Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 319
ลมบนฟ้าพัดเสียดหน้าเจ็บเหมือนดาบบสด
หลินสวินเพิ่งจะเคยเดินเหินบินบนอากาศอย่างนี้เป็นครั้งแรก ก้อนเมฆที่อยู่ไกลออกไปให้ความรู้สึกเหมือนควบคุมมันได้ ทำให้เด็กหนุ่มดูเปรมปรีดิ์ อารมณ์ขุ่นมัวที่ถูกทำร้ายหมายชีวิตหายไปไม่น้อย
“การกีดกันไม่ให้เดินทางมานครต้องห้ามครั้งนี้ ข้ากับคุณหนูล้วนรู้แต่ห้ามไม่ได้ เพราะว่าทั้งหมดเป็นการทดสอบของเจ้า” ชายชราเอ่ยบอก คำนั้นทำให้หลินสวินใจกระตุก สงบอารมณ์ไม่มองบรรยากาศโดยรอบอีก
“เจ้าก็คงจะเดาได้ หากอยากฆ่าเจ้าจริงๆ ตระกูลฉือไม่จำเป็นต้องจัดตั้งภารกิจนี้ แค่ส่งผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณไปคนเดียวก็จัดการเจ้าได้แล้ว” แม้คำพูดของชายชราจะไม่ไว้หน้า แต่ก็เป็นความจริงดังนั้น หลินสวินพอเดาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง
อาจเพราะหลินสวินผ่านการทดสอบแล้ว ชายชราจึงเอ่ยอย่างเถรตรงไม่ปิดบังกันเหมือนก่อน
“เพราะเหตุใด” หลินสวินถามต่อ
“เพราะสถานะของเจ้า” ชายชราเสียงอบอุ่นแต่แผ่วเบา เพียงไม่กี่คำก็พอที่จะทำให้หลินสวินสั่นสะท้าน ในที่สุดก็จะบอกความจริงกับเขาแล้วสินะ
ตั้งแต่ออกจากคุกใต้เหมืองวันนั้น เขาก็ตั้งใจเข้ามาตามหาสถานะของตัวเองในจักรวรรดิจื่อเยา เขารอเวลานี้มานานเหลือเกิน
ถ้ารู้สถานะของตัวเองก็ ย่อมรู้ว่าใครเป็นคนพรากชีพจรวิญญาณของตนเองไป
“ผู้อาวุโส โปรดบอกความจริงแก่ข้า” หลินสวินสูดลมหายใจ เอ่ยอย่างจริงจัง
ชายชรามีท่าทีซับซ้อน ครู่หนึ่งจึงพยักหน้า “ข้าเคยรับปากเจ้าไว้ เมื่อเจ้าเข้ามาในนครต้องห้ามแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะบอกความจริงแก่เจ้าแล้ว”
สายตาของชายชรารำลึกไปถึงอดีต “พ่อของเจ้านามว่าหลินเหวินจิ้ง เป็นผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งในนครต้องห้าม พรสวรรค์โดดเด่น มีพลังเหนือกว่าใคร เขาถูกคนในตระกูลหลินเล็งเอาไว้ให้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลิน”
หลินเหวินจิ้ง
ตระกูลหลิน
หลินสวินทบทวนกับตัวเองในใจเงียบๆ
“แม่ของเจ้านามว่าลั่วชิงสวิน นางทีฐานะยากจน กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง”
“นางมีพรสวรรค์การฝึกฝนที่เหนือปกติตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยความที่เป็นคนฉลาดหลักแหลม ทำให้ย่างเข้ามาในเส้นทางสายฝึกปราณ”
“นางผ่านการทดสอบระดับอำเภอ จังหวัด มณฑล และอาณาจักร เข้าศึกษาในสำนักศึกษามฤคมรกต หากข้าจำไม่ผิด นางน่าจะเป็นที่หนึ่งในการทดสอบระดับอาณาจักรเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน”
“ใช่แล้ว ปีนั้นพ่อของเจ้าได้ที่สอง เป็นรองเพียงแม่ของเจ้า”
หลินสวินตกตะลึง ที่แท้…มารดาของขาก็เก่งกาจถึงเพียงนี้ แม้จะเกิดจากบ้านฐานะยากจน แต่ก็ต่อสู้จนได้รับเกียรติยศ เป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งของการทดสอบระดับมหัศจรรย์ ช่างมหัศจรรย์เสียจริง
หลินสวินฝึกปราณมาถึงตอนนี้ถึงรู้ชัด ว่ากว่าคนยากจนจะได้รับเกียรติยศเช่นนี้ยากลำบากเพียงใด
แต่ชัดเจนว่า มารดาที่เขาไม่เคยพบหน้าคือสตรีในตำนาน
เสียงอบอุ่นของชายชราเล่าเรื่องราวในตอนนั้นออกมา
ปีนั้นหลังจากที่ลั่วชิงสวินกับหลินเหวินจิ้งผ่านการทดสอบระดับอาณาจักรแล้ว พวกเขาก็เข้าศึกษาต่อในสำนักศึกษามฤคมรกต ปีที่สองที่ทั้งสองคนเข้าศึกษา ทั้งคู่ตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน แต่ไม่คิดว่าตระกูลหลินจะคัดค้านเป็นเสียงเดียว
ตระกูลหลินคิดว่าหลินเหวินจิ้งเป็นถึงผู้สืบทอดตระกูลหลิน ฐานะสูงส่ง เป็นตัวแทนอำนาจของตระกูลหลิน ส่วนลั่วชิงสวินแม้จะมีพรสวรรค์โดดเด่น แต่อย่างไรก็ยากจนข้นแค้น ไม่คู่ควรกับหลินเหวินจิ้ง
หากอยากให้ลั่วชิงสวินแต่งเข้าตระกูลหลินก็ย่อมได้ แต่ไม่สามารถแต่งเป็นภรรยาหลวง เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น
ตอนนั้นหลินเหวินจิ้งไม่ยอมรับ ไม่สนใจคำทัดทาน และเลือกที่จะอยู่เคียงคู่กับลั่วชิงสวิน ทำให้ตระกูลหลินโมโหจะปลดตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลไปจากหลินเหวินจิ้ง
แต่สุดท้ายบิดาของหลินเหวินจิ้งก็ออกหน้าไกล่เกลี่ยเรื่องราว ไม่กีดกันหลินเหวินจิ้งกับลั่วชิงสวินอีก ความวุ่นวายนี้จึงสงบไป หลินเหวินจิ้งกับลั่วชิงสวินได้อยู่ด้วยกัน กลายเป็นคู่รักเทพเซียนที่ทั้งนครต้องห้ามต้องอิจฉา
ผ่านไปหลายปี ในตอนที่ลั่วชิงสวินท้องกำลังจะคลอดในเดือนที่สิบ ภัยร้ายก็มาเยือน
เล่าถึงตรงนี้ ชายชราพลันเสียงแผ่วลง
หลินสวินหัวใจบีบคั้น เม้มปากลุ้นตามไปด้วย เขาเดาไว้ว่าภัยร้ายน่าจะเกิดตอนที่ตนเขาเพิ่งจะถือกำเนิดขึ้น เพราะคนร้ายขโมยชีพจรวิญญาณของเขาไปด้วย
“เหตุการณ์ตอนนั้นกะทันหันนัก แทบไม่มีใครทราบชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่นอนก็คือ ในคืนที่เจ้าเกิดมา พ่อของเจ้าถูกฆ่า แม่ของเจ้าหายตัวไป ทั้งตระกูลหลินตกอยู่ในภาวะระส่ำระส่าย”
ชายชราเอ่ยเบาๆ “หลังจากนั้นถึงมีข่าวรั่วไหลออกมา ว่าคืนวันนั้นสายเลือดตรงของตระกูลทั้งหมดถูกสังหารจนสิ้น ไม่มีใครรอดชีวิตมาได้เลย”
ได้ยินเช่นนี้หลินสวินก็ปวดใจแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม้ไม่เคยเจอหน้าบิดามารดา ไม่มีความรู้สึกใดๆ กับพวกเขา แต่เมื่อได้ยินเรื่องเลวร้ายที่พวกเขาประสบ เด็กหนุ่มก็ทำใจรับได้ยากเช่นกัน
เดิมทีเขาคิดว่าหากบิดามารดายังอยู่ อาจจะมีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้า เขาถึงกับมีความคิดว่าหากได้เจอหน้าผู้ให้กำเนิดทั้งสอง จะถามให้ชัดว่าเหตุใดตอนนั้นถึงทนมองเขาถูกทำร้ายได้
แต่เมื่อได้รู้ว่าหลินเหวินจิ้งผู้เป็นบิดาถูกสังหาร มารดาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ แม้แต่ทายาทสายตรงทั้งหมดก็ยังถูกสังหารจนหมด จิตใจของหลินสวินพลันว่างเปล่า ในอกคล้ายมีหินยักษ์ทับอยู่จนอึดอัด เขาเม้มปากแน่น สองหมัดกำแน่น กดข่มความสั่นไหวในใจ
“คนร้ายคือใคร” หลินสวินถาม แสงแหบพร่าคล้ายบีบเค้นออกมา
“อวิ๋นชิ่งไป๋” ชายชราเสียงแฝงไปด้วยความซับซ้อนสับสน
“เหตุใด…เขาถึงทำเช่นนี้” เสียงของหลินสวินสั่นเครือ คล้ายกดอารมณ์แปรปรวนในใจไม่ได้
“ไม่มีใครรู้” ชายชราถอนหายใจ
หลินสวินนิ่งไป
ชายชราจึงเอ่ยต่อ “เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าอวิ๋นชิ่งไป๋ไม่ใช่ผู้ฝึกตนในจักรวรรดิจื่อเย่า แต่มาจากสำนักกระบี่เทียมฟ้าในดินแดนลี้ลับ”
หลินสวินงุนงง “สำนักกระบี่เทียมฟ้าหรือขอรับ”
เขาเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก จึงไม่คุ้นเคย
ชายชราพยักหน้า “ใช่แล้ว สำนักกระบี่เทียมฟ้าอยู่ไกลโพ้นฟ้า มันเป็นดินแดนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่อย่างเดียวดาย” ชายชราเปลี่ยนเรื่อง “เจ้าจงจำเอาไว้ อวิ๋นชิ่งไป๋คนนี้ที่มาใหญ่โต สำนักกระบี่เทียมฟ้าที่อยู่เบื้องหลังของเขาก็น่ากลัวนัก เพียงพอให้คนใหญ่โตในจักรวรรดิเกรงกลัวได้”
หลินสวินเงียบ
อวิ๋นชิ่งไป๋ สำนักกระบี่เทียมฟ้า
หลินสวินจดจำสองชื่อนี้ขึ้นใจ หนึ่งเป็นชื่อคน หนึ่งเป็นชื่อสำนัก
เขามั่นใจกระทั่งว่าคนที่ขโมยชีพจรวิญญาณหุบเหวกลืนกินของเขาคืออวิ๋นชิ่งไป๋
“ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะตามหาพวกเจ้าให้ได้” หลินวินสงบนิ่งไม่สมวัยเด็กหนุ่ม คล้ายไม่มีความรู้สึก
ชายชราตระหนักข้อนี้ก็อดแปลกใจไม่ได้ เดิมทีคิดว่าหลินสวินจะรับเรื่องราวไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ทั้งหมดล้วนไม่เกิดขึ้น กลับกันหลินสวินในยามนี้ยังสงบนิ่งได้มากกว่าเขาเสียอีก
ชายชราประหลาดใจแต่ก็กักเก็บอารมณ์ “ตอนนี้ เจ้ารู้สถานะของตัวเองหรือยัง”
หลินสวินพยักหน้า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่บอกกล่าว บุญคุณครั้งนี้ข้าจะไม่ลืม”
ชายชราไม่ว่าอะไร เขาชักรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเด็กหนุ่มตรงหน้า คล้ายกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
“ผู้อาวุโส ตระกูลฉือกีดกันข้าไม่ให้เข้ามาในนครต้องห้ามเพราะสถานะของข้าใช่หรือไม่” หลินสวินโพล่งถามขึ้น
ชายชราส่ายหน้า “เกี่ยวข้องกับสถานะของเจ้า แล้วก็เกี่ยวข้องกับตระกูลหลินของเจ้าด้วย”
หลินสวินงุนงง “ตระกูลหลินหรือขอรับ”
ชายชราว่า “ถูกต้อง ปีนั้นที่ตระกูลหลินประสบภัยร้าย ปู่ของเจ้า ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลถูกคนสังหาร แม้แต่ผู้สืบทอดอย่างพ่อของเจ้าก็ไม่เหลือชีวิตอยู่ ตระกูลหลินกลายเป็นมังกรที่ไม่มีหัว มีปัญหาภายในอย่างหนัก”
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลหลินก็เหมือนชิ้นเนื้อที่คนจ้องมอง อำนาจใหญ่ในนครต้องห้ามเข้าไปยึดแบ่งปันสมบัติของตระกูลหลินจนสิ้นเนื้อประดาตัวตกต่ำลงในที่สุด”
หลินสวินเกิดโทสะในใจ “นี่มันต่างกับการขโมยอย่างไรกัน คนตระกูลหลินพวกนั้นไม่ต่อสู้ ยืนมองทุกอย่างเกิดขึ้นเฉยๆ เลยหรือ”
ชายชรายกยิ้มเยาะเย้ย “พวกเขาสนใจแต่เพียงการต่อสู้ภายในตระกูล เมื่อประสบกับการกลืนกินของอำนาจใหญ่แล้วจะต่อกรได้อย่างไร”
“น่าเสียใจที่สุดก็คือ เพื่อแย่งชิงอำนาจ หลายคนในตระกูลหลินลัฏลอบติดต่อสานสัมพันธ์กับคนพวกนั้น คนในคนนอกร่วมมือแบ่งเอาสมบัติของตระกูลหลินไป”
ได้ยินดังนี้ในใจหลินสวินแทบระเบิด บิดาและท่านปู่ต้องตายตก มารดาหายตัวไป คนในตระกูลเหล่านั้นไม่สนใจแก้แค้นแต่กลับแก่งแย่งอำนาจ ต่อสู้กันภายใน แม้กระทั่งร่วมมือกับคนนอกแบ่งเอาทรัพย์สินของตระกูลหลินออกไป ช่างน่าโมโหนัก
เมื่อเห็นท่าทีอึมครึมของหลินสวิน ชายชราก็ถอนหายใจออกมา “นี่เป็นชะตาของตระกูลทรงอำนาจ เมื่อไร้ซึ่งคานหลักค้ำจุน ก็ย่อมกลายเป็นอาหารอันโอชะของผู้อื่น ใครๆ ก็อยากลิ้มลองแล้วเหยียบให้จมลงไปจนไม่มีโอกาสให้ฟื้นตัวกลับมาใหม่ได้ สำหรับคนพวกนั้นแล้ว นี่เป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการเห็นที่สุด”