Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3062 ความลับที่เกี่ยวกับแหล่งสถานอัศจรรย์
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3062 ความลับที่เกี่ยวกับแหล่งสถานอัศจรรย์
พลังจิตของอิงซานอิงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินสวิน ยังคงอยู่ในภวังค์รำลึกความหลัง
“แหล่งสถานอัศจรรย์ ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุดในจตุโบราณสถาน ถูกมองเป็นสถานที่หลุดพ้นหนึ่งเดียว ในยุคสมัยที่ผ่านมาไม่ว่าใครแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต ขอเพียงมาถึงแหล่งสถานอัศจรรย์ ล้วนสามารถไปแย่งชิงหนทางการหลุดพ้นสูงสุดนั่นได้”
“ตอนนั้นข้ามีโอกาสไปแหล่งสถานอัศจรรย์ แต่ยามไปถึงจึงพบว่าในแหล่งสถานอัศจรรย์เต็มไปด้วยอันตรายนานแล้ว…”
อิงซานอิงสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ “วันแรกที่ไปถึงข้าก็พบเจอเคราะห์สังหารที่อันตรายหาใดเปรียบ เกือบต้องทิ้งชีวิต ข้าไม่มีวันลืมว่าเจ้าเฒ่าที่จะฆ่าข้าในตอนนั้นเรียกตัวเองว่า ‘ยอดสวรรค์’!”
พูดถึงตรงนี้ในดวงตาเขาเผยความชิงชัง
ทันใดนั้นเขาถอนหายใจยาว “และก็เป็นตอนนั้นที่นายท่านช่วยเหลือข้า บอกข้าว่าขอเพียงติดตามเขา ต่อไปจะไม่ถูกเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพคุกคามอีก”
‘ผู้บงการหลังม่านนั่นก็อยู่ในแหล่งสถานอัศจรรย์หรือ’
หลินสวินหัวใจสะท้าน แทบจะถามออกไป
แต่สุดท้ายเขาก็กลั้นเอาไว้ ยิ่งทำเช่นนั้นกลัวว่าอิงซานอิงจะยิ่งไม่มีทางตอบ
แต่หลินสวินใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย จากคำพูดของอิงซานอิงทำให้เขามั่นใจในเรื่องหนึ่งได้ในที่สุด…
ผู้บงการหลังม่านนั่นเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ได้แปลงจากพลังระเบียบ!
“ตอนนั้นข้าไม่ได้ตอบรับ”
อิงซานอิงพูด “แม้นายท่านช่วยข้าไว้ แต่ข้ามาถึงแหล่งสถานอัศจรรย์แล้ว จะยินยอมอยู่ภายใต้ผู้อื่นได้อย่างไร ทั้งมีหรือจะสนใจการคุกคามของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ แต่หลังจากนั้นข้าถึงรู้ว่าแหล่งสถานอัศจรรย์อันตรายกว่าที่ข้าคิดมาก…”
จู่ๆ เสียงของเขาก็ชะงัก เบี่ยงประเด็น “เจ้าอยากรู้มากใช่หรือไม่ว่าในแหล่งสถานอัศจรรย์เป็นอย่างไรกันแน่”
หลินสวินพูดโดยไม่ต้องคิด “แน่นอน”
“น่าเสียดาย”
อิงซานอิงถอนหายใจยาว “ทั้งหมดของที่นั่น สิ่งที่ข้ารู้แค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง ไม่ถึงสามเดือนข้าก็พบเจอเคราะห์สังหารที่อันตรายถึงชีวิตสามครั้ง ครั้งแรกบาดเจ็บเพราะยอดสวรรค์ ครั้งที่สองถูกกักขังในแดนลับแห่งหนึ่ง ครั้งที่สามถูกปราณกระบี่ที่ปรากฏกะทันหันทำร้ายบาดเจ็บ”
“ปราณกระบี่หรือ” หลินสวินประหลาดใจขึ้นมาทันที
“ไม่ผิด ปราณกระบี่ฟ้าประทานที่ถือกำเนิดในกฎระเบียบแรกกำเนิดอย่างแท้จริง วัตถุเทพเช่นนี้หายากมากในแหล่งสถานอัศจรรย์ และถูกขั้นไร้ขอบเขตอย่างพวกเรามองเป็น ‘ผลมรรคแรกกำเนิด’ ผลมรรคแรกกำเนิดทุกชนิดก็คือศุภโชคไร้เทียมทานอย่างหนึ่ง เมื่อหลอมมันสามารถควบคุมพลังกฎระเบียบแรกกำเนิดที่สมบูรณ์ได้”
อิงซานอิงกล่าว “ขั้นไร้ขอบเขตก็คือขอบเขตสูงสุดของมรรคานิรันดร์ กฎระเบียบแรกกำเนิดที่ควบคุมยิ่งมาก ก็จะสามารถครอบครองพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และยิ่งมีความหวังในการหลุดพ้นตามความหมายแท้จริงในระดับขั้นสูงสุดนี้!”
หลินสวินแววตาวูบไหว จิตใจไม่สามารถสงบได้
เรื่องเช่นนี้เขาเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
“ก็หมายความว่าด้วยพลังของข้าในตอนนั้นกำราบปราณกระบี่นี้ไม่ได้สักนิด ทั้งเกือบจะถูกปราณกระบี่นี้ฆ่า”
อิงซานอิงถอนหายใจยาว เงียบไปครู่ใหญ่ถึงเอ่ยว่า “สรุปแล้วเวลาสามเดือนสั้นๆ ข้าก็พบเจอเคราะห์สังหารไปสามครั้ง และคนที่ช่วยข้าจากความเป็นตายทั้งสามครั้งนี้ล้วนเป็นนายท่าน และก็เป็นตอนนั้นเองที่ข้าถึงได้รู้ว่า ตั้งแต่ตอนที่ข้าเข้าสู่แหล่งสถานอัศจรรย์ สายตาของนายท่านก็จับจ้องที่ข้ามาตลอด…”
เขาสูดหายใจเข้าลึกคราหนึ่ง “ตอนนั้นข้าถามนายท่านว่าเหตุใดจึงช่วยข้า นายท่านบอกว่าตอนนี้เขาถูกขังในแหล่งสถานอัศจรรย์ ไม่สามารถออกไปได้ และเรื่องบางอย่างที่เขาอยากทำก็ต้องมีคนที่เขาสามารถเชื่อถือได้มาช่วยเขาจัดการ”
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด ผู้บงการหลังม่านถูกขังในแหล่งสถานอัศจรรย์!?
นี่เป็นเรื่องที่หลินสวินคิดไม่ถึงสักนิด ในใจพลันเกิดคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า
“ตั้งแต่ตอนนั้นข้าจึงได้มอบชีวิตนี้ให้กับนายท่าน นักรบยอมตายได้เพื่อสหายรู้ใจ นับประสาอะไรกับนายท่านที่เคยช่วยข้าถึงสามครั้ง”
อิงซานอิงสีหน้าซับซ้อน ทั้งซาบซึ้ง เศร้าสลด และเสียใจ พูดไม่ออกไปครู่ใหญ่
หลินสวินอดถามไม่ได้ “หลังจากนั้นเล่า”
“จากนั้น…”
อิงซานอิงเพิ่งพูดออกมาไม่กี่คำสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า จากนั้นเผยรอยยิ้มขื่น “ข้าเดาออกนานแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ นายท่าน ชีวิตของข้า… คืนให้ท่าน…”
เสียงยังคงดังอยู่ ทว่าพลังจิตของเขากลายเป็นละอองแสงสลายไปจนสิ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้หลินสวินตกใจ ตั้งตัวไม่ติด ยังไม่ทันลงมือช่วยเหลือพลังจิตของอิงซานอิงก็สลายไปแล้ว!
“สมควรตาย!”
หลินสวินสีหน้ามืดทะมึน
อิงซานอิงรู้ความลับมากมายที่ตนไม่รู้ เป็นไปได้สูงมากว่าอาจได้รู้เรื่องของผู้บงการหลังม่านจากปากเขา
แต่ตอนนี้พลังจิตของเขากลับสลายไปแล้ว!
เป็นอย่างที่อิงซานอิงพูดไว้ในตอนแรก ในพลังจิตของเขามีรอยประทับที่ผู้บงการหลังม่านทิ้งไว้ และเป็นรอยประทับนี้ที่ทำลายพลังจิตของอิงซานอิงอย่างไม่ต้องสงสัย
จากเรื่องนี้สามารถอนุมานได้ว่า ที่ครั้งนี้เคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพไม่สามารถฆ่าตนได้ ผู้บงการหลังม่านนั่นรับรู้แล้ว!
‘ต้องเป็นเพราะหลังจากระฆังแรกปฐมย้อนกลับไป ทำให้ผู้บงการหลังม่านสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงลงมืออย่างไม่ลังเล สังหารทูตชะตาสวรรค์อย่างอิงซานอิงแน่’
ดวงตาดำของหลินสวินเย็นเยียบ เดาเหตุผลที่ซ่อนอยู่ออก
ขั้นไร้ขอบเขตที่มาจากยุคมรรค ผู้แข็งแกร่งโดดเด่นในยุคสมัยหนึ่งที่ช่วงชิงโอกาสจากในทะเลโชคชะตาของแหล่งสถานคุนหลุน และไปถึงแหล่งสถานอัศจรรย์ได้ พลังจิตของเขากลับถูกสังหารกะทันหันเช่นนี้!
นี่นอกจากทำให้หลินสวินตกใจแล้วยังอดหวาดหวั่นไม่ได้
เขาดูออกว่าอิงซานอิงมอบชีวิตนี้ให้กับผู้บงการหลังม่านอย่างจริงใจ แต่สุดท้ายคนที่ฆ่าเขากลับเป็นผู้บงการหลังม่านคนนั้น
ไม่อาจไม่พูดว่านี่น่าเศร้ามาก
ครู่ใหญ่หลินสวินค่อยๆ ปรับอารมณ์ ถึงได้สงบลงอย่างสิ้นเชิง
จากการพูดคุยกับอิงซานอิง ทำให้เขาได้รู้เรื่องที่มีค่าไม่น้อย
ประการแรก โอกาสรอดชีวิตที่ช่วงชิงในแหล่งสถานคุนหลุน อยู่ ‘ทะเลโชคชะตา’ พลังต้นกำเนิดของแหล่งสถานคุนหลุน ตอนนั้นอิงซานอิงก็คว้าโอกาสนี้ได้จากในทะเลโชคชะตา และบรรลุเป้าหมายมุ่งหน้าไปแหล่งสถานอัศจรรย์ได้ในที่สุด!
ประการที่สอง แหล่งสถานอัศจรรย์เต็มไปด้วยอันตราย แม้เป็นขั้นไร้ขอบเขตอย่างอิงซานอิงก็พบเจอภัยคุกคามที่อันตรายถึงชีวิตมากมาย
แต่ขณะเดียวกันในแหล่งสถานอัศจรรย์ก็มีสิ่งที่สามารถทำให้ขั้นไร้ขอบเขตทะลวงระดับปราณในยุคสมัยของตนได้กระจายอยู่เช่นเดียวกัน
อย่างเช่นผลมรรคแรกกำเนิด เป็นพลังกฎระเบียบสมบูรณ์ที่ถือกำเนิดในแดนแรกกำเนิด สำหรับขั้นไร้ขอบเขต ยิ่งหลอมผลมรรคแรกกำเนิดได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความหวังจะหลุดพ้นจุดสูงสุดในขั้นไร้ขอบเขต
ประการที่สาม ผู้บงการหลังม่านเป็นตัวตนที่มีศักยภาพแข็งแกร่งมากคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ถูกขังในแหล่งสถานอัศจรรย์ ไม่สามารถออกมาได้ จำต้องใช้พลังของคนอื่นในการลงมือ
อย่างอิงซานอิงก็เป็นหนึ่งในทูตชะตาสวรรค์ที่ลงมือแทนเขา
ได้รู้เรื่องพวกนี้หลินสวินก็เข้าใจได้ในที่สุด ว่าเหตุใดผ่านไปหลายยุคสมัยขนาดนี้ถึงยังไม่มีใครรู้ว่าผู้บงการหลังม่านเป็นใครกันแน่
คนผู้นี้คงถูกขังในแหล่งสถานอัศจรรย์มานานมากแล้ว!
ตอนนั้นเฉินหลินคงพูดว่า จักจั่นทองเคยบอกเขาว่ามีเบาะแสมากมายที่ยืนยันว่าผู้บงการหลังม่านน่าจะอยู่ในแหล่งสถานอัศจรรย์
คำพูดนี้เฉินหลินคงเคยบอกหลินสวินไว้ก่อนจะมุ่งหน้าไปแหล่งสถานอัศจรรย์ก็
ตอนนี้ดูท่าการคาดเดาของจักจั่นทองถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย!
‘อาจารย์ออกเดินทางไปแหล่งสถานอัศจรรย์นานแล้ว แม้แต่บรรพจารย์ของสี่หอบรรพจารย์ รวมถึงขั้นไร้ขอบเขตของแต่ละยุคสมัยก็ไปนานแล้ว’
หลินสวินนึกถึงเรื่องในอดีตมากมาย ‘ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือคนอื่นๆ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ของผู้บงการหลังม่านส่งกลับมา หรือว่า… ที่ผ่านมาผู้แข็งแกร่งคนใดก็ตามที่ไปถึงแหล่งสถานอัศจรรย์ล้วนถูกขังในนั้น หรือไม่ก็ประสบเคราะห์ไปนานแล้ว?’
หลินสวินยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าแหล่งสถานอัศจรรย์นั่นลึกลับเกินไป
แม้แต่ผู้บงการหลังม่านยังถูกขังในนั้น นี่ทำลายความเข้าใจที่ผ่านมาของหลินสวินโดยแท้!
ครู่ใหญ่หลินสวินจึงสลัดความคิด จดจ่อกับการรักษาบาดแผล
……
สองวันหลังจากนั้นหลินสวินเดินออกจากตำหนัก
พวกอู๋ยางรออยู่นานแล้ว เห็นเช่นนี้ก็อดเข้าไปถามไม่ได้
เมื่อรู้ว่าบาดแผลของหลินสวินฟื้นฟูอย่างสิ้นเชิงแล้วพวกเขาล้วนดีใจ
“สหายน้อย เจ้ารู้อะไรจากพลังจิตของทูตชะตาสวรรค์บ้าง” ซิงเจียถาม
หลินสวินพลันเล่าที่มาของอิงซานอิงและเรื่องที่ได้รู้มาทั้งหมด
ชั่วขณะหนึ่งในใจพวกอู๋ยางล้วนพลุ่งพล่านไม่หยุด
“เช่นนี้ดูท่าว่าแม้เป็นแหล่งสถานอัศจรรย์ก็ไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน”
มีคนถอนหายใจยาวคราหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ในความเข้าใจของผู้คน แหล่งสถานอัศจรรย์เป็นสถานที่หนึ่งเดียวซึ่งไม่ต้องกังวลถึงการคุกคามของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้อย่างแท้จริง และเป็นสถานที่แสวงมรรคที่ระดับนิรันดร์ทุกคนวาดฝัน
ทว่าตอนนี้ได้รู้เรื่องจากอิงซานอิง สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านี้ก็อดหนักใจไม่ได้
“กังวลเรื่องพวกนี้ไปทำไม แม้ยุคสมัยดับสิ้น ขอเพียงอยู่ในแหล่งสถานศุภโชคนี้พวกเราก็สามารถรอดชีวิต รอยุคใหม่มาเยือนได้”
อู๋ยางพูด “ยิ่งไปกว่านั้นขั้นล่วงกฎอย่างพวกเรา แม้เข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนก็ไม่มีโอกาสช่วงชิงโอกาสการไปแหล่งสถานอัศจรรย์ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการอยู่ในแหล่งสถานอัศจรรย์”
อิงซานอิงเป็นขั้นไร้ขอบเขต แต่ตอนนั้นก็ผ่านการต่อสู้ดุเดือดมากมายในแหล่งสถานคุนหลุน เปิดเส้นทางเลือดช่วงชิงโอกาสการไปแหล่งสถานอัศจรรย์มาได้
เมื่อเทียบกันแล้วขั้นล่วงกฎคิดอยากชิงโอกาสเช่นนี้ก็เหมือนกับการฝันเฟื่อง
“ที่ผู้อาวุโสอู๋ยางพูดไม่ผิด ขอเพียงแค่อยู่ในแหล่งสถานศุภโชคก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพบเจออันตรายจากการดับสิ้นของยุคสมัย”
หลินสวินเองก็พูดขึ้น เขาครอบครองกฎระเบียบศุภโชคแล้ว เข้าใจความหมายของกฎระเบียบศุภโชคอย่างสิ้นเชิง
สามารถพูดได้ว่าที่นี่ก็คือสถานที่ปลอดภัยของทุกยุคสมัย แม้เกิดการดับสิ้นของยุคสมัย ขอเพียงแค่อยู่ในแหล่งสถานศุภโชคก็ไม่ต้องกังวลว่าจะประสบเคราะห์
“ดูเหมือน… ได้แต่ต้องเป็นเช่นนี้แล้ว…”
สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นพยักหน้า
“หลังจากนี้เจ้าวางแผนอย่างไร”
สายตาของอู๋ยางมองไปยังหลินสวิน
หลินสวินเอ่ยโดยไม่คิด “ข้าคิดจะกลับไปโลกยอดนิรันดร์ก่อนสักรอบ”
การเคลื่อนไหวในแหล่งสถานศุภโชคครั้งนี้ทำให้เขาได้รู้เรื่องมากมาย จึงตัดสินใจว่าหลังจากกลับไปครั้งนี้จะพาทุกคนในลัทธิแรกกำเนิดย้ายมาเมืองเทพศุภโชคทั้งหมด
มีเพียงการอยู่ที่นี่จึงจะทำให้เขาวางใจอย่างแท้จริง
ถึงอย่างไรผู้บงการหลังม่านกับเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพนั่นก็เป็นการคุกคามที่ทำให้ไม่อาจวางใจได้จริงๆ
…………………..