Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2206 จักรพรรดิเต้ายวนมาเยือน
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2206 จักรพรรดิเต้ายวนมาเยือน
เขากล้าหรือ
…เสียงของจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยดังก้องไม่หยุด ทำให้บรรยากาศครึกครื้นในที่นั้นตกอยู่ในความเงียบก่อน จากนั้นเสียงหัวเราะระลอกหนึ่งก็ดังขึ้น
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
จนถึงวันนี้จักรพรรดิเต้ายวนหลินสวินนั่นยังอยู่ในสภาพที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดี ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ ต่อให้เขารอดชีวิต ไหนเลยจะกล้ามาท้าทายถึงอาณาเขตของตระกูลข่ง
ใครบ้างไม่รู้ว่าโลกใหญ่แดนธรรมนี้มีเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งเป็นผู้นำ
ความแข็งแกร่งด้านรากฐานของเผ่านี้จัดอยู่ในแนวหน้าของเจ็ดเผ่าอสูรมารใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของขุมอำนาจ สามารถส่งผลกระทบไปทั้งเขตแดนดาราราชันแสง!
อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับจักรพรรดิก็ไม่กล้าเหิมเกริมในอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง!
จักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยก็ยิ้มพลางกล่าว “ทุกท่านวางใจเถอะ ถ้าเศษเดนคีรีดวงกมลนั่นกล้ามาที่นี่จริง เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งของข้าจะกำจัดเดรัจฉานนี่เพื่อทั่วหล้าฟ้าดารา มอบความสว่างสดใสคืนสู่ใต้หล้า!”
คำพูดนี้เต็มไปด้วยความอหังการ
แต่เวลานี้เองเสียงราบเรียบหนึ่งพลันดังขึ้น “ต้าหวง เห็นหรือยัง ครั้งนี้หากข้าคนแซ่หลินไม่มา มีหรือจะรู้ว่าเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งนี่กล้าป่าวประกาศว่าจะกำจัดข้าแล้ว”
เมื่อเสียงดังขึ้น กลางฟ้าดินแถบนี้พลันมีอานุภาพจักรพรรดิที่น่ากลัวไร้ขอบเขตแผ่กระจายออกมา บีบกดจนห้วงอากาศสั่นสะเทือน ก้อนหินต้นไม้กระเพื่อมไหว
ยังไม่ทันสิ้นเสียงบริเวณที่ไกลลิบก็มีเสียงตื่นตระหนกและหวาดกลัวดังขึ้น เห็นเพียงฝูงชนที่แน่นขนัดนั้นถูกแหวกเป็นทางเส้นหนึ่งราวกับถูกกระแสน้ำหลากจู่โจม
สองข้างทางเต็มไปด้วยเงาร่างผู้ฝึกปราณที่กลิ้งลงไปกองกับพื้น ไม่ว่าพลังปราณจะสูงหรือต่ำ เวลานี้ล้วนกลายเป็นน้ำเต้ากลิ้งอยู่บนพื้น เสียงหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกก็ดังตามมา
ตูม!
พื้นที่แถบนี้ล้วนสั่นสะเทือน อานุภาพจักรพรรดินั้นโหมปล่อยออกมา บีบกดจนผู้คนแทบหายใจไม่ออก แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี
บรรยากาศที่เดิมครึกครื้นถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
หน้าแท่นบูชาพันจั้งเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้นกะทันหัน ทำให้เหล่าคนใหญ่คนโตอย่างจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยรับมือไม่ทันอยู่บ้างเช่นกัน ตกตะลึงไม่หยุด
นี่เป็นถึงงานบูชาวิทยราชที่เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งจัดขึ้นพันปีครั้ง! ทั้งยังอยู่หน้าเขาประกายฟ้าอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่ง บนโลกนี้ถึงกับมีคนกล้าเหิมเกริมวิ่งมาก่อเรื่องจริงหรือ
นี่ทำให้ทุกคนต่างคิดไม่ถึง
“คนแซ่หลิน… หรือว่าจะเป็น… เจ้าหมอนั่น” สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งได้สติกลับมาเป็นคนแรก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้
และตอนนี้ยามทุกคนนึกถึงเนื้อความในเสียงนั้น ในใจก็กระตุกวูบอย่างหนักหน่วง ล้วนเผยสีหน้ายากจะเชื่อออกมา
จักรพรรดิเต้ายวนหลินสวิน!?
บรรยากาศดูกดดันหาใดเปรียบทันที
กลับเห็นจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยสีหน้าอึมครึม สูดหายใจลึกพลางกล่าว “ผู้มาเยือนเป็นใคร ใครให้ความกล้าเจ้าขนาดนี้ ถึงกับกล้าวิ่งมาหาเรื่องเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งของข้า ไม่อยากอยู่ต่อแล้วสินะ!?”
เสียงดังกระหึ่มไปทั่วทิศราวฟ้าผ่า อานุภาพกดดันของระดับจักรพรรดิที่ไร้ขอบเขตแผ่กระจายไปยังที่ห่างไกล
ผู้ฝึกปราณที่กระจายกันอยู่แถบนี้ ไม่มีใครไม่ถอยหลบไปห่างไปไกลตามจิตใต้สำนึก ตอนนี้ต่อให้ยังไม่กล้ายืนยันฐานะของผู้มาเยือน แต่ก็ไม่มีใครอยากถูกลูกหลง
เวลานี้ในที่สุดทุกคนก็เห็นว่าบริเวณที่ไกลลิบ ห้วงอากาศมีแสงประกายฝนมงคลเวียนวน กลายเป็นรุ้งเทพมหามรรคเส้นหนึ่งพาดผ่านอากาศมา
บนรุ้งเทพมหามรรค ชายหนึ่งหญิงหนึ่งสุนัขหนึ่งก้าวผ่านอากาศมาทางนี้
ฝ่ายชายสวมชุดสีขาวพระจันทร์ ผมดำปลิวสยาย ทุกการเคลื่อนไหวดูนิ่งสงบละโลกีย์ แต่เมื่อเขาก้าวเท้า อานุภาพกดดันแห่งมรรคจักรพรรดิที่มองไม่เห็นพลันแผ่กระจาย ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ทำให้มหามรรคดังเลื่อนลั่น!
แวบแรกที่เห็นชายคนนี้ เด็กสาวลั่วลั่วที่ยืนอยู่ในฝูงชนห่างไกลอ้าปากหมายจะร้องอุทาน แต่ถูกกู่เหลียงถิงที่อยู่ด้านข้างปิดปากแน่น
ตัวกู่เหลียงถิงเองก็สีหน้าแปรเปลี่ยนยิ่งยวด ในใจสั่นสะท้านไม่หยุด ในที่สุดเขาก็เข้าใจประโยคตอนหลินสวินบอกลาที่ว่าไม่อยากหาเรื่องให้ตนนั้นหมายความว่าอะไร!
และตอนนี้เมื่อเห็นชายที่เป็นผู้นำนั้น เหล่าคนใหญ่คนโตในที่นั้นก็ต่างชะงักมึนงง
เจ้าหมอนี่เป็นใคร
“ทุกท่านไม่รู้จักข้าคนแซ่หลินแล้วหรือ”
ชายคนนั้นพูดพลางแผ่ประกายแสงไหลวน ลักษณะที่เดิมเรียบง่ายไม่พิเศษนั้นของเขา เปลี่ยนเป็นสง่างามทันที นัยน์ตาดำล้ำลึก ทั่วร่างแฝงอานุภาพยิ่งใหญ่ราวกลืนกินจักรวาล เหยียดหยันปวงสวรรค์
“เป็นเขา จักรพรรดิเต้ายวนหลินสวิน!”
มีคนร้องตกใจออกมาทันที
จากนั้นทั่วลานพลันอึกทึกครึกโครม แต่ละคนราวกับเห็นตำนานคนหนึ่งมาเยือน สีหน้าเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ
แม้แต่เหล่าคนใหญ่คนโตอย่างจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ย เวลานี้ยังตะลึงตาค้าง เกือบสงสัยว่าตาฝาด
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดหาใดเปรียบทันที เงียบกริบยิ่งยวด
คนผู้หนึ่งที่ถูกมองว่าไม่อาจปรากฏตัวที่นี่ได้ กลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเหมือนปาฏิหาริย์ ความไหวหวั่นและผลกระทบเช่นนั้นทำให้ทุกคนทั่วลานล้วนมีความรู้สึกว่าฝันไป
ควรรู้ว่าหลังจากแดนปรินิพพานปิดฉากยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน เกือบทุกคนบนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ล้วนรู้ว่าหลินสวินที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิ แม้จะเรียกได้ว่าเป็นตำนานแห่งยุคคนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็อยู่ในสภาพที่เป็นตายไม่อาจระบุ
ถึงขั้นมีคนมากมายสังหรณ์ใจว่าเขาสิ้นชีพในแดนปรินิพพานไปนานแล้ว!
ต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้จักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยยังป่าวประกาศอย่างมั่นใจหาใดเปรียบ ว่าต่อให้หลินสวินรอดชีวิต ก็ไม่กล้าเสียสติวิ่งมาเหิมเกริมบนอาณาเขตของพวกเขาเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งแน่
ถึงขั้นยังกล่าวอย่างอหังการหาใดเปรียบ ว่าต่อให้หลินสวินมาจริงก็ต้องกำจัดเขา มอบความสว่างสดใสคืนสู่ใต้หล้า
แต่ตอนนี้หลินสวินมาแล้ว!
มกุฎมหาจักรพรรดิที่เหมือนตำนานคนนี้รอดชีวิตมาปรากฏตัวในสายตาของพวกเขา รอดจนมาถึงหน้าเขาประกายฟ้าของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งนี้!
นี่ก็เหมือนเสียงตบดังฟังชัด ตบหน้าจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยเข้าอย่างจัง
หลังผ่านความเงียบไปชั่วขณะ บรรยากาศในที่นั้นปั่นป่วน ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนพากันจับจ้องไปที่ร่างหลินสวินด้วยสายตาใคร่รู้ ตื่นตระหนกและสงสัย
มกุฎมหาจักรพรรดิหลินเต้ายวน เขามาครานี้เพื่อการใด คงไม่ใช่คิดมาล้างแค้นเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งจริงๆ กระมัง
“ท่านปู่ ที่แท้เขาก็เป็น…” เด็กสาวลั่วลั่วยินดีอย่างคาดไม่ถึง ตื่นเต้นจนสองตาเปล่งประกาย แต่พูดไม่ทันจบก็ถูกกู่เหลียงถิงปิดปากแน่นอีกครั้ง
กู่เหลียงถิงสีหน้าอึ้งงันไปหมด ขนพองสยองเกล้า ในใจพลิกตลบ เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มคนหนึ่งที่บังเอิญเจอระหว่างทาง กลับเป็นจักรพรรดิเต้ายวนที่ยามนี้มีอำนาจสะเทือนฟ้าดาราคนนั้น!?
“คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ…”
จักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยเพิ่งดึงสติกลับมาได้ หน้าคล้ำเขียว ท่าทางยังดูยากจะเชื่อ “ถ้าเช่นนั้นเจ้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นสินะ”
นี่จะไร้สาระเกินไปแล้วจริงๆ เจ้าหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งของพวกเขาเห็นเป็นศัตรู ไม่รอให้พวกเขาไปล้างแค้น กลับพาตัวเองมาให้ถึงที่!
หลินสวินดีดนิ้วมือแล้วกล่าวเรียบๆ “นี่เป็นคำพูดไร้สาระเกินจำเป็น นอกจากแก้แค้นแล้ว เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งของเจ้ายังมีอะไรควรค่าให้ข้าคนแซ่หลินมาเยือนด้วยตัวเอง”
ต้าหวงที่อยู่ด้านข้างเสริมให้หนึ่งประโยค “เนื้อ!”
คำเดียวแต่กลับไม่รู้ว่าทำให้ต้าหวงนึกถึงภาพน่าเย้ายวนอะไร นัยน์ตาจ้องมองจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยเงียบๆ น้ำลายไหลออกจากปากเป็นทาง
ไม่ว่าภาพนี้จะแปลกประหลาดเพียงใด แต่ยังทำให้ในใจทุกคนสั่นสะท้านไม่หยุด มาแก้แค้นดังคาด! เพียงแต่ความกล้าของจักรพรรดิเต้ายวนนี้ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ!
นี่เป็นอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งเชียวนะ!
เขามกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง คิดจริงๆ หรือว่าฆ่าระดับจักรพรรดิบางส่วนได้แล้ว ก็สามารถสั่นคลอนเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ที่รากฐานเก่าแก่หาใดเปรียบเผ่าหนึ่งได้
แม้ว่ายากจะเชื่อ แต่ทุกคนในที่นั้นต่างยังถอยห่างออกไปอีกช่วงหนึ่งตามจิตใต้สำนึก เกรงว่าทันทีที่เกิดการต่อสู้จะถูกลูกหลง
ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่บุคคลของขุมอำนาจใหญ่บางส่วนที่ผูกมิตรกับเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งพวกนั้น เวลานี้ต่างเลือกที่จะถอยเช่นกัน
เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งกล้าหาเรื่องมกุฎมหาจักรพรรดิที่มีอำนาจสะเทือนทั่วหล้าคนหนึ่ง แต่พวกเขาไม่กล้า!
จักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยเห็นภาพต่างๆ นี้แล้วหน้าเขียวยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาจ้องมองหลินสวินเขม็งพลางแสร้งยิ้มกล่าว “เจ้ามาได้จังหวะ วันนี้เป็นงานบูชาวิทยราชของเผ่าข้าพอดี หลังจากฆ่าเจ้าแล้ว ค่อยใช้เลือดเนื้อและจิตวิญญาณของเจ้ามาเป็นของเซ่นไหว้บรรพชน!”
“อย่างนั้นหรือ”
หลินสวินกล่าวลวกๆ “ต้าหวง ระดับจักรพรรดิขั้นหกขึ้นไปยกให้เจ้า พวกต่ำกว่าขั้นหกยกให้ข้ากับซย่าจื้อเป็นอย่างไร”
ต้าหวงที่อยู่ด้านข้างพลันแสยะยิ้ม เผยฟันขาวดุจหิมะพลางกล่าว “เจ้าหนู คำพูดนี้ของเจ้าข้ารับฟัง! ระดับจักรพรรดิทั่วไปไม่อยู่ในสายตาข้าจริงๆ!”
ทุกคนต่างหันมามองอย่างอดไม่ได้ สุนัขตัวนี้เป็นใครกัน วิธีพูดถึงกับดูจองหองกว่าบรรพจารย์จักรพรรดิ!
“พูดมากเกินไปแล้ว รีบรบรีบจบเถอะ”
ซย่าจื้อที่ไม่เคยเอ่ยปากมาตลอดเหมือนหงุดหงิดอยู่บ้าง ถือทวนกระดูกขาวนั้น พลันเหยียบย่างห้วงอากาศไปเหมือนแสงมืดสายหนึ่ง!
ทุกคนต่างตื่นตะลึงอีกครั้ง แล้วคนผู้นี้เป็นใครกัน จู่ๆ ก็ลงมือโดยตรง?
“หึ!”
จักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยพลันสะบัดแขนเสื้อ กระบี่จักรพรรดิเล่มหนึ่งพุ่งออกมา เผยประกายหมื่นจั้งกรีดทึ้งห้วงอากาศ ฟาดฟันไปทางซย่าจื้อ
ตูม!
อานุภาพจักรพรรดิไร้ใดเปรียบแผ่กระจาย ทำลายชั้นเมฆทั่วทิศ
เวลานี้ผู้ฝึกปราณทุกคนในที่นั้นล้วนหนีเตลิดโดยไม่ลังเลอีกครั้ง ถอยร่นห่างออกไป ไม่มีใครกล้าลังเลสักคน
นี่คือศึกของจักรพรรดิ ผลกระทบกินบริเวณกว้างเกินไป สามารถเผาภูผาต้มสมุทร สลายเมืองหนึ่งได้ตลอดเวลา ทำให้สุริยันจันทราดาราสั่นสะเทือน!
ผู้ฝึกปราณทั่วไปอย่าว่าแต่ต้านทาน ต่อให้ถูกอานุภาพสังหารระดับจักรพรรดินั้นสัมผัสเล็กน้อย ก็เหมือนถูกโจมตีปานทำลายล้างแล้ว
กลับเห็นซย่าจื้อไม่แม้แต่จะมอง โบกสะบัดทวนกระดูกขาว ซัดปราณกระบี่สายนั้นจนพินาศ เงาร่างไหววูบพุ่งมาอยู่ข้างหน้าจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ย
เมื่อนางสะบัดทวน
ปึง!
กระบี่จักรพรรดิในมือจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยถูกฟันเป็นสองท่อน ทั้งตัวเขายังถูกทวนแทงทะลุอกยกขึ้นมา
เลือดสีสดสาดพรมราวน้ำตก สัตว์ประหลาดเฒ่าที่ชื่อเสียงสะเทือนโลกใหญ่แดนธรรม มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสามคนนี้ กลับถูกทวนเดียวสังหารเหมือนไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา!
ภาพนองเลือดชวนตระหนกนั้นทำให้คนนับไม่ถ้วนราวกับถูกฟ้าผ่า ตกใจจนวิญญาณเกือบหลุดลอยออกมา
ก่อนหน้านี้ความสนใจทั้งหมดล้วนอยู่ที่ตัวหลินสวิน ใครก็คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวที่สวมชุดคลุมดำ ร่างอรชร สวมหมวกบดบังใบหน้าคนนี้ พลังต่อสู้ถึงกับน่าหวาดกลัวเช่นนี้!
“อย่าซัดจนเละเด็ดขาด เนื้อนกยูงห้าสีที่สมบูรณ์มีรสอร่อยกว่า!”
เสียงเตือนอย่างรีบร้อนของต้าหวงดังขึ้นแต่ไกล แต่เนื้อความที่กล่าวเตือนนั้นกลับทำให้คนตกตะลึงตาค้าง ฆ่าจักรพรรดิกระบี่หรันเสวี่ยแค่เพื่อ… กินเนื้อหรือ
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนหน้าเขียวไปหมด
“ฆ่า!”
“รีบไปเชิญผู้อาวุโสทุกท่านในเผ่ามา!”
ตอนนี้คนใหญ่คนโตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งหลายคนที่อยู่ใกล้แท่นบูชาล้วนเคลื่อนไหวแล้ว แผดเสียงคำรามด้วยความเดือดดาลแทบคลั่ง
“ทุกท่าน เศษเดนคีรีดวงกมลที่ถูกจักรพรรดิสวรรค์ดำรงประกาศจับปรากฏตัวแล้ว ขอสหายยุทธ์ทุกท่านร่วมต่อสู้กับตระกูลข่ง!”
จักรพรรดิสงครามเซวี่ยสิงที่มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เอ่ยเสียงขรึม สะท้อนก้องท้องนภา