Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3018 ทะลวงขั้น
หลายปีมานี้สายตาหลินสวินพิถีพิถันยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะหลังจากแจ้งมรรคนิรันดร์แล้ว สมบัติระดับอมตะธรรมดาไม่มีทางเข้าตาเขาแล้ว
มิหนำซ้ำเขายังเคยเหยียบย่ำทำลายสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดทั้งหมด ทั้งยังเคยสังหารระดับนิรันดร์มาไม่น้อย ได้สมบัติอัศจรรย์ล้ำค่าต่างๆ มาทุกครั้ง
สมบัติจำพวกเจตวัตถุหรือยาลูกกลอนใดๆ ยิ่งเห็นมาจนเจนตา
แต่หลังจากได้เห็นทรัพย์สมบัติที่ตระกูลหยางสั่งสมไว้ หลินสวินยังอึ้งงันไปครู่หนึ่ง จับจ้องไม่วางตาอยู่บ้าง
สมบัติล้ำค่าเหล่านั้นกองเป็นภูเขาลูกแล้วลูกเล่า มีทั้งเจตวัตถุ วัตถุดิบเทพ โอสถเทพ ทั้งยังมีของล้ำค่าสารพัดอีกจำนวนหนึ่ง
ต่างวางกองแยกประเภทเอาไว้
เริ่มตั้งแต่สมบัติที่เหมาะกับการฝึกปราณห้าระดับล่าง ตามด้วยสิ่งที่เหมาะกับระดับราชันอมตะ ระดับอริยะ ระดับกึ่งจักรพรรดิ ระดับจักรพรรดิ ระดับอมตะ…
สมบัติสำหรับแต่ละระดับนั้นล้วนเรียกได้ว่าเป็นสมบัติชั้นยอดในโลก!
เดิมทีน่านฟ้าที่เก้าก็เป็นโลกที่ดุจดั่งนิรันดร์แห่งหนึ่ง ทุกที่มีแต่เขางามน้ำเลิศ น่านฟ้าอื่นไม่อาจเทียบได้
เขาเทพตะวันไพศาลที่ตระกูลหยางยึดครองแห่งนี้ยิ่งเป็นถ้ำสวรรค์แดนมงคลชั้นยอดของน่านฟ้าที่เก้า ต่อให้ไม่ใช้สิ่งของจากภายนอกยังสามารถทำให้มรรควิถีของผู้ฝึกปราณเพิ่มสูงขึ้นฉับพลัน
เมื่อรวมกับทรัพย์สมบัติที่ตระกูลหยางสั่งสมไว้เหล่านี้ แค่คิดก็รู้ว่าคนตระกูลหยางเหนือกว่าคนส่วนมากบนโลกตั้งแต่ก้าวแรกที่ฝึกปราณแล้ว!
ไม่นานนักหลินสวินก็ถูกภูเขาสมบัติกองสุมลูกหนึ่งในนั้นดึงดูดสายตาไป
เห็นชัดว่าภูเขานี้เล็กกว่ามาก แต่ที่กองอยู่ล้วนเป็นสมบัติที่จำเป็นกับการฝึกปราณระดับนิรันดร์ทั้งสิ้น!
‘ลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุ ผงแปรมายาเก้าจักรา ลูกกลอนหยกยุทธ์เสรี…’
หลินสวินสังเกตเห็นว่ายาลูกกลอนแต่ละชนิดต่างถูกผนึกไว้ในกล่องหยก มีอยู่สิบกว่าชนิด แต่ละชนิดหลอมขึ้นจากโอสถเทพนิรันดร์ล้ำค่าต่างๆ มีคุณประโยชน์น่าเหลือเชื่อ
ยาเหล่านี้ถูกหลินสวินเก็บไปหมด
ต่อมาเป็นเจตวัตถุนิรันดร์มากกว่าพันชนิด เป็นสิ่งที่ใช้หลอมศาสตรานิรันดร์โดยเฉพาะ แต่ละชิ้นล้วนมีพลังเจตะน่าตื่นตะลึง อบอวลด้วยกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามถึงขีดสุด
ทว่าเทียบกันแล้วเจตวัตถุนิรันดร์เหล่านี้กลับเทียบเจตวัตถุนิรันดร์ที่หลินสวินหลอมสมัยอยู่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ ของเหล่านั้นสามารถใช้เป็นโครงอาวุธได้โดยสมบูรณ์
แต่ไม่ว่าอย่างไรเจตวัตถุนิรันดร์เหล่านี้ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะโลกภายนอกย่อมไม่มีใครขาย!
วู้ม…!
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง เจตวัตถุนิรันดร์เหล่านี้ก็ถูกเขาเก็บไป
จากนั้นก็เป็นของล้ำค่าที่เกี่ยวข้องกับมรรคานิรันดร์จำนวนหนึ่ง มีกระดูกมรรคที่ประทับกลิ่นอายนิรันดร์ลึกลับ มีตำราแพรหยกที่เขียนใจความฝึกปราณระดับนิรันดร์จำนวนหนึ่ง และยังมี… อีกมากมายหลายหลาก ละลานตาไปหมด
ขณะที่หลินสวินจัดระเบียบสมบัติเหล่านี้ยังลอบทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ สมกับเป็นเผ่าเทพนิรันดร์ ทรัพย์สินในตระกูลจะมั่งคั่งเกินไปแล้ว!
ท้ายที่สุดนอกจากสมบัติที่เหมาะกับการฝึกปราณเหล่านี้จะถูกเขาเก็บไปแล้ว สมบัติอื่นก็ถูกเขาเก็บมาทั้งหมด ตัดสินใจว่าภายหลังจะมอบให้สหายเหล่านั้นไปใช้
ตามที่เขาคำนวณ แค่สมบัติที่เขาใช้ไม่ได้เหล่านี้ ล้วนเทียบได้กับทรัพย์สินที่สิบยักษ์ใหญ่อมตะมีรวมกัน!
แน่นอนว่าผลเก็บเกี่ยวที่ใหญ่ที่สุดของหลินสวินคราวนี้ย่อมเป็นระเบียบตะวันไพศาลอย่างไม่ต้องสงสัย!
นี่เป็นถึงระเบียบระดับเทพที่สมบูรณ์ชนิดหนึ่ง ไม่อาจประเมินราคาได้
นอกจากนี้ยังมีระเบียบระดับสวรรค์ที่หายากเก้าชนิดซึ่งรวมกันเป็นกระบวนค่ายกลร้อนระอุ รวมถึงศาสตรามรรคนิรันดร์ที่อยู่กับตัวหยางเสียเทียนและหยางปู้ต้ง
ส่วนของอย่างพลังจิตกับซากศพหยางเสียเทียนก็ถูกเขาเก็บไว้เช่นกัน รอภายหน้าเขาครอบครองนัยเร้นลับ ‘ห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์’ ก็จะหลอมสมบัติที่แตกต่างกันออกมาได้
สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นหยางปู้ต้งถูกส่งเข้าประตูเนรเทศ ถูกกฎระเบียบลบล้างกำจัดไปหมดแล้ว…
‘ก็ไม่รู้ว่าโลกภายนอกจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แล้วหรือยัง’
หลังหลินสวินจัดการสมบัติเหล่านี้เสร็จก็คิดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่
ตั้งแต่การต่อสู้เปิดฉากจนปิดฉากลง ใกล้ๆ กับเขาเทพตะวันไพศาลแห่งนี้ไม่มีผู้สังเกตการณ์ โลกภายนอกก็คงไม่รู้เรื่องเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางประสบเคราะห์ไปในเวลาสั้นๆ
ขณะที่ใคร่ครวญ เมื่อในใจหลินสวินขยับไหว กายมรรคไม้เขียวก็พุ่งออกไปนอกเขาเทพตะวันไพศาล
ส่วนร่างต้นของเขากลับเริ่มนั่งสมาธิ
การต่อสู้วันนี้ทำให้เขาได้สมบัติหายากที่สามารถหลอมชำระมรรควิถีมาไม่น้อย เช่นลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุ ผงแปรมายาเก้าจักรา ลูกกลอนหยกยุทธ์เสรี ต่างมีคุณประโยชน์น่าเหลือเชื่อต่อการยกระดับมรรควิถีขั้นล่วงกฎ
ถ้าเลื่อนขั้นพลังปราณของตนได้อีกหนึ่งขั้นก่อนไปเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลจี้ได้ เช่นนั้นต่อให้เจอกับรูปจำลองเจตจำนงขั้นไร้ขอบเขตก็จะไม่ลำบากเหมือนตอนจัดการหยางสวินเทียนในวันนี้
อีกทั้งหลินสวินคิดจะถือโอกาสนี้หยั่งรู้นัยเร้นลับห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงครอบครองพลังกฎระเบียบต้นกำเนิดห้าชนิดนี้ ก็จะมีประโยชน์ในการสังหารคู่ต่อสู้ระดับนิรันดร์อย่างมาก!
ผ่านไปสองชั่วยาม
กายมรรคไม้เขียวกลับมา ร่างต้นหลินสวินได้รู้ว่าในช่วงสองชั่วยามนี้กายมรรคไม้เขียวทะยานไปตามอาณาเขตกว้างใหญ่ที่มีตระกูลหยางควบคุมแห่งนี้รอบหนึ่ง ในที่สุดก็แน่ใจว่าตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ข่าวตระกูลหยางล่มสลายไปแล้ว
ผู้คนบนโลกรู้เพียงว่าวันนี้มีศึกใหญ่สะเทือนฟ้าปะทุขึ้นแถวเขาเทพตะวันไพศาล แต่เขาเทพตะวันไพศาลกับกฎระเบียบตะวันไพศาลยังสมบูรณ์ไม่เสียหาย นี่ทำให้ผู้คนบนโลกคิดไปตามจิตใต้สำนึกว่าตระกูลหยางได้รับชัยชนะในศึกนี้ ที่ตายคือศัตรูซึ่งมาท้าทายตระกูลหยางผู้นั้น…
ทั้งหมดนี้กลับทำให้หลินสวินสงบใจได้มาก
เขารู้ดีว่าถ้าข่าวตระกูลหยางล่มสลายแพร่งพรายออกไปจะต้องทำให้ทั่วหล้าปั่นป่วน ถึงตอนนั้นเกรงว่าเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นจะเตรียมระวังไว้ทันที
เช่นนี้จะกระทบกับการไปเผ่าเทพนิรันดร์อื่นๆ
แต่ยังดีที่ข่าวนี้ยังไม่รั่วไหลออกไป
“เริ่มเถอะ”
หลินสวินหายใจลึกเฮือกหนึ่ง นำกล่องหยกกล่องหนึ่งออกมา ในนั้นผนึกลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเอาไว้สามเม็ด แต่ละเม็ดต่างเรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าไร้ใดเปรียบ เดิมมีไว้ให้ขั้นล่วงกฎใช้ยามทะลวงขั้นสรรสร้าง
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินนำมาใช้ฝึกปราณ…
ฮูม…
ทันทีที่กลืนกินลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุไปหนึ่งเม็ด พลังนิรันดร์อันไพศาลพลุ่งพล่านก็ซัดสาดแผ่กระจายภายในร่างหลินสวิน
พลังเช่นนั้นพิสุทธิ์จนน่าเหลือเชื่อ ไพศาลหนักแน่น ด้วยมรรควิถีแข็งแกร่งหาใดเทียบของหลินสวิน ยามนี้ยังรู้สึกว่าร่างกายพองขยายคล้ายจะระเบิดออก
เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ร่างต้นกับสี่กายมรรคโคจรพลังขับเคลื่อนทั้งร่างพร้อมกัน เริ่มหลอมกระแสพลังโอสถอันไพศาลภายในร่างเต็มกำลัง
ผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ
พลังของลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเม็ดนี้ถึงถูกหลินสวินหลอมหมด ส่วนมรรควิถีของเขาก็ทะยานขึ้นช่วงใหญ่ มีเค้าลางว่าจะทะลวงขั้นล่วงกฎขั้นกลางอยู่กลายๆ แล้ว!
‘เหมือนจะ… ไม่ได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น…’
หลินสวินกลับนิ่วหน้าเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เดิมเขานึกว่าอาศัยพลังของลูกกลอนนี้จะสามารถทะลวงขั้นล่วงกฎขั้นกลางได้
ทว่าภาพนี้ถ้าให้หยางเสียเทียนกับหยางปู้ต้งที่ตายไปแล้วรู้เข้า เกรงว่าจะต้องกระอักเลือดแน่
ลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเป็นยอดสมบัติที่ช่วยให้ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์บรรลุขั้นสรรสร้าง มูลค่าไม่อาจประเมินได้ แม้แต่ในตระกูลหยางตอนนี้ก็เหลือเพียงสามเม็ด ถูกมองเป็นสมบัติพิทักษ์ตระกูล
แต่ตอนนี้หลินสวินถึงกับรู้สึกไม่พอใจยาลูกกลอนนี้…
เรื่องนี้ใครจะรับได้
แต่หลินสวินก็รู้ว่ารากฐานมรรคนิรันดร์ของตนแกร่งเกินไป ไม่อาจเทียบกับคนระดับเดียวกัน พลังถึงได้เพิ่มขึ้นเพียงช่วงหนึ่งหลังจากหลอมลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุไปหนึ่งเม็ด
แค่นี้ก็นี่ไม่อาจไม่พูดว่าลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเป็นยอดสมบัติชิ้นหนึ่งได้แล้ว
ขณะใคร่ครวญหลินสวินก็กลืนลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุไปอีกเม็ด เริ่มทุ่มเทกายใจในการหลอม
ครั้งนี้แค่หลอมไปครึ่งหนึ่ง หลินสวินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังปราณตนทะลวงขั้นล่วงกฎขั้นกลางแล้ว!
และหลังจากหลอมลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเม็ดที่สองนี้หมด มรรควิถีขั้นล่วงกฎขั้นกลางของเขาก็ถูกหลอมชำระจนหนักแน่นหาใดเทียบ
หลินสวินสงบใจสัมผัส และระบุได้คร่าวๆ ว่าพลังต่อสู้ที่ตนซึ่งอยู่ขั้นล่วงกฎขั้นกลางครอบครอง แข็งแกร่งกว่ายามอยู่ขั้นล่วงกฎขั้นต้นประมาณห้าส่วน!
นี่เป็นความก้าวหน้าที่น่าตกตะลึงยิ่งไปแล้ว
ควรรู้ว่ายามอยู่ขั้นล่วงกฎขั้นต้น เขายังสู้หนึ่งต่อเก้า สังหารขั้นล่วงกฎทั้งหมดได้ ต่อให้สู้กับรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียนก็ยังฆ่าเขาได้
และตอนนี้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นห้าส่วน แค่คิดก็รู้ว่ายามจัดการกับคนระดับเดียวกันอีก จะต้องมีแต่ง่ายดายและสลายยิ่งขึ้น!
‘ตระกูลหยางมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้กลับไม่เคยเอามาใช้ ออกจะไม่รู้จักคุณค่าไปหน่อยแล้ว…’
เมื่อหลินสวินคิดถึงตรงนี้ก็พลันเข้าใจทันที ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักคุณค่า แต่ขั้นล่วงกฎอย่างหยางเสียเทียนกับหยางปู้ต้งมองลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเป็นสมบัติสำหรับทะลวงขั้นสรรสร้าง มีหรือจะเอามาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า
คิดๆ แล้วสุดท้ายหลินสวินก็ตัดสินใจจะหลอมลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุอีกเม็ดที่เหลืออยู่
เขาเพิ่งแจ้งมรรคระดับนิรันดร์ไม่ถึงครึ่งปี ไม่ได้โลภมากอยากบรรลุขั้นสรรสร้างในเวลาสั้นๆ
ตอนนี้ขอเพียงหลอมชำระนัยเร้นลับมรรควิถีที่อยู่ในขอบเขตขั้นล่วงกฎให้ถึงขีดสุดได้ หยั่งรู้นัยเร้นลับนั้นอย่างทะลุปรุโปร่งก็พอแล้ว
ความจริงแล้วการฝึกปราณระดับนิรันดร์ลำบากยากเข็ญหาใดเทียบ
เพราะสมบัติที่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกปราณหายากและมีน้อยนิดยิ่ง ระดับนิรันดร์บนโลกส่วนใหญ่มีชีวิตมาไม่รู้กี่หมื่นปี พลังปราณก็ยังอยู่ในขอบเขตของขั้นล่วงกฎมาตลอด
ว่ากันถึงที่สุดแล้ว สาเหตุก็เพราะทรัพยากรที่เหมาะกับการฝึกปราณเลื่อนขั้นระดับนิรันดร์ขาดแคลนยิ่งนัก
แต่หลินสวินต่างออกไป
ตั้งแต่ก่อนเขาแจ้งมรรคระดับนิรันดร์ ก็ได้ทรัพยากรฝึกปราณที่เรียกได้ว่าหายากยิ่งในโลกจำนวนมากมาจากแดนฝังมรรคในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ อย่างหินมรรคนิรันดร์ ศิลาโลหิตนิรันดร์ ผลึกจิตนิรันดร์ กฎเกณฑ์นิรันดร์เป็นต้น
กระทั่งหลังจากบรรลุระดับนิรันดร์ การสังหารระดับนิรันดร์เก้าคนอย่างพวกเจียหนาน ถานอู่ ก็ทำให้เขาได้ทรัพย์หลังศึกที่เกี่ยวกับการฝึกปราณระดับนิรันดร์มาจำนวนมาก
และตอนนี้เขายังชิงทรัพย์สินที่เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางครอบครองทั้งหมดมาอีก!
ตัวคนเดียวกลับครอบครองทรัพยากรฝึกปราณทั้งหมดของเผ่าเทพนิรันดร์ นี่ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องฝึกปราณสักนิด
ดังนั้นสมบัติอย่างลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุ แม้ขั้นล่วงกฎคนอื่นอาจมองเป็นยอดสมบัติ ทำใจใช้ตามใจชอบไม่ลง แต่สำหรับหลินสวินแล้วก็ไม่เท่าไร
หลินสวินสลัดความคิดฟุ้งซ่าน เริ่มฝึกปราณต่อ
ไม่นานนักลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุเม็ดที่สามก็ถูกหลอมจนหมด หลินสวินไม่หยุดพัก นำโอสถสมบัติอื่นออกมาหลอมอีก อาทิเช่นผงแปรมายาเก้าจักรา ลูกกลอนหยกยุทธ์เสรี
ผ่านไปครึ่งเดือนเต็มๆ
หลังจากหลอมลูกกลอนสร้างเทพปัญจธาตุสามเม็ด ผงแปรมายาเก้าจักราสองชุด ลูกกลอนหยกยุทธ์เสรีสองเม็ด รวมถึงโอสถเทพอื่นอีกหลายสิบชนิด พลังปราณทั้งตัวหลินสวินนั้นก็ทะยานขึ้นช่วงใหญ่อีกครั้ง
ก้าวเข้าสู่ขั้นล่วงกฎขั้นปลายแล้ว!