Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3004 การต่อสู้ที่ไม่อาจยอมรับ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3004 การต่อสู้ที่ไม่อาจยอมรับ
ถานอู่ราชครูฟ้าของลัทธิพ่อมด เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งที่พลังต่อสู้แข็งแกร่งหาใดเปรียบ
นานมาแล้วเขาก็เคยผงาดเหนือทุกน่านฟ้า อานุภาพร้ายกาจโจษจัน ซัดสะเทือนสรรพชีวิตบนโลก ต่อให้เป็นน่านฟ้าที่เก้าชื่อเสียงของเขาก็กระจายเป็นวงกว้าง
ทว่าตอนนี้เขากลับถูกหลินสวินฆ่าตายคาที่อย่างง่ายดาย!
ต่อให้สู้สุดความสามารถ ต่อให้มียอดสมบัติพิทักษ์สำนักที่อานุภาพแข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่ออย่างคันฉ่องเทพอสนีดำ ยังยากจะต้านทานการสังหารของปราณกระบี่นับหมื่นแสนนั้นได้
มรรควิถีนิรันดร์ทั้งตัวล้วนถูกกำจัดกลางกระแสปราณกระบี่ไร้ขอบเขต!
ภาพนั้นแค่คิดก็รู้แล้วว่าชวนตะลึงเพียงใด
ไม่ใช่แค่พวกเสวียนเฟยหลิงในแดนแรกเริ่มที่ตกใจ แม้แต่พุทธปัจจุบันลัทธิฌานอย่างเจียหนาน รวมถึงผู้ยิ่งใหญ่ระดับนิรันดร์เจ็ดคนจากน่านฟ้าที่เก้าอย่างพวกเหวินไท่หลินก็ได้รับแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ หน้าล้วนเปลี่ยนสี!
“เป็นไปได้อย่างไร…”
มีเสียงตกตะลึงดังขึ้น เจือความขุ่นเคืองและตื่นตระหนก
พริบตานี้เหล่าระดับนิรันดร์ต่างนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้…
หากไม่ใช่ว่าผู้บงการหลังม่านของเคราะห์แห่งยุคสมัยสมัยนั้นสังเกตเห็นภัยคุกคามจากตัวหลินสวิน ทำไมต้องออกคำสั่งให้ระดับนิรันดร์อย่างพวกเขาออกโรงพร้อมกันเล่า
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนมองหลินสวินเป็นระดับนิรันดร์ทั่วไปตามจิตใต้สำนึก ไม่เคยคิดเลยว่าบุคคลที่ทำให้ผู้บงการหลังม่านรู้สึกถึงภัยคุกคามได้ พลังที่เขาครอบครองหลังจากก้าวสู่ระดับนิรันดร์แล้วจะน่าหวาดกลัวเพียงใด!
การตายของถานอู่พิสูจน์เรื่องนี้โดยไม่ต้องสงสัย
“เข้าไปพร้อมกัน!”
เจียหนานเอ่ยท่องธรรม สีหน้าเคร่งขรึมนิ่งสงบ กระตุ้นโคมบัวสุญญากาศ
เพียงชั่วขณะดอกบัวสีทองนับหมื่นแสนควบรวมกัน กลายเป็นเงาร่างภิกษุกำยำสูงใหญ่รูปหนึ่ง เหยียดมองโลกหล้าราวกับนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่บัญชาปวงสวรรค์
ห้วงอากาศเป็นสื่อนำ พุทธจำแลงสยบหล้า!
ก็เห็นว่าภิกษุนี้คล้ายมีความสูงใหญ่ไร้สิ้นสุด ทั่วร่างลุกโชนด้วยเพลิงธรรมสุญญากาศโหมกระหน่ำ ความแข็งแกร่งของอานุภาพที่ปรากฏราวกับจะบดทลายเวิ้งฟ้าแถบนี้ เผาสรรพสิ่งบนโลกเป็นเถ้าถ่าน
นี่คือกระบวนท่าสังหารของโคมบัวสุญญากาศ น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตโดยแท้
เมื่อมายามุนินทร์ร่างนี้ควบรวมก็ก้าวสู่ห้วงอากาศทันที ซัดฝ่ามือหนึ่งมาทางหลินสวิน
ตูม!
แสงธรรมไร้สิ้นสุดควบรวมอยู่กลางประทับฝ่ามือราวบังฟ้าคลุมตะวันนั้น บดทลายห้วงอากาศ ปั่นป่วนสรรพสิ่ง เพลิงธรรมลุกโชนโหมกระหน่ำ
มุมปากหลินสวินเผยรอยยิ้มเย็นชา
เขายื่นแขนขวาออกไป พลังกฎเกณฑ์นิรันดร์ทั่วร่างรวมตัวอยู่ระหว่างนิ้วมือ จากนั้นจึงฟันออกไปกลางอากาศ
ตูม!
ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกมา กระจ่างบริสุทธิ์ราวกับเงาแสงมายา
เมื่อกระบี่นี้ฟันลงมา มือใหญ่บดบังฟ้าที่ซัดมานั้นถูกผ่าเป็นสองท่อนโดยไร้สุ้มเสียงแล้วระเบิดออกกลางอากาศทันที
ปราณกระบี่เปี่ยมอานุภาพไม่เสื่อมถอย แหวกอากาศเป็นรอยแยกตรงดิ่งสายหนึ่ง
ปลายทางรอยแยกบนเงาร่างภิกษุสูงใหญ่ราวไร้ขอบเขตนั้น รอยเลือดสายหนึ่งปรากฏตรงหว่างคิ้ว จากนั้นจึงผ่านสันจมูก ริมฝีปาก ลงไปถึงลำคอและหน้าอกด้วยความเร็วชวนตะลึง…
ปัง!
เงาร่างภิกษุที่ควบรวมจากพลังของโคมบัวสุญญากาศถูกฟันเป็นสองท่อนจากกลางร่าง ก่อนจะล้มเอนไปสองด้าน และกลายเป็นหมอกควันโหมกระหน่ำแผ่กระจาย
พรูด!
เจียหนานที่อยู่ห่างไปราวกับถูกฟ้าผ่า เงาร่างไหวเอน ปากกระอักเลือด
สีหน้าเขาฉายแววตื่นตระหนกยากจะเชื่ออย่างไม่อาจควบคุม นี่คือวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว ต่อให้ไปจัดการบุคคลระดับเดียวกันก็สร้างภัยคุกคามถึงชีวิตได้
แต่หลินสวินกลับใช้แค่กระบี่เดียวบดขยี้ทุกอย่างเหมือนผ่าลำไผ่!
“ภิกษุ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้เจ้ายังไม่พัฒนาสักนิดหรือ”
หลินสวินเอ่ยราบเรียบ
นานมาแล้วระหว่างทางที่เขากลับมาจากแดนมารสิบทิศ เจียหนานเคยใช้รูปจำลองเจตจำนงหนึ่งมาสกัดกลางทาง
ตอนนั้นหลินสวินไม่มีแรงสู้กับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เช่นนี้โดยสิ้นเชิง เป็นรูปจำลองเจตจำนงของอาจารย์อาคงเจวี๋ยปรากฏตัวทันเวลา ถึงกำจัดรูปจำลองเจตจำนงของเจียหนานได้
แต่ตอนนี้กาลเวลาผันผ่าน ต่อให้ร่างต้นของเจียหนานออกโรงก็ไม่อาจสร้างภัยคุกคามให้หลินสวินได้เท่าไร!
“ฆ่า!”
ขณะเดียวกันเหวินไท่หลินและระดับนิรันดร์เจ็ดคนทนไม่ไหวอีก ลงมือพร้อมกันแล้ว
การตายของราชครูฟ้าถานอู่แห่งลัทธิพ่อมดทำให้พวกเขาถูกกระตุ้นมาก เวลานี้สิ่งที่พุทธปัจจุบันเจียหนานประสบยิ่งทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญแขวน รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของหลินสวิน มีหรือจะกล้าลังเลอีก
“ทะยาน!”
เหวินไท่หลินชุดม่วงสะบัดโบก กระตุ้นคทาหยกสมประสงค์ในมือ ดาวดวงโตสีม่วงร้อยแปดดวงปรากฏกลางอากาศทันที กลายเป็นกระบวนค่ายกลลึกลับ ประกายดาราสีม่วงเจิดจรัสไร้ใดเปรียบพวยพุ่ง
คทาม่วงสมประสงค์!
ศาสตรามรรคอมตะชิ้นหนึ่งที่ควบรวมกระบวนค่ายกลดาราได้ในพริบตา
“แสงเทพสองลักษณ์นำทาง!”
เย่ซางที่รูปร่างดั่งชายหนุ่มแววตาดุจอสนี เรียกกระบี่มรรคคู่หนึ่งออกมาดังกังวาน หนึ่งดำหนึ่งขาว หนึ่งมืดหนึ่งสว่าง ยามหมุนวนกลางอากาศจะกลายเป็นแสงกระบี่เกลี้ยงกลมสายหนึ่ง ราวกับยอดเอกอุ เผยอานุภาพยิ่งใหญ่ซึ่งสมบูรณ์แบบไร้รอยรั่ว คงอยู่ตราบนิรันดร์
“โอม!”
“ฆ่า!”
“สยบ!”
“ผสาน!”
ขณะเดียวกันอู่จั๋วเทียน หยางจิ่วฉี จี้ตงหยา สิงเทียนเฮ่า จื่อเชอป๋อเถิง ระดับนิรันดร์คนอื่นๆ ต่างเรียกศาสตรามรรคออกมา
พวกเขาแต่ละคนท่าทางแข็งแกร่ง ปลดปล่อยมรรควิถีของตนเต็มกำลัง ไม่กล้าเก็บซ่อนแม้แต่น้อย ต่างคนต่างควบคุมศาสตรามรรคนิรันดร์ของตนพุ่งไปทางหลินสวินพร้อมกัน
ตูม… โครม…
ก็เห็นหมอกม่วงกว้างใหญ่ ดาวดวงโตหมุนวน ปราณกระบี่หนาแน่น มีลายยอดเอกอุทะยานขึ้นฟ้า มีบาตรส่องประกายสว่างไสว แสงทองสาดส่องท้องนภา มีประทับมรรคบดทลายใต้หล้าทะยานเข้ามา…
อานุภาพชวนประหวั่นนานัปการรวมตัวกันปั่นป่วนฟ้าดินแถบนี้ ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงราวกับจะพังทลาย
ระเบียบปฐมกับระเบียบวัฏจักรฟ้าที่ปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ล้วนสั่นสะเทือนรุนแรง!
แค่คิดก็รู้แล้วว่าพลังที่ระดับนิรันดร์พวกนี้ปลดปล่อยพร้อมกัน หากกระจายไปยังโลกภายนอกแล้วจะชักนำภัยพิบัติร้ายแรงระดับใดมา
ในแดนแรกเริ่มพวกเสวียนเฟยหลิงต่างตกใจจนตัวแข็งทื่อ หนังศีรษะชาวาบ มือเท้าเย็นเยียบ
แม้ว่าพวกเขามีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปี แต่เพิ่งเคยเจอศึกใหญ่ระดับนิรันดร์ซึ่งปะทุตรงหน้าเช่นวันนี้เป็นครั้งแรก แต่ละคนต่างกังวลแทนหลินสวินอย่างอดไม่ได้
เวลานี้กลับเห็นหลินสวินไม่หลบหลีก เขาพลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง อานุภาพบนตัวถึงกับเพิ่มระดับขึ้นในยามนี้!
ตูม!
ผมดำเขาแผ่สยาย พลังนิพพานลึกลับคลุมเครือเปลี่ยนเป็นหุบเหวลึกไร้สิ้นสุด ทะยานไปเบื้องหน้าพร้อมเงาร่างเขา
“เปิดทาง!”
เขาตวาดลั่น กำหมัดซัดออกไปเหมือนธนูยักษ์ที่ถูกดึงง้าง
ตูม!
พริบตานี้เสียงกัมปนาทชวนประหวั่นที่ไม่อาจบรรยายดังก้องฟ้าดิน มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าพลังหมัดของหลินสวินเหมือนเหวลึกเคลื่อนขวาง เข้าปะทะกับอีกฝ่าย แสงมรรคนานัปการม้วนซัดทันที ก่อให้เกิดพลังทำลายล้างราวคลื่นซัดสาด
ศาสตรามรรคนิรันดร์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าส่งเสียงดังครั่นครืน วิชามรรคนานัปการเปล่งแสงกลางอากาศ ทำให้ที่นั่นเปลี่ยนเป็นอลหม่านและปั่นป่วนถึงขีดสุด ราวกับต้นเหตุของมหันตภัยวันสิ้นโลก
ตูม…
กลางฟ้าดินปรากฏลักษณ์ประหลาดพังทลายนานัปการ เทพมารคำรามเดือด ภูผาธาราร่วงโรย โลกใหญ่ดับสลาย…
ปึง!
จากนั้นเงาร่างหลินสวินซวนเซถอยหลังไปหลายสิบจั้ง
แต่ขณะเดียวกันพลังล้อมโจมตีจากระดับนิรันดร์เจ็ดคนนั้นก็สลายไปทันที ถูกคลี่คลายไปจนหมด
“ถึงกับต้านทานได้หรือ”
หว่างคิ้วเหวินไท่หลินเผยแววอึมครึม
“เจ้าหมอนี่เย้ยฟ้าเกินไป อย่าปล่อยโอกาสให้เขารอดไปได้เด็ดขาด ก่อนหน้านี้แม้จะฆ่าเขาไม่ได้ แต่ก็โจมตีเขาให้ถอยร่นได้ ฉวยโอกาสนี้สังหารเขาในคราเดียว”
เย่ซางกระเหี้ยนกระหือรือ น้ำเสียงดุดันราวกับกระบี่
“ฆ่า!”
ยามพูดคุยพวกเขาบุกเข้ามาแล้ว ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกันเจียหนานกระตุ้นโคมบัวสุญญากาศเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง บุกโจมตีพร้อมระดับนิรันดร์เจ็ดคนนั่น
แต่เวลานี้กลับเห็นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งตัดผ่านอากาศ แต่ต่างไปจากเมื่อก่อน เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งตอนนี้ปกคลุมด้วยแสงมรรคคลุมเครือลึกลับ ปากเตามีพลังนิพพานพวยพุ่ง เรียบง่ายและหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
ทันทีที่มันปรากฏตัวก็ทำให้รู้สึกถึงอานุภาพชั้นยอดที่ไม่อาจสั่นคลอน กำราบนิรันดร์กาล
เคร้ง!!
กระบี่มรรคของเย่ซางพุ่งเข้ามาก่อน ผสานกันเป็นปราณขาวดำดุดันเผด็จการ แต่กลับไม่อาจสั่นคลอนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้ กระบี่มรรคู่นี้ถูกซัดจนสั่นพล่านดังระงม
นี่ทำให้เย่ซางหน้าเปลี่ยนสี
กระบี่มรรคคู่นี้ของเขาหลอมจากเจตวัตถุนิรันดร์นานัปการ ถูกเขาทุ่มเทฟูมฟักมานานหลายแสนปี โจมตีครั้งเดียวก็ผ่าโลกใหญ่แห่งหนึ่งได้
แต่ตอนนี้กลับเหมือนมดเขย่าไม้ใหญ่ เมื่อปะทะกับเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแล้วดูไร้พลังนัก!
จากนั้นเสียงระเบิดทึบหนักสนั่นหูดังก้อง ก็เห็นทวนสีเงินของจื่อเชอป๋อเถิง บาตรสีทองของอู่จั๋วเทียน ขวานยักษ์แดงสดของสิงเทียนเฮ่า… ศาสตรามรรคนิรันดร์ทุกอย่างล้วนถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งขวางไว้!
นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ลอยอยู่ตรงนั้น ทำให้ศาสตรามรรคนิรันดร์ของพวกเขายากสั่นคลอน นี่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
“ฆ่า!”
เวลานี้หลินสวินเปิดฉากบุกโจมตี
เมื่อเขาเคลื่อนไหวเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งสะเทือนดังสนั่น แผ่กลิ่นอายแรกกำเนิดโหมกระหน่ำออกมา พุ่งไปข้างหน้าพร้อมเขา
ตูม!
หนึ่งคนหนึ่งเตา ทุกจุดที่เคลื่อนผ่านฟ้าถล่มดินทลาย สรรพสิ่งดับสูญ อานุภาพนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ
แน่นอนว่าระดับนิรันดร์พวกนั้นย่อมไม่นั่งรอความตาย ผนึกกำลังบุกโจมตี ปลดปล่อยมรรควิถีและพลังที่ครอบครองทั้งหมดเต็มกำลัง
แต่เพียงพริบตา…
ตูม!
แสงมรรคทำลายล้างกระจายทั่วฟ้า การโจมตีระดับนิรันดร์พวกนี้ล้วนถูกทำลาย วิชามรรคนิรันดร์ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มากมายดับสลาย ศาสตรามรรคอมตะแต่ละชิ้นถูกซัดจนสั่นคลอนครวญคร่ำ
ระดับนิรันดร์พวกนั้นล้วนถูกซัดจนเลือดลมตีกลับ ยากจะรับจนเกือบกระอักเลือด
เมื่อมองหลินสวินกลับไม่เป็นอะไร อานุภาพดุจสายรุ้ง!
เขาบุกเข้ามาอีกครั้ง
สีหน้าระดับนิรันดร์พวกนั้นล้วนเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา แต่ละคนเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ ยามต่อสู้คล้ายเอาชีวิตเข้าแลก แต่ละคนอานุภาพไร้จำกัด
ทว่าหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งการร่วมมือล้อมโจมตีของพวกเขายังถูกทะลวงอีกครั้ง เงาร่างแต่ละคนต่างซวนเซถอยหลังล้มกองระเนระนาด หมดสภาพไม่น่าดู
“ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้”
มีคนร้องคำรามอย่างขุ่นเคือง
ระดับนิรันดร์แปดคนลงมือพร้อมกัน ล้วนใช้มรรควิถีทั้งหมด ถึงกับกำราบหลินสวินไม่ได้ กลับถูกเขาทะลวงการล้อมโจมตีทุกครั้ง!
ใครจะยอมรับเรื่องนี้ได้เล่า