Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2827 หลินสวินกลับมาแล้ว
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2827 หลินสวินกลับมาแล้ว
ได้ยินคำขู่เช่นนี้ ในใจหลินสวินไม่มีคลื่นลมแม้แต่น้อย ถึงขั้นอยากหัวเราะอยู่บ้าง
สี่ตระกูลตงหวง?
สี่ขุมอำนาจที่เป็นสุนัขให้ตระกูลตงหวงเท่านั้น ตอนอยู่ลัทธิแรกกำเนิดเขาไม่กลัวแม้แต่เหล่าเหล่ายักษ์ใหญ่น่านฟ้าที่แปด ไหนเลยจะนำสี่ตระกูลตงหวงมาใส่ใจ
เสียงเคลื่อนแหวกอากาศระลอกหนึ่งดังมาแต่ไกล…
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“แย่แล้ว เหวินเทียนหยวนถูกจับตัว!”
“คนผู้นั้นเป็นใคร”
ที่มาพร้อมกับเสียงคือเงาร่างห้าสายที่ตะบึงมา มีทั้งชายและหญิง บนตัวล้วนมีกลิ่นอายขั้นดับเทพ
เมื่อเห็นเหวินเทียนหยวนถูกหลินสวินจับตัว สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้ล้วนเผยสีหน้าตื่นตระหนก
ในน่านฟ้าที่หกใครกล้าทำร้ายผู้ก้าวสู่มรรคาอมตะอย่างพวกเขาบ้าง
“เป็นเขา หลินสวิน!”
ชายชราคนหนึ่งจ้องมองหลินสวินสักพัก คล้ายนึกอะไรออก หน้าพลันเปลี่ยนสี
หลินสวิน!
เพียงชั่วขณะคนอื่นในที่นั้นล้วนไม่อาจนิ่งสงบแล้ว
หลายปีนี้ทั่วโลกยอดนิรันดร์ หลินสวินคือบุคคลแห่งยุคที่ถูกจับตามองมากที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
วีรกรรมตำนานของเขามากเกินไป ถ้าสุ่มเลือกออกมาทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องใหญ่สะเทือนใต้หล้า นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าทั่วหล้ามากมายต่างรู้สึกต่ำต้อย
สำหรับเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หก หลินสวินเป็นชื่อที่ใครต่างไม่อาจลืมเช่นกัน
ด้วยพวกเขามองหลินสวินเป็นหนามยอกอกมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่แดนใหญ่พันศึกก็ผูกปมบัญชีเลือดที่ไม่อาจสะสางกับหลินสวินแล้ว!
ดังนั้นตอนนี้เมื่อรู้ฐานะของหลินสวิน ใครเล่าจะไม่ตกใจ
แค่ตำแหน่งผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดก็สามารถทำให้พวกเขาหวาดกลัวไม่หยุดแล้ว!
แต่หวาดกลัวส่วนหวาดกลัว พวกเขารู้ดีว่าหลินสวินเป็นศัตรูกับพวกเขาแน่ ไม่อาจคลี่คลายได้แต่แรก
ถึงขั้นว่าเมื่อรู้ฐานะหลินสวินแล้ว ในใจพวกเขายังมีไอสังหารพลุ่งพล่านที่ควบคุมไม่อยู่ด้วย
“หลินสวิน ที่นี่คือน่านฟ้าที่หก ไม่ใช่ลัทธิแรกกำเนิด ขอเตือนเจ้าว่าปล่อยเหวินเทียนหยวนแล้วรีบจากไป มิฉะนั้นวันนี้เกรงว่าคงไปไหนไม่รอดแล้ว”
ชายชราชุดดำคนหนึ่งกล่าวเย็นชา เขากับคนอื่นสบตากันวูบหนึ่ง ด้วยพลังของขั้นดับเทพอย่างพวกเขา ย่อมมั่นใจมากว่าสามารถรั้งตัวหลินสวินไว้ที่นี่ได้
ปัง!
เสียงระเบิดหนึ่งดังก้อง เลือดสดสาดกระเซ็น
เหวินเทียนหยวนที่ถูกหลินสวินคว้าคอไว้ถูกบีบคอจนละเอียดทั้งอย่างนั้น ร่างระเบิดตามไปด้วย เลือดสาดกระเซ็นออกมา
พวกชายชราชุดดำถูกภาพนองเลือดนี้ทำให้ตกใจทันที แต่ละคนสีหน้าไม่น่าดูขึ้นมา
“ในเมื่อข้ามาแล้ว ทำไมต้องจากไป”
หลินสวินกล่าวราบเรียบ “คิดดูแล้วพวกเจ้าคงรับคำสั่งของสี่ตระกูลตงหวงมา กำลังเสาะหาร่องรอยของตระกูลลั่วกระมัง”
“รู้แล้วยังมาถาม!”
เมื่อพูดถึงสี่ตระกูลตงหวง ขั้นดับเทพห้าคนในที่นั้นล้วนเยือกเย็นลงไม่น้อย
นี่ทำให้หลินสวินรู้สึกขบขัน แค่เผ่าจักรพรรดิอมตะสี่ตระกูลแห่งน่านฟ้าที่เจ็ดเท่านั้น บางทีอาจคุกคามผู้ฝึกปราณมากมายในน่านฟ้านี้ได้ แต่มีหรือจะคุกคามตนได้
ไม่ต้องสงสัยว่าสำหรับคนของน่านฟ้าที่หกพวกนี้ สี่ตระกูลตงหวงเป็นขุมอำนาจที่ทำให้พวกเขาได้แต่แหงนมองแล้ว
นี่ก็คือปัญหาของความเข้าใจ
หลินสวินไม่มีอารมณ์มาอธิบายกับอีกฝ่าย ทั้งคร้านจะพูดมากความอีก ลงมืออย่างตรงไปตรงมา
ฟุ่บ!
เงาร่างเขาพุ่งวาบ กายมรรคทั้งห้าปรากฏตัวพร้อมกัน พุ่งโจมตีออกไปพร้อมร่างต้น
การต่อสู้ปะทุขึ้น
ก่อนหน้านี้ขั้นดับเทพห้าคนยังมั่นใจเต็มเปี่ยม คิดว่าระดับขั้นเหนือกว่าหลินสวิน ทั้งอาศัยพวกมากรุมหนึ่ง จึงมั่นใจว่าจะรั้งหลินสวินไว้ได้
แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มต้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป จิตต่อสู้สั่นคลอน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
ปึงๆๆ!
เสียงทึบหนักดังขึ้น สัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นดับเทพห้าคนทยอยถูกกำราบ บาดเจ็บหนักเจียนตาย!
หลินสวินเก็บกายมรรคทั้งห้า ก้าวไปข้างหน้าอย่างสงบผ่อนคลาย เริ่มสืบค้นจิตวิญญาณ
ไม่นานเขาก็เข้าใจต้นสายปลายเหตุ
ตั้งแต่เมื่อหกปีก่อน เผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หกมากมายรับคำสั่งจากสี่ตระกูลตงหวง ให้พวกเขาค้นหาเบาะแสของตระกูลลั่วในน่านฟ้าที่หก
หลายปีนี้ขุมอำนาจใหญ่แห่งน่านฟ้าที่หกพวกนี้ส่งกำลังพลมาค้นหาทั่วหล้า จนช่วงนี้เพิ่งสืบพบเบาะแสร่องรอยบางอย่างได้ และคาดเดาว่าตระกูลลั่วมีโอกาสสูงว่าซ่อนตัวอยู่ในทะเลประหัตมารนี้
ดังนั้นพวกเขาเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าจึงออกโรง มาที่นี่เพื่อเสาะหา
ใครจะคิดว่าไม่รอให้พวกเขาพบเบาะแสของตระกูลลั่วก็มาเจอหลินสวินแล้ว
เมื่อรู้เรื่องพวกนี้ นัยน์ตาหลินสวินเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นขึ้นมา
เขากล้ายืนยันว่าแม้คำสั่งค้นหาตระกูลลั่วมาจากสี่ตระกูลตงหวง แต่สี่ตระกูลตงหวงต้องทำตามคำสั่งอีกทอดแน่!
ตัวการเบื้องหลังที่แท้จริง มีโอกาสสูงว่าจะเป็นตระกูลตงหวง!
เป้าหมายที่พวกเขาทำเช่นนี้ ก็แค่อยากนำชีวิตของตระกูลลั่วมาข่มขู่เขาหลินสวินเท่านั้น!
“คราวหน้าค่อยมาคิดบัญชีกับพวกเจ้าทั้งหมด!”
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
ผู้แข็งแกร่งขั้นดับเทพห้าคนที่ถูกกำราบสลายกลายเป็นธุลีทันที หายไปโดยไร้ร่องรอย
ขั้นดับเทพแบ่งเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลายสามขั้นย่อย
ขั้นดับเทพที่หลินสวินเจอครั้งนี้ ผู้แข็งแกร่งที่สุดมีปราณแค่ขั้นดับเทพขั้นกลางเท่านั้น
ทั้งอานุภาพกฎเกณฑ์อมตะที่พวกเขาครอบครอง ส่วนใหญ่อยู่แค่ในขอบเขตของระดับปฐพีขั้นเก้า กระทั่งพลังต่อสู้ที่พวกเขามี เทียบกับขั้นดับเทพที่ครองกฎเกณฑ์อมตะระดับสวรรค์ขั้นเก้าพวกนั้นแล้วก็ต่างกันราวชั้นเมฆกับโคลนตม
กล่าวสรุปโดยง่าย
ในมรรคาอมตะ พลังที่ส่งผลต่อพลังต่อสู้มีแค่สองอย่าง
หนึ่งคือความสูงต่ำของพลังปราณ
อีกหนึ่งคือความสูงต่ำของระดับกฎเกณฑ์อมตะที่ครอบครอง
ขั้นดับเทพที่ครอบครองกฎเกณฑ์อมตะระดับปฐพี ถูกลิขิตให้ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกันที่ครองกฎเกณฑ์อมตะระดับสวรรค์
แต่หลินสวินต่างไปโดยสิ้นเชิง มรรควิถีของเขาอยู่แค่ขั้นอายุขัยเทียมฟ้าสัมบูรณ์ แต่กลับมีพลังยอดอมตะที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้า
ส่วนกฎเกณฑ์อมตะที่เขาครอบครองก็เคี่ยวกรำออกมาจากระเบียบนิพพานที่ถึงขั้นเหนือกว่าระดับสวรรค์ขั้นเก้า
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การข้ามขั้นและกำราบขั้นดับเทพที่ครองระเบียบระดับปฐพีก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
หลังเก็บกวาดทรัพย์หลังศึกเสร็จ หลินสวินมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของเกาะกาฬทักษิณ
เมื่อหลินสวินมาถึงทางเข้า ‘ถ้ำสวรรค์ปรกอุดม’ อย่างคุ้นเคยก็อดใจสะท้านไม่ได้
ถ้ำสวรรค์ปรกอุดมคือขุมอำนาจหนึ่งที่ท่านลู่สร้างไว้ยามจำศีลอยู่ในทะเลประหัตมารก่อนหน้านี้ ทางเข้าของมันอยู่หน้าร้านศาสตราวุธแห่งหนึ่ง
ปีนั้นยามหลินสวินเจอที่นี่ก็ใช้เวลาอยู่บ้าง
แต่ตอนนี้ในสายตาของหลินสวิน ทางเข้าของถ้ำสวรรค์ปรกอุดมนี้ถูกพลังผนึกไร้รูปปกคลุม มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงคนทั่วไป ต่อให้ผู้ยิ่งใหญ่บนมรรคาอมตะมาเองก็ยากจะสังเกตเห็น
ไม่จำเป็นต้องสงสัย กระบวนผนึกนี้เป็นฝีมือของท่านลู่แน่!
กระบวนผนึกยังอยู่ ก็หมายความว่าตระกูลลั่วมีโอกาสสูงว่าจะซ่อนอยู่ในนี้โดยไม่ต้องสงสัย!
หลินสวินคิดดูครู่หนึ่งแล้วเดินตรงไปข้างหน้า เงาร่างพลันหายลับไปทันที
ในโลกลึกลับที่ถ้ำสวรรค์ปรกอุดมตั้งอยู่ยังคงเงียบสงบเหมือนก่อนหน้านี้ ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล ภูผาธาราดุจภาพวาด
“ใคร!?”
พริบตาแรกที่เงาร่างหลินสวินปรากฏตัวก็มีเสียงตวาดราวอสนีบาตดังขึ้น
จากนั้นเงาร่างของลู่ป๋อหยาพุ่งวาบมากลางอากาศ
เมื่อเห็นผู้มาเยือนเขาอดเบิกตากว้างไม่ได้ กล่าวอย่างยินดี “ที่แท้ก็เป็นเจ้าหนูอย่างเจ้า!”
“ท่านลู่ ไม่เจอกันหลายปี ท่านยิ่งสง่างามกว่าแต่ก่อนแล้ว”
หลินสวินยิ้มพลางประสานมือ ในใจเขาก็ตื่นเต้นไม่หยุด
“ท่านลู่ ศัตรูบุกมาถึงหน้าประตูแล้วหรือ”
“เหล่าชายชาตรีตระกูลลั่ว เร็วเข้า ตามข้ามา!”
เสียงตะโกนระลอกหนึ่งดังก้องแต่ไกล พลันเห็นแสงเคลื่อนไหวเจิดจ้ามากมายทะยานมาทางนี้ ล้วนไอสังหารแผ่ซ่าน คิดว่ามีศัตรูภายนอกมารุกราน
แต่เมื่อเห็นผู้มาเยือน แต่ละคนล้วนอึ้งงัน
“ผู้นำตระกูล เป็นคุณชายหลิน!”
ข้ารับใช้คนหนึ่งตื่นเต้นจนตบเข่าร้องขึ้นมา
“พูดมาก ข้ารู้อยู่แล้ว”
ตอนนี้ผู้นำตระกูลลั่วเซียวหรือก็คือตาของหลินสวินหัวเราะร่ากล่าว เสียงสะท้อนชั้นเมฆ
ข้างกายเขายังมีลั่วชิงเหิงและคนคุ้นตาหลายคน ตอนนี้ต่างดีใจจนหน้าชื่นตาบาน
หลินสวินรู้สึกอบอุ่นในใจ ทุกคนยังอยู่ ปลอดภัยไร้พิบัติ ทำให้เขาโล่งอกอย่างที่สุด
คืนวันนั้นในถ้ำสวรรค์ปรกอุดมคึกคักผิดปกติ จัดงานเลี้ยงใหญ่โต
เมื่อเจอลั่วชิงสวินกับหลินเหวินจิ้ง ลั่วเซียวน้ำตานองหน้า ไม่อาจควบคุมได้ เสียอาการต่อเนื่อง ผ่านมาหลายปี เมื่อเจอบุตรสาวที่เขาทะนุถนอมอีกครั้งก็ตื่นเต้นเกินไปจริงๆ
ลู่ป๋อหยาและลั่วชิงเหิงก็คลื่นอารมณ์ถาโถม แต่ละคนไม่วายทอดถอนใจ
หลินสวินยิ้มพลางมองภาพต่างๆ ในใจรู้สึกยินดีและชื่นมื่นไม่หยุด
ทำให้ท่านแม่ได้เจอครอบครัวอีก นี่ก็สะสางปมในใจเขาอย่างหนึ่งแล้ว
…
หลินสวินหยุดพักที่ถ้ำสวรรค์ปรกอุดมสองวันก่อนเดินทางจากไป
เขารู้ว่าท่านลู่เตรียมการไว้พร้อมแล้ว หลายปีนี้วางกระบวนผนึกมาตลอด จัดเตรียมทางหนีไว้
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกศัตรูมาเยือนถึงหน้าประตู ทั้งภายในและภายนอกถ้ำสวรรค์ปรกอุดมนี้ถูกท่านลู่วางตาข่ายดักแน่นหนาแล้ว ต่อให้ผู้แข็งแกร่งขั้นดับเทพมาก็ไม่อาจค้นพบ
ซ้ำท่านลู่ยังบอกหลินสวินว่าหากมีอันตรายเกิดขึ้นจริง ตระกูลลั่วทั้งบนล่างสามารถอาศัยค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณถอยหนีได้ เพียงพริบตาก็ไปถึง ‘ถ้ำเทพแสงเหนือ’ หนึ่งในสามเขตผนึกใหญ่ของทะเลประหัตมารได้
ลู่ป๋อหยาสืบข่าวมาก่อนแล้ว ในถ้ำเทพแสงเหนือมีพื้นที่ผนึกแห่งหนึ่ง ขอเพียงหลบเข้าไปในนั้น ต่อให้เป็นขั้นหลุดพ้นก็ยากจะบุกเข้าไป
เมื่อรู้เรื่องพวกนี้ ยามหลินสวินจากมาก็สบายใจยิ่งกว่าเดิมแล้ว
ทว่าเขายังทิ้งสมบัติบางส่วนไว้ เช่นป้ายคำสั่งที่หัวหน้าหอแรกนภาเหยียนจี้มอบให้ ภายในมีรูปจำลองเจตจำนงของเหยียนจี้ สามารถใช้ได้สามครั้ง ทุกเดือนจะใช้ได้หนึ่งครั้ง
ก่อนหน้านี้หลินสวินเคยใช้ไปหนึ่งครั้ง หรือกล่าวได้ว่าป้ายคำสั่งนี้ยังใช้ได้อีกสองครั้ง
นอกจากนี้หลินสวินยังทิ้งศาสตรามรรค เจตวัตถุ พลังระเบียบบางส่วนที่รวบรวมได้ในช่วงหลายปีมานี้ไว้ทั้งหมด
เขาทำเช่นนี้ด้วยหวังเพียงว่าพ่อแม่ ลู่ป๋อหยา ท่านลุง ท่านตาจะมีวิธีป้องกันตนเองเพิ่มขึ้นมาบ้าง
การจากลาล้วนเศร้าอาดูร
คำเตือนเปี่ยมความเอาใจใส่ของบิดามารดา ความห่วงใยอย่างไม่ขาดตกบกพร่องของผู้อาวุโส ล้วนทำให้หลินสวินประทับใจไม่หยุด
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องจากไป
บนมหามรรค เขายังมีเรื่องมากมายต้องทำ
แต่หลินสวินไม่ได้ไปแก้แค้นเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งน่านฟ้าที่หกทันที
ใช่ว่าไม่อยาก แต่ไม่อาจเผยฐานะ มิฉะนั้นขุมอำนาจใหญ่อย่างลัทธิพ่อมด ลัทธิฌาน สิบยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปดต้องออกเคลื่อนพลชวนประหวั่น มาโจมตีเขาจนถึงชีวิตทันทีแน่
เหมือนตอนนั้นที่แค่มุ่งหน้าไปแหล่งสถานศุภโชค แม้แต่เสวียนเฟยหลิงยังวางใจไม่ลง คอยคุ้มกันและส่งเขาเดินทางด้วยตัวเอง
แค่คิดก็รู้แล้วว่าหากรู้เรื่องที่เขาหลินสวินปรากฏตัวในน่านฟ้าที่หก ย่อมดึงดูดเคราะห์สังหารร้ายกาจระดับใดมา
แต่การไม่แก้แค้นตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าลืมเรื่องนี้
ภายหน้าไม่ช้าก็เร็วหลินสวินจะสะสางบัญชีความแค้นในอดีตให้สิ้นซาก!
…
ผ่านไปครึ่งเดือน
แดนแรกเริ่ม
ในค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเกิดคลื่นละอองแสง เงาร่างสูงตระหง่านหนึ่งก้าวออกมา
ผู้สืบทอดที่เฝ้าค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเงยหน้าขึ้นมองแล้วกล่าวตื่นเต้นทันที “เป็นรองผู้ดูแลหลิน! รองผู้ดูแลหลินกลับมาแล้ว!”
หลินสวินเงยหน้ามอง เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้สืบทอดของขุมอำนาจศัตรูพวกนั้นก็อมยิ้มพยักหน้าแล้วถึงได้จากไป
จากไปหกปีกว่า ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง ทำให้หลินสวินรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งอย่างอดไม่ได้
วันนี้สามหอเก้ายอดเขาแห่งลัทธิแรกกำเนิดทั้งบนล่างล้วนถูกทำให้ตกใจ
เพียงเพราะหลินสวินกลับมาแล้ว!
……………….