Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2236 ลางสังหรณ์ไม่ดี
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2236 ลางสังหรณ์ไม่ดี
บนท้องฟ้าเหนือผิวทะเลที่คลื่นซัดสาด เต่าดำหนวดมังกรตัวสั่นงันงก หดหัวเข้ากระดองไม่เป็นสุข
บนหลังของมัน บรรยากาศในตำหนักกดดัน
หลินสวินนั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ก้มมองจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรที่ถูกกำราบกับพื้น แววตาเยียบเย็น ไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรกลับโกรธจนควันออกหู หน้าคล้ำเขียว สีหน้าเหมือนอยากกลืนกินหลินสวินทั้งเป็น
“ข้าแค่อยากรู้ว่าควรไปวังมังกรอย่างไรเท่านั้น ทำไมเจ้าต้องโมโหเช่นนี้ด้วย หรือหลายปีนี้อยู่สูงเหนือผู้อื่นจนเคยชิน พอถูกกระแทกตกลงมาเป็นคนธรรมดากะทันหันก็เลยยากจะรับได้”
หลินสวินกล่าวง่ายๆ “เอาอย่างนี้แล้วกัน หากไม่ใช่ว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าจะพูดไร้สาระกับเจ้า ช่วงชิงวิญญาณไปก็สิ้นเรื่อง!”
นัยน์ตาจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเต็มไปด้วยความโกรธและเคียดแค้น กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า “ข้าเป็นถึงเผ่าเจินหลงที่น่าเกรงขาม มีหรือจะยอมก้มหัวเช่นนี้ จะฆ่าจะแกงเจ้าก็ลงมือเลย! แต่ข้าไม่อาจไม่บอกเจ้า ไม่ว่าใครล่วงเกินเผ่าเจินหลงของข้า ย่อมถูกล้างเผ่าพันธุ์แน่!”
ล้างเผ่าพันธุ์!
เพียงสองคำ กลิ่นอายอำมหิตในคำพูดสามารถทำให้หมื่นเผ่าทั่วหล้าหนาวเยือกในใจ!
นี่ไม่ใช่คำพูดเพ้อเจ้อ แต่ด้วยอานุภาพดุจนายเหนือหัวที่สูงส่งไร้เทียมทานนั้นของเผ่าเจินหลง กลับมีรากฐานพลังเช่นนั้นอยู่จริงๆ
แต่น่าเสียดายที่สิ่งนี้ไม่ได้ผลกับหลินสวิน
เขาลุกขึ้นเดินมาอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรพลางกล่าว “ให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย อย่าบีบให้ข้าใช้กำลัง”
น้ำเสียงราบเรียบ เจือกลิ่นอายที่ไม่อาจขัดขืน
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรอดถากถางไม่ได้ “ถ้ากล้าเจ้าก็ลงมือสิ”
หลินสวินพยักหน้าพลางกล่าว “ต้าหวง เจ้าอยากชิมรสชาติของเนื้อเจินหลงมาตลอดไม่ใช่หรือ หนอนยักษ์เฒ่าตัวนี้ยกให้เจ้าจัดการแล้วกัน”
ยามเอ่ยวาจา เขาปล่อยต้าหวงออกมาจากเจดีย์ไร้สิ้นสุดแล้ว
“ฮี่ๆๆ…” แวบแรกที่เห็นจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทร ดวงตาต้าหวงวาววาบขึ้นมา หัวเราะอย่างร้ายกาจและตื่นเต้นหาใดเปรียบ น้ำลายไหลออกมาเป็นทาง
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรชะงักงันก่อน จากนั้นจึงตื่นตระหนก เขาสังเกตเห็นอย่างชัดเจน หมาขนทองตัวนี้น่ากลัวหาใดเปรียบ มีกลิ่นอายอันตรายถึงชีวิต
“เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่” จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรกัดฟันกล่าว ท่าทางสั่นคลอนอยู่บ้างแล้ว
ต้าหวงไม่พอใจทันที “เป็นถึงมหาจักรพรรดิเผ่าเจินหลงที่สูงส่งหาใดเปรียบ ขี้ขลาดเช่นนี้ได้อย่างไร มาๆๆ แสดงปณิธานของเจ้าออกมา ต้องยอมตายไม่ยอมแพ้นะ!”
มันยังรอกินเนื้อมังกร ชิมน้ำแกงมังกรอยู่!
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ในใจรู้สึกคับแค้นและอับอายหาใดเปรียบ ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ เขาเพิ่งเคยได้รับความอัปยศครั้งใหญ่เช่นนี้เป็นครั้งแรก เสียหน้าและศักดิ์ศรีไม่เหลือ!
ตอนนี้ถึงขั้นถูกหมาตัวหนึ่งมองเป็นข้าวในจาน!
“ข้าอยากรู้แค่สามเรื่อง ขอเพียงเจ้าตอบตามความจริง ข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากเกินไป”
หลินสวินเอ่ยปาก “พูดถึงเรื่องแรกก่อน ในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรตอนนั้น เกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นกันแน่”
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรหน้าพลันเปลี่ยนสี กล่าวอย่างระแวดระวัง “นี่เป็นความลับในเผ่าเจินหลงของข้า ทำไมเจ้าต้องสืบข่าวพวกนี้ด้วย”
หลินสวินกล่าว “ข้ากำลังถามเจ้าอยู่”
ป้าบ!
ต้าหวงตะปบอุ้งเท้าใส่ท้ายทอยจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทร “หนอนยักษ์เฒ่า ถ้าไม่ให้ความร่วมมือโดยดีอีก เชื่อไหมว่าข้าจะควักตับมังกรของเจ้าออกมา”
มันพูดพลางน้ำลายไหลเป็นประกาย ตับมังกร! นั่นเป็นถึง ‘อาหารเลิศรส’ ของฟ้าดินเชียวนะ!
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรถูกตบจนเบื้องหน้าพร่าเลือน พอเห็นท่าทางน้ำลายหกของต้าหวงอีกครั้งก็อับอายจนแทบคลั่งแล้วจริงๆ อยากจะเอาชีวิตเข้าแลกกับหมาขนทองตัวนี้แล้ว
แต่สุดท้ายเขายังอดกลั้นกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าไม่สามารถบอกอะไรได้ ต่อให้เจ้าชิงวิญญาณไปก็เปล่าประโยชน์แน่!”
สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว
หลินสวินขมวดคิ้ว เห็นชัดว่าความหมายในคำพูดของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรชัดเจนมาก หากถูกชิงวิญญาณไปจริง เขาก็มีวิธีขวางหลินสวินให้ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ
เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร ถึงกับทำให้ระดับจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่งมีท่าทีว่าจะยอมตายไม่ยอมบอกเรื่องภายในนั้นออกมา แค่คิดก็รู้แล้วว่าเหตุไม่คาดฝันนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่!
“อยากให้ข้าเล่นงานหนอนยักษ์เฒ่าตัวนี้สักหน่อยไหม” ต้าหวงขบฟันอยู่ด้านข้าง ท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือ
หลินสวินส่ายหัวแล้วถามต่อ “วังมังกรอยู่ที่ไหน”
ครั้งนี้จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรแค่ลังเลเล็กน้อยแล้วกัดฟันกล่าว “ถ้าไม่มีผู้แข็งแกร่งเผ่าข้ารอรับ ต่อให้เจ้ารู้ตำแหน่งที่ตั้งของเผ่าข้าก็ไม่อาจเข้าไปในนั้นได้แน่”
เขาเว้นช่วงไปก่อนเผยสีหน้าอึมครึม จับจ้องหลินสวิน “แน่นอนว่าหากเจ้ากล้ามุ่งหน้าไปจริง ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะบอกเจ้า”
บนโลกนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าวังมังกรเป็นอาณาเขตของพวกเขาเผ่าเจินหลง
ใครเล่าจะกล้าบุ่มบ่ามบุกเข้าไปในนั้น
ต่อให้เป็นบุคคลระดับจักรพรรดิก็คงไปแล้วกลับมาไม่ได้แน่!
“ว่ามา” หลินสวินไม่คิดมากความใดๆ กล่าวถามตามตรง
ที่ตั้งของวังมังกร แน่นอนว่าเป็นถ้ำพยัคฆ์วังมังกรในความหมายแท้จริง อันตรายและน่ากลัวหาใดเปรียบ แต่หลินสวินกลับมีเหตุผลที่ไม่อาจไม่ไปได้
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเงียบไปครู่หนึ่งจึงกล่าว “ข้านำทางให้เจ้าได้”
ป้าบ!
ต้าหวงตบท้ายทอยเขาอีกครั้งพลางกล่าวกับหลินสวิน “เจ้าเฒ่านี่ไม่เชื่อง หากให้เขานำทาง ขอเพียงพวกเราเข้าไปในวังมังกรนั่นต้องเกิดตัวแปรมากมายแน่ จากมุมมองของข้า ชิงวิญญาณเขามาให้หมดก็สิ้นเรื่อง!”
“ให้เขานำทางไปก็พอ”
หลินสวินทอดถอนใจ ตอนนี้เขายังไม่อาจระบุสถานการณ์ของจ้าวจิ่งเซวียนได้ว่าร้ายดี หากบุ่มบ่ามฆ่าบุคคลสำคัญในเผ่าที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับนางเช่นนี้ เกรงว่าคงไม่เหมาะ
เขาสูดหายใจลึกแล้วเอ่ยถาม “เรื่องที่สาม ช่วงนี้มีผู้หญิงชื่อเหยี่ยนซิงมาหาเผ่าเจินหลงของพวกเจ้าหรือไม่”
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรอึ้งไปสักพัก “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
หลินสวินกล่าว “นางมาจากฟากฝั่งฟ้าดารา”
นัยน์ตาจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรพลันหดรัด จากนั้นก็ส่ายหัว “เรื่องนี้ข้าบอกเจ้าอย่างมั่นใจได้เลยว่า เหยี่ยนซิงคนนี้ไม่ได้มาที่วังมังกร”
หลินสวินและต้าหวงสบตากันวูบหนึ่ง ล้วนขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
ตามที่ศิษย์พี่รองกล่าวมา เหยี่ยนซิงนี่เริ่มเคลื่อนไหวนานแล้ว ถ้ามาแดนเจินหลงนี่ ทำไมถึงตอนนี้แล้วยังไม่ไปอาณาเขตของเผ่าเจินหลงอีก
แต่นี่ก็นับว่าเป็นข่าวดีอย่างหนึ่ง ขอแค่เหยี่ยนซิงไม่มา ก็หมายความว่านางยังไม่ได้ ‘โลหิตสมบัติบรรพชนมังกร’ นั้นไป และย่อมไม่มีทางทำให้จอมจักรพรรดิไร้นามที่เหลือเพียงเสี้ยววิญญาณนั้นฟื้นตัวกลับมาได้แน่
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าขอถามสักประโยคได้หรือไม่ เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงยืนกรานจะมุ่งหน้าไปวังมังกรของเผ่าข้าด้วย” จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรพลันเอ่ยปาก
เขายากเข้าใจมากจริงๆ ในแดนเจินหลงมีผู้แข็งแกร่งคนไหนกล้าบังอาจเช่นนี้บ้าง ไม่กลัวถูกล้างเผ่าพันธุ์หรือ
แต่หนึ่งคนหนึ่งหมาตรงหน้านี้กลับไม่หวั่นเกรงอะไรเลย นี่ทำให้จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรรู้สึกคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง
“ข้าชื่อหลินสวิน” หลินสวินสะกิดใจ ยามบอกชื่อตนก็จับจ้องอาการของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเขม็ง
จริงดังคาด เมื่อได้ยินชื่อนี้นัยน์ตาของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรพลันหดรัด หน้าเปลี่ยนสีคล้ายยากจะเชื่อ
ไม่จำเป็นต้องให้หลินสวินถาม เขาก็ร้องเสียงหลงออกมาแล้ว “เป็นไปไม่ได้ หลายปีก่อนเผ่าข้าทำลายเส้นทางที่เชื่อมต่อทางเดินโบราณฟ้าดาราแล้ว หนทางถูกตัดขาดชั่วนิรันดร์ เจ้า… มาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
ประโยคเดียวทำให้หลินสวินใจสะท้านปั่นป่วน บีบคอจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรแล้วยกตัวเขาขึ้นมาทันที แววตาเยียบเย็นจนน่ากลัว กล่าวชัดทีละคำ
“พวกเจ้าตัดทางระหว่างแดนเจินหลงกับทางเดินโบราณฟ้าดารา เพื่อขวางไม่ให้ข้าหลินสวินมารึ”
เวลานี้ต้าหวงก็ตระหนักได้ว่าเรื่องราวไม่เข้าทีอยู่บ้างแล้ว!
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรถูกบีบคอจนหายใจลำบาก เขาก็รู้ว่าเมื่อครู่ได้เผยความลับที่ไม่ควรกล่าวออกมาแล้ว
แต่เขาไม่ตื่นตระหนก กลับหัวเราะเหี้ยมเกรียมกล่าว “หลินสวิน ฮ่าๆ เจ้าก็คือสวะเผ่ามนุษย์คนนั้นที่ทำให้ธิดามังกรสายตรงของเผ่าข้าแปดเปื้อน! ลู่ป๋อหยาล่ะ ทำไมเฒ่าสวะนี่ไม่มาพร้อมกับเจ้าด้วย”
ตึง!
หลินสวินเหวี่ยงเขาลงกับพื้น กล่าวด้วยสีหน้าอึมครึม “ดูท่าว่าเผ่าเจินหลงของพวกเจ้าจะรู้ถึงการมีอยู่ของข้าคนแซ่หลินนานแล้ว ซ้ำยัง… มองข้าเป็นศัตรูด้วย…”
พริบตานี้ผลลัพธ์ที่ใจเขาไม่อยากเห็นที่สุด สุดท้ายก็พิสูจน์แล้ว เผ่าเจินหลงมีเจตนาเป็นศัตรูกับเขาหลินสวินอย่างเต็มเปี่ยม!
และนี่ก็เป็นเพราะความสัมพันธ์ของข้ากับจิ่งเซวียน!
หลินสวินนึกถึงอิ๋นฮวนที่ถูกอ๋าวเสวียนเฟิงองค์ชายสี่แห่งเผ่าเจินหลงขับไล่อย่างอัปยศขึ้นมา เพียงชั่วขณะก็เปลี่ยนเป็นหนักใจ
เขารู้ว่านับจากนี้ไป เขาไม่อาจไม่คิดจะทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้ว!
“บดขยี้หนอนยักษ์เฒ่าตัวนี้แล้วชิงพลังจิตของมันมาดีไหม” ต้าหวงก็สังเกตเห็นว่าจิตใจของหลินสวินไม่ถูกต้องอยู่บ้าง น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นกระเหี้ยนกระหือรือ
“ฮ่าๆๆ สังหารข้าแล้วพวกเจ้าคงได้แต่ตายอนาถ!”
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรหัวเราะเหี้ยมเกรียม “หลินสวินหนอหลินสวิน เจ้าไม่ควรมาจริงๆ เจ้ารู้ไหมว่านับตั้งแต่งานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรนั้นปิดฉาก คนที่เผ่าเจินหลงของข้าอยากสังหารที่สุดก็คือสวะเผ่ามนุษย์อย่างเจ้า หากไม่ใช่ว่าด้วย… สาเหตุบางอย่าง เผ่าข้าคงบุกทางเดินโบราณฟ้าดาราไปสับเจ้าเป็นหมื่นท่อนนานแล้ว!”
“เจ้าเฒ่าระยำนี่ตกอยู่ในสภาพนี้แล้วยังจองหองเช่นนี้อีก รนหาที่ตายใช่ไหม!”
ต้าหวงโกรธจนสะบัดอุ้งเท้าใส่จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรอย่างดุดันทันที เสียงตบดังกังวาน ตบจนเขาจมูกเขียวหน้าบวม เลือดกบจมูกปากฟันร่วงหลุด หัวสมองเบลอไปหมด
เวลานี้หลินสวินเหมือนคาดเดาอะไรได้ กล่าวด้วยสีหน้าเยียบเย็น “ถ้าเช่นนั้น เหตุไม่คาดฝันครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรนั่นเกี่ยวข้องกับจิ่งเซวียนสินะ”
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรพลันปิดปากแต่ยิ้มหยัน ทำท่าเหมือนเจ้าอยากรู้หรือ ข้าไม่บอกเจ้าหรอก
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้ตัวเองใจเย็นลงแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าไม่บอกก็ไม่เห็นเป็นไร รอข้ามุ่งหน้าไปวังมังกรแล้ว ความจริงทั้งหมดย่อมกระจ่าง”
“เจ้านี่รนหาที่ตาย! ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะรีบไปหาที่ตายโดยเร็ว!” จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรแหกปากหัวเราะลั่น ใบหน้าเขาบวมเป่งหลั่งเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูวิกลจริตอยู่บ้าง
“ไม่ฆ่าเจ้าเฒ่านี่จริงหรือ” ต้าหวงอดกล่าวไม่ได้
“ให้เขานำทาง”
หลินสวินสูดหายใจลึกแล้วตัดสินใจ ‘ต้าหวง เจ้ากับซีและซย่าจื้อเตรียมตัวให้พร้อม หลังจากเข้าไปในวังมังกรนั่นแล้วบางทีอาจเกิดการปะทะขึ้น’
ต้าหวงพยักหน้า แม้ว่ามันจะจองหองหาใดเปรียบ แต่ก็รู้ดีว่าคราวนี้ต้องมีอันตรายครั้งใหญ่มาพร้อมกันแน่ จำเป็นต้องเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรยังคงยิ้มหยัน ที่ตั้งของวังมังกรไม่มีใครสั่นคลอนได้ตั้งแต่ยุคบรรพกาล จากมุมมองเขา คราวนี้พวกหลินสวินล้วนพาตัวเองไปตายเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟชัดๆ!
ไม่ทันไรเต่าดำหนวดมังกรตัวมหึมาก็ทะยานสู่ฟากฟ้า เคลื่อนย้ายไปทางมหาสมุทรที่ห่างไกลแล้วค่อยๆ หายไปจากฟ้าดิน