Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 686 หนึ่งหนีหนึ่งไล่ล่า
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 686 หนึ่งหนีหนึ่งไล่ล่า
เคร้ง!
ครั้นโจมตีพลาด กระบี่บินสีเทาเล่มนั้นพลันหลีกเร้นทันใด อันตรธานหายลับไปอีกครา
“ดูไม่ออกเลยว่าการรับรู้ของเจ้าโดดเด่นกว่าที่ข้าจินตนาการเอาไว้เสียอีก แต่ว่า วันนี้กลับไว้ชีวิตเจ้าไม่ได้!”
น้ำเสียงของชายเงาสีเทาดังก้องไปทั่วบริเวณนี้ เทียวผลุบเทียวโผล่ เจือไอสังหารเยียบเย็นเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าตระหนักถึงความเหนือธรรมดาของหลินสวินแล้ว และหมายจะลงมืออย่างอำมหิต
“ฆ่า!”
หลินสวินกลับไม่พูดพล่าม ครั้งนี้เขาสัมผัสพลังเสี้ยวหนึ่งของอีกฝ่ายได้ สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งพุ่งปราดเข้าไปในพริบตา
ตูม!
ดาบหักหวดอากาศ ก่อให้เกิดดวงดาราพร่างพราวทั่วฟ้า แสงดาบราวกับอาทิตย์ดวงใหญ่ส่องสว่างจักรวาล อานุภาพน่าพรั่นพรึง
กลางอากาศ เงาสีเทาสายนั้นพลันถูกบีบให้ปรากฏตัว เขาเร่งขับเคลื่อนกระบี่บินพุ่งโจมตีใส่หลินสวิน กระบี่คมกริบดุดัน เคลื่อนไหวสอดประสานไร้พรมแดน
ครืนครืน~
พื้นที่บริเวณนั้นเกิดเสียงกึกก้อง มือของหลินสวินกระชับดาบหัก นัยน์ตาดำดุจอสนี พลังจิตวิญญาณแผ่ซ่าน จับจ้องอีกฝ่ายเอาไว้อย่างแน่นหนา เริ่มจู่โจมอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
แต่งาสีเทาสายนั้นก็น่ากลัวสุดขีดอย่างเห็นได้ชัด ทักษะการต่อสู้โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งยวด วิชากระบี่บินแทบจะเทียบเคียงมรรคา ไอสังหารหาที่เปรียบไม่ได้
นี่คือผู้แข็งแกร่งปลายยอดในสายคนเถื่อนมืดผู้หนึ่ง จัดเจนในวิถีลอบสังหารแต่กำเนิด ท่าร่างยากคาดเดา วิชากระบี่เร้นลับ ราวกับเงาตะคุ่มที่ไม่สามารถสัมผัสได้ พาให้หัวใจสั่นไหว
ในบรรดาเผ่าพ่อมดเถื่อนเก้าสาย คนเถื่อนมืดสายนี้เป็นสายที่ลึกลับที่สุด เผ่าพันธุ์สายพวกเขามีจำนวนน้อยอย่างถึงที่สุด ทว่าแต่ละคนล้วนดุจดั่งราชันในความมืดมิด
ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมาของจักรวรรดิ บุคคลสำคัญที่ตายด้วยน้ำมือของนักลอบสังหารสายคนเถื่อนมืด มีไม่น้อยกว่าหลายร้อยคนอย่างแน่นอน
กระทั่งมีข่าวลือว่าราชันระดับสังสารวัฏในจักรวรรดิ ล้วนเคยถูกนักลอบสังหารสายคนเถื่อนมืดซุ่มโจมตี เกือบทิ้งชีวิตวายชีวัน!
ยามอยู่ในค่ายกระหายเลือด หัวหน้าครูฝึกสวีซานชีก็เคยกล่าวมากกว่าหนึ่งครั้ง ว่าในบรรดาเก้าสายของพ่อมดเถื่อน ผู้ที่พลังต่อสู้แกร่งกล้ามากที่สุด คือผู้แข็งแกร่งของสายคนเถื่อนอสนีและสายคนเถื่อนแสงสองสายนี้
แต่ถ้าพูดถึงผู้ที่ทำให้คนปวดหัวและกริ่งเกรงมากที่สุด ย่อมเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งสายคนเถื่อนมืดอย่างไม่ต้องสงสัย!
เนื่องจากพวกเขาเหมือนเป็นนักลอบสังหารที่อาศัยอยู่ในเงามืดแต่กำเนิด ยามที่ไม่ทันตั้งตัวก็สามารถพรากเอาชีวิตของเจ้าไปได้แล้ว
ฉึก!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไหล่ของหลินสวินถูกกระบี่บินเฉี่ยวเล็กน้อย พลันมีเลือดกระเซ็นออกมา
วิชากระบี่ที่เทียบได้กับมรรคานี้ช่างลึกลับและน่ากลัวโดยแท้ ทำให้หลินสวินเกือบจะถูกการโจมตีนี้ทำเอาบาดเจ็บสาหัส
ทว่าในเวลาเดียวกันอีกฝ่ายก็ถูกฟันด้วยแสงของดาบหัก ใบหูครึ่งส่วนถูกตัดลงมา เลือดสดไหลชุ่ม ห่างเพียงเสี้ยวเดียวก็จะฟันใส่ลำคอของเขาขาดแล้ว
“เจ้าถึงกับทำให้ข้าบาดเจ็บได้!?”
ชายเงาสีเทาดูเหมือนทั้งตกใจและเดือดดาล แผดเสียงคำรามยาวหนึ่งครา เงาร่างยิ่งเบาหวิวพิสดารมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเงาที่เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มีสายหนึ่ง เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างฟ้าดิน
ตูม!
หลินสวินไม่เอ่ยวาจา มีเพียงนัยน์ตาเท่านั้นที่ยิ่งเยือกเย็นลุ่มลึกมากขึ้นเรื่อยๆ รอบกายของเขารายล้อมด้วยแสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์สีเขียว ท่วงทำนองแห่งมรรคสัมบูรณ์ไหลเวียน วิชาอริยะยุทธ์ถูกเขานำมาใช้ประโยชน์
ท่าร่างของคู่ต่อสู้เดี๋ยวมีเดี๋ยวหาย ทว่าหลินสวินกลับเร่งความเร็วขึ้นกะทันหัน ก้าวย่างชือน้ำแข็งราวกับภาพมายา ว่องไวอย่างน่าเหลือเชื่อ
ปึงๆๆ!
ทั้งสองปะทะกัน ดาบหักและกระบี่บินสั่นอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดพลังทำลายล้างน่าหวาดกลัวกวาดม้วนทั่วสารทิศ แสงดาบและไอกระบี่ฉีกอากาศเป็นเสี่ยงๆ จนเป็นรอยนับไม่ถ้วน
คู่ต่อสู้แข็งแกร่งนัก!
มีพลังระดับ ‘จอมเวท’ ในแง่การฝึกปราณไม่ได้แตกต่างจากหลินสวินเลย แต่ทว่ากลับเป็นศัตรูตัวฉกาจซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน ที่หลินสวินได้พบเจอหลังกลับมาจากทะเลกลืนวิญญาณ!
ในระหว่างการต่อสู้ มีอยู่ชั่วครู่หนึ่งที่หลินสวินถึงขั้นคิดว่าอีกฝ่ายได้เหยียบย่างลงบนมกุฎมรรคาเช่นเดียวกับตน
ลำพังแค่จุดนี้ก็เพียงพอจะทำให้หลินสวินตกใจได้แล้ว นักลอบสังหารในสายคนเถื่อนมืดคนหนึ่ง กลับสามารถครอบครองพลังต่อสู้เช่นนี้ในระดับจอมเวทได้ ฐานะในเผ่าพ่อมดเถื่อนของอีกฝ่ายจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
ควรรู้ว่าก่อนหน้านี้หลินสวินถึงขั้นเคยโจมตีสังหารมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติหกคนเพียงลำพัง แต่ตอนนี้ คู่ต่อสู้ที่แทบจะอยู่ในระดับเดียวกัน กลับสามารถประลองกับหลินสวินมาจนป่านนี้ได้ เช่นนี้มีหรือที่ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนทั่วไปจะเทียบชั้นได้
“ฆ่า!”
ไอสังหารพวยพุ่งในใจฃหลินสวิน เขาเองก็มีความคิดจะสังหารอย่างเด็ดขาด กำจัดภัยในภายหน้าไปให้สิ้นเช่นเดียวกัน
หากปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ จะต้องนำมาซึ่งการผลาญชีวิตอีกไม่รู้เท่าไรของจักรววรดิอย่างแน่นอน
ปังๆๆ!
นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างยิ่ง ดาบกระบี่ฟาดฟันกัน พลังชนกระแทก สะเทือนเลือนลั่นฟ้าดิน
ทั้งสองต่างช่ำชองในวิชาต่อสู้ เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย แต่กลับรับรู้ถึงแก่นแท้ของการต่อสู้เป็นอย่างดี
นี่ก็คือการประชันของยอดฝีมือ เวลานี้ถ้าหากผู้ฝึกปราณคนอื่นผลีผลามเข้ามา คาดว่าคงถูกปลิดชีพในทันที
“ฟัน!”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลินสวินก็โดดผลุงขึ้นมา ดาบหักราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์กวาดไพลิน ผ่าฟันออกไป
ตูม!
แม้ว่าชายเงาสีเทาจะหลบการโจมตีครั้งนี้ได้ ทว่าแรงสะเทือนอันน่ากลัวนั้นกลับทำให้ร่างของเขาซวนเซ ใบหน้าที่แต่เดิมเกลี้ยงเกลาขาวเนียนก่ำแดงขึ้นมา
‘หรือว่าเขาเหยียบย่างบนเส้นทางในตำนานสายนั้นไปแล้ว’
ชายเงาสีเทามีอาการประหลาดใจและเคร่งขรึม นัยน์ตาสีเทาลุกโชนด้วยจิตต่อสู้อันพลุ่งพล่าน ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ทำให้ความฮึกเหิมในใจของเขาสั่นคลอนอีกครั้ง
“ฆ่า!”
หลินสวินไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำ ดาบหักระเบิดปะทุประหนึ่งย้ายขุนเขาทลายสมุทร ท้วมท้นด้วยพลังโจมตี สั่นสะเทือนพื้นที่รกร้างทั้งแถบ เมฆลมปั่นป่วน
ฉัวะ!
เพียงชั่วขณะเท่านั้น ชายเงาสีเทาก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ถูกดาบหักเฉือนผมยาวหนึ่งช่อ ผิวตรงแผ่นหลังถูกไอดาบคมกริบฟันเป็นรอยแผลยาวชุ่มเลือด ลึกจนเห็นกระดูก
หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บ เงาร่างก็เหมือนกับควันสีเทากลุ่มหนึ่ง แนบพื้นถอยร่นออกไปหลายพันจั้งทันใด ปากกลับส่งเสียงหัวเราะคล้ายกับฮึกเหิม “ในที่สุดข้าก็พบคู่ต่อสู้เสียที ขอเพียงฆ่าเจ้าได้ ข้าก็จะสามารถเปิดมหาทวารแห่งมรรคาที่แข็งแกร่งที่สุด กลายเป็นราชันแห่งพ่อมดเถื่อนแล้ว!”
“ขออภัย เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว!”
หนึ่งกระบวนท่าของหลินสวินเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ไล่ตามเข้าไปสังหารอย่างต่อเนื่อง ดาบหักพร่างพราวจนคล้ายจันทราน้ำแข็งที่กำลังส่องแสงดวงหนึ่ง พลังทำลายล้างน่าตกใจ พุ่งเข้าใส่จุดสำคัญถึงชีวิตของอีกฝ่าย
“ฮ่าๆ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก พวกเราสายคนเถื่อนมืดถ้าหากคิดหนี ใต้หล้านี้ก็ไม่มีใครขวางไว้ได้!”
ชายเงาสีเทาราวกับแสงกะพริบ หนีไปอย่างบ้าคลั่ง ห้วงอากาศล้วนถูกฉีกขาด โขดหินและแนวเขาระหว่างทางต่างถูกบดขยี้ปานกระดาษว่าว
หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งไล่ล่าสุดกำลัง
ตูม!
ความเร็วของทั้งสองต่างบรรลุถึงขั้นน่าตระหนก ขณะที่เสียงระเบิดปานฉีกทึ้งดังก้องขึ้น เงาร่างของพวกเขาก็อยู่ห่างออกไปหลายหมื่นจั้งนานแล้ว!
แม้แต่หลินสวินก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าเจ้าหมอนี่ฆ่าได้ยากเหลือเกินจริงๆ เทียบกับพวกหนิวทุนเทียน เมิ่งเหลียนชิงแล้ว ยังเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
อีกทั้งในแง่ของพลังและประสบการณ์ต่อสู้จริง รวมถึงวิชาลับที่สันทัดทั้งหมดของอีกฝ่ายแล้ว ล้วนเรียกได้ว่าอยู่ในมาตรฐานชั้นเลิศในโลก!
แต่ก็เพราะเป็นเช่นนี้ ทำให้ความคิดที่จะฆ่าอีกฝ่ายของหลินสวินยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นถึงศัตรูของจักรวรรดิ หากปล่อยให้เขาผงาดขึ้นมา จะต้องเป็นหายนะครั้งใหญ่แน่!
หลินสวินเปลี่ยนดาบเป็นคันธนูโดยไม่มีลังเล สูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งเฮือก โคจรพลังทั้งหมดในร่าง พลังภายในร่างดุจดั่งเตาหลอมแห่งฟ้าดิน และกำลังเผาไหม้ดุเดือดเต็มกำลัง
นัยน์ตาดำสนิทของเขาลุ่มลึก คล้ายหุบเหวอันลึกล้ำกำลังเคลื่อนโคจร ราวกับสามารถกลืนกินสุริยันจันทราให้หายลับ เพียงชั่วพริบตาก็เหมือนกลายร่างเป็นเทพไท้ที่จุติมาสู่โลกมนุษย์
วู้ม!
คันธนูแข็งแรงหยาบขรุขระของธนูวิญญาณไร้แก่นสารโค้งงอ สายธนูสีแดงสดราวกับแช่ด้วยโลหิตถูกง้างเต็มเหนี่ยว ชั่วขณะนั้นดุจดั่งมีเทพมารคำรามอย่างเดือดดาล เสียงพายุอสนีโถมประดังบังเกิด
ฟุ่บ!
ทว่าเมื่อศรวิญญาณดอกนั้นถูกยิงออกไป กลับไร้สุ้มเสียง เจียนจะว่างเปล่ามองไม่เห็น ไหววูบและหายลับไปกลางอากาศ
ชายเงาสีเทาที่หนีไปไกลหัวใจพลันสั่นสะท้าน หนาวเยือกไปทั้งร่าง ตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงสุดขีดที่กำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
เขาร้องเสียงประหลาดคราหนึ่ง ด้านหลังพลันปรากฏธงหนังสัตว์ผืนหนึ่งขึ้นมากะทันหัน บนนั้นเขียนรอยสัญลักษณ์พ่อมดเถื่อนสีเลือด คละคลุ้งด้วยกลิ่นอายน่าหวาดหวั่น
ปึง!
ธงหนังสัตว์ส่องแสง รอยสัญลักษณ์สีเลือดหมุนวน ทว่ากลับสกัดกั้นได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก็ถูกศรวิญญาณทะลวงเป็นช่องโหว่หนึ่งรู
แทบจะในเวลาเดียวกัน ชายเงาสีเทาส่งเสียงร้องโหยหวนคราหนึ่ง เขาอยากหลบ ทว่าไม่ทันแล้ว นั่นเป็นถึงลูกศรของราชันไร้เทียมทานในระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งเชียว!
แผ่นหลังของเขาถูกแทงทะลวง ปรากฏรูเลือดเป็นวงใหญ่ ทำให้เขาเจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว เกือบหัวทิ่มหกคะเมนลงกับพื้น
‘ธงรอยสัญลักษณ์โลหิตเป็นถึงสมบัติล้ำค่าในเผ่า ทำไมถึงสกัดศรดอกนั้นไม่ได้ หรือว่าธนูคันนั้นเป็นสมบัติลึกลับที่น่าทึ่งชิ้นหนึ่ง’
ชายเงาสีเทาเลิ่กลั่ก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ได้เยือกเย็นอีกต่อไป
แต่เขาแข็งกร้าวถึงที่สุด ประสบการณ์การต่อสู้ก็เรียกได้ว่าน่าทึ่ง ระหว่างที่หลบหนี บริเวณแผ่นหลังปรากฏปีกคู่หนึ่งขึ้นมาโดยพลัน
ปีกเทาหม่นคล้ายกับปีกค้างคาวกระพือเบาๆ เกิดเสียงดังซ่าหนึ่งครา ก็ทำให้ชายเงาสีเทาเคลื่อนตัวไกลออกไปหลายพันจั้ง รวดเร็วยิ่งกว่าเมื่อครู่ถึงหนึ่งเท่าเต็มๆ
นี่คือปีกแห่งเงามืด หาใช่สมบัติ แต่เป็นวิชาลับระดับสูงของสายคนเถื่อนมืด จำเป็นต้องแผดเผาเลือดลมในร่างเพื่อสำแดงออกมา
หากไม่ถึงช่วงอันตราถึงชีวิต ชายเงาสีเทาก็ไม่เต็มใจทำร้ายตัวเองเช่นนี้เหมือนกัน
“ยุ่งยากจริงๆ…”
เบื้องหลัง หลินสวินก็เพิ่มความเร็วขึ้นเช่นกัน บนใบหน้าอบอวลด้วยไอสังหาร
ปึง!
ไม่นานนักทั่วสรรพางค์กายของหลินสวินก็ส่องสว่างเป็นประกาย ท้วมท้นด้วยลมปราณที่พวยพุ่งขึ้นสู่อากาศ เขาในเวลานี้ประดุจเทพธนูแห่งยุคบรรพกาล รูปร่างสูงโปร่งยืดเหยียด ง้างธนูยิงดอกที่สองออกไป!
ฟุ่บ!
ปีกแห่งเงามืดของชายเงาสีเทาผู้นั้นระเบิดออก ถูกศรหนึ่งดอกระเบิดอย่างดุเดือด ที่น่าเสียดายคือยังคงพลาดไปเสี้ยวหนึ่ง ไม่สามารถโจมตีสังหารเขาได้ เพียงแต่ยิงแขนของเขาขาดไปเท่านั้น
แม้เป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้ชายเงาสีเทาผู้นั้นหวาดผวา ทั้งเสียขวัญและโกรธเกรี้ยว ฝึกปราณมาจนป่านนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกเพลี้ยงพล้ำเช่นนี้
เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าในจักรวรรดิถึงกับมีเด็กหนุ่มเช่นนี้เพิ่มขึ้นมาคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อไรกัน น่ากลัวยิ่งนัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสักนิด
หนี!
ชายเงาสีเทากัดฟัน ตระหนักได้ว่าวันนี้เผลอๆ อาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ขึ้นมาจริงๆ ก็ได้
แต่หลินสวินเองก็อดขมวดคิ้วกับเรื่องนี้ไม่ได้ ด้วยพลังในปัจจุบันของเขา ต่อให้เปลี่ยนเป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง เกรงว่าก็คงถูกจะยิงจนเป็นรังแตนไปตั้งแต่ต้นแล้ว
ทว่าชายเงาสีเทาคนนี้กลับยังคงยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้ นี่ไม่ใช่โชคช่วยแล้ว แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างหนึ่ง
ต้องฆ่าเขาให้ได้!
หลินสวินสูดหายใจลึกๆ หนึ่งเฮือก นัยน์ตาเยียบเย็นราวกับหิมะน้ำแข็ง ยิงลูกศรดอกที่สามออกไป
พริบตานั้นชายเงาสีเทาพลันขนลุกขนพอง ผิวหนังทั่วร่างต่างลุกชันไปหมด สำหรับเขาแล้ว เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังคนนั้นเหมือนกับเทพมารชัดๆ น่าสะพรึงเกินไปแล้ว
เขาหนีเอาชีวิตรอดสุดแรงเกิด น่าเสียดาย ยังคงหนีไม่ทันพ้น ศรวิญญาณดอกหนึ่งทะลวงผ่านหน้าอกเขาโดยตรง ปรากฏสายเลือดกระเซ็นที่แดงเถือกร้อนลวก!
“อ๊าก…” เขาอดร้องโหยหวนออกมาอีกครั้งไม่ได้ ศรครั้งนี้แทบคร่าชีวิตของเขาไป ทำให้เขามีความรู้สึกสิ้นหวังที่จะดิ้นรนก่อนตาย
ตูม!
เพียงแต่ไม่อาจไม่พูด ชายเงาสีเทาคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว เพียงชั่วขณะเท่านั้น เลือดลมทั่วร่างของเขาพลุ่งพล่าน ราวกับลุกไหม้ก็มิปาน อานุภาพแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ขึ้นไปอีก ยามที่หลบหนี เงาร่างเจียนจะมองไม่เห็น ความเร็วว่องไวถึงขั้นน่ากลัว
เห็นได้ชัดว่าเขาเร่งขับเคลื่อนวิชาลับที่น่าสะพรึงบางอย่าง!
หลินสวินแทบจนคำพูด อยากด่าคนยิ่งนัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับคู่ต่อสู้ที่ยากสังหารเช่นนี้ สิ่งนี้ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าที่มาของอีกฝ่ายจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
——