Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ - ตอนที่ 1672-1 vs 1672-2 vs 1673-1
ตอนที่ 1672-1
นักเรียนที่นั่งอยู่ด้านล่าง ได้ยินประโยคสุดท้ายของป๋อจิ่วแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากขำ
เธอพูดสู้ฉันไม่ได้หรอก
คงไม่มีใครทำได้แบบนี้แล้ว
“ฮ่าๆๆๆ” สาวน้อยหน้ากลมหัวเราะออกมาด้วยที่เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนหยุดเองในที่สุด เธอลุกขึ้นมา “ฉันไม่อยากหรอก แต่จะทำไงได้ ทุกครั้งที่เห็นคนถูกรังแก ฉันก็อยากไปห้าม แต่รู้ไหมว่าผลจะเป็นยังไง? เพราะฉันจะกลายเป็นคนที่โดนบูลลี่คนถัดไป ฉันกลัวมาก ฉันเชื่อว่าใครๆ ก็กลัว เพราะพวกเราไม่ได้เก่งเหมือนนาย”
เธอพูดจบก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะว่าเธอเหมือนเมื่อครู่
ไม่คิดว่าป๋อจิ่วกลับหัวเราะแทน “เธอคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอก ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องแสดงพลังมวลชนไง อย่าลืมสิว่าพวกเธออยู่ห้องเดียวกัน ในความคิดของฉัน เวลาเรียนหนังสือก็ต้องทำแบบนี้แหละ ใครอย่าได้มารังแกเพื่อนฉัน ถ้าใครข้ามห้องมาหาเรื่อง ไม่ว่าจะอยู่ม.ไหน หรือแก่ว่าฉัน ก็ต้องสู้จนมันคุกเข่าให้ได้ ถ้าฉันสู้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังพลังจากเพื่อนๆ ในห้อง พวกเราอยู่ด้วยกันไม่ใช่เพราะจะไปรังแกใคร แต่เพราะต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่า พวกเขาจะรังแกพวกเราไม่ได้ เราจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิง เวลาที่ผู้ชายต้องออกหน้าก็อย่าหัวหด มารังแกคนๆ เดียวทั้งชั้นเรียน มันใช้ได้ที่ไหน ไม่แน่นะว่าพอนายออกหน้าช่วยคน อาจมีคนหลงรักก็ได้ เอ้อ นักเรียนอย่างพวกเธอชอบแบบฮีโร่ช่วยคนสวยไม่ใช่เหรอ ก็ลองเอามาใช้จริงสิ จะได้ไม่ต้องเป็นหมาโสดสักที”
“อะไรที่มาเรียกพวกเราว่าเป็นนักเรียน พูดอย่างกับนายไม่ได้เป็นนักเรียนงั้นแหละ” ผู้ชายคนหนึ่งลูกสันจมูกย้อนถาม “ใช้ได้จริงอ่ะ?”
ป๋อจิ่วตอบช้าๆ “นายลองถามผู้หญิงหน้าแดงที่นั่งข้างนายดิ ถ้าไม่เข้าใจ ก็อ่านนิยายรักเยอะๆ จะได้เข้าใจความหวานชื่นในใจของผู้หญิง เอ่อ พวกความหวานชื่นในใจของผู้หญิงอะไรเนี่ย ปกติดูที่หน้าตากัน”
เมื่อได้ยิน พวกนักเรียนต่างอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
พวกทหารพิเศษที่อยู่นอกประตูมองหน้ากัน สุดท้ายหันไปมองร่างที่สวมชุดสูทภายใต้เงามืด “หัวหน้าครับ เจ้านั่น”
“เขาชี้นำทางความคิด เรากำลังแก้ปัญหาคดีทางจิตวิทยา เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใจเด็กพวกนี้มีปัญหา บางทีคนในห้องนี้อาจจะเยียวยาไม่ได้แล้ว แต่ยังมีคนที่ไม่อยากกลายเป็นแบบนั้น พวกนายไม่เห็นเหรอว่า บรรยากาศในห้องดีกว่าเมื่อกี้เยอะเลย?” เงานั่นเดินออกมา มุมปากแยกยิ้ม “แต่ มันก็น่าเหลือเชื่ออยู่นะ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เห็น Z ที่เลือดเย็นกลับมาช่วยชี้นำทางความคิดให้กับพวกนักเรียน คนอย่างเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงทำอย่างเดียว ไม่พูดอะไรแน่ ฉินมั่วทำให้เขาอ่อนโยนขึ้นเยอะทีเดียว”
เหล่าทหารพิเศษเงิบเลย
เด็กนั่นซัดนักเรียนหมอบถึงสามคน แถมยังมาสอนให้พวกนักเรียนมีรักในวัยเรียนอีก
หัวหน้าฮะ แน่ใจเหรอฮะว่ามันคือความอ่อยโยน
หาเรื่องให้โรงเรียนชัดๆ
ขอกุมขมับ!
บางทีคงมีแค่ชายหนุ่มที่เข้าใจเจตนาของป๋อจิ่ว
การพูดคุยที่เกิดขึ้นสามารถขจัดอันตรายที่จะปะทุขึ้นได้ชั่วคราว ตามหลักจิตวิทยา นี่เป็นเวลาทองแห่งการรักษาทางจิต ชนิดเกิดปัญหาปุ๊บก็คุยกันปั๊บ
……………………………………………………..
ตอนที่ 1672-2
แน่ล่ะ ยังคงมีคนประเภทนั้นในกลุ่มนักเรียนพวกนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าพฤติกรรมที่ว่าคือการทำร้ายคน แต่พวกเขาคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลยดูจากสีหน้าก็พอรู้
คิงสามารถหนีไปได้อย่างสบายใจก็เพราะได้เวลาที่เหมาะสม ขอแค่กระตุ้นเล็กน้อย บางสิ่งในจิตใจก็จะแตกหน่องอกราก แล้วใช้คำสั่งที่แฝงทางจิตก่อการยึดตัวประกันไว้
พวกเขาต้องรู้ให้ได้ว่า ตัวกระตุ้นคืออะไร
หากไม่แก้ไขตรงนี้ สิ่งที่ทำไปก่อนหน้านี้ก็เท่ากับเปล่าประโยชน์ ด้วยยังมีนักเรียนอีกหลายคนในโรงเรียน ต่อให้มีเพียงหนึ่งคนในสิบที่ถูกฝังคำสั่งทางจิต แต่ผลที่เกิดขึ้นย่อมน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง ยิ่งนักเรียนของที่นี่กว่า 70% เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มเดาไม่ผิด คิงวางแผนไว้เช่นนั้นจริงๆ
เพียงแต่ชายคนนั้นไม่คิดว่า สถานะที่แท้จริงของตนจะถูกเด็กม.ปลายคนหนึ่งเปิดโปงขึ้นมาก่อน ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนไปทันเวลา เขาอาจจะตายด้วยเงื้อมมือของอีกฝ่าย เวลานี้คิงนั่งอยู่ในรถออฟโรด หรี่ตาลง สไลด์หน้าจอมือถือ ความเจ็บปวดบนขาทำให้เขาหัวเราะราวกับลิ้มรสกับความรู้สึกดังกล่าว “ถ้าเธอต้องตายในโรงเรียนนั่น ฉินมั่วก็คงไม่เป็นฉินมั่วในรูปแบบนี้ น่าเสียดายที่ฉลาดเหลือเกิน แต่ต้องทิ้งชีวิตไว้ตรงนั้น”
คิงคิดเช่นนั้นเพราะไม่รู้ว่าหลีจิ่นถูกจับแล้ว แต่ในสายตาของเขา หากหมากพวกนี้ต้องถูกจับ ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะกุญแจที่กระตุ้นคำสั่งทางจิต ไม่ได้อยู่ในมือพวกมัน
อะไรที่ควรเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีใครรู้ทัน และไม่มีใครที่หยุดยั้งได้ นอกจากฉินมั่วจะลงมือเอง แต่ มันสายไปเสียแล้ว เขาชอบความรู้สึกนี้จริงๆ
ท้องฟ้ามืดมิด เพิ่งจะผ่านเวลารุ่งสางไป อีกไม่กี่ชั่วโมงท้องฟ้าก็จะสว่าง คิงเอนหลัง ใบหน้าสุภาพถูกความมืดทาบทับ
ในห้องสอบสวนพิเศษ ดวงไฟดวงโตเปิดสว่างจนแยงตา
หลีจิ่นมองดูป๋อจิ่วที่นั่งตรงข้ามกับตัวเองด้วยแววตาสั่นไหว ก่อนจะเอ่ยปาก “ทำได้ยังไง?”
ป๋อจิ่วเลิกคิ้วเล็กน้อย “อะไร?”
“นายน่าจะแตะต้องของที่อยู่ในบ้านฉัน แล้วทำยังไงถึงทำให้มันอยู่ในสภาพเดิมได้?” ใบหน้าของหลีจิ่นขาวเผือดแบบได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ “ไม่สิ ต้องบอกว่าแม่ฉันยอมให้นายเข้าไปบ้านได้ยังไง แถมให้อยู่ตั้งนานด้วย นายทำได้ยังไง?”
ป๋อจิ่ววางแฟ้มในมือลง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว หลี่จิ่นกลับสนใจแค่ปัญหาพวกนี้ คิงเลือกคนเก่งจริงๆ แถมยังได้คนฉลาดอีกด้วย
“ง่ายๆ เพราะพอมีคนนอก พ่อเลี้ยงนายก็จะไม่ลงมือลงไม้กับแม่นายไง”
คำตอบของป๋อจิ่วทำให้สีหน้าของหลีจิ่นเปลี่ยนไป มือที่กำแก้วน้ำก็เพิ่งแรงบีบมากขึ้น คนที่เฝ้ามองอยู่นอกห้องสอบสวนเห็นแล้วถึงกับแปลกใจ
พวกเขาสอบสวนหลีจิ่นมาถึงเจ็ดชั่วโมง ถามทุกคำถามก็แล้ว ที่ต้องพูดก็พูดแล้ว แต่หลีจิ่นกลับอารมณ์นิ่งไม่เปลี่ยนสักนิด ถามอะไรก็ตอบว่าไม่รู้อย่างเดียว
เวลาสอบสวน พวกเขากลัวที่สุดก็คือการได้เจอผู้ร้ายแบบนี้ ถามอะไรที่มีค่าไม่ได้สักอย่าง แถมดันเป็นเด็กเสียด้วย แต่เด็กแบบนี้กลับทำให้คนหายใจแทบไม่คล่อง พวกเขาหมดปัญญาแล้ว ไม่คิดว่าพอเจ้าเด็กหล่อมาถึง แค่พูดแค่นิดเดียว เจ้านั่นก็เปลี่ยนสีหน้าทันที ซึ่งมันก็ดีต่อการสอบสวนแหละ อย่างน้อยการต่อต้านก็สามารถปล่อยข้อมูลออกมาได้เช่นกัน
หลีจิ่นจ้องป๋อจิ่ว จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา เงยหน้าตะโกนขึ้น “ผมจะบอกเรื่องที่พวกคุณอยากรู้ก็ได้ แต่ต้องปล่อยผมก่อน ผมถึงจะพูด”
……………………………………………………..
ตอนที่ 1673-1
คนในสถานีตำรวจได้ยินแล้ว ต่างสบตากัน มันถือเป็นเงื่อนไขที่เสียเปรียบมาก แต่ถึงเสียเปรียบอย่างไร พวกเขาก็ปฏิเสธตรงๆ ไม่ได้เพราะเด็กนั่นกุมข้อมูลความเป็นความตายของทั้งโรงเรียนไว้ในมือ
เรื่องแบบนี้อย่าว่าแต่ในเมืองเล็กๆ ติดชายแดนแห่งนี้เลย หากว่ากันระดับประเทศก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เสียยิ่งกว่าใหญ่ ซึ่งหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา พวกเขาย่อมรับผิดชอบไม่ไหวกันทั้งนั้น
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้า จึงทำได้แต่เปิดประชุมด่วน
“หน่วยสืบสวนอาชญากรรมหาหลักฐานมาได้จำนวนหนึ่ง หลีจิ่นอาจกุมข้อมูลที่สำคัญอยู่ ถ้าไม่รับปากเขา ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้วซ้ำรอยอีก ความเสียหายก็ยากจะประเมินได้”
“แต่ถ้ารับปากเขาก็เท่ากลับปล่อยเสือเข้าป่านะครับ”
“หาคนติดตามเขาไปได้ไหม”
“ไม่ใช่ว่าฝ่ายสอบสวนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ แต่หลีจิ่นร้ายนะ กลัวว่าตอนนี้ก็ยังมีแผนซ่อนไว้อีก ที่เขาบอกว่าให้ปล่อยเขาไป ต้องไม่ธรรมดาแน่ เด็กคนนี้ฉลาดมาก เขาเรียกร้องให้เราส่งเขาออกชายแดนก่อน แล้วเขาจะส่งข้อความมาบอกพวกเราว่าคำสั่งทางจิตที่คิงแฝงไว้คืออะไร”
“หมายความว่าพอเขาไปแล้ว เราก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะได้ข้อมูลจากเขาจริงๆ หรือเปล่า”
“ใช่”
คนที่นั่งตรงกลางนวดหัวคิ้ว “ยกมือโหวตละกัน ดูซิว่าเสียงที่อยากให้ปล่อยกับไม่อยากให้ปล่อย เสียงไหนจะเยอะกว่ากัน” แต่ไม่มีใครขยับ เพราะไม่มีใครกล้าตัดสินใจ ด้วยไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ดูจะไม่ถูกต้องทั้งนั้น
เวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบกับตอนที่เพิ่งจับตัวมาได้ หลีจิ่นเพิ่งยิ้มออก ยิ้มที่อยู่บนใบหน้าไร้สีเลือด ทำให้คนเห็นแล้วไม่สบายใจ ยิ่งเป็นแบบนี้ ผู้คนยิ่งกังวลใจ เพราะพวกเขาไม่มั่นใจแล้วว่า ในโรงเรียนแห่งนั้นจะมีนักเรียนแบบหลีจิ่นอยู่กี่คน
พวกเขาค้นหาไม่เจอ ด้วยมีนักเรียนเยอะมาก อาจบอกได้ว่า… เด็กเหล่านั้นมีสีหน้าท่าทางปกติ แต่หัวใจกลับเป็นอีกแบบ
เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกหมดแรง ความรู้สึกหมดแรงที่พูดไม่ออก
ตำรวจฝ่ายสืบสวนท่านหนึ่งพิงผนังด้วยความเหนื่อยล้ามาก เอียงศีรษะจุดบุหรี่ ถามคนข้างๆ “ทำไมเด็กพวกนั้นถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
“คงเพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน รีบไปกินอะไรสักหน่อยเถอะ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะสว่างแล้ว ฉันจะเฝ้าเอง” ตำรวจส่งคนเข้าไปตรวจสอบภายในโรงเรียนแล้ว เพื่อจะได้ป้องกันเหตุฉุกเฉิน
หลีจิ่นกลับไม่แคร์ต่อสิ่งใด ทั้งยังยิ้มออกมาได้อีก “อาจารย์บอกว่า เวลาพวกคุณสืบสวนคดี ชอบใช้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น แต่ไม่มีประโยชน์หรอก ไม่ว่าพวกคุณจะวางแผนยังไงก็เอาชนะอาจารย์ไม่ได้หรอก ถ้าไม่อยากเห็นการฆ่าตัวตายหมู่ก็ทำตามที่ผมบอกเถอะ แล้วจะปลอดภัย ปล่อยผมไป แล้วผมจะให้ข้อมูลพวกคุณ”
ถึงอยู่ในห้องประชุมก็ยังได้ยินเสียงของเขา ทุกคนต่างหน้าถอดสี ร้อนอกร้อนใจว่าควรจะทำอย่างไรดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่รู้ว่าใครเอาข่าวไปปล่อยในโลกออนไลน์ ระบุว่าพวกเขากำลังหาทางช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาด้านจิตใจ ถึงกับยอมปล่อยคนร้ายออกมา
……………………………………………..