Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 537 เหตุการณ์เข้าใจผิด
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 537 เหตุการณ์เข้าใจผิด
หวงสือในชุดสีฟ้ารูปร่างแข็งแกร่งกำยำ ดวงตาเรียวยาวราวกับใบมีด ยามนี้อ้าปากพูด คำพูดของเขาเหมือนดาบดุจกระบี่ ยกตนข่มท่าน
ทุกคนต่างตื่นเต้นขึ้นมา ร้องให้หลินสวินรับคำท้า มิฉะนั้นจะเป็นการไม่ไว้หน้า
หลินสวินขมวดคิ้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะไม่เกรงใจและลงมือทันที
เพียงแต่ฐานะในตอนนี้ของเขาเป็นเพียงผู้ติดตาม ในเมื่อจ้าวจิ่งเซวียนไม่ต้องการให้เขาเปิดเผยฐานะที่แท้จริง นั่นก็หมายความว่า ที่นางจัดการแบบนั้นย่อมต้องมีความหมายแอบแฝง
ในสถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินทำได้เพียงพยายามรักษาความสงบเสงี่ยมและหน้าที่ที่ผู้ติดตามพึงมีอย่างสุดความสามารถ
“อย่าดีกว่า ข้าออกไปรับลมสักหน่อย” หลินสวินถอนหายใจแล้วลุกขึ้นหมุนตัวจะออกจากห้องไป
ไม่ได้สนใจผู้ติดตามเหล่านั้นตั้งแต่ต้นจนจบ
เพียงแต่การกระทำเช่นนี้ของเขากลับทำให้สีหน้าของหวงสืออึมครึมลง “ไว้หน้าแล้วยังไม่รู้จักรับเอาไว้ อยากไปงั้นหรือ ข้าอนุญาตหรือยัง!”
ในขณะที่พูด เขาพลันก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ลงมือราวกับสายฟ้า นิ้วทั้งห้าเหมือนเป็นกรงเล็บอันแหลมคมที่มีแสงดำพันอยู่รอบๆ หมายจะคว้าแขนของหลินสวินอย่างรุนแรงจากข้างหลัง
ฉึบ!
อากาศถูกฉีกราวกับผ้า เกิดเสียงแหลมบาดหู
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการโจมตีนี้ของหวงสือไม่ใช่การข่มขู่และหยั่งเชิงอย่างแน่นอน ไม่คิดปรานีสักนิด ดูโหดเหี้ยมดุดันอย่างที่สุด
จากเรื่องนี้ก็ดูออกว่าเขาเหิมเกริมอย่างมากเพราะมีที่พึ่ง ไม่เห็นหลินสวินในสายตา แน่นอนว่าไม่กลัวว่าจะล่วงเกินหลินสวินด้วย
ความเย็นเยียบแวบผ่านเข้ามาในดวงตาดำของหลินสวิน สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่ความจริงในใจเริ่มกรุ่นโกรธแล้ว ก่อนหน้านี้เขาโดนท้าทายและดูถูกมาตลอด แต่ก็ไม่ได้สนใจ ถือซะว่าแมลงวันกลุ่มหนึ่งกำลังบิน
แต่ตอนนี้เดิมเขาคิดว่ายอมมากพอแล้ว ไม่อยากฉีกหน้ากัน แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเห็นเป็นความอ่อนแอ ยิ่งทำตามอำเภอใจ ได้คืบเอาศอก!
กร๊อบ! กร๊อบ!
หลินสวินไม่หันกลับด้วยซ้ำ ราวกับไม่รับรู้ถึงการโจมตีด้านข้างหลัง ทว่าในร่างกายของเขากลับมีเสียงกระทบของกระดูกดังอย่างแผ่วเบา ราวกับขวานด้ามยาวคำราม
ส่วนกระดูกสันหลังของเขาตอนนี้ราวกับมังกรตัวใหญ่ พลันเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย ประหนึ่งคันธนูที่ถูกง้างจนตึง มีพลังอันน่าสะพรึงกำลังก่อตัวขึ้น
เพียงแต่ถ้ามองจากภายนอกก็ยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้
และนี่ก็ทำให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ คิดว่าการตอบสนองของหลินสวินเชื่องช้า เหมือนกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยตอบโต้เลยสักนิด ทำให้พวกเขาอดผิดหวังไม่ได้ ผู้ฝึกปราณในโลกชั้นล่างช่างอ่อนแอเกินไปแล้ว…
ทว่าพริบตาต่อมาพวกเขาก็ได้ยินเสียงปังดังสนั่น และเห็นว่าฝ่ามือของหวงสือเพิ่งจะตบลงบนไหล่หลินสวิน ก็ราวกับโดนฟ้าผ่า กระโดดถอยไปสิบกว่าก้าวอย่างควบคุมไม่อยู่ หน้าตาบิดเบี้ยว สูดหายใจเข้าด้วยความตะลึง ดูเหมือนเจ็บปวดมาก
นี่ทำให้ทุกคนอึ้ง พลันส่งเสียงหัวเราะเกรียวกราว
“หวงสือ นี่มันอะไรของเจ้า โดนแมงป่องต่อยหรือไร”
“ฮ่าๆๆ เหตุใดอีกฝ่ายยังไม่ได้ตอบโต้เจ้าก็ถอยหลังไปเองแล้ว ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้นะ”
“หวงสือ เจ้าล้อข้าเล่นหรือ เลิกเล่นได้แล้ว จริงจังหน่อย ให้ความร่วมมือหน่อย เจ้าทำแบบนี้จะดูแย่มาก”
ได้ยินเสียงหัวเราะเกรียวกราวเหล่านั้น สีหน้าของหวงสือก็เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ โกรธจนหายใจหนักหน่วงหน้าอกนูนพองขึ้นมา ทว่าเขารู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
เมื่อครู่นี้มือขวาของเขาเหมือนตบบนภูเขาไฟที่กำลังปะทุอยู่ เกิดแรงสะเทือนสะท้อนกลับอันน่าหวาดหวั่น ทำให้มือขวาของเขาชาวาบและเจ็บแปลบ
เพียงแต่ไม่นานหวงสือโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ไม่คิดอะไรทั้งนั้นแล้ว
เพราะหลินสวินในตอนนี้ราวกับไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ได้หันกลับมามองเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ยกเท้าเดินหน้าต่อเพื่อออกจากห้อง
ท่าทีมองข้ามแบบนี้จะให้หวงสือทนได้อย่างไร
“วันนี้เจ้าไม่สู้ ก็อย่าคิดว่าจะได้ไปไหน!”
หวงสือคำราม ผมยาวปลิวพลิ้ว เปล่งแสงประกายทั่วร่าง แสงไฟแต่ละสายราวกับลุกโชนปกคลุมเงาร่างของเขา กลิ่นอายเหิมหาญกำจาย ราวกับเตาหลอมที่เผาสรรพสิ่งให้มอดไหม้
ตูม!
เขาออกตัวอีกครั้ง พลังในครั้งนี้แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ ต่างหรี่ตา รู้สึกประหลาดใจเมื่อตระหนักได้ว่าหวงสือใช้พลังทั้งหมด!
ต้องรู้ว่าผู้ติดตามเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งและได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี อีกทั้งการที่สามารถติดตามฝึกปราณอยู่ข้างกายศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณได้ ศักยภาพและความสามารถย่อมไม่ธรรมดา
อย่างเช่นหวงสือ อายุเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น กลับมีพลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นปลาย ทั้งยังครอบครองวิชาลับมากมาย หากอยู่ในโลกภายนอก ก็เพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นผู้ฝึกปราณโดดเด่นคนหนึ่ง!
ทว่ายามนี้หวงสือกลับใช้พลังทั้งหมดกับผู้ฝึกปราณโลกชั้นล่างคนหนึ่ง ย่อมต้องทำให้คนอื่นๆ อดรู้สึกตะลึงไม่ได้
ทันใดนั้นพวกเขาต่างตื่นเต้น รู้สึกว่าแบบนี้จึงจะสนุกมากพอและควรค่าให้ดู เมื่อครู่นี้หวงสือถูกสะเทือนเซถอย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริง จึงถูกพวกเขาหัวเราะเยาะเย้ยหยัน
โครม!
คราวนี้หวงสือยังคงตบหนึ่งฝ่ามือใส่ไหล่ของหลินสวิน เพียงแต่พลังและอานุภาพแตกต่างจากเมื่อครู่นี้
ในการคาดการของทุกคน ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ หากหลินเสวียนยังไม่หลบเลี่ยงก็จะต้องแย่แน่
ในหัวของหลายคนถึงขั้นปรากฏภาพที่หลินสวินถูกตบจนไหล่แหลกละเอียด เลือดพุ่งออกจากจมูกปาก
แต่แล้ว…
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงคือ ครั้งนี้หลินสวินยังเหมือนไม่รับรู้ถึงอันตรายที่อยู่ด้านหลัง ไม่หันกลับมาเลย!
และที่น่าตกตะลึงมากที่สุดก็คือ ครั้งนี้ฝ่ามือของหวงสือเพิ่งจะกระทบไหล่ของหลินสวิน ก็ราวกับถูกภูเขาใหญ่บดทับ แขนขวามีเสียงกระดูกแตกดังแกรก ร่างทั้งร่างยิ่งสะเทือนจนปลิวออกอย่างแรงราวกับว่าวที่สายขาด กระแทกลงบนพื้นห่างออกไปสิบกว่าจั้งดังปัง
เขากระอักเลือดออกมาจากปากและจมูก ส่งเสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียวเหงื่อท่วม สภาพเหมือนถูกมังกรเหยียบมาก็ไม่ปาน ดูย่ำแย่อย่างที่สุด
ทั้งห้องเงียบกริบ
ทุกคนอึ้งตะลึง!
ใบหน้าของผู้ติดตามเหล่านั้น จากที่ดูตื่นเต้นและเย้ยหยัน ได้ถูกความเคร่งเครียดเข้ามาแทนที่อย่างสิ้นเชิง
พวกเขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของสถานการณ์แล้ว!
ครั้งแรกที่หวงสือสะเทือนถอยไป อาจจะเพราะประเมินศัตรูต่ำเกินไปและไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริง
แต่ครั้งที่สองหวงสือใช้พลังทั้งหมดแล้ว แต่กลับยิ่งพ่ายแพ้อย่างอนาถกว่าเดิม สะเทือนจนปลิวออก กระดูกแขนขวาแตก เลือดพุ่งออกจากจมูกปาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
เห็นได้ชัดว่าผิดปกติ
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่สอง หลินสวินก็ไม่ได้หันกลับมามองเลยตั้งแต่ต้นจนจบและไม่เคยตอบโต้ อาศัยเพียงพลังภายในร่างของตนก็สามารถตอบโต้จนหวงสือบาดเจ็บได้!
ผลลัพธ์เหนือความคาดหมายของเหล่าผู้ติดตาม เด็กหนุ่มที่ถูกพวกเขามองว่าเป็นผู้ฝึกปราณโลกชั้นล่าง กลับมีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ความผ่อนคลาย เย้ยหยัน เย่อหยิ่งและทะนงตัวของพวกเขากลายเป็นความประหลาดใจและเหลือเชื่อ
ส่วนหลินสวินกลับเดินไปโดยไม่สนใจ
เพียงแต่ในใจกลับลอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ อานุภาพของ ‘ปะทะฟู่ซี่’ วิปริตดังคาด!
ปะทะฟู่ซี่!
ร่างที่สองของ ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ เป็นวิชาลับต่อสู้ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แฝงด้วยพลังมหาศาล ดุจตะวันจันทรากระทบห้วงฟ้า ราวขุนเขากดอัดห้วงสมุทร
ฟู่ซี่ตามตำนาน ร่างเดิมเป็นสัตว์เทพบรรพกาลที่มีพลังเขย่าฟ้า หัวมังกร ลำตัวเต่า หางกิเลน กรงเล็บหงส์ไฟ ทั่วร่างหุ้มด้วยเกล็ดที่ประหนึ่งสร้างขึ้นจากหินเหล็กชั้นดี มีพลังที่บริสุทธิ์เหนือจินตนาการ
ภายใต้การโจมตีเดียว ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เสาสวรรค์พังทลาย ทุกอย่างดับสลาย!
และวิชาลับ ‘ปะทะฟู่ซี่’ นี้ เป็นการอนุมานตามพลังของสัตว์เทพฟู่ซี่ โดยยืดกระดูกสันหลังของร่างกายมนุษย์เป็นศูนย์กลาง รวบรวมพลังทั้งหมดไว้ในนั้น ครั้นสำแดงออกมา กระดูกสันหลังก็จะประหนึ่งธนูที่ขึ้นสายตึง ทำให้เกิดแรงสะท้อนกลับยิ่งใหญ่รุนแรง
ช่วงก่อนหน้านี้หลินสวินเพิ่งจะสัมผัสถึงความลี้ลับของ ‘ปะทะฟู่ซี่’ และได้รับเคล็ดวิชาอันเป็นร่างสองของมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร จากอักษร ‘เคราะห์’ อันคลุมเครือเก่าแก่ที่เจิดจรัสราวกับทองซึ่งปรากฏในห้วงนิมิต
อักษร ‘เคราะห์’ นี้ก็คือมรดกของ ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ หลินสวินได้รับมาจาก ‘เก้าศิลาประตูมังกร’ ในตอนที่รับรองการเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณ ยามนั้นยังชักนำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดจากฟากฟ้าที่สั่นสะเทือนไปทั้งนครต้องห้าม… เสียงร้องแห่งเก้ามังกร
แม้ว่ายังไม่เข้าใจความลี้ลับของ ‘ปะทะฟู่ซี่’ อย่างลึกซึ้ง แต่เมื่อครู่นี้เพิ่งจะลงมือครั้งแรก ก็สามารถทำให้หวงสือบาดเจ็บสาหัสได้อย่างง่ายดาย เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าสะพรึงของปะทะฟู่ซี่แล้ว
หลินสวินเชื่อว่า ยิ่งหยั่งถึงและควบคุมวิชานี้ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น อานุภาพที่แสดงออกมาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!
เห็นหลินสวินกำลังจะเดินออกจากประตูห้อง เงาร่างของผู้ติดตามคนหนึ่งพลันพุ่งเข้าหาหลินสวินราวกับสายฟ้า
“ทำร้ายคนแล้วคิดจะหนีหรือ หยุดเดี๋ยวนี้!”
ท่ามกลางเสียงตะคอก ผู้ติดตามคนนั้นหมายฟาดฝ่ามือใส่ท้ายทอยหลินสวิน เขาเป็นชายหนุ่มในชุดดำ สีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา การลงมือยิ่งดุดันอย่างที่สุด ไม่เหมือนกับหวงสือ เขาคิดจะตบศีรษะหลินสวินให้แหลกละเอียด!
การโจมตีนี้เป็นการโจมตีอย่างฉับพลันโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว เร็วดั่งสายฟ้า ทำให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ ต่างคาดไม่ถึง
แต่เพียงชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ติดตามหรือชายหนุ่มชุดดำที่โจมตี ต่างรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่าเบลอ เงาร่างของหลินสวินพลันแวบหลบไปอยู่ข้างๆ
ท่าร่างอันยอดเยี่ยมเกินคาดนี้สุดยอดมาก เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าหลินสวินจะหลบเลี่ยงการโจมตีที่กะทันหันโหดเหี้ยมนี้ได้อย่างง่ายดาย
“หืม?”
ชายหนุ่มชุดดำหัวใจสะท้าน เพียงแต่ยามเขาคิดจะเปลี่ยนกระบวนท่า ก็เห็นประตูห้องที่ปิดแน่นอยู่ถูกเปิดออกจากด้านนอกกะทันหัน
ชายในชุดคลุมแดงรูปร่างสูงโปร่งสง่างามคนหนึ่งปรากฏตัวนอกประตู
เมื่อมองจากมุมนี้ การโจมตีของชายหนุ่มชุดดำเหมือนมุ่งเป้าไปที่ชายชุดคลุมแดงที่อยู่นอกประตูอย่างไรอย่างนั้น
เห็นได้ชัดว่าชายชุดคลุมแดงก็เข้าใจผิดเช่นกัน เมื่อเห็นการโจมตีนี้ ไม่ทันได้มองให้ชัดด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนลงมือ เขาก็สะบัดแขนเสื้อออกไปอย่างแทบจะเป็นไปตามจิตใต้สำนึก
ตูม!
เพียงสะบัดแขนเสื้อเท่านั้น เป็นการเคลื่อนไหวง่ายๆ ธรรมดาอย่างที่สุด แต่กลับเหมือนค้อนยักษ์กระแทกชายหนุ่มชุดดำจนปลิวออกไป หน้าอกยุบ เลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ได้ยินเสียงพลั่กดังขึ้น ชายหนุ่มชุดดำก็พลันตาเหลือกสลบไปราวกับสุนัขตาย โดยไม่ทันได้ร้องเจ็บด้วยซ้ำ
พูดไปดูเหมือนช้าทว่าทุกอย่างนั้นรวดเร็วยิ่ง ตั้งแต่ชายหนุ่มชุดดำลงมือ ตามด้วยหลินสวินหลบเลี่ยง จนกระทั่งการปรากฏตัวของชายชุดคลุมแดง ทั้งหมดแทบจะจบลงเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น เร็วจนเหลือเชื่อ!
จวบจนกระทั่งตอนนี้ที่ชายหนุ่มชุดดำคนนั้นถูกโจมตีจนหมดสติไปในครั้งเดียว ทุกคนต่างอึ้งค้างอยู่กับที่ บรรยากาศเงียบและแปลกประหลาด
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดแบบนี้ขึ้น!
ส่วนชายหนุ่มชุดดำคนนั้น…ก็หมดสติไปอย่างไม่เป็นธรรมเลยจริงๆ!
เพิ่งจะลงมืออย่างอาฆาตแค้น ไม่เพียงไม่สามารถรั้งหลินสวินไว้ได้ กลับยังถูกชายชุดคลุมแดงที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันเห็นเป็นศัตรูและซัดจนสลบไป…
——