Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2979 สหายเก่าพานพบกันอีก
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2979 สหายเก่าพานพบกันอีก
ตอนที่ 2979 สหายเก่าพานพบกันอีก
จักรวาลในแขนเสื้อ!
เพียงแต่อภินิหารที่หลินสวินสำแดงออกมานี้กลับเรียกได้ว่าวิปริต แค่เพียงพริบตาก็เก็บผู้แข็งแกร่งเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ทั้งหมดไป
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งอย่างระดับอมตะยังเหมือนอ่อนแอปานมดปลวก
จินตู๋อีอึ้งงันอยู่ตรงนั้น ไม่อาจดึงสติกลับมาเนิ่นนาน
ผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ห่างไปราวกับถูกฟ้าผ่า ถูกภาพสะเทือนใต้หล้านี้ทำเอาตกตะลึงจนคุมสติไม่อยู่
เจ็ดขุมอำนาจใหญ่ รวบรวมขุมอำนาจชั้นยอดแต่ละฟ้าดาราทั่วโลกพันจักรวาลไว้ด้วยกัน หลายปีนี้ยึดครองน่านน้ำรอบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มาตลอด ไม่มีใครสั่นคลอนได้
โดยเฉพาะระดับอมตะพวกนั้นยิ่งแข็งแกร่งถึงขั้นทำให้คนหน้าเปลี่ยนสีเมื่อกล่าวถึง
แต่ตอนนี้…
ล้วนถูกเก็บไปเหมือนลมสารทกวาดใบไม้ร่วงโรย
ไม่รอดสักคน!
เหตุการณ์น่าเหลือเชื่อนี้ใครจะนิ่งเฉยได้
มีเพียงเสวียนจิ่วอิ้นกับจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่สีหน้าเป็นปกติ หากให้คนพวกนี้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกยอดนิรันดร์ เกรงว่าคงไม่ประหลาดใจเช่นนี้แน่
ส่วนซย่าจื้อแทะเมล็ดแตงตั้งแต่ต้นจนจบ เมล็ดแตงวิญญาณที่หลินสวินคั่วไว้ให้นางครบทั้งรูปรสกลิ่นสี ช่วงนี้จึงทำให้นางหลงใหลนัก
กระทั่งทำให้นางไม่สนใจเรื่องอื่นจริงๆ ใช่ว่าเกียจคร้าน แต่ไม่รู้สึกสนใจโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้หลินสวินเหมือนทำเรื่องเล็กธรรมดาเรื่องหนึ่ง นัยน์ตากวาดมองโดยรอบพลางกล่าว “ภายในสามวันรัศมีพันลี้รอบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่มีใครปรากฏตัวอีก มิฉะนั้นอย่าหาว่าข้าคนแซ่หลินไม่เกรงใจ”
เสียงกระจายไปอย่างชัดเจน ม้วนผืนทะเลพัดไกลออกไปอีก
เวลานี้เหล่าผู้ฝึกปราณของขุมอำนาจมากมายที่กระจายอยู่บนทะเลกลืนวิญญาณ ไม่ว่ากำลังต่อสู้หรือปิดด่านฝึกปราณ ไม่ว่าเป็นระดับอมตะที่พลังปราณแข็งแกร่งหรือผู้ฝึกปราณคนอื่น ล้วนได้ยินเสียงเปี่ยมอานุภาพกดดันยิ่งใหญ่ สั่นสะเทือนจิตวิญญาณนี้
ทุกคนต่างหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกันทันที
ใครออกคำสั่งอย่างเผด็จการเช่นนี้
หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้ หลังจากพูดจบสายตาเขามองไปทางจินตู๋อีแล้วยิ้มกล่าว “เจ้าคางคก มัวนิ่งอึ้งทำไม นำทางไปสิ”
จินตู๋อีเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน พาพวกหลินสวินเข้าไปในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทันที
กระทั่งเงาร่างของพวกเขาหายไป เหล่าผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ห่างไกลนั้นจึงได้สติกลับมาช้าๆ บรรยากาศในที่นั้นพลุ่งพล่านตามมาติดๆ
“สวรรค์! กำลังพลของเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ถึงกับถูกกวาดล้างเช่นนี้หรือ”
“คนผู้นั้นเป็นใคร มรรควิถีเขาน่ากลัวแค่ไหนกันแน่ เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นดับเทพหรืออย่างไร”
“เขาเรียกตัวเองว่าคนแซ่หลิน หรือว่า…”
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์พลันมีคนร้องอย่างตื่นเต้นหาใดเปรียบ “เป็นเขา จักรพรรดิเต้ายวน! เขากลับมาแล้ว!”
จักรพรรดิเต้ายวน!
เพียงชั่วขณะผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจที่มาจากนอกทางเดินโบราณฟ้าดาราพวกนั้นล้วนนึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา
หลินเต้ายวน จอมจักรพรรดิคนแรกของทางเดินโบราณฟ้าดารา เคยกดข่มทางเดินโบราณฟ้าดาราด้วยตัวคนเดียวในช่วงเวลาหนึ่ง
เขาคือผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เป็นผู้บุกเบิกสำนักยุทธ์ก่อเกิด ทั้งเป็นตำนานที่ทั่วหล้ายอมรับคนหนึ่ง!
“ใช่ ต้องเป็นจักรพรรดิเต้ายวนแน่ เดิมทีสำนักยุทธ์ก่อเกิดก็เป็นสำนักที่เขาสร้างขึ้นเพื่อคนตระกูลหลิน ปัจจุบันเขากลับมาเห็นสำนักยุทธ์ก่อเกิดถูกปิดล้อมเช่นนี้ การลงมือเวลานี้ก็เป็นเรื่องสมเหตุผล”
ผู้คนไม่น้อยรู้สึกตื่นเต้นจนใจสั่น
“ปีนั้นยามจักรพรรดิเต้ายวนจากไป เขามีพลังปราณระดับมกุฎจักรพรรดิ นี่เพิ่งผ่านมาร้อยกว่าปี พลังปราณของเขากลับแข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว…”
มีคนสั่นสะท้าน
เพียงสะบัดแขนเสื้อก็กวาดล้างเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ดั่งพายุหอบเศษเมฆา
นี่ช่างเหมือนเทพบนสวรรค์จริงๆ!
ไม่นานข่าวที่นี่ก็แพร่สะพัดไปดั่งพายุ กระจายทั่วทะเลกลืนวิญญาณในวันนั้น
“หลินเต้ายวน… เขาถึงกับแข็งแกร่งเพียงนั้นเชียวหรือ”
เหล่าผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจต่างถิ่นใจสั่นไม่หยุด ถูกวิธีเผด็จการของหลินสวินทำให้หวั่นหวาด เจ็ดขุมอำนาจชั้นยอดยังถูกกวาดล้างในชั่วขณะสะบัดแขนเสื้อ อานุภาพเช่นนั้นใครเล่าจะไม่หวาดกลัว
“ยุ่งยากแล้ว!”
“มีหลินเต้ายวนอยู่ ใครจะไปเสาะหาวาสนาในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อีก”
ขุมอำนาจต่างถิ่นพวกนั้นรับรู้ถึงความรุนแรงของปัญหา
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดจักรพรรดิเต้ายวนก็กลับมาแล้ว สุดท้ายทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ก็พบแสงอรุณ!”
สำหรับผู้ฝึกปราณบนทางเดินโบราณฟ้าดารา การกลับมาของหลินสวินทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น ฮึกเหิม และยินดี
หลายปีนี้ขุมอำนาจต่างถิ่นรุกรานทางเดินโบราณฟ้าดาราอย่างหนัก ก่อให้เกิดพายุโลหิตทั่วหล้า ทำให้ทุกหนแห่งวุ่นวายไม่สงบ เกิดเป็นภาพสรรพชีวิตจมสู่ความทุกข์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลกลืนวิญญาณบนโลกชั้นล่างนี้ เพื่อยึดครองศุภโชคในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขุมอำนาจต่างถิ่นพวกนั้นเปิดฉากเข่นฆ่าที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน
แน่นอนว่าเหล่าชนพื้นเมืองในโลกชั้นล่างย่อมรับแรงกระแทกเป็นกลุ่มแรก ถูกสังหารหมู่และฆ่าฟันไปไม่รู้เท่าไร
ก่อนหลินสวินจะกลับมาผู้คนต่างรู้สึกรันทดและสิ้นหวัง คิดว่าทางเดินโบราณฟ้าดาราในภายหน้าต้องถูกขุมอำนาจต่างถิ่นยึดครองแน่
แต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว!
“จักรพรรดิเต้ายวนกลับมาต้องเปิดฉากสะสางบัญชีแน่ รอก่อนเถอะ ด่านเคราะห์ของขุมอำนาจต่างถิ่นพวกนั้นมาถึงแล้ว!”
เมื่อข่าวแพร่กระจายไปไม่หยุด เหล่าผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนที่เคยถูกขุมอำนาจต่างถิ่นบีบกดและรังแกล้วนเกิดประกายความหวังอย่างอดไม่ได้ เฝ้ารอวันที่ขุมอำนาจต่างถิ่นพวกนั้นประสบเคราะห์มาเยือน
ตอนนี้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์รวมที่ทั่วหล้าให้ความสนใจ
การกลับมาของหลินสวิน รวมถึงความพินาศของเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ ไม่นานเรื่องใหญ่สะท้านฟ้าเช่นนี้ก็แพร่ไปทุกเขตแดนดาราทั่วทางเดินโบราณฟ้าดารา
เปิดฉากความปั่นป่วนโกลาหลนับไม่ถ้วนทันที
…
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
ทางเข้าแดนลับดวงกมล
อาหลู่เดินไปเดินมา กำลังเฝ้ารออย่างตึงเครียด เงาร่างผึ่งผายดั่งภูผาของเขากำยำสูงใหญ่ ผิวพรรณทั่วร่างล้วนพลุ่งพล่านด้วยคลื่นอมตะทรงพลัง
เจ้านกดำนอนแผ่บนหม้อเหล็กที่ตนแบก ถอนใจยาวกล่าว “ดูเจ้าร้อนรนสิ ด้วยจิตใจเช่นนี้ไม่รู้ว่าคนโง่โตแต่ตัวอย่างเจ้าก้าวสู่มรรคาอมตะได้อย่างไรจริงๆ”
“นกขี้ขโมยอย่างเจ้ารู้เรื่องจิตใจอะไร” อาหลู่สบถออกมา
“ใช่ นกขี้ขโมยนี่ดีแต่พูดจาแดกดัน พอเจอเรื่องใหญ่ก็เสียสมดุลแล้ว”
ห่างไปไม่ไกลเสี่ยวอิ๋นกอดอก ทำหน้ารังเกียจ เขายังสูงไม่กี่ชุ่น ใบหน้าเล็กหล่อเหลาหาใดเปรียบ ยืนอยู่บนบ่าสาวน้อยแรกแย้มคนหนึ่ง
เด็กสาวดวงตาโตเป็นประกาย ผิวขาวกระจ่างราวหยกมันแพะ งดงามอย่างยิ่ง นิสัยเก็บงำขี้อาย
เด็กสาวคือเสี่ยวเทียน กลายร่างมาจากผีเสื้อมารแยกฟ้า
ในอ้อมอกนางยังอุ้มเจ้าตัวเล็กอ้วนกลมไว้ตัวหนึ่ง ทั่วร่างเปลวเพลิงอบอวล ดวงตากลมจมูกเกลี้ยงปากโค้งน่าหลงใหล
แน่นอนว่าย่อมเป็นเจ้าจิ๊บจิ๊บ
“พวกเจ้ามีความสามารถก็บุกฆ่าออกไป ฆ่าเจ็ดขุมอำนาจใหญ่นั่นให้เกลี้ยง ข้ารับรองว่าจะโขกหัวให้พวกเจ้าติดต่อกันเลย”
เจ้านกดำกล่าวอย่างเกียจคร้าน “ไร้น้ำยาก็อย่ามาล้อข้าเล่น”
อาหลู่เลิกคิ้ว กำหมัดเตรียมอัดเจ้านกดำ
เวลานี้ห้วงอากาศพลันเกิดคลื่นสะเทือน
ฟุ่บ!
ทุกคนล้วนหยุดการกระทำในมือ พากันทอดสายตามองไป
เมื่อเห็นเงาร่างจินตู๋อีปรากฏตัวอย่างปลอดภัย พวกเขาเป่าปากโล่งอกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่ไม่รอให้พวกเขาเอ่ยปากถามข่าวของโลกภายนอกก็อึ้งงันอยู่ตรงนั้น
ก็เห็นเงาร่างสูงตระหง่านหนึ่งตามหลังจินตู๋อีมาติดๆ สวมชุดสีขาวพระจันทร์ ราบเรียบพ้นโลกีย์ ดูคุ้นเคยจนทำให้ทุกคนในที่นั้นรู้สึกว่าฝันไปอย่างอดไม่ได้ ทั้งหมดล้วนเบิกตากว้าง
กระทั่งซย่าจื้อ เสวียนจิ่วอิ้น จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่ตามมาล้วนถูกพวกเขาละเลย
เจ้าคางคกกระแอมทีหนึ่งพลางกล่าว “ทำไม ไม่รู้จักพี่ใหญ่ของข้าแล้วหรือ”
จากนั้นอาหลู่พลันพุ่งเข้ามา อ้าแขนกำยำดุจหินผากอดเงาร่างสูงโปร่งนั้นแล้วตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!”
“จิ๊บๆ…”
เจ้าจิ๊บจิ๊บที่อยู่ในอ้อมแขนเสี่ยวเทียนกลายเป็นแสงเพลิงสายหนึ่งพุ่งเข้ามา ร่างกลมเบียดเข้าไปในอ้อมกอดของอาหลู่โดยง่าย ร้องอย่างปิติยินดีไม่หยุด
“นายท่าน!”
เสี่ยวอิ๋นยิงฟันเผยรอยยิ้มสดใส พุ่งโฉบมาตรงบ่าหลินสวิน
“นายท่าน” เสี่ยวเทียนพุ่งตัวมา ขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาโตไร้เดียงสาเจือแววตื่นเต้นยินดี ถึงกับทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง
เคร้ง!
หัวของเจ้านกดำกระแทกหม้อดำใบใหญ่ ดีดตัวขึ้นมาเหมือนถูกทำให้ตกใจ กระพือปีกตะโกนลั่น “สวรรค์ ข้ามองเห็นอะไร คงไม่ใช่ว่าตาลายกระมัง”
บริเวณที่ไกลกว่านั้น วิญญาณค่ายกลเสี่ยวอู่กับวิญญาณกระบี่เย่จื่อที่กำลังยุ่งอยู่กับการวางผนึกล้วนหยุดการกระทำในมือพร้อมกัน เผยสีหน้าประหลาดใจ
“นายท่าน”
วิญญาณค่ายกลเสี่ยวอู่พุ่งโฉบเข้ามา เริงระบำรอบตัวหลินสวินไม่หยุด
วิญญาณกระบี่เย่จื่อนิ่งสงบไม่น้อย แต่สีหน้ากลับยากปกปิดความยินดีและตื่นเต้น
เพิ่งก้าวเข้ามาในแดนลับดวงกมลก็เจอพวกพ้องที่คุ้นเคยมากเช่นนี้ หลินสวินอดยิ้มไม่ได้เช่นกัน ในใจยินดีถึงขีดสุด ความรู้สึกนั้นน่ายินดียิ่งกว่าสังหารศัตรูแข็งแกร่งคนหนึ่ง ไอรีนโนเวล
เจ้าคางคกเห็นภาพนี้แล้วหัวเราะไม่หยุด
เสวียนจิ่วอิ้นกับจินเทียนเสวียนเยวี่ยสบตากันวูบหนึ่งแล้วยิ้ม ภาพการเจอกันหลังจากไม่ได้พบกันมานานนี้ทำให้คนรู้สึกร่วมได้ง่ายจริงๆ
“จริงสิ ลืมบอกพวกเจ้าไป เจ็ดขุมอำนาจใหญ่ที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้าแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกพี่ใหญ่กำราบหมดแล้ว”
เจ้าคางคกพูดถึงตรงนี้แล้วจ้องเจ้านกดำ “นกขี้ขโมย เมื่อครู่เจ้าพูดอะไรออกมา บอกว่าขอเพียงทำลายศัตรูได้เจ้าจะโขกหัวติดต่อกันใช่ไหม”
ทุกคนต่างอึ้งงัน เจ็ดขุมอำนาจใหญ่ถูกกำราบหมดแล้วหรือ
หากไม่ใช่ว่าเจ้าคางคกพูดเอง พวกเขาคงแทบไม่กล้าเชื่อ
ขณะเดียวกันเจ้านกดำสีหน้าค้างแข็ง รีบเอ่ยอธิบาย “ข้าพูดถึงพวกเขา ไม่ได้พูดถึงเจ้าหลินสวินนี่ หากรู้ว่าเขากลับมา ข้าย่อมไม่มีทางพูดเช่นนี้แน่! ไม่ว่าอย่างไรเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ก็ถูกกวาดล้างหมดแล้ว นี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโขกหัวอีก!”
ทุกคนต่างยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เจ้านกดำก็เป็นเช่นนี้ พวกเขาเห็นจนชินมานานแล้ว
“พี่ใหญ่ หลายปีนี้ทุกคนล้วนคิดถึงเจ้ามาก” อาหลู่ยิ้มยิงฟันกล่าว “จริงสิ อย่ามัวแต่อยู่ตรงนี้เลย พวกเรากลับไปกันเถอะ พี่สะใภ้กับคนอื่นยังรอข่าวจากเจ้าคางคกอยู่ในโถงประชุม”
“ได้”
หลินสวินพยักหน้า
คนทั้งขบวนเคลื่อนตัวไปข้างหน้าทันที
เมื่อเทียบกับปีนั้นแดนลับดวงกมลเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว พลังชีวิตดั้งเดิมที่หนักแน่นทรงพลังกลายเป็นหมอกอัศจรรย์แสงมงคลปกคลุมใต้เวิ้งฟ้า แผ่กลิ่นอายมหามรรคดั้งเดิมที่บริสุทธิ์พลุ่งพล่าน
บนพื้นดินมีหมู่เขาสลับทับซ้อน คดเคี้ยวไปมาเหมือนมังกร กอหญ้าต้นไม้ที่เติบโตบนนั้นล้วนแผ่กลิ่นอายวิเศษชวนตะลึง พลังชีวิตยิ่งใหญ่
ห่างจากซากคีรีดวงกมลไปไม่ไกลก็คือประตูทางเข้าสำนักยุทธ์ก่อเกิด
สิ่งปลูกสร้างเรียงรายเป็นระเบียบบนภูเขาเทพลูกหนึ่ง มีโรงหลอมยา สวนโอสถ ลานแสดงยุทธ์ หอเก็บตำรา หอถ่ายทอดมรรคเป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีถ้ำสถิตมากมายแต้มแต่งตรงจุดต่างๆ บรรยากาศยิ่งใหญ่ดั่งแดนพิสุทธิ์ในอุดมคติ เหมือนแดนสมบัติแห่งเซียนสวรรค์
‘ในที่สุดก็กลับมาแล้ว…’
ใจของหลินสวินอดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน ในหัวปรากฏเงาร่างที่คุ้นเคยมากมายอย่างอดไม่อยู่ มีจ้าวจิ่งเซวียน มีหลินฝานตอนเด็ก มีลุงจงเป็นต้น