Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2987 ประตูลึกลับ
ที่ผ่านมาหลินสวินไม่เคยมีความคิดหลอมระเบียบระดับเทพเลย
เพราะพลังระดับนี้ล้ำค่าและหายากเกินไป ในโลกยอดนิรันดร์ กระทั่งน่านฟ้าที่เก้าก็มีเพียงเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลที่ครอบครองได้
ตอนนี้เขาก็มีระเบียบระดับเทพ ‘ปฐม’ เช่นกัน แต่ไม่เคยคิดจะหลอม
ทำให้หลินสวินไม่เคยรู้ ว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนยังสามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนยามหลอมพลังระเบียบระดับเทพ
กฎเกณฑ์นิรันดร์ก่อนหน้านี้ แม้เป็นสิ่งที่ระดับนิรันดร์ทิ้งเอาไว้ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นระเบียบระดับเทพ เพียงแต่เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ที่เสียหายอย่างหนักเท่านั้น
‘ส่วนลึกของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึง เห็นชัดว่ามีสมบัติที่เกี่ยวข้องกับพลังระดับนิรันดร์ไม่เพียงแค่หนึ่งอย่าง หากการเคลื่อนไหวครั้งนี้สามารถรวบรวมกฎเกณฑ์นิรันดร์มาได้ บางทีอาจสามารถเคี่ยวกรำกฎเกณฑ์อมตะของข้าให้ถึงขีดสุดอย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นการบรรลุระดับนิรันดร์ก็จะไม่มีข้อบกพร่องอะไรอีก’
‘ทำเช่นนี้แม้จะอันตราย แต่ขอเพียงมีประตูเนรเทศอยู่ก็นับว่าสามารถรวบรวมพวกมันได้อย่างง่ายดาย…’
หลินสวินใคร่ครวญพลางลุกขึ้นทะยานไปนอกแดนเนรเทศ
ฟุ่บ!
ไม่นานเงาร่างของเขาปรากฏในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
ครั้นมองพลังของประตูเนรเทศ ยังสามารถยืนหยัดได้อีกหน่อย ในใจหลินสวินเกิดความคิดหนึ่ง ประตูเนรเทศที่เดิมทีราวกับเงาแสงกลุ่มหนึ่งขยายใหญ่ขึ้นกะทันหัน กลายเป็นสี่เหลี่ยมขนาดสามฉื่อ
จากนั้นเขาพุ่งไปส่วนลึกของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
พลังชีวิตที่พลุ่งพล่านบ้าคลั่งนั่นน่ากลัวเพียงใด ถึงตอนนี้ทำให้ยามหลินสวินก้าวเดินยังต้องใช้พลังที่แท้จริง
แต่ตอนนี้มีประตูเนรเทศ ก็เห็นคลื่นพลังชีวิตอันบ้าคลั่งที่พุ่งมาระหว่างทางถูกประตูเนรเทศกลืนกินอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลินสวินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที ความเร็วในการเดินหน้าก็เพิ่มขึ้น
เขาในตอนนี้เหมือนเบื้องหน้าปรากฏหลุมดำไร้ก้น ไม่ว่ามีคลื่นพลังชีวิตที่บ้าคลั่งมากเพียงใด ล้วนถูกประตูเนรเทศกลืนกิน ความเร็วของการเดินทางจะช้าได้อย่างไร
‘ฆ่า!’
ไม่นานเสียงดุดันสะเทือนฟ้าดังกังวาน ซัดจนจิตใจของหลินสวินสั่นไหวระลอกหนึ่ง
ก็เห็นในส่วนลึกของคลื่นพลังชีวิตที่โหมกระหน่ำราวกับมหาสมุทร มีศพที่ผุพังพุ่งออกมา
ศพนี้เห็นชัดว่าถูกหักเอวขาด เหลือเพียงแค่ท่อนบน อีกทั้งไม่มีศีรษะ มีเพียงแค่ท่อนบนของร่างและสองแขน เลือดสดไหลหลั่ง
แต่ศพนี้กลับแผ่แสงมรรคนิรันดร์อันไร้ขอบเขต ไอสังหารเปี่ยมล้น แค่กลิ่นอายก็สามารถซัดผู้ฝึกปราณที่ต่ำกว่าระดับนิรันดร์ทุกคนให้แหลกละเอียดได้
อันที่จริงแวบแรกที่หลินสวินเห็นศพนี้ก็สัมผัสได้ถึงแรงคุกคามที่อันตรายถึงชีวิตแล้ว ไม่สงสัยเลยว่าหากไปปะทะตรงๆ ด้วยมรรควิถีของเขาในตอนนี้คงมีแต่ตาย
แต่ตอนนี้…
หลินสวินมองประตูเนรเทศที่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นกัดฟันพุ่งตรงไปทางศพที่รูปลักษณ์สยดสยองนั่น
‘ฆ่า!’
ศพเปื้อนเลือดพุ่งเข้ามา สองแขนยกขึ้น ฟ้าถล่มดินทลาย ห้วงอากาศเหมือนถูกซัดระเบิด เพลิงเทพสีเขียวกลายเป็นจักระเทพ โจมตีเข้าใส่หลินสวิน
จิตใจของหลินสวินสั่นไหวรุนแรง ผิวหนังทุกอณูเจ็บแสบอย่างที่สุด ความรู้สึกอันตรายแรงกล้าบีบกดจนเขารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เมื่อเทียบกันแล้ว รูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์ยังสู้ไม่ได้
ตูม!
หลินสวินไม่ได้ถอย กลับฝืนเดินหน้าพร้อมประตูเนรเทศ พร้อมๆ กับเสียงอึงอลสะเทือนฟ้าดิน เพลิงสีเขียวนั่นรวมทั้งศพเปื้อนเลือดถูกกลืนกินโดยตรง
แทบจะในเวลาเดียวกัน ประตูเนรเทศที่ถูกพุ่งโจมตีเช่นนี้ก็ระเบิดออก กลายเป็นละอองแสงล่องลอย
แม้แต่เงาร่างของหลินสวินยังโซเซ ถูกสะเทือนจนเลือดลมพลิกตลบ ทรมานจนแทบจะกระอักเลือด
‘ศพนี้ตายมาไม่รู้นานเท่าไร แม้แต่สติปัญญาและจิตสำนึกล้วนไม่มี แต่กลับสามารถปลดปล่อยพลังน่ากลัวขนาดนี้ออกมาได้ นี่จึงจะเป็นพลังที่ระดับนิรันดร์ที่แท้จริงสามารถครอบครองได้หรือ’
หลินสวินสีหน้าเปลี่ยนไป ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
แน่นอนว่าเขาเคยเจอระดับนิรันดร์ และเคยเห็นความสามารถยามต่อสู้ของพวกเขา
เพียงแต่ไม่เคยได้ต่อสู้กับระดับนี้ด้วยตัวเอง
ทว่าตอนนี้หลังจากได้สู้กับมือกระดูกขาวซีดและศพเปื้อนเลือดนั่นด้วยตัวเอง หลินสวินถึงตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าพลังของระดับนิรันดร์แข็งแกร่งเพียงใด
แม้พลังต่อสู้ของตนเย้ยฟ้าเพียงใด ก็ไม่สามารถสู้ได้!
โชคดีที่มีประตูเนรเทศ ไม่เช่นนั้นเขาคงหันหลังกลับ ถอยออกจากส่วนลึกของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อันตรายหาใดเปรียบนี้นานแล้ว
ฮู่ว…
หลินสวินถอนหายใจยาว จากนั้นกัดฟันใช้ประตูเนรเทศอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไม่ได้รีบร้อนไปสำรวจพลังกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่ศพเปื้อนเลือดนั่นจะหลงเหลือเอาไว้หลังจากถูกบดขยี้ในประตูเนรเทศ ยังคงเดินหน้าต่อ
รอรวบรวม ‘เหยื่อ’ ได้เยอะแล้ว ค่อยหลอมทีเดียวก็แล้วกัน
ยิ่งเข้าไปลึก หลินสวินยิ่งเจอ ‘ของอันตราย’ ที่เรียกได้ว่าแปลกประหลาด
มีเศษเสี้ยวศาสตรามรรคนิรันดร์ที่ชำรุดเหียหายหนัก ชุดขาดวิ่นเปื้อนเลือด เกราะแตกหักเป็นรูพรุน… ล้วนคละคลุ้งกลิ่นอายนิรันดร์โดยไม่มียกเว้น น่าเสียดายที่สมบัติเหล่านี้ถูกทิ้งเอาไว้ไม่รู้นานเท่าไรแล้ว จิตวิญญาณถูกทำลายไปนานแล้ว ทั้งยังเสียหายรุนแรง ไม่มีประโยชน์อะไร
นอกจากเหล่านี้หลินสวินยังได้เจอชิ้นส่วนร่างกายที่ระดับนิรันดร์บางส่วนทิ้งเอาไว้อีก
มีศีรษะที่หว่างคิ้วถูกเจาะเป็นรู ใบหน้าเน่าเปื่อย ดูน่าสยองอย่างที่สุด มีลูกตาเปื้อนเลือดด่างพร้อย กะโหลกที่เสียหายอย่างหนักเป็นต้น
ไม่มีที่สมบูรณ์เลยสักนิด
ให้ความรู้สึกเหมือนในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เคยเกิดการเข่นฆ่าและการต่อสู้ของระดับนิรันดร์ จึงมีชิ้นส่วนร่างกายที่ฉีกขาดไม่รู้เท่าไรไว้
ทำเอาคนขนลุก
แน่นอนว่าชิ้นส่วนร่างกายของระดับนิรันดร์ที่เหลืออยู่นี้ล้วนถูกหลินสวินเก็บเข้าไปในประตูเนรเทศทั้งหมด
จนกระทั่งพลังของประตูเนรเทศถูกใช้จนสลายไปอีกครั้ง หลินสวินก็รวบรวม ‘เหยื่อ’ เช่นนี้มาได้เก้าอย่างแล้ว
‘เดินหน้าต่อไปไม่ได้แล้ว จะต้องฟื้นกำลังสักหน่อย’
หลินสวินหยุดเท้า มรรควิถีทั้งหมดของเขาเหลือประมาณสามส่วน ใช้ประตูเนรเทศอีกครั้งก็จะแห้งเหือดอย่างสิ้นเชิง
ฮูม…
คราวนี้หลินสวินใช้ประทับผนึกเวลา ก่อตัวเป็นกระบวนผนึกภายในคลื่นพลังชีวิตที่บ้าคลั่งนี้
จากนั้นเขานั่งขัดสมาธิ หยิบโอสถวิเศษมากมายออกมาและเริ่มทำสมาธิ
ตูม โครม…
คลื่นพลังชีวิตที่พลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำน่าตกใจอย่างที่สุด ผุดออกจากส่วนที่ลึกยิ่งกว่าอย่างต่อเนื่อง ยามพุ่งโจมตีมาทำให้ประทับผนึกเวลาสั่นไหวระลอกหนึ่ง
เดิมทีพลังของประทับผนึกเวลาสามารถยืนหยัดได้ครึ่งเดือนเต็มๆ
แต่ตอนนี้อย่างมากคงยืนหยัดได้ประมาณสามวัน
แต่สำหรับหลินสวินนี่ก็เพียงพอแล้ว
ตอนนี้เขามั่งคั่งมาก ไม่ขาดโอสถเทพหายากที่ใช้ฟื้นพลัง เวลาเพียงครึ่งวันมรรควิถีทั้งหมดของเขาก็ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดแล้ว
‘น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้อภินิหารพรสวรรค์สองอย่างพร้อมกันได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการปะทะยิ่งใหญ่…’
หลินสวินถอนหายใจในใจ หากใช้ประตูเนรเทศได้ ก็จะสามารถฉวยโอกาสนี้เก็บพวกกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่เหลืออยู่ หลังจากถูกจานเทพคร่าศพบดขยี้ก็หลอมในประทับผนึกเวลา
แต่เห็นชัดว่านี่เป็นไปไม่ได้
แม้จะเสียดายอยู่บ้าง แต่หลินสวินเองก็ทำได้เพียงถอนพลังของประทับผนึกเวลา จากนั้นสำแดงประตูเนรเทศอีกครั้งแล้วมุ่งหน้าต่อ
เขาตัดสินใจเดินหน้าต่อ จนกระทั่งรวบรวม ‘เหยื่อ’ ได้เพียงพอจึงค่อยหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่เหยื่อเหล่านั้นทิ้งเอาไว้
……
หลินสวินเดินหน้าอยู่เช่นนี้ ยามพลังของประตูเนรเทศสลายไป ก็สำแดงออกมาอย่างต่อเนื่อง ยามพลังกายกำลังจะแห้งเหือดก็จะหยุดทันที ควบรวมประทับผนึกเวลาฟื้นฟูพลังกาย…
ดำเนินไปเช่นนี้เรื่อยๆ
ระหว่างทางเขาเจอของหักพังที่กลิ่นอายนิรันดร์คละคลุ้งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ล้วนถูกเขามองข้าม คิดแค่จะเก็บชิ้นส่วนร่างกายของระดับนิรันดร์เหล่านั้น
ผลเก็บเกี่ยวก็ถือว่าไม่น้อย
เวลาสั้นๆ หนึ่งวันก็มี ‘เหยื่อ’ หลายสิบชิ้นถูกเก็บเข้าไปในประตูเนรเทศแล้ว
แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องแลกคือพลังกายที่ผลาญไปอย่างต่อเนื่องของหลินสวิน รวมถึงโอสถวิเศษที่ถูกใช้ฟื้นฟูพลังกาย
‘ถึงตอนนี้ ข้าทะยานมาอย่างน้อยหนึ่งแสนกว่าลี้แล้ว แต่เหตุใดยังไม่เห็นปลายทางสักที’
ครู่ใหญ่หลินสวินพลันขมวดคิ้ว
เขาเข้ามาในส่วนลึกของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ก็เพื่อสืบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่จนตอนนี้หนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยคลื่นพลังชีวิตไพศาลปานมหาสมุทร บ้าคลั่งอย่างที่สุด ไม่รู้เลยว่าปลายทางอยู่ที่ไหน
‘ช่างเถอะ ถือว่ามา ‘เก็บศพ’ แล้วกัน…’
หลินสวินส่ายหน้าแล้วเดินหน้าต่อ
หลังจากเดินทางเช่นนี้อีกครึ่งวันเต็มๆ หลินสวินเพิ่งฟื้นฟูพลังกายกลับมาอีกครั้ง ขณะคิดจะปลดประทับผนึกเวลาก็พลันอึ้งไป
ในครรลองสายตา บริเวณที่ลึกยิ่งนั่นปรากฏเค้าโครงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อฟ้าอยู่รางๆ เหมือนประตูบานใหญ่ที่ขวางอยู่กลางฟ้าดิน เพียงแต่ถูกคลื่นพลังชีวิตขผาวโพลนกลบมิด ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดอย่างที่สุด
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ทำให้หลินสวินหัวใจกระตุก
เมื่อปลดประทับผนึกเวลา เขาสำแดงประตูเนรเทศทันทีแล้วพุ่งไปทางนั้น
ยิ่งเข้าใกล้ก็เห็นว่าบริเวณไกลๆ นั่นมีประตูบานใหญ่เชื่อมต่อฟ้าขวางอยู่จริงๆ ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง สะท้านสะเทือนใจคน
เหมือน ‘ประตูสวรรค์’ ในตำนาน!
และคลื่นพลังชีวิตขาวโพลนนั่นก็ถาโถมออกมาจากประตูใหญ่นั่น ยิ่งใหญ่ไพศาล บดบังฟ้าดิน โอ่อ่าอย่างที่สุด
‘ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ พลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าทึ่งในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เห็นชัดว่ามาจากประตูลึกลับมหึมาบานนี้’
แววตาหลินสวินวาบไหว
เวลาเดียวกันเขายังสังเกตเห็นว่า ระหว่างที่คลื่นพลังชีวิตอันไพศาลราวกับมหาสมุทรนั่นพุ่งออกมา ก็มีสิ่งของชำรุดแตกหักมากมายถูกพาออกจากประตูใหญ่นั่นด้วย
ล้วนอบอวลด้วยกลิ่นอายนิรันดร์ มีเศษสมบัติที่เสียหาย และมีชิ้นส่วนร่างกายและศพที่ผุพังแตกหักของระดับนิรันดร์
ให้ความรู้สึกเหมือนว่าภายในประตูใหญ่ที่เชื่อมต่อฟ้านั่นคือโลกสุสานแห่งหนึ่ง ส่วนสิ่งที่ฝังอยู่ในนั้นคือระดับนิรันดร์นับไม่ถ้วน!
นี่น่าอนาถมาก และน่าประหลาดยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะพลังชีวิตยิ่งใหญ่ที่ทำให้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึง ก็มาจากภายในประตูบานใหญ่นี้เช่นกัน
หนึ่งคือพลังชีวิตที่พลุ่งพล่านไร้สิ้นสุด อีกหนึ่งคือชิ้นส่วนศพที่เป็นตัวแทนของความตาย ล้วนมาจากที่เดียวกัน ทำให้คนรู้สึกถึงความแตกต่างแรงกล้า ไม่ว่าใครเห็นก็คงรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจ
ชั่วขณะนี้หลินสวินเองก็อดลังเลไม่ได้ว่าจะไปสำรวจในประตูใหญ่ลึกลับนั่นดีหรือไม่