Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2523 คำเชิญชวนของยักษ์ใหญ่
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2523 คำเชิญชวนของยักษ์ใหญ่
ในที่นี้มีสายตาที่หมายสังหารหลินสวินไม่น้อย โดยเฉพาะเฒ่าชราผมเงินนั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบอยากจะหั่นหลินสวินเป็นชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนี้
แต่ที่นี่คือเมืองจรดฟ้า มีเฮ่าเทียนวิญญาณระเบียบอยู่ จึงไม่มีใครกล้าลงมือโดยพลการ
แม้มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะก็ไม่กล้า!
ดังนั้นแม้พวกเขาจะเดือดดาลเพียงใดก็ทำได้เพียงอดทนไว้ สีหน้าไม่น่ามองย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หลินสวินที่อยู่หน้าศิลาศึกข้ามแดนไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ตั้งแต่ตอนอยู่เมืองยอดยุทธ์ เขาทดสอบครั้งแรกก็ฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับ ชักนำปรากฏการณ์ประหลาดที่หายาก สร้างความฮือฮาไปทั่ว
ตอนนั้นอันดับของเขาคือเก้าร้อยสิบแปด พอจะเบียดตัวขึ้นเป็นหนึ่งพันอันดับแรกได้
เหตุผลคือ ตอนนั้นเขาขัดขวางการตรวจสอบชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของศิลาศึกข้ามแดน เมื่อขาดพรสวรรค์ไป ทำให้อันดับดูต่ำไปหน่อย
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นก็สร้างความสะท้านสะเทือนไม่รู้เท่าไรในเมืองยอดยุทธ์
และยามทดสอบหน้าศิลาศึกข้ามแดนแห่งที่สองในด่านนภาอมตะที่สิบแปด อันดับของเขาพัฒนาไปที่เจ็ดร้อยสามสิบหกแล้ว
ตอนที่ทดสอบหน้าศิลาศึกข้ามแดนแห่งที่สามในด่านนภาอมตะที่ยี่สิบสี่ อันดับพัฒนาไปที่ห้าร้อยสิบเจ็ด
เขาในตอนนั้นก้าวย่างมาอย่างยากลำบากเช่นนี้ ทดสอบหน้าศิลาศึกข้ามแดนที่สี่ ห้า หก… มาตลอดทาง อันดับก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งหลังจากทดสอบหน้าศิลาศึกข้ามแดนหลักที่แปดในด่านนภาอมตะที่สี่สิบสอง อันดับของเขาก็เบียดไปอยู่ในร้อยอันดับแรกแล้ว!
เป็นอันดับที่แปดสิบเอ็ด!
แน่นอนว่าทุกครั้งที่ทดสอบจัดอันดับ หลินสวินล้วนปิดกั้นการตรวจสอบชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของศิลาศึกข้ามแดน ไม่เช่นนั้นอันดับย่อมไม่เป็นเช่นนี้แน่
อันที่จริงสามารถเบียดมาอยู่ในร้อยอันดับแรกของกระดานเร้นลับได้ก็เป็นเรื่องที่สะเทือนอดีตปัจจุบัน เกริกก้องทั่วหล้าแล้ว
เพราะอิงตามการอนุมานของคนบนโลก พันหมื่นปีก็ใช่ว่าจะปรากฏบุคคลที่พุ่งขึ้นร้อยอันดับแรกในกระดานเร้นลับได้
บุคคลที่เลิศล้ำเช่นนี้ เมื่อปรากฏตัวย่อมถึงขั้นทำให้ยักษ์ใหญ่อมตะของน่านฟ้าที่แปดแตกตื่น มาแย่งชิงและเชิญตัวเข้าตระกูลด้วยตัวเอง!
นี่ไม่ได้กล่าวเกินจริง
สามกระดานของศิลาศึกข้ามแดน เพียงแค่ประตูของกระดานปฐพี ยังสามารถขวางระดับมหาจักรพรรดิได้ไม่รู้เท่าไร
ส่วนกระดานนภา คืออันดับที่มกุฎมหาจักรพรรดิแย่งชิง มหาจักรพรรดิทั่วไปน้อยมากที่จะฝากชื่อบนนั้นได้
สำหรับกระดานเร้นลับ…
นั่นเป็นอันดับที่ยอดผู้กล้าบนมกุฎมรรคาเท่านั้นที่สามารถแย่งชิงได้ เป็นที่ที่มกุฎมหาจักรพรรดิหนึ่งในหมื่นยังไม่สามารถฝากชื่อไว้
จากเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าอันดับของหลินสวินในตอนนี้ไม่ธรรมดาเพียงใด
ทว่านี่เป็นเพียงแค่อันดับก่อนหน้านี้เท่านั้น
และตอนนี้หลินสวินตัดสินใจจะทดสอบสักหน่อย ว่าครั้งนี้อันดับบนกระดานเร้นลับของตนจะพัฒนาไปเท่าไร
วู้ม…
ตอนที่เงาร่างของเขายืนอยู่หน้าศิลาศึกข้ามแดน คลื่นแปลกประหลาดที่งดงามสะดุดตาพรั่งพรูลงจากศิลาศึกข้ามแดนราวกับกระแสน้ำ พื้นที่แถบนี้ถูกย้อมเป็นสีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามเรืองรอง
ส่วนเงาร่างของหลินสวินถูกประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลรินนั่นท่วมไปหมดแล้ว
ทุกคนบริเวณนั้นอดสูดหายใจสะท้านไหวไม่ได้ ตกใจกับภาพนี้
“ตอนนี้เขา… คงไม่ใช่เบียดตัวขึ้นไปอยู่ในห้าร้อยอันดับแรกแล้วหรอกกระมัง” มีคนพูดอย่างประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยได้ยินมาแล้วว่า หลินสวินที่ร้ายกาจยิ่งยวดคนนี้เคยสร้างปาฏิหาริย์ในเมืองยอดยุทธ์ ฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับที่สูงส่งศักดิ์สิทธิ์ได้ในคราเดียว
แต่เขาอยู่อันดับที่เท่าไหร่กันแน่กลับไม่มีใครรู้
เพราะอันดับบนศิลาศึกข้ามแดน มีเพียงผู้ทดสอบเท่านั้นที่สามารถเห็นได้
ทว่าแม้มองไม่เห็น แต่กลับสามารถคาดเดาอันดับคร่าวๆ ได้จากเบาะแสบางอย่าง
อย่างเช่น เทียบกับบุคคลแข็งแกร่งบางส่วนที่เคยมีชื่อบนกระดานเร้นลับก่อนหน้านี้
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ความสูงต่ำของอันดับชักนำปรากฏการณ์ประหลาดที่แตกต่างกัน
“ห้าร้อยอันดับแรกหรือ เป็นไปไม่ได้ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดก่อนหน้านี้เคยมีมหาจักรพรรดิขั้นแปดขั้นสมบูรณ์ที่โดดเด่นคนหนึ่ง อยู่ในอันดับที่สองร้อยเจ็ดสิบของกระดานเร้นลับ แต่ปรากฏการณ์ที่ชำนำมาในตอนนั้นยังไม่น่าตกใจเหมือนตอนนี้”
มีผู้เฒ่าพูดเสียงเบา สีหน้าเผยอาการสะท้านไหว
“นี่ไม่ใช่หมายความว่า อันดับของหลินสวินเป็นไปได้สูงมากว่าจะอยู่เหนืออันดับสองร้อยเจ็ดสิบขึ้นไป”
ในที่นั้นฮือฮา สีหน้าของแต่ละคนล้วนเปลี่ยนไป
“ไม่ มีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่หนึ่งร้อยอันดับแรก!”
ทันใดนั้นเสียงที่ทรงพลังเฉียบขาดดังขึ้น
ทุกคนหันมองไป ก็เห็นชายตัวสูงใหญ่ที่ผมหนวดดุจง้าว ยุ่งเหยิงไปหมด แววตากลับคบกริบดั่งสายฟ้า ไม่รู้ปรากฏตัวตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาสวมชุดผ้าป่านแขนกว้าง รูปร่างสูงใหญ่ดุจภูเขา ทุกอิริยาบถประหนึ่งเทพที่ควบคุมสุริยันจันทราภูผาธารา ยิ่งใหญ่อหังการ
หลิ่วเซียงเชวีย!
ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหลิ่วเซียงน่านฟ้าที่เจ็ด ฐานะไม่ด้อยกว่าเฒ่าชราผมเงินที่มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหนานด้วยซ้ำ
ในใจทุกคนสะท้านสะเทือน คำพูดของหลิ่วเซียงเชวียทำให้พวกเขาหนังหัวชาวาบเล็กน้อย ร้อยอันดับแรกหรือ
มรรควิถีของหลินสวินคนนี้จะเย้ยฟ้าเกินไปแล้ว!
แม้เป็นคนตระกูลหนานเหล่านั้น ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย พวกเขามาจากน่านฟ้าที่เจ็ด เข้าใจอันดับของศิลาศึกข้ามแดนเป็นอย่างดี
จึงรู้ดีที่สุดว่าการที่สามารถเข้าไปเป็นหนึ่งร้อยอันดับแรกบนกระดานเร้นลับได้ มีความหมายว่าอย่างไร!
“ท่านลุง หยุดสร้างความแค้นให้เขาได้แล้ว”
ข้างๆ หลิ่วเซียงเชวียที่เงาร่างสูงใหญ่ยังมีหญิงงดงามบริสุทธิ์คนหนึ่ง สะพายดาบศึกม่วงเขียวไว้กลางหลัง กล้าหาญเกรียงไกร เผยกลิ่นอายดุดันในความงดงามนุ่มนวลอย่างหนึ่ง
เป็นเซี่ยงเสี่ยวหยวนนั่นเอง!
ข้างกายนาง เยวี่ยตู๋ชิวเองก็อดพยักหน้าไม่ได้ ประโยคเดียวของหลิ่วเซียงเชวีย ทำให้สายตาในที่นี้ที่มองไปยังหลินสวินเปลี่ยนไป
“ฮ่าๆ กลัวอะไร เจ้าหมอนี่สามารถรอดชีวิตมาถึงเมืองจรดฟ้าได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา เขายิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งทำให้คู่ต่อสู้เหล่านั้นหวาดเกรง”
หลิ่วเซียงเชวียยิ้ม มองพวกเฒ่าชราผมเงินอย่างคล้ายตั้งใจแต่ไม่ตั้งใจแวบหนึ่ง
เฒ่าชราผมเงินแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา อดขมวดคิ้วไม่ได้
“เสี่ยวหยวน ยามเจ้ากลายเป็นคนน่ากลัว จะกลัวคนอื่นข่มขู่ได้อย่างไร”
หลิ่วเซียงเชวียยิ้มพูด “ตอนนั้นพ่อของเจ้าก็มาจากโลกพันจักรวาล สังหารมาตลอดทางจนมาถึงเมืองจรดฟ้าแห่งนี้เช่นกัน ตอนนั้นทุกคนต่างมองเขาเป็นสัตว์ร้ายหายนะ สร้างความเกลียดชังไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ต่างอะไรกับสถานการณ์ของเจ้าหมอนี่”
“แต่หลังจากนั้นเจ้าก็รู้แล้วว่า แม้แต่แม่เจ้าก็ถูกเขาชนะใจ”
พูดถึงตอนท้าย เสียงของหลิ่วเซียงเชวียแฝงความทอดถอนใจเสี้ยวหนึ่ง “เจ้าดูตอนนี้ ต่อให้อยู่ในน่านฟ้าที่เจ็ด ยังมีใครกล้าดูถูกพ่อของเจ้า”
แววตาเซี่ยงเสี่ยวหยวนเผยความภาคภูมิใจ ในใจนาง บิดาเป็นคนที่นางชื่นชมที่สุดเสมอมา
จู่ๆ ทั้งที่นั้นก็เงียบกริบ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชายชุดผ้าแพรคนหนึ่งปรากฏตัว ทั่วร่างทั้งบนล่างถูกกฎเกณฑ์สีม่วงปานเพลิงดาราล้อมรอบ กลายเป็นสัญลักษณ์ประหลาดราวกับคทาสมประสงค์ม่วงรางๆ แสงสายฟ้าไหลเคลื่อน สะเทือนใจคน
เมื่อเห็นคนผู้นี้ ในที่นั้นต่างเงียบงัน หลายคนหน้าเปลี่ยนสีไปโดยพลัน เจือความยากจะเชื่อ
แม้แต่พวกหลิ่วเซียงเชวีย เฒ่าชราผมเงิน ยังอดหวั่นไหวไม่ได้ รู้สึกประหลาดใจ
สัญลักษณ์คทาสมประสงค์สายฟ้าม่วง!
นี่คือหนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่น่านฟ้าที่แปด สัญลักษณ์ของตระกูลฝู!
ลือกันว่ายอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลของตระกูลฝู ก็คือคทาสมประสงค์สายฟ้าม่วงชิ้นหนึ่ง เป็นศาสตรามรรคอมตะฟ้าประทานที่ถือกำเนิดในต้นกำเนิดระเบียบ น่ากลัวไร้ขอบเขต
ไม่มีใครรู้ว่าชายชุดแพรคนนี้คือใคร แต่ทุกคนล้วนรู้ชัดว่านี่คือคนที่มาจากยักษ์ใหญ่อมตะอย่างตระกูลฝู!
เพียงจุดนี้ก็สามารถทำให้ทุกคนในที่นั้นหวั่นเกรงได้แล้ว!
และก็เป็นตอนนี้เอง ศิลาศึกข้ามแดนกลับคืนสู่ความสงบ การทดสอบของหลินสวินสิ้นสุดลงแล้ว
เพียงแต่ไม่รอเขาจากไป ชายชุดแพรแห่งตระกูลฝูก็ส่งเสียง “สหายน้อย หากเจ้ายินยอมเข้าร่วมตระกูลฝูของข้า บุญคุณความแค้นที่เกิดขึ้นกับเจ้า ตระกูลฝูของข้าจะลบล้างให้”
ประโยคเดียวสร้างความฮือฮาไปทั่ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่ชางฝูเซิงถูกตระกูลหนานเชิญชวนก็ทำให้เกิดความฮือฮาแล้ว พาให้ในใจผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่เกิดความอิจฉา
และตอนนี้ ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนหัวตื้อขึ้นมา
นี่ไม่ได้ฟังผิดกระมัง
ยักษ์ใหญ่อมตะของน่านฟ้าที่แปดถึงกับออกตัวเชิญด้วยตัวเอง หมายจะดึงหลินสวินเข้าตระกูล!
ไม่สนใจปัญหาและความแค้นที่เขามี ขอเพียงแค่หลินสวินเข้าร่วม ตระกูลฝูก็จะช่วยเขาลบล้างให้ทั้งหมด!
นี่เหนือจินตนาการของทุกคนในที่นี้โดยสมบูรณ์ บรรยากาศก็เงียบกริบอย่างที่สุด ทุกคนต่างมองไปยังหลินสวิน
มีทั้งอิจฉา ริษยา และตกตะลึง
พวกเขาเดาออกรางๆ แล้ว ว่าอันดับบนกระดานเร้นลับของหลินสวินจะต้องอยู่ในร้อยอันดับแรกแน่ ถึงได้ดึงดูดให้คนตระกูลฝูมาเยือนและเชื้อเชิญด้วยตัวเอง!
ในที่นี้มีเพียงแค่คนตระกูลหนานอย่างพวกเฒ่าชราผมเงินที่สีหน้าย่ำแย่ ในใจอัดอั้นเหมือนกินแมลงวันตายเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
ก่อนหน้านี้พวกเขายังด่าว่าและดูหมิ่นหลินสวิน มองว่าอีกไม่นานเขาก็ต้องตายแล้ว
มีหรือจะคาดคิดว่าตระกูลฝูกลับถูกใจหลินสวิน!
สามารถพูดได้ว่า โอกาสในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาปรากฏอยู่ตรงหน้าหลินสวินแล้ว ขอเพียงเขาตอบรับ เผ่าจักรพรรดิอมตะที่เขาล่วงเกินในช่วงหลายปีมานี้ย่อมไม่กล้ามองเขาเป็นศัตรูอีก!
เพราะเบื้องหลังเขาจะมีตระกูลฝู ยักษ์ใหญ่อมตะของน่านฟ้าที่แปดอยู่!
ตอนนี้หลินสวินเองก็อดประหลาดใจไม่ได้ เขาจะไม่รู้ฐานะและอำนาจบารมีของตระกูลฝูได้อย่างไร เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายมาเชิญชวนเอง
หลินสวินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนประสานหมัดกล่าว “ขออภัย ขอรับไว้เพียงน้ำใจเท่านั้น ข้าคนแซ่หลินอิสระจนชินแล้ว ขอท่านโปรดอภัย!”
เขาปฏิเสธแล้ว!
ถึงกับปฏิเสธ!?
ทุกคนในที่นั้นต่างอึ้งตาค้าง ไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง โชคที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธง่ายๆ เช่นนี้หรือ
แม้แต่พวกเฒ่าชราผมเงินล้วนอดอึ้งไม่ได้ ในใจแอบคิดว่าหรือเจ้าหมอนี่โง่เขลา ไม่รู้ว่าการที่สามารถเข้าตระกูลฝูได้มีความหมายว่าอย่างไร
“สหายน้อย ตระกูลฝูเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่อมตะของน่านฟ้าที่แปด ฐานะสูงส่ง มีอิทธิพลอย่างยิ่งในโลกยอดนิรันดร์ สามารถพูดได้ว่าคนทั่วไปแม้พยายามสุดชีวิตก็ไม่มีโอกาสเช่นนี้ เจ้า… จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน”
มีคนอดเตือนไม่ได้ คิดว่าหลินสวินไม่รู้ถึงอิทธิพลของตระกูลฝู และไม่รู้ว่าโอกาสที่อยู่ตรงหน้ามีค่าเพียงใด
“ใช่แล้ว บุญคุณความแค้นของเจ้าแม้จะมาก แต่สำหรับตระกูลฝูก็เป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว พูดอย่างไม่เกินจริง หากเจ้าพยักหน้าตกลง ก็เท่ากับเปลี่ยนชะตาชีวิต กระโดดเข้าประตูมังกร ทะยานขึ้นฟากฟ้า!”
คนไม่น้อยช่วยชี้แนะ
ในคำพูดเต็มไปด้วยคำเยินยอตระกูลฝู
ชายชุดแพรยืนเงียบอยู่ตรงนั้น สีหน้าราบเรียบ แต่กลับมีความมั่นใจอย่างมาก บนโลกนี้น้อยนักที่จะมีคนปฏิเสธคำเชิญชวนเช่นนี้
เพราะเขาเป็นตัวแทนของตระกูลฝู!
แต่เรื่องเหนือคาดหมายของเขาเกิดขึ้นแล้ว ก็เห็นหลินสวินประสานมือกล่าวขออภัย “ขออภัย คนแซ่หลินยากจะทำตามคำสั่ง”
ปฏิเสธอีกแล้ว!
ทุกคนอยากให้ตนเองเป็นหลินสวินใจจะขาด จะได้รับปากเรื่องนี้ ในใจต่างร้อนรน สงสัยว่าหลินสวินโง่หรือไม่…
………………..