Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 452 สำแดงอิทธิฤทธิ์
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 452 สำแดงอิทธิฤทธิ์
ฆ่า!
ตอนที่หลินสวินโจมตี มีผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนที่เข้ามาใกล้และลงมือก่อนแล้ว ต่างงัดสมบัติ ใช้วิชาลับ ทะยานเข้ามาดุจสายรุ้งมากมาย
เกิดเสียงฮูมๆ ขึ้นกลางอากาศ ผู้ฝึกปราณเข้าจู่โจมมืดฟ้ามัวดิน หนาแน่นเกินไปจนไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
“ทำลาย!”
หลินสวินตะเบ็งเสียง ดาบแตกม้วนกวาดวาดธารดารา แสงประกายสีเงินกวาดล้างไปทั่วทุกสารทิศ
แสงประกายสั่นสะเทือน สกัดการโจมตีทั้งหมดที่พุ่งเข้ามา พลันบังเกิดเสียงปะทะ วิชาลับแต่ละวิชาแหลกละเอียดกลายเป็นฝุ่นผง สมบัติแต่ละชิ้นส่งเสียงระงม อับแสงลงสิ้น
ท้ายที่สุดก็ได้ยินเสียงตูมสะเทือนโลก ผู้ฝึกปราณมากมายต่างร้องโหยหวน ถูกสังหารคาที่ เลือดสีสดกระเซ็นทั่วฟ้า
ภาพนี้สะท้านขวัญยิ่ง ผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนลงมือพร้อมกัน ในนั้นยิ่งมีระดับหยั่งสัจจะเป็นหัวหอก พลังโจมตีนั้นมหาศาลจนสามารถพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทร ทำลายล้างสรรพสิ่งได้
แต่ตอนนี้ทุกการโจมตีกลับแหลกละเอียดภายในดาบเดียว ถูกฟันกระเจิง ทั้งยังมีผู้ฝึกปราณหลายคนถูกสังหารคาที่!
สีหน้าของเหล่าผู้กล้าเปลี่ยนไป เด็กหนุ่มป่าเถื่อนคนนี้พลิกฟ้าเกินไปแล้ว ทั้งที่ร่างกายเสื่อมทรุดแล้วแท้ๆ อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมดาบแตกเล่มนั้นได้อย่างแท้จริง แต่ราวกับสามารถสำแดงฤทธิ์ได้ด้วยตัวเอง นี่มันวิปริตเกินไปแล้ว
ตูมโครม!
หลินสวินพุ่งขึ้นหน้าไปสังหารด้วยก้าวย่างชือน้ำแข็ง ดาบแตกในมือเปล่งแสงดั่งดวงดารา ราวกับเทพมารที่กำลังกวาดล้างโลก
เลือดสดพุ่งกระฉูด มีผู้ฝึกปราณที่หนีไม่ทันถูกฟันจนตายคาที่ ทำให้หลินสวินฝ่าวงล้อมและทะยานห่างออกไปได้
“จะให้เขาหนีไม่ได้เด็ดขาด!”
ผู้ฝึกปราณหลายคนตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยวและพุ่งเข้าหาหลินสวิน พลังต่อสู้ของเด็กหนุ่มป่าเถื่อนคนนี้น่าตระหนกมาก ยามนี้กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าไม่อาจฆ่าเขาแล้วปล่อยให้เขาหนีไป ต่อไปใครจะกำราบเขาได้
อีกอย่างถ้าพลาดโอกาสในครั้งนี้ก็จะเสียดาบแตกพลิกฟ้าเล่มนั้น นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรับไม่ได้เด็ดขาด
เสียงครืนครันดังลั่น ภูเขาขนาดใหญ่สีเหลืองลูกหนึ่งบินเข้ามาและเหินทับลงบนร่างหลินสวิน สิ่งนี้แปลงจากผนึกสมบัติ จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม ด้านบนเปล่งประกายรอยสลักวิญญาณหนาแน่น บนตัวภูเขาปรากฏภาพประหลาดเป็นวิวัฒนาการของต้นไม้โบราณ โขดหิน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว
ผนึกสมบัติเช่นนี้กดทับลงมาพร้อมพลังมหาศาลรุนแรง ราวกับเทพภูเขาองค์หนึ่งกดดันลงมา หมายจะปิดทางของหลินสวินและสังหารเขาในคราเดียว
ร่างของหลินสวินราวกับเหวที่พลุ่งพล่าน นัยน์ตาดำเยียบเย็น ปลดปล่อยอานุภาพดาบจนเกิดเสียงคำรามยาวสะเทือนปะทะเขาลูกใหญ่นั้น ทำให้โขดหินบนภูเขาพังทลาย ต้นไม้โบราณแหลกเป็นฝุ่นผง น้ำตกแยกขาด ต่างระเบิดออกทั้งหมด
คมดาบประกายเงินคมกริบไร้ที่ติ เพียงกวาดออกไปแม้แต่ผนึกสมบัตินั่นยังเกิดรอยแยกเกือบจะแตกออก
ในระยะไกลชายหนุ่มคนหนึ่งส่งเสียงโหยหวน เพราะผนึกสมบัติเป็นสมบัติวิญญาณในมือเขา ยามนี้ได้รับบาดแผลหนัก ทำให้เขาถูกพลังสะท้อนกลับ กระอักเลือดออกมา
ผู้ฝึกปราณหลายคนที่อยู่ไกลๆ ต่างตกใจขึ้นมาพลัน แข็งแกร่งเกินไปแล้ว เดิมพลังต่อสู้ของเด็กหนุ่มป่าเถื่อนนั่นก็ยากหาใครเทียบอยู่แล้ว ยามนี้ในมือยังมีดาบร้ายกาจพลิกฟ้าอีก เขาต้องการหลุดพ้นจากวิกฤต ใครเล่าจะหยุดเขาได้
ผู้ฝึกปราณจำนวนไม่น้อยที่เดิมพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แต่พอเห็นภาพนี้ต่างก็ชะลอฝีเท้าอย่างตระหนก สังเกตการณ์อยู่ข้างๆ หมายจะฉวยโอกาสงามเคลื่อนไหว
“เจ้าหนู เลิกป่าเถื่อนได้แล้ว!”
ชายชราคนหนึ่งพุ่งออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง สง่างามทรงภูมิ ชักแส้หางม้าแล้วสะบัดกลางอากาศเบาๆ ก็แปรเป็นเปลวไฟมหึมาพุ่งเข้าหาหลินสวิน
นี่คือยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะ แม้พลังปราณจะถูกกดจนอยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ แต่อานุภาพน่ายำเกรงยังคงอยู่ สามารถควบคุมพลังแห่งสัจจะ กำลังการต่อสู้เหนือกว่าระดับมหาสมุทรวิญญาณ แข็งแกร่งอย่างที่สุด
แส้ที่เขาใช้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นสมบัติประหลาดชิ้นหนึ่ง ปลดปล่อยเปลวไฟราวกับทะเลไฟขวางกั้นกลางอากาศ น่าพรั่นพรึงยิ่ง
“ผู้ทรงศีลเฮ่อแห่งเขาวิญญาณรางเลือน!”
“ในที่สุดก็มีผู้ยิ่งใหญ่ลงมือฆ่าเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว!”
ทั่วบริเวณมีเสียงอุทานดังขึ้น ต่างตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่อยู่
“ตาแก่ อย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสอนข้า”
นัยน์ตาดำของหลินสวินเย็นเยียบ ชิงชังพวกฉวยโอกาสพวกนี้อย่างที่สุด ถือดาบแตกย่างสามขุมเข้าไปสังหาร
แสงวิเศษสีเงินเจิดจ้าบดทับ เปลวเพลิงเต็มฟ้าเหล่านั้นพลันสูญสลายในชั่วพริบตา
ชายชราแค่นเสียงเย็น กวัดแกว่งแส้สำแดงวิชาลับ ม้วนพายุเพลิงโหมคลั่ง อานุภาพดุจดั่งเทพแห่งเพลิง
ตูม!
ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเสียงปะทะกันดังสะเทือนฟ้าดิน ชายชราใช้แส้ในมือฟาดสะบัด ขวางอานุภาพกร้าวแกร่งของดาบแตกไว้ แต่ร่างของเขาก็สะเทือนจนลอยออกไป สั่นระริกไปทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน เห็นได้ชัดว่าเสียเปรียบไปไม่น้อย
หลายคนต่างสูดหายใจด้วยความตะลึง มือเท้าเย็นเฉียบ
ผู้ทรงศีลเฮ่อเป็นถึงผู้โดดเด่นในระดับหยั่งสัจจะแห่งสำนักโบราณเขาวิญญาณรางเลือน แม้พลังปราณจะถูกกด แต่ความสามารถที่เขามี แม้แต่อัจฉริยะมีชื่อเสียงบางคนยังไม่อาจประมือได้
แต่ยามนี้เมื่อแข็งชนแข็ง ผู้ทรงศีลเฮ่อกลับสะเทือนถอยไปเพราะการโจมตีของเด็กหนุ่มป่าเถื่อนคนนี้!
“เจ้าหนู ตายซะ!”
ทันใดนั้นผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะอีกคนก็พุ่งออกมา เป็นชายวัยกลางคนที่ถือกระบี่กระดูก เขาฟาดกระบี่ออกมา หมายจะฉวยโอกาสสังหารหลินสวินให้สิ้นซากในขณะที่ไม่ทันตั้งตัว!
“หึ!”
หลินสวินแค่นเสียงเย็นชา เงาร่างแวบหายไปจากจุดเดิม เข้าไปสังหารผู้ทรงศีลเฮ่อต่อโดยไม่สนใจชายวัยกลางคนผู้นั้นด้วยซ้ำ
โครม!
แสงดาราสีเงินไหลหลั่งออกมา ราวกับดาวดวงใหญ่มากมายที่ร่วงพรู ดูน่าตกตะลึง ผู้ทรงศีลเฮ่อถูกไล่สังหารจนสะบักสะบอมเซถอยอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะต้านไม่ไหวแล้ว
ในเวลาเดียวกันชายกลางคนซึ่งถือกระบี่กระดูกก็ลอบจู่โจมอยู่ตลอด การเคลื่อนไหวเหี้ยมโหดดุดัน เจตนาร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด
และเพราะเหตุนี้ทำให้หลินสวินจำต้องแบ่งสมาธิ ผู้ทรงศีลเฮ่อจึงไม่ได้ถูกฆ่าในทันที
เมื่อเห็นว่าผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะสองคนลงมือจึงพอจะฝืนยันหลินสวินได้บ้าง แต่กลับไม่สามารถกดดันเขาได้ ผู้ฝึกปราณในที่นั้นต่างตกตะลึงอีกระลอก
เด็กหนุ่มป่าเถื่อนคนนั้นบาดเจ็บหนักขนาดนี้ กลับยังสามารถสู้มาได้จนถึงตอนนี้ น่าตะลึงเกินไปแล้ว!
โครม!
เสียงปะทะสะเทือนฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง ดาบแตกวาดขวางฟันแส้ในมือผู้ทรงศีลเฮ่อจนหัก แสงสีเงินสาดส่อง โจมตีแขนขวาของผู้ทรงศีลจนแหลก
เมื่อเห็นว่าหลินสวินกำลังจะสังหารผู้ทรงศีลเฮ่อ เสียงชิ้งหนึ่งก็ดังขึ้น ชายกลางคนที่ถือกระบี่กระดูกคนนั้นลอบจู่โจมหลินสวินอีกครั้ง
ฆ่า!
นัยน์ตาของหลินสวินสาดประกายสายฟ้าเย็นเยียบ ความเดือดดาลพวยพุ่ง ปล่อยผู้ทรงศีลเฮ่อไปทั้งอย่างนั้นแล้วหมุนดาบแตกฟันปะทะกระบี่กระดูก
ฟ้าดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือน แสงประกายแผ่กระจาย กระบี่กระดูกของชายวัยกลางคนถูกโจมตีจนกระเด็น ทั้งร่างราวกับถูกฟ้าผ่า ปากกระอักเลือดสด
“ตาย!”
หลินสวินร้องตะโกน สะบัดฟันดาบแตกไปเบื้องหน้าพร้อมกับแสงประกายดารา
โครม!
ชายวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสี ส่งเสียงคำรามกราดเกรี้ยว ตรงหน้าปรากฏกระถางโบราณที่แผ่แสงพิสุทธิ์ออกมา ตั้งรับการโจมตีนี้
แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆ หลินสวินก็ขยับขา เสียงปังดังขึ้น เป็นเขาใช้ขาข้างหนึ่งเตะเข้าหน้าของชายวัยกลางคน
เสียงอู้อี้หนึ่งดังขึ้นมา ชายกลางคนโหนกแก้มแตก จมูกปากเสียหาย ฟันผสมเลือดพุ่งกระฉูดออกมา เกือบจะถูกเตะจนหัวระเบิด
ทว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะ แม้ตกอยู่ในอันตราย แต่สุดท้ายก็ยังสำแดงฤทธิ์หลบไปได้อย่างยากลำบาก
นี่เป็นความอับอายอย่างแน่นอน เขาเป็นถึงผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ กลับถูกเด็กหนุ่มที่บาดเจ็บเจียนตายเหยียบหน้า ทำให้เขาอับอายจนกลายเป็นโกรธ
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ทั้งสองจะแยกออกจากกัน
เหล่าผู้ฝึกปราณที่อยู่ในระยะไกลต่างตัวสั่น โจมตีขนาบแบบนี้ยังไม่สามารถขวางหลินสวินไว้ได้ กลับยังถูกเขาไล่สังหารกระเจิดกระเจิง
แสงดาราสว่างไสว หลินสวินพุ่งเข้าไปสังหารต่อไม่ยอมปล่อยชายวัยกลางคนผู้นั้นไป โจมตีจนอีกฝ่ายกระอักเลือด หลบหลีกไม่หยุด
“เจ้าหนู เจ้าอย่าบีบคั้นกันเกินไป!”
ชายกลางคนตะคอก สีหน้าเขียวคล้ำอัดอั้นอย่างที่สุด เดิมเขาเป็นผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ แต่เพราะเข้ามาในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น ด้วยกลัวว่าจะถูกพลังต้องห้ามสะท้อนกลับจึงจำต้องกดพลังปราณลง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ในสถานการณ์แบบนี้กลับถูกเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณไล่สังหารจนเสียกระบวน จะให้เขารับได้อย่างไร
“แน่จริงเจ้าก็ใช้พลังที่แท้จริงสิ ไม่เช่นนั้นก็เตรียมตัวตายได้!”
หลินสวินแข็งแกร่งมาก แม้จะมีศัตรูที่ไม่หวังดีรอบทิศ แต่เขาก็ยังสงบนิ่งไม่เกรงกลัว
ตูม!
ตอนที่พูดเขาฟันดาบแตกกลางอากาศ ด้วยการโจมตีนี้ทำให้ชายกลางคนสะเทือนถอยออกไปอีกครั้ง เลือดอาบตัว สภาพน่าอนาถ
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ”
ชายกลางผู้นั้นคลุ้มคลั่งอย่างที่สุดแล้ว คืนพลังระดับหยั่งสัจจะโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น เป็นฝ่ายพุ่งจู่โจมหลินสวินอย่างดุเดือดราวกับสัตว์ปีศาจที่กราดเกรี้ยว
อานุภาพของเขาน่าหวาดหวั่น พลังของระดับหยั่งสัจจะไม่ใช่ธรรมดา ทำให้คนทั่วทั้งบริเวณนั้นตื่นตะลึง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาขนลุกยิ่งกว่าคือหลินสวินกลับยังไม่ถูกกดดัน เขากุมดาบแตกสู้กับชายกลางคนผู้นั้นได้อย่างสูสี
ถึงขั้นที่มีทีท่าว่าจะกดดันชายวัยกลางคนผู้นั้น
“สวรรค์ เด็กหนุ่มคนนี้วิปริตเกินไปแล้ว”
ผู้ฝึกปราณหลายคนต่างตัวสั่น ท่าทางโหดเหี้ยมเย่อหยิ่งของหลินสวินทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง
“ผู้ทรงศีลเฮ่อ เจ้ายังลังเลอะไร ลงมือพร้อมกัน ฆ่าเด็กคนนี้ซะ!”
ชายกลางคนตะคอกอย่างเดือดดาล
ทันใดนั้นผู้ทรงศีลเฮ่อที่เมื่อครู่ถูกหลินสวินไล่สังหารจนหนีกระเจิงไปได้หวนกลับมาอีกครั้ง สำแดงอานุภาพ เล่นงานหลินสวินพร้อมกับชายวัยกลางคน
ชิ้ง!
แต่ในยามนั้นเอง บนดาบแตกของหลินสวินจู่ๆ ก็สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดที่รัตติกาลนิรันดร์มาเยือน ดวงดาวนับหมื่นร่วงหล่น อานุภาพพุ่งสูงถึงขีดสุด ปิดคลุมชายกลางคนและผู้ทรงศีลเฮ่อให้จมมิด
กระบวนท่าคว้าดารา!
ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเพราะหลินสวินรวมชีพจรวิญญาณได้แล้ว หรือเพราะดาบแตกเล่มนั้นร้ายกาจเกินไป พอใช้กระบวนท่านี้ กลิ่นอายแห่งปรากฏการณ์ประหลาดทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ราวกับถูกรัตติกาลนิรันดร์ปกคลุม
“อ๊าก…”
ชายกลางคนกรีดร้อง กระบี่กระดูกของเขาระเบิดแหลก ร่างกายถูกคมดาบอันร้อนเร่าฟันใส่ ขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่เอวลงไป!
อีกด้านหนึ่งผู้ทรงศีลเฮ่ออุทานด้วยความตกใจ หมุนตัวไปหมายจะหนี
น่ากลัวเกินไปแล้ว ชายกลางคนผู้นั้นใช้พลังระดับหยั่งสัจจะแล้วกลับยังถูกสังหารคาที่ ในสถานการณ์แบบนี้มีหรือที่ผู้ทรงศีลเฮ่อยังจะกล้าอยู่ต่อ
“จะหนีไปไหน!”
หลินสวินคำราม สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งจึงไวกว่าอีกฝ่ายมาก ดาบแตกราวกับเงาดารา ส่องแสงบิดโค้งห้อตะบึงสังหารกลางอากาศ
วู้ม~
ผู้ทรงศีลเฮ่อเริ่มใช้พลังของระดับหยั่งสัจจะ แต่เขากลับไม่อาจต้านการโจมตีนี้ได้ ถูกฟันหัวหลุดร่วง เลือดย้อมทั่วฟ้า!
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะที่ชื่อเสียงเลื่องลือสองคนถูกสังหารคาที่!
ทั่วบริเวณเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง ทุกคนต่างตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง สายตาที่มองหลินสวินราวกับมองเห็นผีตัวเป็นๆ
ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลินสวินใช้พลังดุจพลิกฟ้ากำราบดาบแตกก็ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงแล้ว แต่หลินสวินในตอนนั้นก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ร่างกายเสื่อมทรุดไม่เหลือสภาพ แทบจะพังทลายอยู่แล้ว
ในสถานการณ์ระดับนี้ ขณะที่ทุกคนในที่นั้นคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีในการช่วงชิงสมบัติ แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินจะแข็งแกร่ง เย่อหยิ่ง น่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ เพียงพลิกฝ่ามือก็สังหารผู้ฝึกปราณไปเกือบสิบคน ทำลายอัจฉริยะโดดเด่นอย่างหรั่นอิ๋น
และยามนี้เขายิ่งใช้พลานุภาพอันยิ่งใหญ่ ฆ่าผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะสองคน!
เขา…เป็นใครกันแน่
เหตุใดจึงพลิกฟ้าเช่นนี้!?
ทุกคนต่างเงียบสงัด ตกตะลึงกันถ้วนหน้า
——