Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2963 หนึ่งหมัดสังหารสาม
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2963 หนึ่งหมัดสังหารสาม
ตูม!
ประกายคมที่ราวกับแหวกหมื่นกาลปรากฏกลางอากาศ พลังหมัดที่แสงสว่างไสวบาดตาไหลพล่านเต็มไปด้วยอานุภาพทำลายได้ทุกสิ่ง โจมตีเข้ามาตรงๆ
ฟ้าดินพลิกคว่ำ ล้วนถูกหมัดนี้แหวกออก
กระบวนสังหารเก้ายอดนั่นมีขั้นหลุดพ้นมากกว่าร้อยคนควบคุม ราวกับโลกใหญ่ที่เต็มไปด้วยไอสังหารอันบ้าคลั่งเก้าแห่งมาเยือน
ทว่าภายใต้หมัดนี้ เสียงปังดังขึ้นคราหนึ่ง กระบวนสังหารชั้นแรกที่ราวกับเปลวเพลิงเทพลุกโชนระเบิดออกโดยตรง ปลดปล่อยแสงเพลิงละอองแสงนับไม่ถ้วน
ขั้นหลุดพ้นสิบกว่าคนที่ควบคุมกระบวนสังหารชั้นนี้ล้วนถูกซัดกระจาย จิตสิ้นวิญญาณสลาย!
ตูม!
จากนั้นกระบวนสังหารชั้นที่สองซึ่งประหนึ่งโลกหิมะน้ำแข็งก็พังทลายตามมา เหมือนคันฉ่องที่ถูกตีแตก หิมะไพศาลสาดพรม
ขั้นหลุดพ้นสิบกว่าคนที่ควบคุมอยู่ภายในก็ร่างแหลกมรรคสลายเช่นกัน
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงระเบิดสะเทือนฟ้าดินดังก้องต่อเนื่อง กระบวนสังหารแต่ละชั้นล้วนถูกพลังหมัดน่ากลัวไร้ใดเปรียบทำลาย ระเบิดออกทีละชั้นโดยไม่ให้โอกาสตอบสนอง พัดเลิกแสงมรรคและประกายศักดิ์สิทธิ์ทั่วฟ้า
ในนั้นปะปนด้วยเสียงกรีดร้องหวาดกลัว เสียงตะโกนเดือดดาล รวมถึงเลือดแดงฉานที่พวยพุ่งออกมาเป็นแถบๆ
เพียงพริบตากระบวนสังหารเก้ายอดที่ผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นมากกว่าร้อยคนร่วมมือกันควบคุม ล้วนถูกหมัดนี้ของหลินสวินทะลุทะลวงราวกับกระดาษเปื่อย!
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ หลังจากทะลวงกระบวนสังหารเก้ายอด อานุภาพของพลังหมัดนั่นยังไม่ลดลง พุ่งไปถึงเขาเทพจันทร์กระจ่าง โจมตีจนกระบวนค่ายกลพิทักษ์ภูเขานั่นสั่นคลอนรุนแรง
หมัดเดียวทำลายกระบวนสังหาร กวาดล้างผู้แข็งแกร่ง อานุภาพเต็มเปี่ยม!
ทั้งที่นั้นเงียบกริบไร้เสียง
กระบวนสังหารชั้นยอดที่แข็งแกร่งขนาดนั้น กลับถูกหมัดเดียวซัดทำลาย!
แม้แต่ขั้นหลุดพ้นที่กระตุ้นกระบวนสังหารนี้ล้วนตายโดยไม่มีข้อยกเว้น!
ทุกคนอึ้งจนอ้าปากค้าง ในใจสั่นสะท้าน
ไม่มีใครสงสัยว่าหลินสวินไม่แข็งแกร่ง ถึงอย่างไรในช่วงหลายปีมานี้ข่าวลือเกี่ยวกับเขาก็มากเกินไปจริงๆ ทุกข่าวล้วนมีอานุภาพที่สะเทือนทั่วหล้า
แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าแค่หมัดเดียว หลินสวินก็โจมตีกระบวนสังหารเก้ายอดจนทลายอย่างง่ายดาย ทำให้ขั้นหลุดพ้นเหล่านั้นล้วนดับสิ้นหนีไม่ทัน
นี่น่าสะพรึงเกินไป!
ต่อให้เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกตงหวงจิ่วหุ่ย ยามนี้ยังล้วนสิ้นหวัง รู้สึกเพียงว่าความหนาวสะท้านไต่ลามจากแผ่นหลังขึ้นมา ขนลุกไปทั้งตัว
“นี่… ก็คือพลังของยอดอมตะหรือ…”
มีเฒ่าดึกดำบรรพ์พึมพำ
“เย้ยฟ้ามากจริงๆ ในระดับเดียวกันคงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อีก ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาฝึกปราณมาอย่างไรกันแน่” มีคนสีหน้าเคร่งขรึม
ก่อนหน้านี้หลินสวินกวาดล้างเหล่ามือสังหารจากแดนเร้นนภาอย่างง่ายดาย พลังระดับนั้นก็ทำให้คนใจสั่นแล้ว
และตอนนี้เมื่อหมัดหนึ่งของเขาโจมตีกระบวนสังหารเก้ายอดดับสลาย ทำให้เฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นรู้สึกถึงความเย้ยฟ้าในพลังต่อสู้ของหลินสวินอย่างลึกซึ้ง
“ทุกท่าน พวกเราลงมือพร้อมกัน ใช้วิชามรรคกักขัง ใช้สมบัติลับฟันสังหาร ใช้พลังระเบียบสกัดกั้น ค่อยๆ ทรมานเขาให้ตาย!”
หวังเต้าชวนเสียงเย็นเยียบ
ปราณกระบี่อึมครึมนับไม่ถ้วนปกคลุมรอบตัวเขา กระบี่บินแต่ละเล่มราวกับปลาที่มีชีวิต สองตาของเขาหรี่ลงน้อยๆ แววตาคมกริบประหนึ่งกระบี่สวรรค์ จ้องหลินสวินเขม็ง
เฒ่าดึกดำบรรพ์ทุกคนต่างพยักหน้า กลิ่นอายรอบตัวพวกเขาปกคลุมเป็นอานุภาพรางๆ เชื่อมต่อกันในอากาศ
ดูเหมือนกลุ่มคน แต่กลับกลายเป็นหนึ่งเดียวรางๆ
“หากไม่มีร่างต้นระดับนิรันดร์อยู่ที่นี่ วันนี้ตระกูลตงหวงต้องถูกลบชื่อออกจากโลก”
ไกลออกไปหลินสวินพูดเรียบๆ สายตากวาดมองทุกคน
“น่าขัน เจ้านับเป็นตัวอะไร มีคุณสมบัติใดให้ร่างต้นระดับนิรันดร์ลงมือ วันนี้พวกข้าร่วมมือกัน จะสังหารเจ้าหน้าประตูภูเขา”
ตงหวงจิ่วหุ่ยตะโกนอย่างเย็นเยียบ
เพิ่งจะสิ้นเสียง
ตูม!
ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สิบกว่าคนปลดปล่อยอานุภาพออกมาในเวลาเดียวกัน ร่วมกันจู่โจม!
นี่ต้องน่ากลัวเพียงใด
เห็นเพียงกลางฟ้าดินบริเวณรอบๆ จู่ๆ ก็ปั่นป่วนทรุดทลาย กลิ่นอายทำลายล้างราวกับเขาถล่มสมุทรซัดสาด กลายเป็นพายุคลั่งที่แผ่ออกอย่างเหิมหาญ ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลเบื้องหน้าสายตาเจ็บแสบ จิตใจหวาดหวั่น รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
เผชิญหน้ากับหลินสวินครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าประมาท
เฒ่าดึกดำบรรพ์ทุกคนล้วนกระตุ้นพลังก้นหีบของตน เรียกสมบัติที่ตนภาคภูมิใจที่สุดออกมา ลงมืออย่างอุกอาจ
ตูม โครม!
อานุภาพน่ากลัวสิบกว่าสายพุ่งขึ้นฟ้า แสงสมบัติต่างๆ ส่องสว่างเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน เสียงสะท้านสะเทือนราวกับฟ้าร้องกึกก้องไปทั่ว
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”
แววตาหลินสวินเรียบเฉย “วันนี้ข้าคนแซ่หลินจะตัดหัวพวกเจ้าทุกคน เพื่อแก้แค้นให้เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เมื่อปีนั้น!”
ได้ยินเพียงเสียงตึงดังขึ้นคราหนึ่ง หลินสวินก้าวออกไปกลางอากาศ กฎเกณฑ์อมตะทั่วร่างทะยานพุ่ง ควบรวมเป็นหุบเหววนล้อมอยู่รอบตัว
อานุภาพบนตัวเขาก็เพิ่มขึ้นกะทันหัน!
นี่เป็นเพียงก้าวแรก
ตึงๆๆ!
ก้าวที่สอง ก้าวที่สาม ก้าวที่สี่…
ทุกก้าวที่หลินสวินก้าวออกไปล้วนทำให้อากาศสั่นไหว ฟ้าดินปั่นป่วน ท้ายที่สุดความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนคล้ายจักรวาลพลิกคว่ำ โลกจะล่มสลายอย่างไรอย่างนั้น
ทุกก้าวที่เดินออกมา หุบเหวบนตัวเขายิ่งปรากฏชัด เผยนัยลึกลับของหมื่นมรรคทั่วหล้า รวมเป็นลักษณ์แห่งสุริยันจันทราดารา ฟ้าเสถียรดินขนาน โลกใหญ่ผลุบโผล่อยรางๆ
กลิ่นอายที่ราวกับไม่เสื่อมไม่ดับ หมื่นเคราะห์ไม่สลายแผ่ออกจากร่างของเขา
นี่คือกฎเกณฑ์อมตะที่ได้จากการหลอมระเบียบนิพพานแปดส่วน ผสานรวมกับมรรคาของหลินสวิน สุดท้ายกลายเป็นอานุภาพแห่งยอดอมตะนี้!
“ฆ่า!”
จิงซานหูผู้อาวุโสตระกูลจิงพุ่งออกมาเป็นคนแรก
เขายกมือขึ้น ตวัดธงดำมืดมนออกมา บนธงดำกฎเกณฑ์อมตะที่เร้นลับมืดมิดก่อตัว ภูตผีวิญญาณนับไม่ถ้วนคำรามอยู่บนธง
เห็นชัดว่านี่คือ ‘ธงนรกสยบเทพ’ ศาสตรามรรคอมตะที่เขาภาคภูมิใจที่สุด!
ทันทีที่สมบัตินี้ปรากฏ ฟ้าดินราวกับตกสู่นรก ร้อยภูตผีราตรี แม่น้ำยมโลกปรากฏรางๆ เทพมารกระดูกขาวนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทะเลเลือด ราวกับขบวนทัพเกรียงไกร พุ่งไปทางหลินสวิน
“กระบี่สุดหยั่งแปดทิศ”
“คันฉ่องเพลิงเทพเร้นลับ”
“ระฆังตงหวง!”
“กระบี่ตัดมรรค!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน เฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกหวังเต้าชวน หวังฝูผิง ตงหวงจิ่วหุ่ย ต่างเรียกศาสตรามรรคที่แข็งแกร่งที่สุดในมือออกมาโจมตีเต็มกำลังเข้าใส่หลินสวิน
ตูม!
ระดับอมตะสิบกว่าคนลงมือพร้อมกัน นั่นต้องเป็นภาพเช่นไร
ชั่วขณะนั้น…
ฟ้าดินโกลาหลปั่นป่วนอย่างสิ้นเชิง ราวกับแตกสลาย พายุคลั่งกลางห้วงอากาศพวยพุ่งน่าหวาดหวั่น มีเพียงกฎเกณฑ์อมตะที่ปรากฏอยู่ภายใน พร่างพราวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พวกที่ต่ำกว่าขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ อย่าว่าแต่เข้าใกล้ เพียงแค่เฉียดผ่านก็จะถูกบดขยี้แหลกละเอียดในชั่วพริบตา!
ฟุ่บๆๆ!
ทุกคนเพียงมองเห็นอย่างฝืนๆ ว่าในฟ้าดินโกลาหลนั่น ศาสตรามรรคอมตะที่พร่างพราวเจิดจ้าเป็นสายๆ ลากแสงยาวพุ่งใส่หลินสวินราวกับแสงดาราจันทรา ศาสตรามรรคอมตะทุกชิ้นล้วนสามารถซัดโลกหล้าแหลกละเอียด
ศาสตรามรรคอมตะสิบกว่าชิ้นโจมตีพร้อมกัน
ต่อให้เป็นคนระดับเดียวกันก็ถูกต้องถูกสังหารคาที่
และก็ตอนนี้เอง อานุภาพของหลินสวินโคจรถึงขีดสุด ร่างราวกับหุบเหว อมตะไม่ดับสลาย ประหนึ่งเสาที่ค้ำจุนฟ้า หมื่นกลายไม่เคลื่อนไหวอย่างไรอย่างนั้น
เผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ เขาเพียงแค่ชูมือขึ้นแล้วซัดหมัดออกไป
แคว่ก!
ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน ธงนรกสยบเทพที่อยู่หน้าสุดถูกหมัดของหลินสวินทำลาย ทิวทัศน์ปานขุมนรกถูกแหวกเปิด กระจายไปทั่วราวกับบุปผาที่นางเซียนโปรยอย่างไรอย่างนั้น
เสียงพรูดดังขึ้นคราหนึ่ง จิงซานหูกระอักเลือด สีหน้าหวาดหวั่น
จากนั้นหลินสวินสะบัดหมัดอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง!
ชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม ชิ้นที่สี่…
ชั่วพริบตาเท่านั้น สมบัติที่เรียกได้ว่าล้ำค่าชิ้นแล้วชิ้นเล่า ศาสตรามรรคอมตะที่หลอมจากเจตวัตถุเทพไม่รู้เท่าไร กลับถูกหลินสวินซัดระเบิดอย่างง่ายดายทั้งหมด!
ทุกการโจมตีของเขาราวกับหุบเหวพาดขวาง มีอานุภาพทำลายหมื่นมรรค แข็งแกร่งยิ่งยวด
สมบัติถูกทำลายล้าง ทำให้เฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นถูกพลังสะท้อนกลับ เลือดลมทั่วร่างปั่นป่วน กระอักเลือดไม่หยุด ใบหน้าแก่ชราล้วนเปลี่ยนสีแล้ว
เพียงแต่ยังไม่รอให้พวกเขาตอบสนอง ร่างของหลินสวินก็พริบไหว ทะลวงผ่านฟ้าดินอย่างรวดเร็วประหนึ่งลำแสงพริบวาบ
“แย่แล้ว!”
ตงหวงจิ่วหุ่ยนัยน์ตาหดรัด
ครู่ต่อมาก็เห็นเฒ่าดึกดำบรรพ์สามคนอย่างจิงซานหู จงหลีป๋อเหวิน จ้งอวิ๋นชีที่ทะยานไปหน้าสุด ล้วนตัวแข็งทื่ออยู่กลางห้วงอากาศ สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดคาด ตกตะลึง และยากจะเชื่อ
ตรงหน้าอกพวกเขาต่างปรากฏหลุมเลือดขนาดใหญ่ และกำลังแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว พลังหมัดที่แข็งแกร่งทำลายได้ทุกสิ่งระเบิดออกมาจากภายในร่างของพวกเขา
ตูม โครม!
กายเนื้อรวมถึงพลังจิตของขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สามคนระเบิดออกตรงๆ จิตสิ้นวิญญาณสลายอย่างแท้จริง
สังหารขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สามคนในชั่วพริบตา!
กระแสพลังปานทำลายล้างม้วนตัว เสียงดั่งผีครวญเทพร่ำไห้ดังขึ้นกลางฟ้าดิน โลกหล้าปั่นป่วน พลังนับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านอย่างอหังการอยู่ภายใน
ชั่วขณะนี้ผู้คนไม่รู้เท่าไรอึ้งค้างอย่างที่สุด ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอย
ขั้นหลุดพ้นสามคน กลับถูกฆ่าอย่างง่ายดายเช่นนั้น!?
ตระกูลหวังเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่อมตะอันดับหนึ่ง ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมายังมีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์เพียงแค่เก้าคนเท่านั้น แต่ทุกคนล้วนอานุภาพสะเทือนทั่วหล้า เป็นผู้ที่ผงาดอหังการในน่านฟ้าที่แปด!
แต่ตอนนี้เผชิญหน้ากับหลินสวิน คนระดับนี้กลับยังเห็นชัดว่าไร้ค่า
สำหรับพวกตงหวงจิ่วหุ่ยยิ่งเหมือนน้ำเย็นที่สาดใส่ศีรษะ ดับความหวังอย่างสิ้นเชิง หลินสวินแข็งแกร่งเกินไป น่าสะพรึงเกินไป แม้แต่คนระดับเดียวกันสามคนยังขวางการโจมตีของเขาไม่ได้!
ใครต่างคิดไม่ถึงว่าพลังของหลินสวินจะน่ากลัวเช่นนี้ ถ้าบอกว่ากระบวนสังหารเก้ายอดและสมบัติที่ถูกทำลายก่อนหน้านี้ยังทำให้พวกเขารู้สึกโชคดี คิดว่าหลินสวินใช้วิชาลับต้องห้ามบางอย่างไปแล้ว
ทว่าหลังจากเขาใช้หมัดเดียวสังหารสามคนแล้ว
แม้แต่เฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นยังได้สติขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง
หลินสวินในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เฒ่าชราอย่างพวกเขาจะสู้ได้!
หรือพูดอีกอย่างว่าในระดับนี้ ทอดสายตามองไปทั่วหล้าเกรงว่าคงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แล้ว
“ทุกท่าน ขืนยังไม่ใช้รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว”
หลินสวินพูดเรียบๆ
อานุภาพของเขาเรืองรอง ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับราชันไร้เทียมทาน
ย้อนคิดถึงตอนที่ยังเป็นขั้นหลุดพ้นขั้นต้น เขาสามารถสังหารคู่ต่อสู้ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ได้แล้ว ถึงขั้นยามอยู่น่านฟ้าที่หก มรรควิถีของเขายังไม่ทะลวงขั้นสัมบูรณ์ด้วยซ้ำ ยังสามารถสังหารเฒ่าดึกดำบรรพ์ของพันธมิตรสงครามสิบตระกูลจนหมดสิ้น
ส่วนเขาในตอนนี้มีมรรควิถีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ ทั้งหลอมระเบียบนิพพานไปแปดส่วนแล้ว!
แม้สิ่งที่เขาใช้ตอนนี้เป็นเพียงกายมรรคไม้เขียว ทว่าอานุภาพระดับนั้น จะใช่พลังที่เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับเดียวกันในที่นี้เทียบได้เสียที่ไหน