Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3128 พลิกผัน!
ตอนที่ 3128 พลิกผัน!
ผู้พูดไร้เจตนา ผู้ฟังฝังใจ
จอมเทพหวงหลงไม่สนใจว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไร
เขาตรงไปข้างหน้า โจมตีศิลาสังเวียนมหามรรค ‘ตัดสินแพ้ชนะ’ ผ่านอากาศ
จากนั้นก็เงยมองหลินสวิน “หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”
วู้ม…
ละอองแสงตัดสลับ กฎระเบียบไหลหลั่ง ลานประลองแพ้ชนะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
และเงาร่างหลินสวินกับจอมเทพหวงหลงก็ปรากฏตัวในลานประลองแพ้ชนะ ประจันหน้ากันไกลๆ
เพียงครู่เดียวทั่วลานปั่นป่วน
“หลินสวินนี่ผ่านการต่อสู้มาแล้วสิบเจ็ดรอบ ยังดันตอบรับการประลองกับจอมเทพหวงหลงอีก นี่เขาบ้าไปแล้วหรือ”
คนมากมายยากจะเชื่อ
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงไม่ตัดสินใจเช่นนี้
ทั้งที่ให้คนอื่นออกสู้แทนได้แท้ๆ เหตุใดต้องรั้นจะทำเพียงลำพัง
“หลินสวินไม่ใช่พวกโง่เขลา เจ้าเคยเห็นยามเขาอยู่ขั้นสรรสร้างยังฆ่าคนอย่างจอมมารหูยงตายได้หรือไม่ ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้หลินสวินยังสู้ชนะเฒ่าชราสิบเจ็ดคนติดกัน!”
“ในเมื่อเขากล้าทำเช่นนี้ย่อมต้องมีความมั่นใจ!”
มีคนแววตาวาววับ เต็มไปด้วยความตั้งตาคอยกับการต่อสู้ครั้งนี้
“จอมเทพหวงหลงไม่ใช่พวกที่ยักษ์ใหญ่ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ทั่วไปจะเทียบได้ เจ้าเฒ่าคนนี้รากฐานแน่นหนา ในโลกบัวชะตาแห่งนี้ยังมีน้อยคนนักที่จะเทียบได้ หากหลินสวินอยากเอาชนะเขา… ความหวังคงไม่มากนัก”
“ต่อให้แพ้แล้วอย่างไร นี่คือตัดสินแพ้ชนะ ไม่ใช่ตัดสินเป็นตาย”
…ไกลออกไปผู้ชมการต่อสู้ล้วนวิพากษ์วิจารณ์ ฮึกเหิม ถูกการต่อสู้ที่ใกล้จะเริ่มขึ้นดึงดูด
ความแข็งแกร่งของจอมเทพหวงหลงถูกทุกคนยอมรับมานานแล้ว
การลงสนามของเขาจะไม่ดึงดูดความสนใจได้อย่างไร
และหลินสวินก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน!
ขณะเดียวกันพวกเจียงหมิงสุ่ย อิงเทียนเซิงต่างก็เต็มไปด้วยแววตั้งตาคอย
การต่อสู้นี้สำคัญยิ่งยวด และจะกำหนดทิศทางของสถานการณ์ต่อจากนี้!
“สหายน้อยหลิน… มั่นใจว่าจะชนะจริงหรือ”
ในใจสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลงใจหายใจคว่ำอยู่บ้าง
“เท่าที่ข้ารู้ ดูเหมือนเขาไม่เคยทำเรื่องที่ไม่มั่นใจ”
สิงเจี้ยนสยากล่าวเสียงเบา
และบนลานประลองแพ้ชนะ ก็เห็นหลินสวินมาประลองดังคาด จอมเทพหวงหลงสงบใจโดยสมบูรณ์ ระบายยิ้มกล่าว “เจ้าหนุ่ม จงจำคำที่ข้าพูดไว้ให้ดี การต่อสู้นี้จะทำให้เจ้าแพ้อย่างศิโรราบแน่นอน!”
หลินสวินยกยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าก็จงจำให้ดี ฆ่าตัวตายยอมแพ้เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าอย่างหนึ่ง”
ทั้งคู่ฟาดฟันอย่างสูสี ทำให้บรรยากาศในสนามรบเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมา
เมื่อพลังกฎระเบียบที่กดทับบนตัวสลายไป สองมือจอมเทพหวงหลงทำมุทรา ส่งเสียงกร้าว “ทะยาน!”
ชิ้ง!
กระบี่โบราณลายสนที่สะพายบนหลังจอมเทพหวงหลงพุ่งทะยานขึ้นฟ้า เสมือนน้ำฤดูใบไม้ร่วงที่กระจ่างใสสะอาด เจตกระบี่ไพศาลนั่นซัดระลอกคลื่นกฎระเบียบขึ้นเป็นริ้วๆ สะเทือนเก้าชั้นฟ้า
“ฟัน!”
และยามกระบี่นี้ฟันลงมา ทันใดนั้นทุกคนนอกลานก็รู้สึกว่าเบื้องหน้าสายตาเจ็บแปลบระลอกหนึ่ง ลมหายใจล้วนติดขัด
ก็เห็นกระบี่โบราณลายสนนั่นกลายเป็นแสงมรรคสว่างโรจน์คมกริบยิ่ง ถึงขั้นไม่อาจจินตนาการได้ และน่าสะพรึงจนทำให้คนใจสะท้าน
เมื่อผู้ช่ำชองลงมือเองย่อมเห็นประจักษ์
ทันทีที่กระบี่นี้ของจอมเทพหวงหลงฟันออกมา ก็สำแดงพลังของยักษ์ใหญ่น่าสะพรึงออกมา เหนือกว่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่สู้กับหลินสวินก่อนหน้านี้ ทำเอาผู้ชมการต่อสู้นอกลานเหล่านั้นรู้สึกตระการตาและใจสะท้าน
แข็งแกร่ง!
แข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ!
และเพราะกระบี่นี้ทำให้ในใจพวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยเดือดปะทุ มรรคกระบี่ระดับนี้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรปานใด!
หลินสวินสีหน้าเรียบนิ่งไร้คลื่นหวั่นไหว มีเพียงนัยน์ตาสีดำดุจเหวลึกที่สะท้อนหนึ่งกระบี่ที่ฟันเข้ามานี้ จิตต่อสู้ในใจก็พวยพุ่งโดยพลัน
การต่อสู้สิบเจ็ดครั้งก่อนหน้านี้เหมือนการสะสมแรงทีละน้อยสำหรับเขา ทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะก็ทำให้จิตต่อสู้ของเขาก่อกำเนิด และหล่อเลี้ยงความเชื่อมั่นที่ไร้ศัตรูอย่างเต็มเปี่ยมออกมา
และตอนนี้กระบี่นี้ของจอมเทพหวงหลงก็จุดประกายพลังที่สั่งสมในใจหลินสวิน!
“ทะยาน!”
ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมีกระบี่มรรคโฉบพุ่งออกมา ฟันขวางอากาศ
เคร้ง!!
สองกระบี่ปะทะกัน เสมือนมรรคกระบี่สูงสุดสองชนิดกำลังเข้าปะทะ พลังเจตกระบี่น่าสะพรึงกระแทกดุเดือด ซัดกระแสมหามรรคหอบม้วนฟ้าดิน
คนมากมายล้วนสูดหายใจสะท้าน การโจมตีนี้ทำให้สภาวะจิตของพวกเขาถูกซัดสะเทือน
“หมื่นอสนีเป็นตัวนำ กระบี่กัดกินทั่วหล้า!”
แขนเสื้อกว้างของจอมเทพหวงหลงโบกสะบัด เมื่อความคิดขยับไหว กระบี่โบราณลายสนพลันปล่อยสายฟ้าน่าสะพรึงออกมา สะเทือนจนกระบี่มรรคของหลินสวินกระเด็นออกไปแรงๆ
จากนั้นจอมเทพหวงหลงเหยียบย่างห้วงอากาศ กลิ่นอายในตัวเปรียบดั่งอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ส่องสว่างหมื่นกาลเพียงลำพัง ทะลวงผ่านลานประลองแพ้ชนะ
อานุภาพเช่นนั้นเกรียงไกรเกินไป แม้แต่พวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยยังรู้สึกกดดัน นัยน์ตาล้วนเผยแววแปลกไปอย่างอดไม่ได้ เจ้าเฒ่าคนนี้ถึงกับแข็งแกร่งกว่าในข่าวลืออยู่บ้าง!
หากไม่ใช่หลินสวิน เกรงว่าไม่มีทางบีบให้เขาใช้พลังทั้งหมดออกมาได้สักนิด!
“หมื่นกระแสคืนสมุทร มรรคข้าคืนกระบี่!”
ในเสียงตะโกนลั่นจอมเทพหวงหลงฟันหนึ่งกระบี่ลงมาอีกครั้ง ก็เห็นกระบี่โบราณลายสนนั้นเสมือนกระแสมหาสมุทรท่วมทั่วหล้า เวิ้งว้างไพศาล ม้วนแผ่ออกไป
เคร้ง!!
หลินสวินใช้กระบี่มรรคต้านทาน เพิ่งต้านหนึ่งกระบี่อันเกรียงไกรนี้ได้ จอมเทพหวงหลงก็โจมตีใส่อีกครั้งแล้ว
“มรรคข้าไร้จำกัด กระบี่ข้าไร้บกพร่อง!”
วู้ม!
กระบี่โบราณลายสนนั่นวาดวงกลมกลางห้วงอากาศ ปรากฏท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์อันสมบูรณ์ไร้ที่ติ เต็มไปด้วยพลังกฎระเบียบที่อัศจรรย์ไม่อาจบรรยาย
ตูม โครม…
ยามกระบี่นี้ฟันลงมา เงาร่างหลินสวินล้วนถูกซัดสะเทือนถอยออกไปหลายก้าว พลังขับเคลื่อนทั่วร่างพลิกตลบ
นอกลานฮือฮาโดยสมบูรณ์ เสียงร้องตกใจดังไม่หยุด
ไม่ว่าใครต่างรู้ดีว่าจอมเทพหวงหลงแข็งแกร่งยิ่ง แต่ยามเห็นเขาลงมืออย่างแท้จริงถึงรู้ว่าเขากร้าวแกร่งถึงขั้นน่าสะพรึงเช่นนี้!
และบนด่านนภาห้าธาตุ สวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลงล้วนหน้าเปลี่ยน
มีเพียงพวกสิงเจี้ยนสยายังคงสงบนิ่ง เพียงแต่ในใจก็เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างไม่อาจเลี่ยง
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่หลินสวินถูกซัดถอยออกไปนับตั้งแต่ต่อสู้มาสิบกว่ารอบ
“ลมฝนแปดทาง ไร้ขอบเขตสิบทิศ!”
ในลานประลองแพ้ชนะจอมเทพหวงหลงเสมือนนายเหนือหัวสูงสุด กระบี่พาดขวางกลางอากาศ แผลงฤทธิ์ทั่วหล้า อานุภาพและมาดระดับนั้นตระการตายิ่ง
สวบ!
ปราณกระบี่น่าสะพรึงพุ่งโฉบออกไป เสมือนลมฝนแปดทางร้องคำรามพวยพุ่ง กรรโชกโหมกระหน่ำบนลานประลองแพ้ชนะ
ไม่ว่าใครล้วนมองออกว่าหลินสวินหลบหลีกไม่พ้นสักนิด
เพียงแต่หลินสวินไม่คิดจะหลบเลี่ยงด้วยซ้ำ
นัยน์ตาดำของเขาเหมือนสายฟ้า เข้ารับการโจมตีนี้ด้วยการโบกกระบี่ปะทะอย่างแข็งกร้าว
จิตต่อสู้ทั่วร่างล้วนแผ่ออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ระเบิดปะทุโดยสมบูรณ์
ตูม โครม… ตูม โครม…
การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างทั้งคู่ปะทุขึ้น ทั่วลานประลองเต็มไปด้วยปราณกระบี่หอบม้วนบ้าคลั่ง ภาพอันน่าสะพรึงนั่นทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยหนาวสะท้าน
ลองถามใจตนดู หากให้พวกเขาเป็นหลินสวินเกรงว่าคงไม่อาจต้านการโจมตีกร้าวแกร่งอหังการของจอมเทพหวงหลงได้สักนิด
และเมื่อมองหลินสวินอีกครา แม้จะสามารถต้านการจู่โจมประหนึ่งธารใหญ่ยาวเป็นชั้นๆ นั่นได้ แต่กลับถูกซัดถอยร่นบ่อยครั้ง เงาร่างส่ายโคลง
จอมเทพหวงหลงเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย!
นี่ทำให้พวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยล้วนยิ้มยินดี สภาวะจิตเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น หมอกทึบที่สั่งสมกลางใจก่อนหน้านี้ล้วนหายไป
“เจ้าหนุ่ม รู้สึกอย่างไรบ้าง”
ในลานประลองเสียงหัวเราะลั่นของจอมเทพหวงหลงดังขึ้น ห้าวหาญผ่าเผย เหยียดหยันราวเทพ
“ก็ไม่เท่าไร”
หลินสวินเอ่ยปากง่ายๆ
“เหอะ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”
จอมเทพหวงหลงยิ้มกว้าง และการโจมตีของเขายิ่งน่าสะพรึงขึ้นเรื่อยๆ กระบี่โบราณลายสนเคลื่อนขวาง สาดปราณกระบี่ชั้นเลิศ
“ฟ้าดินบกพร่อง กระบี่ข้าทดแทน!”
“สองลักษณ์ขุ่นใส แบ่งแยกดำขาว!”
“มหามรรคไพศาล ข้าบัญชาให้จ่อมจม!”
…อภินิหารมรรคกระบี่น่าเหลือเชื่อเป็นชั้นๆ ถูกจอมเทพหวงหลงปลดปล่อยอย่างกำแหง เผยลักษณ์ประหลาดไม่อาจคาดคิดออกมา
สัตว์ประหลาดเฒ่าส่วนหนึ่งล้วนตาพร่าลาย
แม้แต่พวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยยังไม่อาจไม่ยอมรับ ว่าพลังต่อสู้ของจอมเทพหวงหลงเหนือกว่าพวกเขาอยู่บ้าง!
และภายใต้การต่อสู้ระดับนี้ สถานการณ์ของหลินสวินก็เปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนเสมือนอยู่ในสถานการณ์ถูกกดข่มโดยสมบูรณ์ ยืนหยัดไม่ไหวได้ทุกเมื่อ
มีคนถึงขั้นอดถอนหายใจยาวไม่ได้ เมื่อครู่เหตุใดจึงต้องฝืนเช่นนี้เล่า
จู๋เทียนจวินยิ่งยิ้มพลางสื่อจิต ‘ทุกท่าน เมื่อหลินสวินแพ้พวกเราก็ผลัดกันลงสนาม เอาชนะเจ้าเฒ่าอย่างพวกสิงเจี้ยนสยา ต้องรีบสู้รีบจบ ถึงตอนนั้นขอเพียงชนะห้าครั้งรวด ด่านนภาห้าธาตุแห่งนี้ย่อมตกอยู่ในมือพวกเรา!’
แต่ก็เวลานี้เอง…
บนลานประลองแพ้ชนะจู่ๆ หลินสวินก็ยิ้มกว้าง “เจ้าเฒ่า ดูท่าพลังทั้งหมดของเจ้าคงมีเท่านี้ นี่ไม่มีโอกาสทำให้ข้าศิโรราบทั้งกายใจจริงๆ ด้วยซ้ำ”
จอมเทพหวงหลงเลิกหัวคิ้วขึ้น เพิ่งหมายจะพูด ในลานประลองพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
ก็เห็นหลินสวินเงาร่างพริบไหว กายมรรคทั้งห้าทะยานออกมา!
ตูม โครม!
เสียงกึกก้องดังขึ้นทั่วฟ้า จอมเทพหวงหลงเงาร่างพลันซวนเซ ถูกซัดถอยร่นออกไป
กายมรรคทั้งห้ายามนี้ล้วนมีพลังต่อสู้ไม่ด้อยกว่าร่างต้น เมื่อเคลื่อนไหวพร้อมกันก็สลายสถานการณ์อันตรายนั่นได้ในพริบตา
“นี่…”
ไกลออกไปผู้ชมการต่อสู้ล้วนอึ้งงัน
“เป็นกายมรรคทั้งห้าของเขา ข้าเดาได้แต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้!”
มีสัตว์ประหลาดเฒ่าบางคนส่งเสียงร้องออกมา
ในโลกบัวชะตาคราวก่อนก็มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับกายมรรคทั้งห้าของหลินสวิน
เพียงแต่เมื่อหลินสวินแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต ทำให้ผู้คนแทบจะลืมเลือนเรื่องนี้ไป
และเวลานี้พวกเขาถึงเพิ่งจะฉุกคิดขึ้นมาได้
ในข่าวลือกายมรรคทั้งห้าของหลินสวินล้วนมีพลังไม่ด้อยไปกว่าร่างต้น นี่ไม่เท่ากับว่าในลานประลองตอนนี้มีหลินสวินหกคนกำลังต่อสู้อยู่หรือ
คิดถึงตรงนี้คนไม่รู้เท่าไรสูดหายใจสะท้าน
“ที่แท้เป็นเช่นนี้…”
อิงเทียนเซิงกัดฟัน สีหน้าอึมครึม
ก่อนหน้านี้ไม่เห็นหลินสวินใช้กายมรรคทั้งห้ามาตลอด ทำให้เขายังคิดว่าหลังจากหลินสวินแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต กายมรรคทั้งห้านั่นยังไม่ทันได้เคี่ยวกรำออกมา
แต่ตอนนี้ดูท่า หลินสวินซ่อนกายมรรคทั้งห้านี้ไว้เป็นไพ่เด็ดชัดๆ จนบัดนี้ถึงเพิ่งนำมาใช้
จู๋เทียนจวินรู้สึกเหมือนถูกคนตบหน้าเต็มฝ่ามือ แสบร้อนจนยากจะทนไหว เมื่อครู่เขายังพูดว่าหากหลินสวินพ่ายแพ้จะเคลื่อนไหวต่ออย่างไร
ผลลัพธ์คือเพิ่งพูดจบหลินสวินก็ใช้กายมรรคทั้งห้า พลิกนสถานการณ์แล้ว!
นี่ต่างอะไรกับการตบหน้าตนเอง
“ในที่สุดก็ใช้ออกมาแล้ว”
สิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีราวยกภูเขาออกจากอก ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาสงบปานนั้น ก็เพราะรู้ดียิ่งว่าหลินสวินยังไม่ได้ใช้กายมรรคทั้งห้า!
“สมควรตาย!”
ในลานประลอง จอมเทพหวงหลงสีหน้าขรึมลง
ตัวแปรนี้ทำเอาเขาปัดป้องไม่ทันเช่นกัน
เพียงแต่ไม่รอให้เขาคิดมากความ หลินสวินและกายมรรคของเขาก็ทะยานมาแล้ว
ตูม โครม!
ชั่วพริบตาจอมเทพหวงหลงก็ตกอยู่กลางวงล้อม สี่ทิศแปดทางล้วนมีแต่การโจมตีดุจดั่งลมคลั่งฝนคะนอง ทำเอาร่างเขาถูกท่วมมิด
และสถานการณ์ทั่วลานประลองก็พลิกผันโดยสิ้นเชิงในเวลานี้เช่นกัน!