Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3211 นี่ถือว่าแข็งแกร่งแล้วหรือ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3211 นี่ถือว่าแข็งแกร่งแล้วหรือ
ร่างสูงโปร่งยืนกลางอากาศ ราบเรียบพ้นโลกีย์
พริบตานั้นเฒ่าโดดเดี่ยวเกือบโจมตีสุดชีวิต ต่อให้สุดท้ายยั้งไว้ได้ แต่ใบหน้าชราก็อึดอัดจนแดงก่ำ ยากจะรับยิ่งยวด
“เจ้าหนูมาแล้วทำไมไม่บอกกล่าว… แค่กๆ…” เมื่อกล่าวถึงตอนท้ายเฒ่าโดดเดี่ยวกระอักเลือดออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่สีหน้าเขากลับฉายแววตื่นเต้น
หลินสวินมาแล้ว!
นี่จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร
แต่เพียงพริบตารอยยิ้มของเขาพลันค้างแข็ง หัวใจล้วนตกไปอยู่ตาตุ่ม สื่อจิตกล่าวอย่างรวดเร็ว ‘เจ้าหนูทำไมถึงโง่อย่างนี้ รู้สถานการณ์แล้วยังเข้ามายุ่ง รีบหนีไป! ข้าจะทุ่มสุดตัวเพื่อสกัดพวกเขาไว้ เร็ว!’
กล่าวถึงตอนท้ายน้ำเสียงเฒ่าโดดเดี่ยวเจือความร้อนรน
หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ ตบบ่าเฒ่าโดดเดี่ยว “ท่านน่ะห่วงข้าให้น้อยหน่อย คอยดูอยู่ด้านข้างก็พอ”
เฒ่าโดดเดี่ยวอึ้งงัน
ห่างออกไปเสียงยินดีของฉงซวีดังขึ้น “ข้ายังว่าอยู่ว่าเป็นใคร ที่แท้ก็เป็นเจ้า!”
ปาเจวี๋ย เฟ่ยหยา เซียวอวิ้นจื่อทั้งผิดคาดทั้งยินดีเช่นกัน
ก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกถึงอันตราย หลบหนีไปพร้อมกัน แต่หลังจากเห็นเงาร่างของหลินสวินชัดเจนแล้วกลับฮึกเหิมขึ้นมา
“ดูท่าว่าทุกท่านคงรอข้าคนแซ่หลินมานานแล้ว”
หลินสวินกวาดสายตามองไป แววตาเปลี่ยนเป็นเฉยชาเยียบเย็น
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว”
ฉงซวียื่นมือชี้เฒ่าโดดเดี่ยว หัวเราะคิกคักพลางกล่าว “รู้ไหมว่าเหตุใดพวกเราถึงจะจัดการเฒ่าชรานี่ ก็เพื่อบีบให้เจ้าเผยร่องรอย ต่อให้เจ้าซ่อนตัวไม่ออกมา แค่จับตัวเจ้าเฒ่านี่ก็เป็นตัวประกันข่มขู่เจ้าได้”
เฒ่าโดดเดี่ยวสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด หลุดปากด่ายกใหญ่ “หน้าไม่อาย!”
แต่ไม่มีใครสนใจเขา ทุกสายตาล้วนจับจ้องหลินสวิน
เฟ่ยหยาเอ่ยถามฉับพลัน “หลินสวิน เจ้ามาถึงโลกโลกาสวรรค์เมื่อไหร่”
หลินสวินเหลือบมองเขาแล้วกล่าว “นับรวมวันนี้ก็ครึ่งเดือนพอดี”
เฟ่ยหยาขานรับว่าอ้อ ทั้งตัวเหมือนผ่อนคลายลงไม่น้อยกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นเจ้าคงเริ่มหยั่งรู้พลังต้นกำเนิดโลกาสวรรค์แล้วกระมัง”
สายตาคนอื่นล้วนจับจ้องหลินสวินเขม็ง
เฒ่าโดดเดี่ยวเพิ่งหมายจะพูดอะไรก็ถูกหลินสวินขวางไว้ เขากวาดสายตามองทุกคนพลางกล่าว “ทุกท่านลองลงมือก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ”
เขาดูเยือกเย็นและนิ่งสงบนัก
นี่ทำให้พวกฉงซวีขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าหลินสวินกำลังวางมาดตบตาหรือมีความมั่นใจจริงๆ
“น่าขัน เจ้าเพิ่งมาถึงแค่ครึ่งเดือน พลังโลกาสวรรค์ที่หยั่งรู้และครอบครองไม่มีทางแข็งแกร่ง!”
ฉงซวีกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม
ขณะกล่าวบนตัวเขาเกิดเสียงดังครืน โลกไร้รูปแห่งหนึ่งปรากฏ อบอวลไอโลกาสวรรค์โหมกระหน่ำ วิวัฒน์เป็นพลังอารยธรรมและมหามรรคยิ่งใหญ่งดงาม กดอัดไปทางหลินสวินเต็มกำลัง
เขากับทูตชะตาสวรรค์คนอื่นลำบากฝึกปราณอยู่ที่นี่มาไม่รู้นานเท่าไร พลังโลกาสวรรค์ที่หล่อหลอมยิ่งแข็งแกร่งทรงพลังถึงขีดสุด
เมื่อเทียบกันแล้ว เขาไม่เชื่อว่าหลินสวินที่เพิ่งมาถึงโลกโลกาสวรรค์จะหยั่งรู้และครองนัยเร้นลับต้นกำเนิดโลกาสวรรค์ได้สักเท่าไร
ตูม!
ฟ้าดินแห่งหนึ่งตัดผ่านอากาศกำราบมา ภาพนั้นน่าหวาดกลัวระดับใด ทำให้ภูผาธารายุบทลาย ห้วงอากาศระเบิดกระจุย!
“ให้ข้าเอง!”
เฒ่าโดดเดี่ยวก้าวไปข้างหน้าทันที
แต่ตัวเขากลับถูกหลินสวินจับไว้
ขณะเดียวกันหลินสวินวาดมือซ้ายออกไปลวกๆ
โลกโลกาสวรรค์ที่วิวัฒน์จากฉงซวีถึงกับสลายหายไปต่อหน้าหลินสวินราวกระดาษเปื่อย
เฒ่าโดดเดี่ยวตกตะลึงอ้าปากค้าง เดิมเขาถูกหลินสวินจับตัวแล้วยังคิดดิ้นรน แต่เวลานี้กลับอึ้งงัน ลืมว่าจะดิ้นรนอีก
เมื่อมองทูตชะตาสวรรค์อย่างพวกฉงซวี แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
“ฝึกปราณบนโลกนี้มาตั้งนาน มีความสามารถแค่นี้เองหรือ”
หลินสวินยิ้มน้อยๆ หว่างคิ้วเปี่ยมแววหยามเหยียด
“ฮึ!”
ฉงซวีสีหน้าอึมครึมลง สูดหายใจลึกทันที
ตูม!
บนร่างสูงโปร่งของเขาเปล่งแสงมรรคนับหมื่นแสน ควบรวมเป็นโลกโลกาสวรรค์แห่งหนึ่ง อานุภาพแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่ไม่รู้กี่เท่า
พร้อมกับเสียงกระบี่ก้องกังวาน กระบี่มรรคที่พาดบนแผ่นหลังฉงซวีพุ่งออกมาฉับพลัน โลกโลกาสวรรค์นั้นหลอมรวมเข้าไปในกระบี่มรรคของเขา ทำให้กระบี่มรรคนี้ระเบิดกลิ่นอายน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตออกมาทันที
“ฟัน!”
เมื่อเสียงตวาดดังขึ้น กระบี่มรรคเล่มนั้นทะยานสู่ฟากฟ้าแล้วฟันลงมาทันที
มองจากไกลๆ กระบี่มรรคเหมือนยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ภายในแบกรับฟ้าดินกว้างใหญ่แห่งหนึ่งไว้ ภายในฟ้าดินคือกลิ่นอายอารยธรรมและมหามรรค
กระบี่นี้ราวกับวิวัฒน์จากยุคสมัยแห่งหนึ่ง!
กลับเห็นหลินสวินไม่แม้แต่จะมอง ซัดฝ่ามือหนึ่งออกไปทันใด
ปึง!!!
กระบี่มรรคที่ฟาดฟันมานั้นราวกับถูกโจมตีโดยภูเขาเทพหมื่นกาล สั่นสะเทือนรุนแรงทันที ฟ้าดิน อารยธรรม มหามรรคที่แฝงอยู่ในกระบี่มรรคนี้แตกดับเหมือนเงาอากาศ ล่มสลายย่อยยับ
ถึงตอนท้ายกระบี่มรรคนี้ส่งเสียงครวญดังวู้ม ถึงกับถูกพลังฝ่ามือนี้ซัดลอยออกไปอย่างแข็งกร้าว!
พรูด!
เงาร่างฉงซวีโซเซ ปากกระอักเลือด สีหน้าตื่นตระหนกไม่หยุด
ฝ่ามือเดียวทำลายกระบี่จากพลังทั้งหมดของฉงซวีได้!
ภาพนั้นทำให้ทุกคนตรงนั้นตัวแข็งทื่อ หน้าพลันเปลี่ยนสี
“เป็นไปได้อย่างไร เพิ่งมาถึงโลกนี้ทำไมถึงครองพลังโลกาสวรรค์แข็งแกร่งเช่นนี้” เฟ่ยหยาเดือดดาลและยากจะเชื่อ
เขามองออกว่าพลังฝ่ามือของหลินสวินก่อนหน้านี้ดูเหมือนเรียบง่ายสบายๆ แต่เปี่ยมพลังโลกาสวรรค์ ภายในแฝงโลกไร้รูป แบกรับพลังมหามรรคทั้งตัวหลินสวิน
แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าฝ่ามือนี้จะซัดกระบี่ของฉงซวีร่วงเหมือนผ่าลำไผ่
ต้องรู้ว่าฉงซวีฝึกปราณอยู่บนโลกโลกาสวรรค์มาหมื่นกว่าปีแล้ว พลังโลกาสวรรค์ที่หล่อหลอมออกมาไม่รู้ว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน
เมื่อเทียบกันแล้วเห็นชัดว่าหลินสวินเพิ่งมาถึงโลกโลกาสวรรค์แค่ไม่นาน แต่เขากลับทำได้ถึงขั้นนี้ นี่จะไม่ให้ผู้คนตกใจและผิดคาดได้อย่างไร
เวลานี้แม้แต่เฒ่าโดดเดี่ยวก็อึ้งงัน สายตากวาดมองหลินสวินตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางเหมือนรู้จักหลินสวินใหม่อีกครั้ง
“ใครยังอยากลองอีกบ้าง”
หลินสวินถาม
เขาสุขุมเยือกเย็น ท่าทางราบเรียบ
สาเหตุที่ไม่รีบลงมือเพราะอยากลองดู ว่ามรรคโลกาสวรรค์ซึ่งตนหยั่งรู้และครอบครองตอนนี้บรรลุถึงระดับใดแล้วกันแน่
“จองหอง!”
เซียวอวิ้นจื่อแค่นเสียงเย็นชา โบกสะบัดทวนสีเงินในมือ
ตูม!
ทวนศึกตัดผ่านอากาศ ลักษณ์โลกยุคสมัยปรากฏ เปล่งประกายเจิดจรัส ราวยุคสมัยหนึ่งบุกรุก ในความรางเลือนถึงกับมีเสียงมหามรรคนานัปการดังก้อง เสริมอานุภาพยิ่งใหญ่สะท้านใจคน
ไม่เหมือนกับฉงซวี พลังต่อสู้ของเซียวอวิ้นจื่ออยู่ในสภาพยอดเยี่ยม เวลานี้ทันทีที่เขาลงมือ อานุภาพนั้นย่อมอยู่เหนือความคาดหมาย
ตอนนี้ในที่สุดหลินสวินก็เผยสีหน้าจริงจัง
การโจมตีนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
แต่…
ก็แค่แรงกดดันนิดหน่อยเท่านั้น
ชิ้ง!
ก็เห็นหลินสวินยื่นมือออกไป กระบี่ไร้ก้นบึ้งพุ่งออกมา ไม่นานพลังมรรคโลกาสวรรค์ทั้งตัวหลินสวินล้วนสั่งสมอยู่ในกระบี่เดียว ตัดผ่านอากาศฟาดฟันออกมา
ตูม!
กลางฟ้าดินถูกเจตกระบี่เทียมฟ้าอัดแน่นชั่วพริบตา เจตกระบี่ยิ่งใหญ่นั้นไร้สิ้นสุดและไร้ขอบเขต ภายในแฝงมหามรรคและอารยธรรมนับไม่ถ้วน
หากพูดว่าการโจมตีของเซียวอวิ้นจื่อสั่งสมพลังของยุคสมัยหนึ่งไว้
เช่นนั้นกระบี่นี้ของหลินสวินก็เหมือนแฝงพลังยุคสมัยมากมายไว้ภายใน!
ตูม…
ท่ามกลางเสียงปะทะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ละอองแสงไร้สิ้นสุดลอยล่อง ทวนสีเงินนั้นถูกเฉือนตัดเป็นสองท่อนลอยออกไป
ร่างของเซียวอวิ้นจื่อถูกผ่าแหวก เคราะห์ดีที่พลังจิตของเขาชิงหนีออกมาก่อนก้าวหนึ่ง จึงเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะถูกสังหารไว้ได้
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นภาพน่าตกตะลึงนั่นก็ทำให้ทุกคนขนพองสยองเกล้า วิญญาณเกือบหลุดจากร่าง
เซียวอวิ้นจื่อซึ่งมรรควิถีอยู่ในสภาพยอดเยี่ยมลงมือก็ยังไม่ไหว ถูกกระบี่เดียวฟันจนบาดเจ็บสาหัส เหลือเพียงจิตวิญญาณดั้งเดิม!!
หลินสวินขมวดคิ้วน้อยๆ “กระบี่เดียวกลับไม่อาจปลิดชีพ ดูท่าว่าพลังโลกาสวรรค์ของข้ายังไม่พอ…”
นี่ทำให้เฒ่าโดดเดี่ยวอึ้งงัน จิตใจสับสนวุ่นวาย นี่… นี่ยังเรียกว่าไม่พอหรือ!??
“ไป!”
พริบตานี้พวกฉงซวีรู้ว่าไม่เข้าทีและหันหลังหนีแล้ว
ตอนแรกยามพวกเขาเห็นหลินสวินปรากฏตัวโดยไม่คาดฝัน พวกเขายังประหลาดใจและตื่นเต้น คิดเอาเองว่าสบโอกาสทองสามารถจัดการหลินสวินได้โดยง่าย
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ฝึกปราณบนโลกนี้มาหลายปีแล้ว หลอมพลังโลกาสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากพอ
แต่ตอนนี้พวกเขาหวาดกลัวทำอะไรไม่ถูก ในหัวทุกคนมีแค่ความคิดเดียว หนี! หนีไปยิ่งไกลยิ่งดี!
“คิดหนี… ก็ต้องให้ข้าคนแซ่หลินอนุญาต”
หลินสวินพูดพลางเงาร่างส่องประกาย
ตูม!
โลกซึ่งวิวัฒน์มาจากพลังโลกาสวรรค์แห่งหนึ่งปรากฏ ปกคลุมภูผาธาราไร้ขอบเขตเพียงพริบตา พลังอารยธรรมและมหามรรคอบอวลอยู่ภายใน ห้วงอากาศโดยรอบล้วนถูกปกคลุมโดยสมบูรณ์
พวกฉงซวีรู้สึกเพียงเบื้องหน้าพลันมืดลง ร่างถูกกำราบเข้าไปในโลกโลกาสวรรค์ที่หลินสวินวิวัฒน์ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เปรียบเทียบกับโลกกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดแห่งนี้แล้ว เงาร่างของพวกเขาล้วนเล็กจ้อยเหมือนมดปลวก ไม่มีแรงดิ้นรนโดยสิ้นเชิง
เวลานี้พวกเขาเพิ่งรู้ซึ้งว่าพลังโลกาสวรรค์ที่หลินสวินมีน่ากลัวเพียงใด เหนือกว่าพวกเขามากจริงๆ!
แต่น่าเสียดายที่เข้าใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว
ครู่ต่อมาการรับรู้ของพวกเขาปวดแปลบ สูญเสียการรับรู้ทุกอย่างแล้ว
ตูม!
ขณะเดียวกันหลินสวินเก็บมรรควิถีของตนไป กล่าวเหมือนผิดหวังอยู่บ้าง “ข้ายังคิดว่าเฒ่าชราพวกนี้จะร้ายกาจแค่ไหน ที่แท้… ก็ไม่เท่าไร…”
เฒ่าโดดเดี่ยวที่อยู่ด้านข้างหน้าแข็งทื่อ ทั้งตกตะลึงทั้งหมดคำพูด
หากรู้ว่าปัจจุบันเจ้าหนูนี่เปลี่ยนเป็นร้ายกาจเช่นนี้แล้ว เขากับราชครูทำไมต้องเป็นห่วงขนาดนั้น ทำไมต้องเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนั้น
“ผู้อาวุโส อาการบาดเจ็บของท่านเป็นอย่างไร” หลินสวินถามอย่างห่วงใย
คราวนี้เฒ่าโดดเดี่ยวถึงได้สติจากความคิดฟุ้งซ่าน ส่ายหัวกล่าว “อาการบาดเจ็บของข้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าเจ้าหนูอย่างเจ้าเพิ่งมาถึงเมื่อครึ่งเดือนก่อนจริงหรือ”
หลินสวินกล่าว “แน่นอน”
“แต่ทำไมเจ้าถึงครองมรรคโลกาสวรรค์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้” เฒ่าโดดเดี่ยวอดถามไม่ได้
หลินสวินถามกลับ “นี่ถือว่าแข็งแกร่งแล้วหรือ”
เขารู้ดีว่าตอนนี้ตนแค่หลอมพลังโลกาสวรรค์จากมหามรรคของตนได้เพียงประมาณห้าส่วนเท่านั้น ยังไม่หลอมถึงขั้นสมบูรณ์อย่างแท้จริง
เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของหลินสวิน มุมปากเฒ่าโดดเดี่ยวกระตุกรุนแรง เจ้านี่คงไม่รู้ว่าพลังต่อสู้ของเขาตอนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน!
“จริงสิ ข้าจำได้ว่าราชครูก็อยู่โลกนี้ด้วยกระมัง”
หลินสวินกล่าว “เขาล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
เมื่อเอ่ยถึงราชครู เฒ่าโดดเดี่ยวพลันหน้าเปลี่ยนสี กล่าวว่า “เร็วเข้า พวกเรารีบไปหาเจ้าเฒ่านั่น ข้าห่วงว่าเขาจะประสบเคราะห์ไปแล้วหรือไม่!”
…………………