Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3116 หลินสวินทะลวงขั้น!
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3116 หลินสวินทะลวงขั้น!
ตอนที่ 3116 หลินสวินทะลวงขั้น!
ทันทีที่การต่อสู้ปะทุขึ้น พวกจู๋เทียนจวินถึงรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของซู่หวั่นจวินอย่างลึกซึ้ง
ชุดแดงของนางปลิวไหว กระบี่โลหิตน้ำค้างไหววูบฉวัดเฉวียนอยู่รอบกาย กระบี่ฟันออกมาแต่ละครั้งก็ประหนึ่งทำลายได้ทุกสิ่ง บดขยี้การจู่โจมทั้งหมดของพวกเขาอย่างง่ายดาย!
เมื่อปราณกระบี่ตัดประสานยิ่งซัดจนพวกเขาเลือดลมปั่นป่วน รู้สึกยากจะรับจนแต่ละคนแทบกระอักเลือด
ต่อให้เป็นจอมเทพหวงหลงก็ทำได้เพียงฝืนต้านการโจมตีของซู่หวั่นจวิน
ชั่วขณะเดียวซู่หวั่นจวินเหมือนกลายเป็นเงาร่างที่โดดเด่นที่สุดในสนามรบ!
ผู้คนไม่รู้เท่าไรตกตะลึง
ตัวคนเดียวสู้กับขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ทั้งหมดยังมีพลังเย้ยฟ้าเช่นนี้ นี่ต้องน่ากลัวปานไหน
แต่ไม่ว่าใครต่างดูออกว่าหากซู่หวั่นจวินต้องการสังหารพวกจอมเทพหวงหลงก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในเวลาสั้นๆ
ขณะเดียวกันสถานการณ์ของพวกสิงเจี้ยนสยายิ่งอันตรายและล่อแหลมแล้ว
การปรากฏตัวของซู่หวั่นจวิน แม้จะสกัดจอมเทพหวงหลงกับพวกจู๋เทียนจวินไว้ได้ แต่พวกเจียงหมิงสุ่ยกับลู่จงเยียนยังถือไพ่เหนือกว่าเช่นเดิม
ถึงตอนนี้พวกสิงเจี้ยนสยาต่างได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ร่างกายโชกเลือด
คาดเดาได้ว่าถ้าศึกนี้ไม่มีสวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงลงมือ หรือถ้าไม่มีซู่หวั่นจวินตรึงสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นไว้ เกรงว่าพวกสิงเจี้ยนสยาจะยืนหยัดไม่ได้ถึงตอนนี้สักนิด
ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกก็ยังดูไร้กำลัง!
‘เหล่าฉิว เตรียมตัวให้ดี’
บนด่านนภาจตุลักษณ์ อิงเทียนเซิงพลันสื่อจิต
ในสายตาเขา หลินสวินกับชิงเฟยหงที่อยู่บนลานประลองแพ้ชนะต่างบาดเจ็บเต็มตัว เจ็บตัวกันทั้งสองฝ่าย ต่อสู้โรมรันมาถึงตอนนี้ล้วนได้รับบาดเจ็บรุนแรงยิ่ง
นี่ทำให้ผู้คนยากจะเชื่อ
ถึงอย่างไรพลังต่อสู้ของชิงเฟยหงก็เหนือกว่าบุคคลชั้นยอดอย่างซินหูหรือจอมมารหูยง
ทว่าหลินสวินกลับยังสามารถต่อสู้มาถึงตอนนี้ได้ เรียกได้ว่าน่าตกตะลึงยิ่งแล้ว
แต่อิงเทียนเซิงดูออกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชิงเฟยหงหรือหลินสวินต่างยืนหยัดได้อีกไม่นาน นี่ก็หมายความว่าศึกนี้กำลังจะตัดสินแพ้ชนะแล้ว
และถึงตอนนั้น ขอเพียงหลินสวินออกมาจากลานประลองแพ้ชนะก็จะเป็นเวลาตายของเขา!
“ได้!”
ฉิวเฟิ่งฉือจับตามองอยู่ตลอดเช่นกัน
เขายื่นมือดึงไปค้อนยักษ์คู่ที่สะพายอยู่บนหลังมาถือไว้ จากนั้นพลังขับเคลื่อนทั้งร่างโคจรออกมาเงียบๆ สั่งสมพลังรอท่า
“สิงเจี้ยนสยา พวกเจ้าเห็นหรือยัง เจ้าหลินสวินนี่บาดเจ็บรุนแรง เมื่อเขาออกจากลานประลองแพ้ชนะก็จะเป็นเวลาตายของเขา ส่วนพวกเจ้า… เหอะๆ ยังจะรอดชีวิตไปช่วยได้หรือ”
เจียงหมิงสุ่ยหัวเราะเย็นชา
พวกสิงเจี้ยนสยาทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือดสดๆ บาดแผลเต็มตัว จู่โจมด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงหมิงสุ่ยก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกหนักอึ้งในใจ
เดิมทีตามแผนแล้ว จอมมรรคซานเฟิงกับเซียวเหอจะไปช่วยหลินสวิน
แต่ตอนนี้จอมมรรคซานเฟิงกับเซียวเหอต่างบาดเจ็บสาหัส ต่อให้สู้สุดตัว… เกรงว่าจะไม่มีโอกาสไปช่วยหลินสวินได้
ทำอย่างไรดี
เวลานี้พวกสิงเจี้ยนสยาต่างรู้สึกหมดทางอย่างอดไม่ได้
ว่ากันถึงที่สุดแล้ว พวกเขาล้วนคิดไม่ถึงว่าศัตรูที่มีความแค้นกับคีรีดวงกมลอย่างพวกเจียงหมิงสุ่ยจะถึงกับมาโจมตีโดยไม่สนอะไรเช่นนี้
“คราวนี้ไม่ใช่แค่หลินสวินที่จะตาย เฒ่าชราอย่างพวกเจ้าก็หนีไม่พ้น!”
เจียงหมิงสุ่ยเอ่ยเสียงเย็นชา “แน่นอน เจ้าสวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงก็ด้วย ยังคิดจะตอบแทนบุญคุณเจ้าแห่งคีรีดวงกมล น่าขันชะมัด!”
“วางใจได้ ต่อให้ข้าตายก็ต้องลากคนลงหลุมไปด้วยสักสองสามคน”
สวินเต้าเยี่ยนหัวเราะลั่น
“ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”
จอมเทพหลิงหลงก็หัวเราะเย็นชา
พวกเจียงหมิงสุ่ยต่างหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ก็ในตอนที่เจียงหมิงสุ่ยกำลังจะพูดอะไร…
ตูม!
เวลานี้บนลานประลองแพ้ชนะ หลินสวินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกับซัดอานุภาพอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ระเบิดกายมรรคของชิงเฟยหงทันใด
ท่ามกลางเลือดเนื้อสาดกระเซ็น พลังจิตของชิงเฟยหงยังปรากฏเค้าลางจะแตกกระเจิง
ภาพกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง
เป็นไปได้อย่างไร!
แทบจะในขณะเดียวกัน บนลานประลองแพ้ชนะมีพลังกฎระเบียบอุบัติขึ้น ห่อหุ้มชิงเฟยหงที่เกือบถูกสังหารไปด้วย
ด้านเงาร่างของหลินสวินก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมากลางอากาศ
การต่อสู้นี้ปิดฉากลงในที่สุด
แต่ก็ในตอนที่ทุกคนตกใจกับความน่ากลัวของการโจมตีเมื่อครู่ของหลินสวิน…
เงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากด่านนภาจตุลักษณ์ เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ พุ่งไปหาหลินสวินที่เพิ่งยืนทรงตัวมั่น
ฉิวเฟิ่งฉือ!
เขาที่สั่งสมพลังรออยู่นานแล้วชิงความได้เปรียบออกโจมตีโดยพลัน
“แย่แล้ว!”
พวกสิงเจี้ยนสยาต่างหน้าเปลี่ยนสี
“บัดซบ!”
สวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงต่างก็ใจจมดิ่ง
สถานการณ์ตอนนี้เกินกว่าพวกเขาจะไปช่วยเหลือได้
“เยี่ยม!”
ขณะเดียวกันอิงเทียนเซิงก็ยิ้มออกมา
พวกเจียงหมิงสุ่ยก็เผยรอยยิ้มเช่นกัน
ราวกับได้เห็นภาพนองเลือดที่หลินสวินถูกสังหารแล้ว
และไกลออกไป ซู่หวั่นจวินที่กำลังขับเคี่ยวกับพวกจอมเทพหวงหลงกลับนิ่วหน้าเล็กน้อย กำลังจะปลีกตัวไปช่วยเหลือ แต่จู่ๆ หว่างคิ้วกลับเผยแววประหลาด
สวบ!
เงาร่างฉิวเฟิ่งฉือแข็งแกร่งดุดัน โบกค้อนยักษ์คู่หนึ่งขึ้นผ่านระยะห่างไกล
ต่อให้หลินสวินบาดเจ็บสาหัส ทว่าฉิวเฟิ่งฉือไม่ได้ชะล่าใจ ลงมือเต็มกำลังเพื่อสังหารหลินสวินในการโจมตีเดียว
ตูม!
ค้อนยักษ์คู่นั้นซัดกระแทกออกมา ฟ้าดินพังถล่ม พลังกฎระเบียบรุนแรงแผ่พุ่ง อัดแน่นไปด้วยสุดยอดพลานุภาพที่ทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาดุจหุบเหวทั้งสองลุ่มลึกเฉยชา ปรากฏไอสังหารเย็นเยียบชวนผวา
เขาเพิ่งจบศึกดุเดือดไป ได้รับบาดเจ็บรุนแรง
กระทั่งเพิ่งออกมาจากลานประลองแพ้ชนะและทรงตัวมั่น ฉิวเฟิ่งฉือก็โจมตีมาแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงสิ้นหวังไปนานแล้ว
แต่หลินสวินกลับคล้ายไม่รู้สึกอะไรสักนิด
เมื่อค้อนยักษ์คู่นั้นซัดลงมาจากฟ้า เขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง คล้ายถูกทำให้ตกใจจนงุนงง
เพียงแต่ในตอนที่ค้อนยักษ์คู่นั้นอยู่ห่างจากหลินสวินเพียงหนึ่งฉื่อ กลับหยุดชะงักอยู่ตรงนั้นในทันใด เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงมรรคเปล่งประกายแผ่พุ่ง
พลังเช่นนั้นทุบขั้นไร้ขอบเขตใหญ่คนหนึ่งให้ตายก็ยังได้
แต่ค้อนยักษ์คู่นี้กลับไม่อาจเข้าใกล้ได้สักนิด
คล้ายถูกมือใหญ่ไร้รูปมือหนึ่งตรึงเอาไว้
“นี่…”
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างตาเบิกค้าง
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมที่มุมปากฉิวเฟิ่งฉือแข็งค้าง นัยน์ตาขยายออก การโจมตีนี้เหมือนทุบใส่ปุยนุ่น ทำให้เขารู้สึกประหลาดยิ่งอย่างบอกไม่ถูก
แต่บนโลกนี้มีปุยนุ่นที่ไหนต้านการโจมตีเต็มกำลังของเขาได้
“ตอนนี้ถึงตาข้าแล้ว”
หลินสวินเอ่ยปากด้วยสีหน้าเฉยชา
เขาชูมือขวาขึ้นปัดไปในอากาศ
ปัง! ปัง!
ค้อนยักษ์คู่นั้นระเบิดออกเหมือนเศษกระดาษ เหลือเพียงด้ามค้อนโล้นๆ ในมือทั้งสองของฉิวเฟิ่งฉือ ส่วนสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในพริบตาแล้ว
นี่เป็นศาสตรามรรคบริสุทธ์ของเขา ใช้เวลาฟูมฟักและขัดเกลาไปนับไม่ถ้วน อานุภาพไร้ใดเปรียบ
แต่ตอนนี้กลับถูกพลังจากการปัดครั้งเดียวของหลินสวินทำลายแหลก!
นี่ทำให้ฉิวเฟิ่งฉือไม่กล้าเชื่อ
“ตาย!”
แต่ปฏิกิริยาเขาไม่ได้ชักช้า ใช้ด้ามค้อนทั้งสองแทงใส่หลินสวินอย่างแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ สีหน้ายังเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา
“ไม่มีโอกาสแล้ว”
หลินสวินยืนยิ่งอยู่ที่เดิม ยื่นมือออกมาคว้าทันที
โครม!
ด้ามค้อนคู่นั้นแหลกกระจุยไปทุกกระเบียด สะเทือนจนข้อมือของฉิวเฟิ่งฉือยังหักสะบั้นไปด้วย
และการคว้านี้ของหลินสวินก็ตรงเข้าไปที่ลำคอฉิวเฟิ่งฉือทันที ราวกับหิ้วลูกเจี๊ยบตัวหนึ่งขึ้นมา
“ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้…”
ฉิวเฟิ่งฉือร้องเสียงหลง อกสั่นขวัญหาย สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและงุนงง
ปัง!
ร่างกายและพลังจิตของเขาระเบิดกระจุยในชั่วพริบตา กลายเป็นพลังต้นกำเนิดนิรันดร์อันบริสุทธิ์ปรากฏกลางฝ่ามือหลินสวิน
ทั้งที่นั้นตื่นตะลึง
เหตุไม่คาดฝันอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นและปิดฉากลงในชั่วพริบตา!
ตั้งแต่การต่อสู้บนลานประลองแพ้ชนะจบลงจนถึงหลินสวินเพิ่งจะยืนทรงตัวได้ ฉิวเฟิ่งฉือก็พุ่งออกมาจากกลางอากาศ ก็ในชั่วพริบตานี้เองศาสตรามรรคค้อนยักษ์คู่ของฉิวเฟิ่งฉือระเบิดกระจุย ตัวเขายังถูกสังหารคาที่!
เร็วเกินไปแล้ว!
ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ทันตั้งตัว ตกใจกับภาพการตายอันนองเลือดนั้น
“เป็นไปได้อย่างไร!!!”
อิงเทียนเซิงหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ตาแทบหลุดจากเบ้า
ฉิวเฟิ่งฉือเป็นผู้ที่เทียบเคียงกับจอมมารหูยงได้ เป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ชั้นยอดคนหนึ่ง แต่เขากลับตายในการโจมตีเดียว!
และคนที่ฆ่าเขาดันเป็นหลินสวินที่เพิ่งผ่านการต่อสู้รุนแรง ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ทั้งหมดนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป ทำให้ผู้คนยากจะทำใจรับได้
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
ขณะเดียวกันนี้พวกคนที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ ต่างขนลุกเกรียว
พวกเขาไม่เข้าใจเช่นกันว่าหลินสวินที่บาดเจ็บเจียนตายกลับสังหารฉิวเฟิ่งฉือได้ในการโจมตีเดียว นี่ต่อให้เห็นกับตาก็ยังยากจะเชื่อ
“เป็นไปได้อย่างไร…”
เจียงหมิงสุ่ยที่กำลังต่อสู้ดุเดือดยังจ้องจนตาแทบถลน ตกตะลึงกับเหตุการณ์นั้น
ก่อนหน้านี้เขายังลำพองใจป่าวประกาศว่าไม่เพียงแต่หลินสวินที่จะตาย แม้แต่พวกสิงเจี้ยนสยายังจะประสบเคราะห์ด้วย
แต่ครู่ต่อมาก็เกิดภาพนองเลือดเช่นนี้ นี่ทำให้ใบหน้าชราของเขาเปลี่ยนสีไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
พวกลู่จงเยียน จอมเทพหวงหลงและจู๋เทียนจวินในตอนนี้ยังสั่นสะท้าน แต่ละคนต่างสีหน้าฉงน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่เพียงแต่พวกเขา ต่อให้เป็นพวกสิงเจี้ยนสยาที่บาดเจ็บไปทั้งตัว รวมถึงสวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงก็ตะลึงไปกับเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อนี้
ก็ในตอนนี้เอง ชิงเฟยหงที่ก่อนหน้านี้พ่ายแพ้ในลานประลองแพ้ชนะ กระทั่งพลังจิตยังเกือบถูกระเบิดก็เอ่ยเสียงแหบแห้งว่า
“เจ้าหมอนี่… ทะลวงขั้นไร้ขอบเขตระหว่างการต่อสู้!!”
คำพูดเดียวคล้ายฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำเอาพวกอิงเทียนเซิงตัวแข็งทื่อ ต่างงุนงงไปหมด
แจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตหรือ
ทั้งผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลๆ เหล่านั้น พวกเจียงหมิงสุ่ยที่กำลังต่อสู้กับพวกสิงเจี้ยนสยา รวมถึงพวกจอมเทพหวงหลงที่อยู่ห่างออกไปต่างเผยสีหน้างุนงง
แจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต?
นี่เหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างหนึ่ง!
ความรู้ความเข้าใจของแต่ละคนต่างถูกโจมตีเสมือนถูกพลิกคว่ำ
ใครไม่รู้บ้างว่าในทะเลโชคชะตาแห่งนี้ไม่มีทางปรากฏเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ
เมื่อไม่มีเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ จะมีโอกาสให้แจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตได้อย่างไร
ยุคสมัยมากมายในอดีตที่ผ่านไปเหล่านั้นล้วนไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน!
ทว่าตอนนี้ชิงเฟยหงกลับบอกว่าหลินสวินทะลวงขั้นไร้ขอบเขตในการต่อสู้ นี่จะให้ใครกล้าเชื่อกัน
ถึงขั้นชวนให้เชื่อได้ยากกว่าหลินสวินฆ่าฉิวเฟิ่งฉือเสียอีก!
มีเพียงพวกสิงเจี้ยนสยาที่ยิ้มออกมา แม้จะบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าสถานการณ์จะยังอันตรายหาใดเทียบเหมือนเดิม แต่พวกเขารู้ว่าหลินสวินทำสำเร็จแล้ว!
มีเพียงพวกเขาที่กล้าแน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริง!
ด้านซู่หวั่นจวินที่กำลังสู้กับพวกจอมเทพหวงหลง จู่ๆ ก็นึกถึงมือกระบี่ที่ทำให้นางยึดติดคนนั้น
เขาในตอนนั้นก็ไม่ใช่เป็นเช่นนี้หรอกหรือ
ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ทำลายความเข้าใจทั่วหล้า
คนผู้เดียวก็ประหนึ่งยอดตำนาน รังสรรค์เรื่องเล่าขานอันโชติช่วงที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลกเรื่องแล้วเรื่องเล่า!