทียนเสวียนเยวี่ยเหม่อลอย
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะนี้ หมู่นี้แทบจะอุบัติขึ้นในแต่ละเขตแคว้นของโลกใหญ่หงเหมิง ขุมอำนาจใหญ่ไม่รู้เท่าไหร่ ผู้ฝึกปราณไม่รู้กี่คน ต่างกำลังเฝ้ารอการมาเยือนของงานชุมนุมในครั้งนี้
เมฆลมโหมกระหน่ำทุกแห่งหนทั่วหล้า ข่าวเกี่ยวกับงานชุมนุมถกมรรคก็ยิ่งเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
และเหล่าอันดับหนึ่งในสี่สิบแปดแคว้นอย่างพวกหลินสวิน ยิ่งกลายเป็นศูนย์รวมความสนใจจากแต่ละฝ่าย
แน่นอน ชื่อที่ผู้คนให้ความสนใจคือ ‘จินตู๋อี’
ขณะเดียวกันในแคว้นกลางมรรค รายชื่ออันดับหนึ่งในสี่สิบแปดคนอย่างพวกหลินสวิน ล้วนปรากฏอยู่ในขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่
สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ หลินสวินที่กำลังปิดด่านไม่รับรู้สักนิด
ช่วงเวลาสุดท้าย อาศัยการช่วยเหลือของจานมหามรรคไร้ตัวตน ทำให้เขตแดนมรรคของเขายิ่งเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่ง ปรากฏท่วงทำนองพร้อมพรักเต็มสมบูรณ์อยู่รำไร
แต่ท้ายที่สุดก็ยังขาดส่วนสำคัญบางส่วน
‘ยังไม่ได้อยู่ดี…’
ในวันนี้หลินสวินตื่นจากการนั่งสมาธิ หัวคิ้วขมวดมุ่น
ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะสามารถอนุมานเขตแดนมรรคแห่งตนถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว แต่ก้าวเดียวนี้ก็เหมือนอุปสรรคขวางกั้นอย่างหนึ่ง ทำให้หลินสวินสิ้นเปลืองความคิด ลองผิดลองถูกสารพัด แต่ก็ยังไม่สามารถทะลวงมันไปได้
—