Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 459 แผ่พุ่งกระจายออก
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 459 แผ่พุ่งกระจายออก
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เจิ้งชื่อคำรามก้อง นำง้าวศึกแสงหิมะเล่มหนึ่งออกมากวัดแกว่งฟาดฟันไปทางหลินสวิน
“ง้าวใหญ่เล่มนี้ไม่เลวนี่ ถือเสียว่าเป็นของแทนคำขอโทษที่เจ้ามอบให้ก็แล้วกัน”
หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง นิ้วมือทั้งห้ากำเป็นหมัดส่องแสงแวววาว สำแดงความมหัศจรรย์ของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์
ปัง!
พลังหมัดที่เพิ่มขึ้นสี่เท่าส่งเสียงดังครืนครัน กระแทกใส่ง้าวใหญ่เล่มนั้นจนสั่นไหวส่งเสียงหวีดหวิว แสงสว่างวาววับระเบิดออก
ทั้งที่นั้นตื่นตะลึง เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจขนาดนี้เชียว!
“ฆ่า!”
เจิ้งชื่อคำรามลั่น ผมยาวพลิ้วไสว โมโหจริงๆ แล้ว เข้าไปรบพุ่งกับหลินสวิน
ลมพัดโหมคลั่งในที่แห่งนี้ เสียงต่อสู้สะเทือนโสตแสบบาดตาหาใดเทียบ เต็มไปด้วยคลื่นแรงที่พาให้ผู้คนตกตะลึงกระจายไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบผืนดิน
“บีบให้เจิ้งชื่อใช้พลังที่แท้จริงได้ เจ้าเด็กนี่ก็ถือว่าเก่งกาจนะ”
พวกหลิงจื่อนั่ว อวิ๋นเคอ เถี่ยเชียนหานหยุดอยู่รอบทิศ สังเกตการณ์อย่างนิ่งเฉย
ถึงกระนั้นหลังจากการปะทะกันหลายสิบครั้ง ฉับพลันทันใด ทั้งร่างของหลินสวินก็ส่องแสง ลมหมัดพลันพุ่งขึ้น เกิดเสียงดังตู้ม ทำให้ง้าวใหญ่เล่มนั้นกระเด็นไป
อีกทั้งพลังหมัดนั้นยังเหมือนท่อนไม้ไผ่ กระแทกทรวงอกของเจิ้งชื่ออย่างจัง
โครม!
เจิ้งชื่อกระอักเลือดปลิวกระเด็น บริเวณหน้าอกของเขาเกิดรอยหมัดน่ากลัวขึ้นรอยหนึ่ง เลือดไหลริน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบริเวณนั้นมีสมบัติลับคันฉ่องป้องกันดวงใจชิ้นหนึ่งกำลังร้องหวีดหวิว
เป็นคันฉ่องป้องกันดวงใจที่ช่วยสลายหมัดนี้ หาไม่แล้วหัวใจของเจิ้งชื่อคงถูกทุบทำลาย สิ้นชีพคาที่แน่!
ทุกคนทั้งที่นั้นสูดหายใจเย็นเยียบ ตื่นตระหนกไม่หยุดหย่อน
ล้วนไม่อาจคาดคิดได้ว่าเมื่อสู้ตัวต่อตัวเด็กหนุ่มคนนั้นกลับร้ายกาจปานนี้ ขนาดคนระดับเจิ้งชื่อยังถูกเขากำราบอย่างแข็งกร้าว!
แม้แต่พวกผู้กล้าที่สังเกตการณ์อย่างนิ่งเฉยก็อดเบิกตากว้างไม่ได้ ราวกับเพิ่งได้รู้จักหลินสวินใหม่
สวบ!
เงาร่างหลินสวินหายตัวฉับไวพุ่งประจัญบานเจิ้งชื่อโดยไม่ได้หยุดหย่อน
“ตายซะ!”
ไอกระบี่สายหนึ่งโฉบขึ้นกลางอากาศ แทงเข้าที่หลังของหลินสวิน จิตกระบี่ส่องสว่างดุดันหาใดเทียบ
ผู้กล้าอีกคนหนึ่งเคลื่อนไหว เขาสวมชุดสีฟ้า มือถือกระบี่หยกขาว ท่วงท่าผ่อนคลายปราดเปรียว พลังวิชากระบี่กลับน่ากลัวยิ่งนัก
ตู้ม!
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ลมแรงน่ากลัวกวาดออกมาสลายไอกระบี่
การสอดมือนี้ทำให้เจิ้งชื่อหนีออกห่างไปได้ และถูกข้ารับใช้และผู้คุ้มกันเข้าปกป้อง
“เป็นถึงผู้สืบทอดสำนักโบราณ แต่ทำได้เพียงเล่นทีเผลอหรือ”
ดวงตาเย็นชาของหลินสวินดุจสายฟ้า กวาดมองไปยังชายชุดฟ้าคนนั้น
ตูม!
เงาร่างของเขาหายลับไปในท้องฟ้า แกว่งหมัดโจมตีออกไป
เวลานี้หลินสวินผมดำปลิวไสว ร่างกายราวห้วงน้ำลึก โทสะดุจพายุกรรโชก ประหนึ่งมารร้ายตนหนึ่งที่ต้องการกลืนกินภูผาธาราให้สิ้น
ชายหนุ่มชุดฟ้าผู้นั้นก็เป็นบุคคลชั้นยอดผู้หนึ่ง นามว่าเหอตงหลิน กิตติศัพท์ระบือไกล ไอกระบี่หนักแน่นรุนแรง ไม่อาจเทียบกับคนธรรมดาได้
แต่ที่ทำให้ผู้คนไหวหวั่นก็คือ หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่สิบกระบวนท่า ชายหนุ่มชุดฟ้าก็ถูกเล่นงานจนกระอักเลือด ถอยหนีออกมาเรื่อยๆ กระบวนท่าไร้พลัง
ทั่วบริเวณนั้นเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา เสียงสูดหายใจเย็นเยียบดังขึ้นเป็นระลอกในเวลานี้
เด็กหนุ่มผู้นี้ก็แข็งแกร่งยิ่งนัก ก่อนหน้านี้เอาชนะเจิ้งชื่อได้ด้วยมือเปล่าก็ทำให้ทุกคนตื่นตระหนกแล้ว ตอนนี้เขายังกำราบเหอตงหลินอย่างแข็งกร้าวอีก!
เขาเป็นใครกันแน่
เหล่าผู้กล้าอย่างหลิงจื่อนั่ว เถี่ยเชียนหาน อวิ๋นเคอ หยวนจั้น ไป๋อวี่และลู่ผิง เวลานี้แววตาไหววูบ ในใจเกิดความฉงน
พวกเขาย่อมไม่รู้จักหลินสวิน ไม่แม้แต่เคยพบเด็กหนุ่มผู้นี้ เพิ่งได้พบอีกฝ่ายอยู่กับเหลียนเตี๋ยอีก็วันนี้เอง
แต่เห็นได้ชัดว่าเหลียนเตี๋ยอีใส่ร้ายให้เขาเป็นแพะรับบาป
นี่ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่สลักสำคัญอะไร อย่างมากก็เป็นทหารพลีชีพคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายเหลียนเตี๋ยอี
แต่ใครจะคิดว่าเขากลับเป็นยอดฝีมือที่เก็บงำฝีมือไว้อย่างลึกซึ้งผู้หนึ่ง ด้วยมือเปล่าเท่านั้นก็เอาชนะเจิ้งชื่อและกำราบเหอตงหลินได้!
เพียงเรื่องนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาขนาดไหน ไม่อ่อนแอกว่าพวกเขาเลย!
ทว่า…
เขาเป็นใครกันแน่!
เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
‘นี่ถือว่าไม่เลว อาศัยน้ำมือของคนผู้นี้ก็เขี่ยคู่ต่อสู้ทิ้งได้หลายคน ยามแย่งชิงวิชาลับราหูอีกครั้งก็จะเบาแรงลงไม่น้อย’
ความคิดของอวิ๋นเคอกำลังโลดแล่น สังเกตการณ์อย่างนิ่งดูดาย
ไม่เพียงแค่เขา คนอื่นในที่นั้นก็มีความคิดทำนองเดียวกัน เจิ้งชื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเหอตงหลินก็กำลังจะพ่ายแพ้
พูดได้ว่าความสามารถที่หลินสวินแสดงออกมาแม้น่าตื่นตา แต่กลับช่วยขจัดคู่ต่อสู้ให้พวกเขาอย่างแนบเนียน นี่ย่อมเป็นเรื่องดียิ่ง
“ฆ่า!”
เหอตงหลินโกรธหน้าเขียว ถูกหลินสวินกำราบอย่างง่ายดายภายใต้สายตาของฝูงชน ทำเขาแทบคลั่ง ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกถูกลบหลู่
ไอกระบี่หนาแน่นของเขาแผ่กระจายดุจม้าห้อ พุ่งออกทลายชั้นเมฆ ที่สำแดงออกมาคือวิชาคัมภีร์กระบี่เก่าแก่วิชาหนึ่ง
ตู้ม!
เงาร่างหลินสวินส่งเสียงหวีดหวิว ใช้เวลาเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ สำแดงวิชาหมัดที่มีพลังทบซ้อนห้าเท่าเป็นครั้งแรก ดูประหนึ่งเทพมารเข้าปกคลุมโลก!
ทลายภูผา ทลายสมุทร ทลายวิญญาณ ทลายอากาศ ทลายมังกร!
ห้ากระบวนท่าทบซ้อน ลมหมัดเดือดดาล บังเกิดปรากฏการณ์ประหลาด ทั้งบรรพตแหลกสลาย มหาสมุทรแหวกออก ทำลายจิตวิญญาณ หลอมกลั่นห้วงอากาศ…
ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว ทันทีที่สำแดงออกมาก็สั่นสะท้านไปทั่ว ทำให้ผู้ฝึกปราณใบหน้าซีดเผือด ในใจสั่นไหวไม่สงบ
นี่มันวิชาหมัดอะไรกัน เป็นมรดกทอดของสำนักโบราณใด
ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะจำนวนหนึ่งหวั่นไหว อาศัยเพียงอานุภาพเช่นนี้ก็ชี้ชัดได้ว่าวิชาหมัดนั้นเป็นมรดกตกทอดหายากยิ่งวิชาหนึ่ง!
เด็กคนนี้ที่มาที่ไปไม่ธรรมดาแน่!
ตูม! ไอกระบี่หนาแน่นเต็มฟ้าล้วนถูกบดขยี้กลายเป็นละอองแตกกระจาย ไม่มีทางสกัดกั้นได้เลย ประหนึ่งกระจกอ่อนแอที่รับการโจมตีไม่ไหว
เหอตงหลินทนต่อไปไม่ได้ร้องเสียงแหลมออกมา หายตัวคิดจะหลบหนี แต่ลมหมัดนั้นครอบคลุมไปทั่ว ทำให้เขาไม่มีทางหนีได้เลย
ท้ายที่สุดเขาก็ถูกพลังหมัดบดขยี้ กระดูกทั้งร่างแตกหัก เนื้อหนังมีเลือดไหลริน ส่งเสียงร้องโหยหวน ถูกซัดกระเด็นออกไปหลายสิบจั้งเกือบสิ้นชีพ!
“คุณชาย!”
“นายน้อย!”
บริวารและผู้คุ้มกันพุ่งออกมารับเหอตงหลินไว้ ต่างทั้งตื่นตระหนกและโกรธเกรี้ยว
“ไอ้หนูนี่รนหาที่ตาย!”
ผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งตะคอก เขาเป็นผู้ติดตามของเหอตงหลิน เห็นเช่นนี้จะไม่สะเทือนใจได้อย่างไร
“สหาย นี่เป็นการประลองเพื่อช่วงชิงวิชาลับราหู ให้คนหนุ่มเหล่านั้นสะสางกันเองเถอะ คนแก่อย่างพวกเราอย่าเข้าไปแทรกแซงเลย”
ทันใดนั้นเสียงอึมครึมเคร่งครัดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ผู้คนจำได้ทันใดว่าคนนั้นคือผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะที่มาจากเขาเมฆาสวรรค์คนหนึ่ง มีชื่อเสียงยิ่งนัก
“ถูกต้อง แพ้ก็แพ้แล้ว หากพวกเจ้าคิดล้างแค้น รอหลังกำหนดที่ทางของวิชาลับราหูแล้วค่อยลงมืออีกก็ไม่สาย”
ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะคนอื่นก็เอ่ยปาก ทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะคนนี้พลันสีหน้าบูดเบี้ยว ในที่สุดก็อดกลั้นไว้ได้
หลายคนต่างมองออกว่า สาเหตุที่ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะเหล่านี้พูดออกมาย่อมไม่ได้ทำเพื่อช่วยหลินสวิน แต่แค่ไม่ต้องการให้การประลองนี้ถูกผู้อื่นทำลาย เพื่อให้ผู้สืบทอดในสำนักของตนได้มีโอกาสช่วงชิงวิชาลับราหู
“เจ้าเด็กนี่หมดท่าแล้ว ต่อให้ความสามารถในการต่อสู้เหนือธรรมดา สามารถกำราบเหล่าผู้กล้าได้ในที่สุด แต่มีผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะเหล่านี้มองเขาเหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อ เขาจะมีทางรอดที่ไหน”
หลายคนทอดถอนใจ
หลินสวินยืนเด่นโดดเดี่ยว ณ ที่นั้น ดวงตาดำดุจสายฟ้า มองเห็นทุกอย่างนี้ในสายตา ย่อมรู้สถานการณ์ของตนเป็นอย่างดี
เพียงแต่เขาไม่หวั่นกลัว!
ในใจเขาเก็บกลั้นไฟโทสะไว้ ต้องการระบายออก
“ยังมีใครอีก หรือว่าพวกเจ้าจะเข้ามาพร้อมกัน”
หลินสวินกวาดสายตาไป เขาตัวคนเดียว มือเปล่ามีแต่หมัด แต่ยืนอยู่กลางห้วงอากาศ ร่างสูงโปร่งโดดเด่น พลานุภาพเหลือคณา
นี่ทำให้หลายคนพากันไหวหวั่น ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น แค่เพียงความกล้าหาญเช่นนี้ ในหมู่คนรุ่นเดียวกันก็หาผู้ที่เทียบกับเด็กหนุ่มคนนี้ได้น้อยมากแล้ว
“สหาย หรือเจ้าคนเดียวจะท้าสู้กับพวกเราทุกคน”
ลู่ผิงที่มีใบหน้าซีดขาวประหลาดราวปีศาจเดินออกมา สีหน้าเย็นชา
“เจ้าเป็นใครกัน คู่ควรเป็นเพื่อนข้าหรือ”
หลินสวินยิ้มบางๆ มีแต่ความดูถูก
“ขานชื่อออกมา ข้าไม่ฆ่าคนนิรนาม!”
ลู่ผิงสีหน้าอึมครึมในทันใด ท่าทางผยองคับฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นน่าหวาดหวั่น
“ข้าพูดแล้วนี่ เจ้าไม่คู่ควร”
ดวงตาสีดำลุ่มลึกของหลินสวินจ้องเขม็งที่เขา พลังปราณที่แข็งกล้าภายในกายเอ่อล้นออกมา พาให้ห้วงอากาศร้องหวีดหวิว
วาจาเช่นนี้ ทั้งมั่นใจในตัวเองและอหังการ ไม่มีความกลัวเลยสักนิด
“ตาย!”
ลู่ผิงตะคอก ทนต่อไปไม่ไหว เงาร่างพุ่งออกไปพร้อมเอาตะขอเหล็กสีแดงเพลิงชิ้นหนึ่งออกมา พุ่งฟันผ่าอากาศ
ตู้ม!
การต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างรุนแรงน่ากลัว
ขอเหล็กสีแดงเพลิงฟันออกไปในห้วงอากาศ ปั่นป่วนเมฆลม นี่เป็นวิชาลับเก่าแก่วิชาหนึ่ง แปลกประหลาดไม่อาจคาดเดา น่าสะพรึงยิ่ง
ต้องพูดว่าพลังที่แท้จริงของลู่ผิงแข็งแกร่งมาก เขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดตำหนักหมื่นอสูรมาร เป็นเทพสงครามฟ้าประทาน แข็งแกร่งกว่าเหอตงหลินและเจิ้งชื่อไปขั้นหนึ่ง มิเช่นนั้นจะกล้าออกมาประลองกับหลินสวินในเวลานี้อีกได้อย่างไร
แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ของเขาคือหลินสวิน
ตู้ม!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาเย็นเยียบของหลินสวินก็ดุจสายฟ้า เท้าทั้งสองข้างก้าวออกไป ชือน้ำแข็งกระโจนสู่ห้วงอากาศ เมฆหมอกปกคลุมไปทั่วพื้นที่แถบนั้น
ในเวลาเดียวกันนี้เขาเงื้อมือขึ้นกระแทกพลังหมัดเปล่งประกายไปยังขอเหล็กสีแดงเพลิงนั้นตรงๆ พลังหมัดพวยพุ่ง ปะทุออกเป็นแสงอัศจรรย์สีฟ้าอ่อน
ทันใดนั้นลู่ผิงถูกซัดจนกระอักเลือด เงาร่างโคลงเคลง พาให้ทั่วบริเวณตื่นตะลึง ขนาดลู่ผิงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเด็กหนุ่มผู้นั้นหรือ
ชิ้ง!
เพียงแต่เมื่อลู่ผิงหลบหนี ขอสีแดงสดเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงสุด เข้ามาที่ข้างกายหลินสวิน ถึงกับพุ่งทะลุพลังที่คุ้มครองร่างกายของเขา
นี่คือหางแมงป่องหางหนึ่ง เดิมอยู่ภายในร่างลู่ผิง ยามเขาหลบหนีก็โยนออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว!
“หางแมงป่องเกราะเงิน! ใช้สลายลมปราณจิตผสานโดยเฉพาะ เมื่อถูกโจมตีจิตวิญญาณจะพังทลาย!”
มีคนร้องออกมาอย่างตระหนก ลู่ผิงมาจากตำหนักหมื่นอสูรมาร ร่างเดิมก็คืออสูรมารบำเพ็ญซึ่งเป็นแมงป่องเกราะเงินสามหาง การโจมตีนี้เขาเดิมพันด้วยชีวิตอย่างเห็นได้ชัด
หลินสวินตกใจเช่นกันแต่ไม่ได้หวั่นกลัว ชีพจรวิญญาณที่หน้าอกส่องแสง ปล่อยพลังปราณบริสุทธิ์ออกมา แปรสภาพเป็นพายุหมุนเกลียว ก่อร่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวบิดเบือนห้วงอากาศ
เปรี๊ยะ!
ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงทุกคู่ หางแมงป่องทที่แหลมคมที่สุดราวกับเป็นสมบัติลับนั้น ยังไม่ทันแทงเข้าไปในร่างของหลินสวินก็ถูกเกลียวพายุกรรโชกนั้นบดทำลาย
“อ๊าก!”
ลู่ผิงร้องโหยหวนเจ็บปวด นี่เป็นร่างเดิมของเขา ถึงกับได้รับความเสียหายใหญ่ คิดจะฟื้นฟูก็แทบไม่มีหวัง
แทบจะในเวลาเดียวกัน พลังหมัดของหลินสวินก็กดทับเสียงดังโครม กะโหลกลู่ผิงแตกออก ถูกปลิดชีพตายคาที่ ขนาดจะหลบหนียังไม่ทัน!
ทั่วทั้งบริเวณไหวสะท้าน เงียบเชียบไร้เสียง
นี่คือผู้แข็งแกร่งคนแรกที่ตายไปนับตั้งแต่ต่อสู้กันมา อีกทั้งยังเป็นผู้กล้าที่โดดเด่นสะดุดตาผู้หนึ่งในตำหนักหมื่นอสูรมาร!
ถูกเด็กหนุ่มผู้นั้นกำราบอย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อนไปทั้งอย่างนี้แล้ว!
หากเรื่องไปถึงตำหนักหมื่นอสูรมาร เกรงว่าคงชักนำความโกรธแค้นจากทั้งสำนัก ผู้กล้าผู้หนึ่งเชียวนะ สูญเสียไปหนึ่งคนก็ล้วนเป็นการกระทบกระเทือนอันหนักหน่วง!
เวลานี้ขนาดเหล่าผู้กล้าอย่างพวกหลิงจื่อนั่ว เถี่ยเชียนหานเองก็เหมือนถูกโจมตีไปด้วย สีหน้าหนักอึ้ง มีคนตายเชียวนะ อีกทั้งคนที่ตายยังเป็นผู้เก่งกาจคนหนึ่งเหมือนกับพวกเขา
…………..