Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2729 เข่นฆ่าประหนึ่งล้วงของในถุงหนัง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2729 เข่นฆ่าประหนึ่งล้วงของในถุงหนัง
ศรเทพทะลวงผ่านอากาศ แสงมรรคคมกริบพร่างพราวแสบตา สะเทือนทั่วทิศ
กลิ่นอายนั้นน่ากลัวมาก!
กลับเห็นหลินสวินไม่หลบหลีก ก้าวเดินกลางอากาศ ชายเสื้อพลิ้วไหวประดุจเทพเซียน
เมื่อศรเทพดอกแรกพุ่งมาก็ถูกเขาดีดนิ้วใส่
ตึง!
ท่ามกลางเสียงปะทะรุนแรง ศรเทพพลันส่ายสั่นแล้วร่วงหล่นกลางอากาศเหมือนอสรพิษสิ้นฤทธิ์
จากนั้นเมื่อหลินสวินก้าวไปข้างหน้า แขนเสื้อพลิกตลบ ดีดนิ้วติดต่อกัน ศรเทพมากมายที่พุ่งยิงออกมานั้นล้วนถูกจู่โจมอย่างแม่นยำ ละอองแสงบาดตาสาดกระเซ็นลอยล่องทั่วฟ้า
หลินสวินไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มุ่งตรงต่อไปข้างหน้า เข้าใกล้เหยียนถูที่อยู่ห่างไกล
เมื่อเห็นภาพนี้เหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดพลันรู้สึกผิดคาด พลังมรรคธนูของเหยียนถูเหนือธรรมดา โดดเด่นเหนือใคร คนทั่วไปใครกล้าลูบคมบ้าง
แต่ตอนนี้กลับเข้าใกล้ไม่ได้แม้เพียงชุ่น!
“ความสามารถของเจ้าหมอนี่นับว่าใช้ได้ มิน่าถึงกล้าท้าทายพวกเรา”
มีคนประหลาดใจ
“เหยียนถู เจ้าคิดทำให้พวกเราผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดขายหน้าหรือ รีบใช้กระบวนท่าสังหารที่แท้จริงของเจ้าเร็ว!”
มีคนตวาด
“หึๆ รีบอะไร ต่อสู้เช่นนี้ถึงไม่น่าเบื่อไม่ใช่หรือ”
มีคนยิ้มระรื่น
เหล่าคนที่อยู่บนเรือรบไม่ใส่ใจ สนทนากันอยู่ตรงนั้น มีเพียงผู้ยิงธนูที่สีหน้าเคร่งขรึมขาดรอยยิ้ม ตัวเลขสิบในดวงตาชัดเจนยิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ไป!”
เขาตวาดลั่น ปล่อยศรออกไป แสงโลหิตสายหนึ่งพุ่งขึ้นทันที แสงชาดท่วมทับ น่ากลัวหาใดเปรียบ
ศรดอกนี้สลักสัญลักษณ์บิดเบี้ยวแปลกประหลาดนานัปการ เกิดการเปลี่ยนแปลงกลางอากาศ โจมตีไปทางหลินสวิน!
“สมเป็นศรสังเวยคร่าวิญญาณ!”
มีคนหัวเราะร่า
นี่คือศรธรรมที่หลอมโดยผู้ยิ่งใหญ่ระดับอมตะ อานุภาพแข็งแกร่ง ผู้ใช้สามารถเล็งพลังจิตของอีกฝ่ายได้ ไม่ยิงไม่หยุดพัก
เห็นชัดว่าเมื่อใช้โจมตีหลินสวินต้องระเบิดอานุภาพสะท้านฟ้าแน่
ตูม!
หลินสวินยังคงไม่หลบหนี ยื่นมือไปคว้าทันที ท่ามกลางเสียงกึกก้องสนั่นหู เขาถึงกับคว้าศรชวนประหวั่นนั่นอย่างแข็งกร้าว
จากนั้นศรดอกนี้ก็ถูกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ละอองแสงลอยล่อง
เหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดล้วนอึ้งงัน ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ
เพราะหากเป็นพวกเขาก็ไม่กล้าฝืนปะทะการโจมตีนี้ด้วยมือเปล่า
“หลบเร็ว!”
บนเรือรบมีคนตะโกนลั่น สังเกตเห็นว่าหลินสวินกำลังเข้าใกล้เหยียนถูอย่างรวดเร็ว
เหยียนถูไม่ใช่คนทั่วไป ความเร็วในการตอบสนองว่องไวนัก ไม่ยิงศรอีก แต่หมุนควงธนูยาวในมือกระแทกไปข้างหน้า คันธนูแผ่แสงประหลาด ระเบิดไอสังหารล้นฟ้า
หลินสวินซัดหนึ่งหมัดออกไปง่ายๆ
ตึง!!
พลังหมัดกับธนูยาวปะทะกัน เกิดพลังทำลายล้างสะเทือนใต้หล้า
ตัวเหยียนถูสั่นไหวรุนแรง หน้าแดงก่ำ ทั้งร่างล้วนสั่นสะเทือน ทั้งตัวลอยคว้างออกไป ถูกโจมตีราวอสนีบาต!
หมัดของหลินสวินแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ราวกับไม่มีสิ่งใดทำลายไม่ได้ มีพลังกดกำราบทำให้เขาไม่อาจต้านทาน
“คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก!”
เหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดล้วนแปลกใจไม่หยุด เผยสีหน้าจริงจังให้เห็น
ในบรรดาพวกเขา มรรคธนูของเหยียนถูเป็นเลิศ พลังต่อสู้กร้าวแกร่ง แต่กลับถูกทำให้บาดเจ็บในการต่อสู้ซึ่งหน้า
นี่ทำให้พวกเขารู้ว่าหลินสวินเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง!
ตูม!
เงาร่างสูงโปร่งของหลินสวินไม่หยุดแม้แต่น้อย โจมตีต่อเนื่อง
เมื่อโจมตีอีก เหยียนถูร้องออกมาคราหนึ่ง ธนูยาวกระเด็นหลุดจากมือ ปากกระอักเลือด ร่างกระแทกภูเขาลูกหนึ่ง
“บัดซบ!”
สีหน้าเหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดไม่น่าดู
หัวคิ้วเหมิงซานก็ขมวดมุ่น ประกายวับวาววาบผ่านนัยน์ตา
มีเพียงโม่หลันซานที่สีหน้าราบเรียบ พลังต่อสู้ของหลินสวินถึงขั้นสามารถซัดบุคคลแห่งยุคอย่างลี่จงหย่วนและเสิ่นไจ้เต้าจนพินาศได้ นับประสาอะไรกับการรับมือผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดคนหนึ่งเช่นนี้เล่า
ฟุ่บ!
ความเร็วในการต่อสู้ของหลินสวินว่องไวขึ้น โจมตีลงมาอย่างดุดัน
ปึง!
เท้าข้างหนึ่งของเขาเหยียบอกเหยียนถูจนติดภูเขา กระแทกภูเขาลูกนั้นจนทรุดทลายกลายเป็นเถ้าธุลี
ระหว่างนี้เหยียนถูดิ้นรน เลือดลมทั่วร่างพวยพุ่ง หมายจะหลุดพ้นจากหลินสวิน ถูกคนใช้เท้าเหยียบเช่นนี้เดิมก็เป็นการดูหมิ่นอย่างหนึ่งแล้ว
แต่พลังของหลินสวินยิ่งใหญ่น่ากลัวเพียงใด เหยียนถูรู้สึกเพียงปวดหน้าอก กระดูกเหมือนแตกหัก ปากกระอักเลือด สาหัสจนถึงขั้นยามเขาดิ้นรนยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเหมือนมีดเฉือน
“เปิด!”
ผมยาวของเหยียนถูแผ่สยาย ดิ้นรนรุนแรง อักษรเลขสิบในดวงตาพุ่งออกมา กลายเป็นดาบกระบี่กลางอากาศ ส่งเสียงกังวานฟันไปทางหลินสวิน
การโจมตีนี้ดุดันหาใดเปรียบ ทั้งประหลาดอย่างยิ่ง แม้หลินสวินจะสลายได้แต่ตัวกลับถูกโจมตี
ตูม!
ในที่สุดเหยียนถูก็ฉวยโอกาสนี้สลัดพ้น เขาเหมือนเทพมารที่เดือดดาล ผมเผ้ายุ่งเหยิงแผ่สยาย อักษรเลขสิบในดวงตาคมกล้ายิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ข้าจะฆ่าเจ้า…!”
เหยียนถูคำราม คว้าทวนศึกด้านหลังออกมาแล้วฟันผ่าอากาศในทันทีจนเกิดเป็นรอยแยกน่ากลัว แบ่งฟ้าดินแถบนี้เป็นสองส่วน
ดุดันเกินไปแล้ว พลังต่อสู้ชวนตะลึง!
แผ่นดินเบื้องล่างถูกผ่าเป็นสองส่วน ของเหลวแดงชาดม้วนซัดสาดกระเซ็น ถาโถมใส่พื้นที่ภูเขา เกิดเป็นภาพยิ่งใหญ่เหมือนน้ำป่าน่ากลัวเข้าถล่ม
ส่วนกลางอากาศยิ่งน่าสะพรึง การโจมตีเช่นนี้พาให้คนหวาดหวั่น ทุกหนแห่งที่ไอสังหารเคลื่อนผ่านสรรพสิ่งล้วนดับสลาย
ตูม!
เกือบจะเวลาเดียวกัน ตัวหลินสวินเปล่งแสงไร้ขอบเขต เจิดจรัสบาดตา
ภาพสะท้านใจคนพลันปรากฏ หลินสวินรับทวนศึกด้วยมือเปล่า นิ้วมือเหมือนคีมที่หล่อจากทองเทพ หนีบปลายทวนไว้แน่น
จากนั้นจึงออกแรงเต็มกำลัง ศาสตราเล่มนี้บิดเบี้ยวในพริบตา เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปแล้ว!
เหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดเบิกตากว้าง นี่คือพลังอะไร ใช้มือต้านคมศาสตรา แข็งแกร่งถึงขั้นทำให้คนพูดไม่ออก ในใจสั่นสะท้าน
ต้องรู้ว่าทวนศึกในมือเหยียนถูเป็นศาสตราจักรพรรดิที่ยากพบเห็นเล่มหนึ่ง พลังทำลายล้างน่าทึ่ง เพียงพริบตามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วไปก็ถูกผ่าครึ่งทั้งเป็นได้
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินหนีบไว้!
เหยียนถูยิ่งหน้าเปลี่ยนสี ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะวิปริตเช่นนี้ กล้ารับคมศาสตราด้วยมือเปล่า
“ปล่อย!” เขาตวาดลั่น เค้นพลังทั้งตัว
กลับเห็นหลินสวินสายตาเยียบเย็น สองแขนขยับคราหนึ่ง เสียงเปรี๊ยะดังขึ้น เขาถึงขั้นหักศาสตรานี้ด้วยมือเปล่า!
พร้อมกันนี้หุบเหวลึกส่งเสียงกัมปนาท อุบัติขึ้นกลางฝ่ามือหลินสวินแล้วกระแทกใส่เหยียนถูโดยตรง ฝ่ายหลังกระอักเลือดคำโต ทั้งตัวกระเด็นลอยออกไป ถูกโจมตีอย่างรุนแรง!
จากนั้นหลินสวินขยับขาเตะใส่ตัวเขาเหมือนแส้เหล็ก ทำให้เขาลอยขึ้นมาอีกครั้ง ประหนึ่งลูกหนังที่ถูกเหยียบย่ำ
ใบหน้าเหยียนถูบิดเบี้ยว ทั้งตัวเป็นตะคริว เขาถูกโจมตีอย่างหนัก อย่างน้อยกระดูกในร่างคงแตกหักหลายสิบท่อน พลังจิตล้วนไม่เสถียรแล้ว รู้สึกว่าตายได้ตลอดเวลา
ความรู้สึกพ่ายแพ้ที่ไม่เคยมีมาก่อนผุดขึ้นในใจ ทำให้เขาหน้าถอดสี
บนเรือรบมีคนไม่น้อยร้องเสียงหลง “หยุดมือ!”
ปัง!
หลินสวินเหมือนไม่ได้ยิน ซัดหมัดออกไปทันที พลังนั้นน่ากลัวถึงขีดสุด
เหยียนถูร่างทลายในพริบตา เศษซากหายไปทีละชุ่น กลายเป็นหมอกโลหิตแถบหนึ่ง สุดท้ายเหลือเพียงศีรษะที่เจือความตระหนก สีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระรัว ถูกทำให้ตกใจโดยสิ้นเชิง ยากจะเอ่ยคำพูดออกมาสักประโยค
หลินสวินหยุดมือ ไม่ได้สังหารเขาทันที แต่หิ้วศีรษะเขาไว้ในมือพลางกล่าว “ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าจะทำให้ข้าตายอนาถ ไม่คิดว่าน่าขันหรือ”
ในที่นั้นเงียบสงัด
เหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ความแข็งแกร่งของหลินสวินสร้างแรงโจมตีอย่างหนักให้กับพวกเขาเช่นกัน
ใบหน้าชราเปี่ยมริ้วรอยของเหมิงซานอึมครึม ไม่เอ่ยวาจา ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาตอนนี้คิดอย่างไร
โม่หลันซานไม่เอ่ยปากเช่นกัน หลินสวินชนะแล้ว เขาไม่มีทางไปเกลี้ยกล่อมให้หลินสวินไว้ชีวิตอีกฝ่าย นั่นไม่ใช่ความใจกว้าง แต่เป็นความโง่เขลา
“บังอาจ!”
บนเรือรบเหล่าผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดได้สติกลับมา กล่าวอย่างเดือดดาล
“รีบปล่อยศิษย์น้องเหยียนถูซะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความข่มขู่
ปัง!
ก็เห็นศีรษะเหยียนถูในมือหลินสวินระเบิดออก สิ้นชีพอย่างสมบูรณ์
“เดิมทีการต่อสู้นี้ก็ไม่พูดถึงเรื่องเป็นตายอยู่แล้ว เดิมข้ายังเหลือพลังชีวิตเขาไว้ หวังว่าพวกเจ้าจะเปลี่ยนท่าทีสักหน่อย ใครจะคิดว่าพวกเจ้ายังอวดดี ทำให้คนผิดหวังเสียจริง” หลินสวินถอนใจเบาๆ
ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นจนเหมิงซานหนังตากระตุก
แต่ท่าทางสังหารเด็ดขาดของหลินสวินทำให้ในใจโม่หลันซานสั่นสะท้านไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหลินสวินฆ่าคน
การต่อสู้ในลัทธิแรกกำเนิดก่อนหน้านี้นับเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่เคยตัดสินผลแพ้ชนะ
แต่ตอนนี้ต่างออกไป ผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดคนหนึ่งถูกหลินสวินฆ่าโดยไม่เกรงใจสักนิด!
เวลานี้ผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดคนอื่นทนไม่ไหวแล้ว แต่ละคนถูกกระตุ้นจนบันดาลโทสะ
“ฆ่าเขาซะ!”
หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวเน้นทีละคำ เจือไอสังหารไร้สิ้นสุด
จากนั้นพวกเขาล้วนลงมือโดยตรงแล้ว ต่างคนต่างเรียกสมบัติออกมา เข้ากำราบหลินสวินพร้อมกัน
ตูม!
ฟ้าถล่มดินทลาย สุริยันจันทราหม่นแสง
กลางอากาศล้วนเป็นสมบัติลับ แสงประกายเจิดจรัสเรืองรอง อานุภาพแข็งแกร่ง!
ตอนนี้หลินสวินก็เรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมาเช่นกัน มันส่งเสียงกัมปนาท ก่อให้เกิดแสงมรรคนับหมื่นแสน
เสียงกึกก้องรุนแรงดังกลางอากาศ สมบัติบางอย่างถูกซัดคว่ำ ทั้งมีสมบัติลับถูกซัดละเอียด อึกทึกสนั่นหู
เมื่อเห็นภาพนี้ผู้สืบทอดลัทธิพ่อมดสองคนพุ่งออกมาจากเรือรบพร้อมกัน ร่วมมือกันโจมตีหลินสวิน
ล้วนเป็นพวกโดดเด่นในกลุ่มผู้สืบทอดลัทธิพ่อมด พลังต่อสู้มีแต่แข็งแกร่งกว่าเหยียนถู สมบัติและวิชามรรคที่ใช้ก็เรียกได้ว่าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ
ในเมื่อหลินสวินเรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมา มีหรือจะเก็บงำเหมือนก่อนหน้านี้ เขาทำการโจมตีด้วยวิธีแข็งกร้าวถึงขีดสุด
ฟุ่บ!
ไม่นานกระบี่มรรคเล่มหนึ่งลอยออกมาจากเตา ทะลวงหน้าอกคนผู้หนึ่งดังสวบ เลือดสดแดงก่ำไหลบ่าชวนสยอง น่าพรั่นพรึงอยู่บ้าง
“เจ้า…”
คนผู้นั้นตกใจจนหน้าเสีย ซวนเซถอยร่น รีบหลบโดยเร็ว แต่หลินสวินมีอานุภาพดุจสายรุ้ง ไม่อาจขวางกั้น หมายเปิดฉากเข่นฆ่า
อีกคนพุ่งเข้ามาช่วย แต่ผลกลับถูกหลินสวินใช้กระบี่ฟันสมบัติแตก ช่วงท้องถูกผ่าออก!
“ฆ่า!”
หลังจากสองคนนั้นบาดเจ็บสาหัสก็ตะโกนลั่น เข้าโรมรันเป็นครั้งสุดท้าย
สีหน้าหลินสวินเรียบเฉย ไม่คิดให้โอกาสรอดชีวิตกับพวกเขา
ฉัวะ!
ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งสูงเทียมฟ้าสะท้านดิน เสียงฉัวะดังขึ้น ฟันตัวคนผู้หนึ่งขาดกลางอากาศ เลือดสีสดสาดพรม ร่างครึ่งท่อนตกลงสู่พื้น
“อ๊าก…” คนผู้นั้นร้องโหยหวน ศีรษะบนร่างท่อนบนยังอยู่ สีหน้าเขาซีดเผือด ความเจ็บปวดสาหัสทำให้ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว สูญเสียใจต่อสู้ทั้งที่มีกำลัง
ฉัวะ!
เกือบจะเวลาเดียวกัน อีกคนที่ห่างไปไม่ไกลยิ่งอนาถ ถูกปราณกระบี่เทียมฟ้าของหลินสวินตัดหัว ปราณกระบี่แทรกเข้าไปในร่าง ทำให้ร่างที่ร่วงหล่นของเขาระเบิดออก
เด็ดขาดฉับไว!
ทั้งสองคนล้วนถูกฟันตัวขาดในเวลาอันสั้น เหลือเพียงพลังจิตหนีเตลิด แต่มีโอกาสถูกฆ่าทุกเมื่อ
บนเรือรบยังเหลือชายหญิงอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อเห็นเหตุการณ์นองเลือดต่างๆ ก็หนาวสั่นไปทั้งตัวราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง มีหรือจะไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ครั้งนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่พวกเขาคาดคิด
“รนหาที่ตาย!”
เมื่อเห็นว่าหลินสวินใกล้จัดการสองคนนั้นให้สิ้นซาก เหมิงซานที่เฝ้าดูเงียบๆ มาตลอดทนไม่ไหวอีก แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง
……………………….