Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2628 ถ้ำเทพแสงเหนือ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2628 ถ้ำเทพแสงเหนือ
เมื่อเห็นใบหน้างามที่โกรธจนซีดขาวของหวั่นโหรว หลินสวินก็รู้ว่าการหักหลังของลุงเจียว สำหรับนางแล้วเป็นการโจมตีที่หนักหนาสากรรจ์อย่างไม่ต้องสงสัย
“รู้ตอนนี้ไม่ถือว่าสายเกินไป”
หลินสวินเอ่ยเสียงเบา “อย่างน้อยหายนะที่แท้จริงก็ยังไม่เคยมาถึงเจ้าและหอการค้าเก้าใบจริงๆ”
หวั่นโหรวกล่าวอย่างขมขื่น “คุณชาย ในเมื่อท่านรู้ความจริงนานแล้ว เหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่เปิดโปงโฉมหน้าชั่วร้ายของเจียวไท่หังตรงๆ”
เจียวไท่หังก็คือชื่อของลุงเจียว
หลินสวินกล่าว “ตอนนั้นไร้หลักฐาน ถึงอย่างไรลุงเจียวก็เป็นผู้อาวุโสที่เจ้าไว้ใจที่สุด และหากคนนอกอย่างข้าพูดความจริงเหล่านี้ออกไปตรงๆ เกรงว่าจะทำให้เจ้าเข้าใจผิด มีแต่จะเกิดผลตรงกันข้าม ไม่สู้อาศัยโอกาสนี้ให้เจ้าเห็นด้วยตาตนเอง ความจริงทั้งหมดก็จะกระจ่างแล้ว”
พอพูดถึงเข้าใจผิด ในใจหวั่นโหรวก็รู้สึกกระดากไปพักหนึ่ง และมีความหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
รุ่นเยวี่ยหญิงรับใช้คนสนิทของนางกลายเป็นไส้ศึกของตระกูลเหิง
ลุงเจียวที่นางไว้ใจที่สุด ก็เป็นคนทรยศที่มีเจตนาชั่วร้ายแอบแฝง
ในทางกลับกัน หลินสวินซึ่งเป็นคนผ่านทางที่เข้าร่วมขบวนโดยไม่ได้ตั้งใจ กลับสลายเคราะห์สังหารให้นางตลอดทาง และเปิดโปงแผนสมคบคิดครั้งใหญ่
นี่ทำให้ในใจหวั่นโหรวยิ่งรู้สึกแย่ยิ่งขึ้น
“คุณชาย จากนี้จะทำอย่างไรหรือ” นางอดเอ่ยถามไม่ได้ แม้แต่ตัวนางเองยังไม่รู้ตัว ว่าในจิตใต้สำนึกของตนเกิดความเชื่อใจหลินสวินขึ้นมาแล้ว
“แน่นอนว่าต้องจัดการภัยแฝงครั้งนี้ให้สิ้นซาก”
หลินสวินกล่าวพลางพาหวั่นโหรวเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ พุ่งไปยังตำหนักใหญ่บนยอดเขาไกลๆ
ขณะเดียวกันในตำหนักใหญ่ เจียวไท่หังที่นั่งบนเก้าอี้ประธานตรงกลางคล้ายสัมผัสได้ หันสายตามองไปนอกตำหนักใหญ่ทันที
ก็เห็นเงาร่างสูงโปร่งของหลินสวินพาหวั่นโหรวโรยตัวมาเยือน ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูตำหนักใหญ่
“พวกเจ้า…!”
เจียวไท่หังนัยน์ตาหดรัด ใบหน้าล้วนเปลี่ยนไป ตระหนักได้ถึงความไม่เข้าที
จอมมรรคมารแดงทที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็ดีดตัวผึงขึ้นเช่นกัน ยามเห็นหลินสวินและหวั่นโหรวย้อนกลับมาอีกครั้งก็อดอึ้งค้างไม่ได้ กล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ “พวกเจ้าเข้ามาในภูเขาทองแดงได้อย่างไร”
“พลังผนึกที่ปกคลุมบนภูเขาทองแดงพวกนั้น มีหรือจะต้านทานคุณชายสืออวี่ผู้นี้ได้”
เจียวไท่หังถอนหายใจยาว หยัดตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง มองหวั่นโหรวที่แววเดือดดาลฉายทั่วใบหน้า ในใจรู้ชัดแล้วว่า เรื่องนี้เกรงว่าจะแดงขึ้นมาโดยสมบูรณ์แล้ว
สายตาเขาเผยแววซับซ้อน หันมองหลินสวินพร้อมกล่าว
“คุณชายสืออวี่ ข้ากับเจ้าไร้แค้นไร้พยาบาท หนำซ้ำตลอดทางยังเคารพให้เกียรติเจ้ายิ่ง ไม่เคยละเลยใดๆ แม้แต่น้อย เหตุใดเจ้ากลับต้องเข้ามาพัวพันให้ได้”
“พบเจอความอยุติธรรม ชักดาบช่วยเหลือไม่ได้หรือ” หลินสวินเอ่ยราบเรียบ
มุมปากเจียวไท่หังกระตุก มีหรือจะเชื่อเหตุผลเลอะเทอะเช่นนี้
“เจียวไท่หัง หลายปีมานี้ท่านพ่อของข้าเคยปฏิบัติไม่ดีกับเจ้าเมื่อไหร่ แต่เจ้ากลับเลือกทรยศหักหลังเพราะสมบัติชิ้นเดียว ซ้ำร้ายยังคิดจะยืมมือตระกูลเหิงมาทำลายหอการค้าเก้าใบ เจ้า… ต่ำช้าเกินไปแล้ว!”
หวั่นโหรวระงับความเดือดดาลในใจไม่ได้อีกแล้ว เอ่ยปากเสียงกร้าว
เวลานี้เจียวไท่หังใจเย็นลงมาแล้ว ถอนใจกล่าวว่า “นางหนู บุญคุณความแค้นระหว่างข้ากับพ่อของเจ้า เจ้าไม่เข้าใจสักนิด”
เขาชี้รอยแผลเป็นสามสายที่ดุดันเหมือนตะขาบบนใบหน้าของตนเอง พร้อมกล่าวด้วยเสียงอึมครึม “เมื่อก่อนเจ้าสงสัยไม่ใช่หรือว่าเหตุใดข้าไม่กำจัดรอยแผลเป็นพวกนี้ทิ้งไป ตอนนี้ข้าจะบอกเจ้าให้ เพราะแผลเป็นเหล่านี้คือสิ่งที่พ่อของเจ้ามอบให้!”
เสียงเจือความคับแค้นรุนแรง
หวั่นโหรวหน้าเปลี่ยนสีกล่าวว่า “นี่เป็นไปไม่ได้ หากท่านพ่อของข้าเคียดแค้นเจ้า มีหรือจะเก็บเจ้าไว้ข้างกาย”
หลินสวินตบไหล่นางเบาๆ ก่อนเอ่ย “ลองฟังก่อนว่าเขาจะพูดอย่างไร”
เจียวไท่หังยิ้มเย็น “นั่นเพราะพ่อของเจ้าไม่รู้ที่มาของรอยแผลเป็นสามสายนี้สักนิด ในเมื่อวันนี้เจ้ารู้ความจริงบ้างอย่างแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปิดบังอีก ให้เจ้าเข้าใจสักหน่อยว่าพ่อที่เจ้าเคารพเลื่อมใสที่สุด เบื้องหลังเป็นคนต่ำช้าที่ใจดำอำมหิตเพียงใด!”
เขาสูดหายใจลึก สายตาทอประกายระลึกความหลัง เอ่ยพูดเสียงต่ำลึก
“ข้าไม่มีวันลืมเด็ดขาด เมื่อสามพันสี่ร้อยสามปีก่อน ข้าและพ่อของเจ้า รวมถึงศิษย์น้องของข้า พวกเราสามคนตัดสินใจมุ่งหน้าไปยัง ‘ถ้ำเทพแสงเหนือ’…”
ถ้ำเทพแสงเหนือ!
เป็นหนึ่งในสามเขตผนึกใหญ่ของทะเลประหัตมารเช่นเดียวกับเขตลมสนามแม่เหล็ก!
ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เจียวไท่หัง ศิษย์น้องของเขาเสวี่ยเฟยเยียน และเฒ่าคุน ต่างมุ่งหน้าไปหาศุภโชคเย้ยฟ้าชิ้นหนึ่งในถ้ำเทพแสงเหนือด้วยกัน
ตอนนั้นในมือเสวี่ยเฟยเยียนครอบครองแผนภาพลับผืนหนึ่ง จากการนำทางของแผนภาพลับ ทั้งสามคนก็มาถึงถ้ำเทพแสงเหนือได้โดยสวัสดิภาพ และได้รับศุภโชคเย้ยฟ้าชิ้นนั้นไปอย่างราบรื่น…
กระดูกบริสุทธิ์ฟ้าประทานของบรรพจารย์คุนชิ้นหนึ่ง!
ตอนนั้นทั้งสามคนดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ระหว่างทางขากลับ กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
เฒ่าคุนเดินออกมาจากถ้ำเทพแสงเหนือเป็นคนแรก แต่ขณะที่เจียวไท่หังจะออกมา กลับถูกเสวี่ยเฟยเยียนศิษย์น้องของตนขัดขวาง
กล่าวถึงตรงนี้เจียวไท่หังก็เผยแววเดือดดาลและเจ็บปวดใจออกมา “ข้าคิดไม่ถึงเด็ดขาด ศิษย์น้องของข้าถึงกับจะให้ข้าสาบานว่าจะไม่แย่งกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนนั่น บอกว่าเป็นศุภโชคที่เตรียมไว้ให้เฒ่าคุนโดยเฉพาะ หากข้ากล้าไปแย่งก็จะแตกหักกับข้า…”
เขาดวงตาแดงก่ำ ผมเคราชี้ตั้ง สีหน้าล้วนเกรี้ยวกราดขึ้นมา “นั่นเป็นถึงศิษย์น้องที่ข้ารักสุดหัวใจ! แต่นางกลับทำเพื่อเฒ่าคุน ถึงขั้นข่มขู่ศิษย์พี่อย่างข้า!”
หลินสวินและหวั่นโหรวล้วนอดอึ้งไปไม่ได้
เวลานี้เจียวไท่หังจมอยู่ในบุญคุณความแค้นในอดีตถึงขีดสุด แผดเสียงกล่าวว่า “แน่นอนว่าข้าไม่ตกลง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาตลอดทาง ไม่ง่ายกว่าจะคว้ากระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนมาอยู่ในมือ เรื่องอะไรต้องให้เจ้าเฒ่าคุนครอบครองคนเดียว”
“สิ่งที่ทำให้ข้าปวดใจและเดือดดาลที่สุดคือ คำขอนี้ถึงกับออกมาจากปากศิษย์น้องของข้า! นางไม่รู้สักนิดว่ามันเป็นการโจมตีที่หนักหน่วงเพียงใดต่อข้า!”
ใบหน้าเจียวไท่หังเผยแววเจ็บปวดขมขื่น “ผู้หญิงที่เจ้ารักสุดหัวใจ กลับทำเพื่อผู้ชายอีกคน ถึงขั้นข่มขู่จะแตกหักกับข้า รสชาตินี้… พวกเจ้าเคยสัมผัสหรือไม่”
หลินสวินสีหน้าแปลกพิกล เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนจริงๆ แต่ว่าตอนนั้นมารเทพตี้สือ… ก็ไม่ใช่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกันหรือ
“ข้าย่อมไม่ตกลงอยู่แล้ว!”
เจียวไท่หังสีหน้าบิดเบี้ยว กล่าวอย่างอึมครึม “แต่สิ่งที่ทำให้ข้าคิดไม่ถึงโดยเด็ดขาดคือศิษย์น้องของข้าถึงกับยอมแตกหักจริงๆ ไม่เสียดายไมตรีที่ดำเนินมาหลายปี…”
ในน้ำเสียงเจือแววเดือดดาลและโศกเศร้าที่บอกไม่ถูก
“จากนั้นล่ะ” หลินสวินถาม
“ฮ่าๆๆ ข้าฆ่านางเพราะความเดือดดาล!”
เจียวไท่หังหัวเราะลั่น เพียงแต่เสียงหัวเราะนั้นกลับเจือแววตรอมตรม “และรอยแผลเป็นบนใบหน้าของข้า ก็คือสิ่งที่ศิษย์น้องของข้าทิ้งไว้ก่อนสิ้นใจ ต่อให้ตายไป… นางก็ยังปกป้องเฒ่าคุน…”
หลินสวินเลิกคิ้วเอ่ยว่า “กล่าวเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเฒ่าคุนสักนิดถึงจะถูก”
“จะไม่เกี่ยวกับเขาได้อย่างไร”
เจียวไท่หังเดือดจัด จ้องหลินสวิน “หากไม่ใช่เพราะเขาหลอกล่อจิตใจศิษย์น้อง มีหรือศิษย์น้องจะมองข้าเป็นศัตรู เจ้าหมอนี่ต่ำช้าเป็นที่สุด ตัวเองอยากครอบครองกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนคนเดียว แต่กลับให้ศิษย์น้องของข้าออกหน้าห้ามข้า เพราะเขารู้ดีที่สุดว่าข้าหลงรักศิษย์น้อง เชื่อฟังทำตามทุกอย่าง ขอเพียงเป็นคำขอที่ศิษย์น้องเรียกร้อง ข้าจะปฏิเสธน้อยครั้งนัก เฒ่าคุนเล็งเห็นจุดนี้จึงหลอกใช้ศิษย์น้อง เจตนาของเขาชั่วร้ายขนาดไหน!”
“นี่ล้วนเป็นคำพูดจากเจ้าเพียงฝ่ายเดียว คนที่ฆ่าศิษย์น้องของเจ้าตายคือเจ้า เกี่ยวอะไรกับท่านพ่อของข้า” หวั่นโหรวกล่าวอย่างเดือดดาล
“ไม่ ศิษย์น้องของข้าตายเพราะเขา!”
เจียวไท่หังแววตาเย็นชาจนน่ากลัว “หลังจากศิษย์น้องของข้าตาย ข้าก็สาบานว่าจะแก้แค้นให้นาง และยิ่งจะชิงกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนที่เป็นของข้าแต่เดิมกลับคืนมา ที่น่าขันคือศิษย์น้องของข้าตายเพราะพ่อของเจ้า แต่พ่อของเจ้ากลับไม่สนใจสักนิด พอออกจากถ้ำเทพแสงเหนือไม่นานก็สู่ขอแม่ของเจ้าทันที…”
“ในเมื่อเจ้าเจ็บแค้นเฒ่าคุนเช่นนี้ เหตุใดยังต้องอดทนตั้งหลายปี เพิ่งมาลงมือเอาป่านนี้” หลินสวินถาม
เจียวไท่หังกล่าวยิ้มเย็น “หากแค่สังหารเฒ่าคุนนั่นก็ออกจะง่ายกับเขาเกินไป ทุกสิ่งที่ข้าวางแผนไว้ในหลายปีมานี้ ก็เพื่อทำลายทั้งหอการค้าเก้าใบให้พินาศ ฆ่าญาติมิตรที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งหมดให้สิ้นซาก ทำให้คนต่ำช้าหน้าไม่อายอย่างเขาสูญเสียทุกสิ่งที่มีโดยสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นค่อยฆ่าเขาจะไม่สะใจกว่าหรือ”
หวั่นโหรวหนาวเยือกในใจ เพิ่งเข้าใจว่าการแก้แค้นของเจียวไท่หังบ้าคลั่งขนาดนี้!
“น่าเสียดายนัก ถึงช่วงสำคัญสุดท้ายกลับเป็นเพราะการแทรกแซงของคนนอกอย่างเจ้า ทำให้แผนการทั้งหมดผิดพลาดคลาดเคลื่อน…”
เจียวไท่หังจ้องมองหลินสวิน สีหน้าเต็มไปด้วยแววซับซ้อน
“พูดจบหรือยัง”
หลินสวินแววตาเฉยเมย ไร้ระลอกคลื่นใดๆ
เจียวไท่หังอึ้งไป อดกล่าวไม่ได้ “เจ้าคิดว่าข้าทำเช่นนี้ผิดหรือ”
หลินสวินยกยิ้มกล่าวว่า “ดีชั่วถูกผิด สุดท้ายก็เป็นคำพูดจากเจ้าฝ่ายเดียว เจ้าคงไม่คิดว่าแค่คำพูดเมื่อครู่นั่นจะเปลี่ยนความคิดที่ข้ามีต่อเจ้าได้หรอกกระมัง”
เจียวไท่หังขมวดคิ้วกล่าว “ข้าไม่เข้าใจยิ่ง เจ้าเป็นแค่คนนอก เหตุใดต้องรั้นเข้ามาพัวพันในเรื่องนี้ให้ได้ มันเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือ”
“บุญคุณเพียงน้ำหยดเดียว จะตอบแทนด้วยแหล่งน้ำแร่ไม่ได้หรือ” หลินสวินกล่าว
ใบหน้าชราของเจียวไท่หังล้วนเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมา ก่อนหน้านี้บอกว่าพบเจอความอยุติธรรมย่อมชักดาบช่วยเหลือ ตอนนี้ยังบอกบุญคุณเพียงน้ำหยดเดียว ตอบแทนด้วยแหล่งน้ำแร่ ใครจะเชื่อเหตุผลบ้าบอเช่นนี้กัน
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าทำไปเพื่อกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุน!”
เขาคล้ายตอบสนองทันควัน ท่าทางเหมือนกระจ่างใจ “ฮ่าๆๆ ก็จริง ทรัพย์สมบัติล่อใจคน นับประสาอะไรกับสมบัติล้ำค่าระดับนี้สินะ”
หลินสวินกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ “นี่ก็คือคำสั่งเสียของเจ้าหรือ”
เจียวไท่หังสูดหายใจลึกกล่าวว่า “สหายยุทธ์ จะฆ่าให้สิ้นซากเช่นนี้จริงๆ หรือ”
ชิ้ง!
ทันใดนั้นจอมมรรคมารแดงที่นิ่งเงียบไม่ส่งเสียงมาโดยตลอดก็พุ่งพรวดออกมา กระตุ้นทวนใหญ่สีเลือดโจมตีเข้าใส่หลินสวิน
พร้อมกันนั้นเจียวไท่หังโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง โซ่เทพขาวดุจหิมะเส้นหนึ่งหวดฟาดออกมา เป้าหมายไม่ใช่หลินสวิน หากแต่เป็นหวั่นโหรวที่อยู่ข้างๆ หลินสวิน!
เห็นชัดว่าเขาตั้งใจจะจับหวั่นโหรวเป็นตัวประกันมาข่มขู่หลินสวิน
นี่เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถมองออกว่าในใจเจียวไท่หังมองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจอยู่นานแล้ว หาไม่คงไม่เลือกใช้หวั่นโหรวเป็นจุดโจมตีเด็ดขาด
“แค่กระเสือกกระสนก่อนตายก็เท่านั้น” กลับเห็นหลินสวินยืนนิ่งไม่ขยับ ดีดนิ้วคราหนึ่ง
เคร้ง!!
ทวนใหญ่สีเลือดแตกหักระเบิดเป็นเสี่ยงๆ จอมมรรคมารแดงที่ถือทวนใหญ่สีเลือดถูกซัดจนลอยคว่ำออกไปกลางอากาศ กระแทกเข้ากับผนังไกลออกไปอย่างจัง เลือดกบปากจมูก
ส่วนโซ่เทพสีขาวหิมะที่เจียวไท่หังฟาดออกมาก็ถูกหลินสวินยื่นมือคว้าไว้ ราวจับจุดตายของงู ทำเอาโซ่เทพสีขาวหิมะนั่นส่งเสียงดังวู้มๆ สั่นรุนแรง ไม่อาจดิ้นหลุด
แต่เจียวไท่หังไม่ตกใจกลับยินดียิ่ง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา ริมฝีปากเอ่ยคำพูดออกมาเบาๆ
“ระเบิด!”
…………………..