Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2304 จักรพรรดิเต้ายวนที่ถูกประเมินต่ำไป
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2304 จักรพรรดิเต้ายวนที่ถูกประเมินต่ำไป
สายตาต้าหวงพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา
“จักรพรรดิสงครามคำรน เจ้าถึงกับใจกล้าออกมา ไม่รู้หรือว่าเจ้านายของเจ้าประสบเคราะห์อยู่ในแหล่งสถานคุนหลุนแล้ว”
ชายสีหน้าเหี้ยมเกรียมคนหนึ่งเอ่ยปาก เผยแววเย้ยหยัน
คนไม่น้อยเผยแววตาได้ใจ หอวิหคทองแดงในตอนนี้ไม่มีเจ้าหอวิหคทองแดงบัญชาการ ตกต่ำเสื่อมโทรมไปนานแล้ว
จักรพรรดิสงครามคำรนคนเดียวเท่านั้น ก่อคลื่นลมอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
“ทุกท่านว่าถ้าตอนนี้พวกเราสู้กับจักรพรรดิสงครามคำรน จะไม่ใช่เรียกว่า… อัดหมาตกกระป๋องหรือ” ผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะเสียงเย้ายวน ดึงดูดเสียงหัวเราะเกรียวกราวขึ้นมาไม่น้อย
แต่คนจำนวนมากกว่ากลับกำลังประเมินหลินสวิน!
จักรพรรดิเต้ายวน!
ใครจะลืมว่าตอนนั้นเจ้าหนุ่มนี่เคยบรรลุมกุฎจักรพรรดิในแดนปรินิพพาน ทั้งยังชิงศุภโชคชิ้นใหญ่ที่สุดไป
เคราะห์จ่อมจมชั่วกัปกัลป์ หนึ่งบัวเบ่งบาน!
ทั่วหล้าฟ้าดาราในสามปีมานี้ มีขุมอำนาจใหญ่ไม่รู้เท่าไรควานหาคนที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบหนึ่งแสนปีผู้นี้อย่างกับเสียสติ
บ้างเพื่อแก้แค้น บ้างเพื่อชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเขา
แต่น่าเสียดาย สามปีมานี้เขาเหมือนระเหยหายไปจากโลก ไม่เผยร่องรอยให้เห็นอีก
แต่ตอนนี้เขากลับปรากฏตัวหน้ามหาสมุทรเลือดไร้สงบแห่งนี้!
ชั่วขณะเดียวสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไรผุดความคิดต่างกันออกไป
“ทุกท่านระวังไว้ ตอนนี้จักรพรรดิเต้ายวนมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสามแล้ว ด้วยศุภโชคชั้นยอดชิ้นนั้น เกรงว่าจะสามารถสังหารระดับจักรพรรดิขั้นห้าได้”
ภิกษุเฒ่าระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์ที่สีหน้าแข็งกระด้าง ท่าท่างเคร่งขรึม สวมจีวรดำคนหนึ่งเอ่ยปากเสียงเรียบ ทำให้หลายคนนัยน์ตาหดรัด
เกือบแสนปีมานี้หลินสวินเป็นมกุฎจักรพรรดิคนแรก ดึงดูดผู้คนทั่วหล้าให้จับตามองเหมือนตัวประหลาด
เรื่องที่ว่าพลังต่อสู้ของมกุฎมหาจักรพรรดิแข็งแกร่งเพียงไหนกันแน่ ถึงกับชักนำให้เกิดการถกเถียงอย่างร้อนแรงในใต้หล้า แต่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจให้คำตอบที่ถูกต้องได้
ถึงอย่างไรผู้ที่ได้ประจักษ์อานุภาพของมกุฎมหาจักรพรรดิอย่างแท้จริงบนโลกนี้ก็มีน้อยยิ่งนัก และคนที่บรรลุเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิได้ ในแสนปีนี้ก็มีหลินสวินเพียงคนเดียว
แต่ทุกคนมั่นใจมากว่ามกุฎมหาจักรพรรดินั้นน่ากลัว สามารถเรียกได้ว่าไร้ศัตรูในระดับเดียวกัน ทั้งยังข้ามขั้นไปสังหารผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนได้!
ดังนั้นคำที่ภิกษุเฒ่าระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์ผู้นั้นเอ่ยเตือนจึงไม่มีใครกล้ากังขา
ที่น่าเสียดายก็คือ แม้พวกเขาจะไม่มองหลินสวินเป็นพวกทั่วๆ ไป แต่ก็ยังยึดติดกับการรับรู้ของตัวเองอยู่ดี ไม่อาจรู้สักนิดว่าตอนนี้จักรพรรดิเต้ายวนตรงหน้ามีพลังต่อสู้น่ากลัวเพียงไหน
“เอาอย่างนี้เป็นอย่างไร ทุ่มพลังทั้งหมดไปฆ่าหมาชั่วตัวนั้นก่อน แล้วค่อยประมือกับหลินเต้ายวน” มีคนเสนอ หมายใจจะลงมือเต็มแก่
“ได้”
“ก็ดี ภัยคุกคามของจักรพรรดิสงครามคำรนนี่ใหญ่ที่สุด จะดูเบาไม่ได้”
ฟังถึงตรงนี้ต้าหวงที่ไม่เอ่ยปากมาตลอดก็โมโหจัด แยกเขี้ยวขาวน่าสะพรึงทั้งปาก “เจ้าหนู เจ้าพวกนี้ฝากเจ้าจัดการแล้ว ข้าจะรีบไปดูที่แดนอำพรางเสียหน่อย”
เสียงต่ำลึก เห็นได้ชัดว่ากำลังข่มไอสังหารในใจเต็มกำลัง
ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นต่างอึ้งไป เกือบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง ให้หลินเต้ายวนคนเดียวมาต่อกรพวกเขาทุกคนหรือ
หมาชั่วนี้ไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหม!
แต่กลับพบว่าหลินสวินพยักหน้าเอ่ยว่า “เจ้ารีบไปเถอะ ไม่ต้องมาเสียเวลาอีก”
ระดับจักรพรรดิสิบกว่าคน อยู่ในโลกมืดล้วนสามารถผยองได้
แต่สำหรับหลินสวินกับต้าหวงที่เคยก่อเรื่องใหญ่ที่วังมังกร สู้ศึกใหญ่กับเผ่าเสือขาวและเต่าดำมาแล้ว กำลังคนเช่นนี้…
ไม่ควรค่าให้มองจริงๆ!
สวบ!
ต้าหวงหมนุตัวเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ พุ่งไปยังส่วนลึกของมหาสมุทรเลือดไร้สงบ
“คิดจะไปหรือ ทิ้งชีวิตเอาไว้ก่อน!”
เสียงตวาดลั่นดังขึ้น สัตว์ประหลาดเฒ่าสองสามคนลงมือพร้อมกัน เรียกศาตราจักรพรรดิออกมาโจมตีใส่ต้าหวง เปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้โดยสมบูรณ์
ตูม!
ฟ้าดินพลิกคว่ำ ชายฝั่งมหาสมุทรในรัศมีสามพันลี้ระเบิดออกทันที น้ำทะเลม้วนกลับพวยพุ่ง แสงเทพแสงมรรคถั่งโถม ประหนึ่งน้ำจากธารดาราควบแน่นม้วนตลบลงมา
หลินสวินไม่ได้ลงมือช่วย ด้วยอานุภาพของต้าหวง พลังเช่นนี้ไม่อาจขัดขวางย่างก้าวของมันไม่ให้จากไปได้สักนิด
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าหลินสวินจะไม่ทำอะไรเลย
ชิ้ง!
กระบี่ครวญดุจกระแสธารดังก้องห้วงฟ้า
เตากระบี่ปรากฏ ปลดปล่อยแสงเทพมากมาย ฉายส่องผืนฟ้าและมหาสมุทรแห่งนี้ สิ่งที่เร็วกว่าทุกอย่างนี้ก็คือกระบี่มรรคที่ฟันสังหารออกมา
กระบี่มรรคไพศาล โอบล้อมด้วยเพลิงหงส์ระเบียบสีม่วง พริบไหวเบาๆ ในห้วงอากาศ
ฟุบ!
ระดับจักรพรรดิขั้นสามที่อยู่ใกล้หลินสวินที่สุดคนหนึ่งถูกสังหารคาที่ ปราณกระบี่แผ่พุ่งเหิมเกริม ในพริบตานั้นก็ทำให้ศพของคนผู้นี้ระเหยไปในอากาศ ตายชนิดไม่เหลือแม้แต่ซาก
ทั้งที่นั่นพลันหวาดผวา ระส่ำระสายไปทั้งแถบ สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิมากมายหน้าเปลี่ยนสี
ชั่วพริบตา กำราบหนึ่งจักรพรรดิ!
ภาพนองเลือดนี้ทำให้พวกเขาไม่กล้าวอกแวกไปสนใจต้าหวงที่พุ่งตัวจากไปก่อนนั้นอีก ต่างกระตุ้นพลังของตัวเอง เรียกศาตราจักรพรรดิออกมา จิตรับรู้ไพศาลจับจ้องที่หลินสวินเพียงผู้เดียว
“จักรพรรดิเต้ายวน เจ้าเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิหนึ่งเดียวในโลกนี้ ถ้ายอมแพ้เสียตรงนี้มาพึ่งพิงแดนกษิติครรภ์ของข้า คราวนี้จะไว้ชีวิตให้เจ้าก็ได้”
ภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์คนหนึ่งเอ่ยเสียงขรึม ขณะที่พูดแสงธรรมสีดำไร้สิ้นสุดผุดออกมาจากร่างกาย รวมกันเป็นดอกบัวใหญ่สีดำแปลกประหลาดดอกแล้วดอกเล่าร่วงหล่นอยู่รอบกายเขา
และในฝ่ามือเขาอุ้มบาตรดำหม่นไร้แสงลูกหนึ่งไว้ มีพลังกฎเกณฑ์แรกกำเนิดอบอวลอยู่ในนั้น พาให้ผู้คนครั่นคร้าม
หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ “ลาหัวโล้น วันหน้าข้าคนแซ่หลินจะไปเยือนแดนกษิติครรภ์ด้วยตัวเองสักหน ตัดสิ้นแค้นเลือดในอดีต!”
ชิ้ง!
กระบี่มรรคขับขานเสียงใส ฟันเข้าไปอย่างฉับไว กรีดท้องนภาเป็นรอยแยกน่าตระหนกรอยหนึ่ง
อานุภาพกระบี่ที่เรืองรองเช่นนั้นทำให้ภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์หวาดหวั่นอย่างอดไม่ได้ รับรู้ได้ถึงอันตราย ลงมือเต็มกำลังโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ตูม!
ดอกบัวใหญ่สีดำนับร้อยพันพุ่งผ่านอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยมหาปัญญาและมหาอานุภาพกำราบจักรวาล มิอาจสั่นคลอนได้
โลกกรรมบัวดำ!
มรดกคัมภีร์จักรพรรดิชั้นสูงวิชาหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ บัวดำดุจกรรม รวมตัวกันเป็นโลก ราวกับพระพุทธกำราบมาร สามารถกักขังสังหารมารร้ายทั้งปวงได้
ถึงกระนั้นภายใต้กระบี่นี้ของหลินสวิน โลกกรรมที่รวมตัวขึ้นจากดอกบัวสีดำนับหมื่นพันนั้นล้วนถูกฟันขาดตรงๆ เกิดเป็นเสียงระเบิดกึกก้องสนั่นหู ละอองแสงนับไม่ถ้วนสาดกระเซ็น ม้วนตลบไปสิบทิศ
อานุภาพของกระบี่นี้น่าตกตะลึงจนภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์ผู้นั้นหน้าเปลี่ยนสีอย่างสิ้นเชิง ร่างกายสั่นสะท้าน กระตุ้นบาตรในมือเหมือนทุ่มสุดชีวิต
“ไป!”
บาตรทะยานห้วงอากาศ กระแสแสงธรรมคล้ายพลังแรกกำเนิดไหลหลั่งมาจากบาตรนั้น เกรียงไกรไพศาล อัดแน่นกลางจักรวาลภูผาธารา
แต่ทั้งหมดนี้ต่างพังพินาศไปภายใต้หนึ่งกระบี่ที่ฟันลงมานั้น ดับสิ้นสูญสลาย ไม่อาจต้านทานได้โดยสิ้นเชิง
“แย่แล้ว!”
ยามภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์ตกใจ หมายจะหลบเลี่ยง กระบี่มรรคที่ฟันมานั้นก็บดขยี้ห้วงอากาศ กลบเงาร่างเขาจนมิดภายใต้เสียงกัมปนาทอันน่าสะพรึงแล้ว
ปังๆๆ!
ก็เห็นร่างจักรพรรดิที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าของภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์คนนั้น กลับแตกสลายทุกกระเบียดเหมือนกระจกที่แตกหักง่าย จิตสิ้นวิญญาณสลายในชั่วพริบตา!
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงชั่วอึดใจ ภิกษุเฒ่าแดนกษิติครรภ์ซึ่งมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดผู้หนึ่ง ถูกสังหารในหนึ่งกระบี่
ภาพนองเลือดที่ดุดันอหังการเช่นนั้นทำให้ทั้งที่นั้นมีเสียงร้องตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง ต่างตกตะลึงหน้าเปลี่ยนสี จิตใจสั่นระรัว
ก่อนหน้านี้ภิกษุเฒ่าผู้นี้ได้เตือนทุกคนว่าอย่าดูถูกหลินสวิน คิดว่าด้วยพลังต่อสู้ระดับมกุฎมหาจักรพรรดิของหลินสวินนั้น เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะสามารถสังหารระดับจักรวรรดิขั้นห้าได้
แต่ตอนนี้ทุกคนกลับพบว่าคำเตือนของภิกษุเฒ่านั้นไม่ได้ผิด สิ่งเดียวที่ผิดไปอาจจะเป็น ความเข้าใจเกี่ยวกับมกุฎมหาจักรพรรดิของเขายังคงห่างชั้นยิ่งยวด!
“ฆ่า!”
“รีบลงมือพร้อมกันเร็ว!”
เสียงตะโกนลั่นดั่งอสนีบาต ระดับจักรพรรดิที่มาจากแดนกษิติครรภ์กับสำนักโบราณจรัสเทพสิบกว่าคน ณ ที่นั้นต่างลงมือเต็มกำลัง ไม่กล้ายั้งมือสักนิด
โดยเฉพาะระดับจักรพรรดิขั้นแปดสองคนซึ่งเป็นผู้นำ คนหนึ่งคือจักรพรรดิกระบี่เทียนฉง อีกคนคือจักรพรรดิธรรมเทียนตู เป็นพวกน่ากลัวที่จัดว่าเป็น ‘สามยอดนักฆ่า’ มานานแล้ว
ในขณะนี้ต่างมีสีหน้าคร่ำเคร่ง ออกโจมตีเต็มกำลัง
ตูม!
ชั่วขณะเดียวที่นี่มีแสงมรรคปกคลุม สมบัติจักรพรรดิคำราม คลื่นพลังปั่นป่วนถาโถมทำลายล้างแผ่กระจาย ทำเอาฟ้าดินแห่งนี้อับแสง ห้วงอากาศครวญคร่ำ สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดน่าหวาดหวั่นชวนตกตะลึงต่างๆ นานา
ถึงขั้นที่เมืองมากมายซึ่งกระจายตัวอยู่ในแคว้นพาดประจิม และอยู่ห่างจากมหาสมุทรเลือดไร้สงบหลายหมื่นลี้ยังสะเทือน ทำให้ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนตื่นตกใจตัวสั่นระริก
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นศึกจักรพรรดิ!
จะธรรมดาสามัญได้หรือ
และก็เป็นในการล้อมโจมตีนี้ หลินสวินสำแดงการสังหารที่เรียกได้ว่าดุดัน นองเลือด และอหังการ
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
กระบี่มรรคดุจสายฟ้า ดั่งเปลวเพลิง ประหนึ่งภาพฝัน สำแดงยอดมรรคกระบี่ออกมาถึงขีดสุด เจตกระบี่ที่ปลดปล่อยออกมา เบื้องบนเชื่อมเก้าชั้นฟ้า เบื้องล่างแตะสิบแผ่นดิน พาดขางตัดสลับ กรีดทึ้งเวิ้งฟ้า
ทุกครั้งที่กระบี่ฟันลงมาล้วนอานุภาพดุจไร้ศัตรู ความเจิดจ้าบาดตาเพียงนั้น สร้างความสะท้านสะเทือนถ้วนทั่ว
และภายใต้การโจมตีระดับนี้ สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิคนแล้วคนเล่าก็ถูกฟันสังหารเหมือนตุ๊กตากระเบื้องอันเปราะบาง
ไม่ใช่เพราะพวกเขาแข็งแกร่งไม่พอ แต่เป็นเพราะปราณกระบี่นี้อหังการเด็ดขาดเกินไป!
ส่วนศาสตราจักรพรรดิและวิชามรรคที่โจมตีใส่หลินสวินเหล่านั้น… ต่างพากันสลายสิ้นอยู่หน้าเตากระบี่ราวกับฟองสบู่
ภาพนั้นเปรียบดั่งปราการสวรรค์พาดขวาง ไม่มีจุดอ่อนให้โจมตี ไม่อาจสั่นคลอน!
เพียงชั่วครู่สั้นๆ
ในที่นั้นมีแสงเลือดแผ่พุ่งเหมือนจุดประทัด แปดคนถูกสังหารคาที่ แต่ละคนต่างถูกปลิดชีพอย่างไร้ปรานี ตายอนาถอยู่ภายใต้กระแสปราณกระบี่อันเกรียงไกร ไม่เหลือแม้ซาก มรรคสลายร่างวอดวาย!
ภาพที่กวาดล้างไร้ศัตรู ทำลายสิ้นทุกอย่างเช่นนี้ ทำให้จักรพรรดิกระบี่เทียนฉงและจักรพรรดิธรรมเทียนตูต่างตกตะลึงยิ่งยวด
ตั้งแต่แรกพวกเขาก็ไม่ได้ดูถูกมกุฎมหาจักรพรรดิอย่างหลินสวิน แต่เมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้นจริงๆ พวกเขาถึงได้รู้ว่า การ ‘ประเมินไว้สูง’ ของตน ความจริงแล้วต่างกันไกลยิ่งนัก พูดได้เพียงว่าประเมินต่ำไปไกล!
“ฟัน!”
หลินสวินในตอนนี้ผมยาวปลิวสยาย แขนเสื้อโบกพลิ้ว แสงเทพมหามรรคอันโชติช่วงสะดุดตาโอบล้อมไปทั้งตัว อานุภาพอหังการบังฟ้ากลบสุริยัน ประหนึ่งนายเหนือหัวในหมู่จักรพรรดิ สำแดงฤทธิ์ในโลกา
พรูดๆๆ!
เลือดจักรพรรดิแดงสดย้อมนภาคราม ไม่นานนักที่นั่นก็เหลือเพียงสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่กี่คนยืนหยัดอย่างยากลำบาก
พวกเขาเหมือนคลุ้มคลั่ง ทุ่มพลังทั้งหมดที่มี ใช้วิธีทุกอย่าง แต่ก็ล้วนเสียเปล่า ถูกหลินสวินบดขยี้โดยสมบูรณ์เช่นเคย!
พวกเขาลองหนีเช่นกัน แต่กลับพบอย่างน่าพรั่นพรึงว่าฟ้าดินแถบนี้ถูกอานุภาพของหลินสวินปกคลุมและผนึกไว้แน่นหนาแล้ว ทำเอาพวกเขารู้สึกสิ้นหวัง จะหนีก็ไม่ได้ จะหลบก็ไม่พ้น
ตูม!
ปราณกระบี่น่าพรั่นพรึง ไพศาลดั่งมหาสมุทร
ไม่ทันไรจักรพรรดิกระบี่เทียนฉงที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปดก็ถูกหนึ่งกระบี่ฟาดฟัน กระบี่จักรพรรดิบริสุทธิ์ของเขายังหักสะบั้นเสียงดังสนั่นหู จากนั้นหล่นลงไปกับพื้น
จักรพรรดิกระบี่ซึ่งเป็น ‘สามยอดนักฆ่า’ ผู้นี้ ตอนนั้นยังเคยหมายจะฆ่าหลินสวินที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิในโลกมืด
ตอนนั้นในสายตาเขา หลินสวินก็เหมือนมด สามารถมองข้ามได้โดยสิ้นเชิง
แต่ตอนนี้ผ่านไปไม่เท่าไร มรรคกระบี่ที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด ถูกหลินสวินทำลายลงในกระบี่เดียว!
และยามนี้ ณ ที่นั้นก็เหลือจักรพรรดิธรรมเทียนตูเพียงผู้เดียว
——