Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3087 ควรรับการคารวะ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3087 ควรรับการคารวะ
ตอนที่ 3087 ควรรับการคารวะ
กลางฝุ่นควันโหมกระหน่ำ
สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีที่เตรียมพร้อมนานแล้วบุกโจมตีทันที
“สหายน้อย เจ้ามาเป็นกองหนุน ข้ากับเหล่าฟู่จะฆ่าศัตรู”
ยามสิงเจี้ยนสยาตวาด เขาใช้เจดีย์สมบัติอสนีในมือซัดพายุสายฟ้าร้ายกาจไปยังอูหงจื่อที่อยู่ไกลๆ
ชิ้ง!
ขณะเดียวกันฟู่หนานหลีสะบัดกระบี่บินแดงสดโจมตีไปทางขั้นไร้ขอบเขตเล็กหกคนนั้น ปราณกระบี่แดงก่ำน่าดึงดูดดั่งมรสุมคลั่งปกคลุมฟ้าดิน
เมื่อขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนลงมือ ฟ้าดินแถบนี้ล้วนถูกอานุภาพชวนประหวั่นปกคลุม
‘พวกเจ้ารีบพาคนออกไปจากที่นี่ ข้าระวังหลังให้พวกเจ้าเอง!’
เวลานี้อูหงจื่อเยือกเย็นลงจากความตกใจเดือดดาลโดยสมบูรณ์ สื่อจิตอย่างรวดเร็ว
วู้ม!
ขณะกล่าวเขาพลันโบกสะบัดไม้เท้าสีดำในมือกลางอากาศเล็กน้อย
ทันใดนั้นห้วงอากาศปั่นป่วน ฟ้าพลิกดินตลบ พลังกฎระเบียบสีดำเหมือนหมึกเขียนกลายเป็นปราการพาดขวางกลางฟ้าดิน
ยอดอภินิหาร… ผนึกแดนมาร!
เสียงกัมปนาทอึกทึกสนั่นหูดังก้อง เจดีย์สมบัติอสนีของสิงเจี้ยนสยาและกระบี่บินสีแดงของฟู่หนานหลีถึงกับถูกปราการกฎระเบียบนี้ขวางกั้น
แต่เพียงพริบตาปราการที่ควบรวมจากพลังกฎระเบียบนี้ก็ระเบิดออก
ถึงอย่างไรเขาก็ตัวคนเดียว เดิมพลังปราณยังด้อยกว่าสิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีเสี้ยวหนึ่ง สามารถต้านพลังโจมตีของทั้งสองคนได้ในคราเดียวก็นับว่ายากยิ่งแล้ว
“รีบไป!”
อูหงจื่อตวาดลั่น ร่างผอมแห้งของเขาเปล่งแสงมรรคมากมาย อานุภาพชวนประหวั่นน่าพรั่นพรึง เขาสะบัดไม้เท้าสีดำในมือต่อเนื่อง พลันเห็นปราการสีดำที่วิวัฒน์จากกฎระเบียบห้วงอากาศสายแล้วสายเล่าผุดขึ้นมาจากพื้นดิน พาดขวางกลางอากาศราวกับโลกมารเป็นแห่งๆ
พลังอภินิหารที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นราวกับช่วงชิงศุภโชคทั้งปวงได้จริงๆ
แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเขาคือสิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลี เมื่อทั้งสองคนลงมือเต็มกำลัง ปราการดุจโลกมารมากมายนั้นระเบิดออกเหมือนกระดาษเปื่อย กลายเป็นกระแสพลังดุดันฟุ้งกระจาย
อูหงจื่อยังถูกซัดจนเลือดลมตีกลับ ยากจะรับจนเกือบกระอักเลือด
“ไป!”
ขั้นไร้ขอบเขตเล็กอีกหกคนไม่กล้าชะล่าใจ เคลื่อนตัวเต็มกำลัง หนีห่างออกไปพร้อมขั้นสรรสร้างยี่สิบกว่าคนที่พุ่งออกมาจากภูเขาเทพรกร้าง
สิ่งที่น่าขันคือหากอยู่ในโลกภายนอก ขั้นสรรสร้างพวกนั้นย่อมเป็นตัวตนน่ากลัวที่อานุภาพสะท้านทั่วหล้า แต่ตอนนี้กลับลุกลนกระสับกระส่ายเหมือนสัตว์ผวา
“ผู้อาวุโสทั้งสอง พวกท่านจัดการอูหงจื่อนั่น คนพวกนี้ให้ข้าจัดการเอง”
หลินสวินที่เฝ้ามองมาตลอดกล่าวเสียงดัง
“ได้”
ฟู่หนานหลีเปลี่ยนเป้าหมายทันที เพ่งสมาธิไปที่การต่อกรกับอูหงจื่อ
ฆ่า!
ศึกใหญ่ปะทุขึ้น เวลานี้สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีแสดงแสนยานุภาพ สู้กับอูหงจื่ออย่างดุเดือด
ด้านหลินสวินเงาร่างพริบไหว ห้ากายมรรคพุ่งออกมา ปิดล้อมภูผาธาราใกล้เคียง
“ไสหัวไป!”
ขั้นไร้ขอบเขตเล็กคนหนึ่งที่พุ่งมาหน้าสุดหวดบรรทัดหยกสีทองใส่ร่างต้นของหลินสวินเต็มแรง
จากมุมมองของเขาก่อนหน้านี้ แม้ว่าหลินสวินจะเก็บระเบียบระดับเทพสิบแปดชั้นไปอย่างง่ายดาย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ขั้นสรรสร้างคนหนึ่ง ถ้าต้องสู้กันจริงย่อมไม่ควรค่าให้มอง
แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับไม่หลบหลีก ยื่นมือออกมาโดยตรง คว้าบรรทัดหยกสีทองที่เขาฟาดออกไปไว้ในมือแน่น
หืม?
คนผู้นี้นัยน์ตาหดรัด
ก็เห็นร่างต้นของหลินสวินกล่าวยิ้มเล็กน้อย “เจวี๋ยอู๋เทียนยังไม่จองหองเหมือนเจ้าเลย”
เมื่อเสียงพูดดังขึ้นอานุภาพทั้งตัวหลินสวินพลันปล่อยออกมา ฝนกระบี่แถบหนึ่งแผ่คลุมรอบตัวเขา เจตกระบี่ทรงพลังไร้ขอบเขตพิฆาตลงมา
ตูม!
พลังป้องกันรอบตัวขั้นไร้ขอบเขตเล็กนั้นระเบิดออกในพริบตา เจตกระบี่ไร้ใดเปรียบบดขยี้ร่างกายของเขา พลังจิตล้วนถูกปราณกระบี่โหมกระหน่ำกำราบ
เพียงพริบตาขั้นไร้ขอบเขตเล็กคนนี้ก็ถูกฆ่าตายคาที่!
ภาพนองเลือดนี้ทำให้ขั้นไร้ขอบเขตเล็กอื่นอีกห้าคนและเหล่าขั้นสรรสร้างที่อยู่ใกล้ขนพองสยองเกล้า ขนหัวลุกเกรียว
“ไปทางนี้!”
ชายชราชุดเงินคนหนึ่งที่กุมทวนสีเลือด ผมเผ้าหนวดเคราขาวโพลนตะโกนลั่น พุ่งโฉบไปอีกทาง
บนทิศทางนั้นมีกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินยืนอยู่คนเดียว
เมื่อพุ่งตัวไปชายชราชุดเงินลงมือพร้อมกับขั้นไร้ขอบเขตเล็กอีกสี่คน คิดกำจัดกายมรรคไม้เขียวด้วยการโจมตีนี้ พาทุกคนตีฝ่าออกไปให้ได้
ตูม!
ขั้นไร้ขอบเขตเล็กห้าคนร่วมมือกัน พลังนั้นน่าหวาดกลัวระดับใด
ก็เห็นกระบี่มรรค ดาบศึก ทวนยาว ประทับโบราณ มีดบินตัดผ่านอากาศ ยอดอภินิหารนานัปการแผ่กระแสพลังกฎระเบียบราวสายน้ำแห่งธารสวรรค์ ทั้งหมดล้วนโจมตีใส่กายมรรคไม้เขียว
“ฮึ”
กายมรรคไม้เขียวแค่นเสียงเย็นชา สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งทันที สองมือทำมุทรากลางอากาศแล้วดันออกไปเต็มแรง
ตูม!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน สุริยันจันทราหม่นแสง
เพลิงเทพที่วิวัฒน์จากพลังกฎระเบียบสีเขียวมากมายทะยานแหวกอากาศ ปลดปล่อยอานุภาพราวผลาญทำลายฟ้าดิน ปะทะกับกระแสพลังที่พุ่งมานั้นเต็มแรง
ตูม…
เสียงระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้อง ฟ้าดินแถบนี้ราวกับจะระเบิดออก พลังทำลายล้างม้วนพัดออกไปดังสนั่น ภูผาธาราและสรรพสิ่งใกล้เคียงล้วนกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
กลางอากาศยังปรากฏภาพทำลายล้างเหมือนวันสิ้นโลก
ในการปะทะนี้ การโจมตีที่ชายชราชุดเงินและขั้นไร้ขอบเขตเล็กห้าคนร่วมมือกันถึงกับถูกขวางไว้ได้
ไม่อาจสั่นคลอนกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินได้แม้แต่น้อย!
“นี่…”
พวกชายชราชุดเงินล้วนเผยสีหน้ายากจะเชื่อ
แค่ร่างแยกมหามรรคของขั้นสรรสร้างคนหนึ่งเท่านั้น แข็งแกร่งถึงขั้นนี้ได้อย่างไร!?
“ไม่…!”
“ท่านปู่ช่วยข้าด้วย!”
“อ๊าก…!”
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนเจือความหวาดผวาระลอกหนึ่งดังขึ้น
ก็เห็นว่าในจุดที่ห่างไปไม่ไกล กายมรรคเพลิงแดง ทองขาว ดินเหลือง วารีดำของหลินสวินโอบล้อมมาทางนี้พร้อมกัน แต่ละคนลงมือโดยไม่เกรงใจสักนิด
เวลานี้ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างพวกนั้นเหมือนกระดาษเปื่อย แต่ละคนถูกกำราบสังหารในที่นั้น เลือดสดสาดกระจายดุจสายฝน
เบื้องหน้าร่างต้นของหลินสวินรวมตัวกับกายมรรคไม้เขียวแล้ว!
การปิดล้อมเช่นนี้ทำให้ขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างพวกชายชราชุดเงินอดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้
“ฆ่า!”
“สู้มัน!”
ท่ามกลางเสียงคำรามพวกชายชราชุดเงินตาคั่งโลหิต ท่าทางเหมือนคลุ้มคลั่ง เริ่มทุ่มสุดตัวแล้ว
แต่ละคนล้วนเผยวิชาก้นหีบออกมา
“หากเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ ข้าคนแซ่หลินอาจสู้อย่างจริงจัง แต่ถ้าเป็นพวกเจ้า… ก็ไม่ต่างอะไรกับไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา”
สีหน้าหลินสวินเรียบเฉย ขณะกล่าวเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแหวกผ่านอากาศ เปิดฉากเข่นฆ่า
ตูม…
ฟ้าดินวุ่นวายโกลาหล ทุกหนแห่งล้วนเป็นภาพการต่อสู้ดุเดือด
ภายใต้การล้อมโจมตีของหลินสวินกับห้ากายมรรค ขั้นสรรสร้างยี่สิบเก้าคนนั้นถูกสังหารกระจุยทั้งหมดก่อน
จากนั้นชายชราชุดเงินและขั้นไร้ขอบเขตเล็กห้าคนก็ทยอยประสบเคราะห์ทีละคน
ไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
นี่ก็เหมือนการสังหารหมู่ที่ไม่น่าหวั่นวิตกแม้แต่น้อย หลินสวินอาศัยท่าทีเด็ดขาดสยบทุกอย่าง เพียงครู่เดียวก็กวาดล้างศัตรูพวกนั้นจนราบคาบ
เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ!
ฝนโลหิตเทกระหน่ำ เสียงหวีดร้องยังดังก้องกลางฟ้าดิน แต่ในที่นั้นเหลือเพียงอูหงจื่อคนเดียวที่กำลังยืนหยัดอย่างยากลำบาก
ทว่าเวลานี้สีหน้าเขาไม่น่าดูหาใดเปรียบแล้ว
ภาพทั้งหมดที่หลินสวินสังหารพวกชายชราชุดเงินก็ถูกเขาเห็นอยู่ในสายตา ทุกอย่างนี้ทำให้เขาอดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้
ใครจะคิดว่าเจ้าหนุ่มขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์คนหนึ่งเช่นนี้ กลับเย้ยฟ้าถึงขั้นกวาดล้างขั้นไร้ขอบเขตเล็กมากมายได้
นานเข้าอูหงจื่อบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างผอมแห้งยังหลั่งเลือดไม่หยุด ดูแล้วน่าอนาถผิดธรรมดา ทำให้ผู้คนไม่อาจทนมอง
แต่สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีไม่เกรงใจสักนิด
หนทางมหามรรคเดิมก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อผูกแค้นแล้วก็ย่อมต้องตัดสินแพ้ชนะ แบ่งแยกเป็นตาย!
ครั้งนี้หากพวกเขาแพ้ ศัตรูก็ไม่มีทางออมมือใดๆ ต้องพบจุดจบของการร่วงหล่นแน่
“ข้ารู้แล้ว สามวันก่อนเป็นเพราะการปรากฏตัวของเจ้าหลินสวินนี่ ทำลายฐานที่มั่นเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลอย่างตระกูลเจวี๋ย ตระกูลเย่ ตระกูลหยวน และเปิดฉากภัยพิบัตินี้ขึ้น…”
อูหงจื่อตะโกนลั่นทันที คล้ายว่าในที่สุดก็เข้าใจ เผยสีหน้ากระจ่าง ทั้งมีความขมขื่นและกลัดกลุ้ม
สามวันก่อนบัวชะตามหามรรคปรากฏ
ทั้งสามวันก่อนยังมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกะทันหัน แม้เพียงเล็กน้อยแต่ส่งผลต่อภาพรวม!
สิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีทำลายสถานการณ์คับขันจนบุกมาถึงที่นี่ได้ แน่นอนว่าเกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงที่หลินสวินกระทำ!
ทว่า…
ต่อให้อูหงจื่อผ่าสมองออกมาก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่เปลี่ยนสถานการณ์ของศัตรูกลับเป็นขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวิน!
ไม่ถึงขั้นแค้นมากนัก อูหงจื่อแค่รู้สึกมึนงงและไม่เข้าใจหาใดเปรียบ
หนึ่งบัวที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเฝ้ารอมาชั่วกาลนี้ครอบครองพลังอัศจรรย์ซึ่งล้มล้างทุกอย่างในอดีต ทำลายแบบแผนที่ทั่วหล้าเชื่อมั่นจริงหรือ
“ภัยพิบัติ? ผิดแล้ว! สำหรับพวกเราการมาถึงของหลินสวินก็คือโอกาสพลิกทวนฟ้าดิน และเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างหนึ่ง! ความแค้นในอดีตต้องเริ่มทยอยสะสางตั้งแต่ตอนนี้!”
สิงเจี้ยนสยาตวาดลั่น
“ปีนั้นก่อนที่รูปจำลองเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลถูกซัดพินาศ เขาก็เคยบอกว่าก่อนเคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือนสถานการณ์ของโลกวิญญาณยุทธ์นี้ต้องเปลี่ยนไปแน่! ตอนนี้ข้าจึงรู้ว่าสหายน้อยหลินสวินก็คือคนที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างนี้!”
ฟู่หนานหลีก็กล่าวเหมือนทอดถอนใจ
“อย่างนั้นหรือ…”
เวลานี้อูหงจื่อที่นานเข้าก็ยิ่งบาดเจ็บสาหัสพลันเบิกตากว้าง ตวาดเสียงแหบพร่าเน้นชัดทีละคำ “ข้าไม่เชื่อว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ของ ‘นายเหนือหัวไท่ชู’! อย่าว่าแต่เขา พวกเจ้าแห่งคีรีดวงกมล จักจั่นทอง เฉินหลินคงก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของนายเหนือหัวไท่ชูแน่!”
เสียงราวอสนีบาตดังกระหึ่มกึกก้อง
แต่ครู่ต่อมาร่างมรรคที่บาดเจ็บสะสมจนยับเยินเกินทนของเขาก็ถูกเจดีย์สมบัติอสนีกระแทกใส่ ระเบิดออกสนั่น พลังจิตเขาก็ถูกกระบี่บินแดงสดที่ฟันมาผ่าแหวก
การโจมตีนี้สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีร่วมมือกันอย่างแนบสนิทไร้ช่องโหว่จริงๆ
กระทั่งเห็นอูหงจื่อจิตสิ้นวิญญาณสลาย ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนจึงถอนหายใจยาว ต่างคนต่างเก็บศาสตรามรรคลงไป
มองเห็นภาพปานทำลายล้างกลางภูผาธาราไร้ขอบเขตนี้ ในใจทั้งสองคนล้วนกระเพื่อมไหวไม่หยุด สีหน้าเหม่อลอย
วันนี้พวกเขากับหลินสวินร่วมกันกำจัดกำลังพลที่ขุมอำนาจศัตรูพวกนั้นเหลือไว้ในโลกวิญญาณยุทธ์ได้ในคราเดียว!
ก่อนจะถึงวันนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่กล้าจินตนาการ
แต่ทุกอย่างนี้ล้วนเปลี่ยนไปเพราะหลินสวินคนเดียว!
“สหายน้อยหลิน ขอบคุณมาก!”
สิงเจี้ยนสยาหันหลังขวับ คารวะขอบคุณหลินสวินที่เดินมาแต่ไกลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อีกด้านหนึ่งฟู่หนานหลีก็สูดหายใจเข้าลึกๆ คารวะพร้อมสิงเจี้ยนสยา
วันนี้หลินสวินใช้พลังของตัวเองสร้างผลงานโดดเด่น เปลี่ยนสถานการณ์ทั่วหล้า ทั้งทำลายภาวะคับขันที่ทำให้พวกเขาได้รับความอัปยศมาหลายปี!
ผลงานครั้งใหญ่เช่นนี้ บุญคุณใหญ่หลวงเช่นนี้ ควรรับการคารวะ!