Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ - ตอนที่ 1694-2 vs 1694-3 vs 1695-1
ตอนที่ 1694-2
ป๋อจิ่วสังเกตเห็นว่าที่นี่ไม่มีใครมีมือถือ ขนาดทหารรับจ้างก็ยังไม่มีเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแรงงานปลูกฝิ่น ฉะนั้นการจะเอาที่อยู่ที่นี่แชร์ออกไปอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ห้าตัวที่อยู่ในนี้
ป๋อจิ่วหันไปมองพนักงงานฝ่ายเทคนิคที่กำลังทดลองในห้องกระจกกั้น รอจนเมื่อหนึ่งนั้นออกไปทำธุระอย่างอื่น เธอก็เดินตามไป ซึ่งต่อให้ภาพดังกล่าวจะปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็ดูไม่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะท่าทางของเธอเหมือนกำลังเดินเวรยามอยู่ ทั้งนี้เธอไม่ได้ลงมือทันที แต่รอจนเมื่อคนคนนั้นเข้าห้องน้ำก่อน แล้วฉวยจังหวะที่คนไม่ได้ระวัง ยกมือขึ้นแทงเข็มฉีดยาอีกฝ่าย ก่อนจะลากไปไว้ที่ชั้นลอย
ป๋อจิ่งสังเกตอากัปกิริยาของคนๆ นั้น หันหน้าไปดึงคอเสื้อ เส้นผมสั้นเซอร์ปรกลงมา งอหลังก่อนจะสะบัดเสื้อตัวบนออกอย่างเท่จนเส้นผมยุ่งเหยิง ก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายไว้บนร่าง
เมื่อออกมาอีกครั้ง เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ชนิดที่สลัดคราบเดิมทิ้งจนสิ้น โดยมีแว่นตากรอบดำอยู่บนหน้า เส้นผมแตะน้ำหน่อยๆ ทำให้เหมือนว่าเธอลงน้ำมันที่ผม ทั้งยังสวมเสื้อตัวนอก เธอเดินด้วยกิริยาที่เปลี่ยนไปเหมือนโก่งหลังหน่อยๆ เหมือนพวกผู้ชายที่เอาแต่เล่นคอมพิวเตอร์อยู่กับบ้าน ดูทรงอ่อนแอ ซึ่งหมายความว่าหากมองจากด้านหลัง จะไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าหน้าที่ในนี้เปลี่ยนหน้าไปแล้ว ถือเป็นการปลอมตัวที่สมบูรณ์
แต่เมื่อป๋อจิ่วก้าวเท้าออกเดิน กลับเห็นเด็กชายคนหนึ่งกำลังล้างมือพลางจ้องหน้าเธอ เด็กนั้นอายุราวๆ สิบเอ็ดสิบสองปี ด้วยแสงอาทิตย์ที่แรงกล้าทำให้ผิวเขาดำคล้ำ และด้วยสิ่งแวดล้อมที่ขาดแคลน ทำให้เขาดูผอมมาก โดยเฉพาะท่อนแขนที่คนเห็นรู้สึกว่าเขาปวกเปียกเหลือเกิน เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างที่ไม่ทำให้คนรู้สึกกลัว เพราะแววตาของเขาดำขลับปราศจากทุกสิ่ง
ป๋อจิ่วเดินผ่านอีกฝ่ายไป กระจกสะท้อนภาพทเด็กคนนั้นคลำกระเป๋ากางเกงเหมือนจะควักปืน ทันใดนั้นมันก็ควักปืนออกมาจริงๆ ด้วย โดยเล็งปืนไปที่แผ่นหลังของเธอ
พลั่ก!
เด็กนั่นคงไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะระวังตัวเองไว้อยู่ มันยังไม่ทันได้ยิง มีดทหารพลันแทงเข้าที่คอของมัน ไม่มีเสียงใดหลุดออกมาสักนิด นอกจากตาเบิกโพลง แล้วหงายหลังล้มลง
ป๋อจิ่วยื่นมือไปรับร่างอีกฝ่าย แล้วนำร่างที่เริ่มเย็นมาขังรวมกับเจ้าหน้าที่เทคนิคคนเมื่อกี้ แม้ว่าหากคำนวณจากเวลา เขาก็น่าจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่นั่นเป็นตอนที่เธอเข้าใกล้เด็กชาย พลันเกิดภาพคุ้นตาขึ้นในสมองของเธอ
ในคัมภีร์ศาสนาคริสต์เคยว่าไว้ เวลาที่วิญญาณลอยออกจากตัวคุณไป คุณจะนึกถึงหลายๆ เรื่องที่เคยเกิดขึ้น มันจะฉายอยู่ในสมองของเราเหมือนฉายภาพย้อนหลัง โดยจะฉายครั้งแล้วครั้งเล่าในสมองของคุณ ซึ่งความทรงจำในบางตอน กลับหายไปจริง ๆ เช่น วิญญาณคุณออกจากร่างได้อย่างไร หรือ เช่น บางเรื่องที่คุณอยากลืม
ดังนั้นถึงได้พูดกันว่า ขจัดทุกสิ่งในชาตินี้ จึงจะตายตาหลับอย่างสบายใจ แต่ห้วงเวลานั้น ก็เหมือนภาพเหล่านั้นจะฉายย้อนกลับ
…………………………………………………..
ตอนที่ 1694-3
ทำไมตอนนั้นเธอถึงตายได้นะ? เพราะเธอใจอ่อนชั่วขณะไง
ตอนนั้นหลังจากที่เธอจัดการคดีหนึ่งได้สำเร็จ ก็ไปเดินถนนที่แสนจะครึกครื้นในโตเกียว ที่นั่นเต็มไปด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ ลูกโป่งของเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดปีลอยไปติดบนต้นไม้ จึงดึงแขนเสื้อเธอ ถามว่าช่วยเอาลูกโป่งลงมาให้ได้ไหม เวลานั้นป๋อจิ่วไม่ได้ระวังว่าเมื่อเธอระหว่างที่หันหลังไปหยิบให้ จะมีปืนที่เด็กสาวควักออกมาจ่ออยู่ มันเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้
คิงเก่งฉกาจด้านการเลี้ยงปีศาจ
ป๋อจิ่วย่อมไม่ปล่อยให้ตัวเองผิดพลาดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เพราะเธอได้เรียนรู้หลายสิ่งจากท่านเทพ ทำให้สังเกตอันตรายจากเด็กชายคนดังกล่าวได้
อายุน้อย ๆ นี่แหละที่ทำร้ายคนได้น่ากลัว เด็กที่ใช้ชีวิตรอดในสถานที่แห่งนี้ย่อมไม่กระจอก ยิ่งที่นี่มีคิง อยู่ด้วย
ป๋อจิ่วปาดคราบเลือดบนหน้า เธอรู้ดีว่า หากคนอื่น ๆ เข้ามา เช่น เจ้าชายน้อย จะต้องไม่กล้าลงมือโหดเหี้ยมแน่ แต่เธอไม่เหมือนพวกเขา เพราะหัวใจของเธอมันดำมืดเสียแล้ว แค่บางครั้ง เธอกลับมาใสสะอาดได้เพราะใครคนหนึ่ง
ป๋อจิ่วจัดแจงเสื้อตัวนอกให้เรียบร้อย เมื่อเดินออกจากห้องน้ำ หลังก็โก่งลง ซึ่งเหมาะกับสถานะตัวเองในเวลานี้มาก
เนื่องจากในห้องน้ำไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ดังนั้นห้องควบคุมจึงไม่เห็นสิ่งผิดปกติ แม้ว่าในระหว่างนั้น ฝานเจียจะมาดูกล้องบ้าง ก็ยังไม่รู้ว่ามีป๋อจิ่วที่ปลอมตัวแฝงมาด้วย เพราะฝานเจียไม่ใช่คิง และยิ่งไม่ใช่ฉินมั่ว เมื่อภาพที่อยู่ต่างสถานที่ต่าง ๆ ปรากฎออกมา เจ้าหล่อนจะเห็นเพียงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างเด่นชัด การปลอมตัวที่แอบเข้ามาเช่นนี้ หากไม่จงใจหา แค่มองผ่าน ๆ ก็ยากที่จะเดาปัญหาที่ซุกซ่อนออก
แถมป๋อจิ่วก็ไม่ได้ซี้ซั้วเลือกคน แต่สำรวจอยู่พอควร ก่อนจะเลือกลงมือกับคนที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับตัวเอง
ด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคแต่ละคนต่างจับจ้องหน้าจอของตัวเอง ดังนั้นเมื่อป๋อจิ่วนั่งลง คนที่เหลือทั้งสี่ก็ไม่ได้ละจากงานตัวเองหันมาดูเธอ ทว่าเธอจะลงมืออย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ เพราะที่นี่มีกล้องวงจรปิด…
เวลานี้ที่กระท่อมไม้ คลิปฉายภาพคนที่ตกน้ำแล้วพยายามดิ้นรน เหมือนเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งเจ้าชายน้อยยังคงเดาต่อไป ทว่าคุณหมอทหารรู้สึกผิดปกติ มันไม่น่าจะเป็นภาพในกล้องวงจรปิด แต่ทำไมคิงถึงยัดภาพนี้ไว้ในกล้องวงจรปิด
เดี๋ยวก่อน!
น้ำ!
ทุกครั้งที่บอสสะเทือนอารมณ์ มักจะมีเหตุจากน้ำ แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่คนที่แฝงคำสั่งทางจิตย่อมรู้ดี!
ในขณะที่คุณหมอทหารที่กำลังตรวจสินค้าอย่างอื่นกำลังจะเอ่ยขึ้น ฉินมั่วก็ขัดจังหวะอย่างเร็ว “ระดับความบริสุทธิ์เป็นยังไงบ้าง?”
“มากครับ” คุณหมอทหารตอบสั้น ๆ
ฉินมั่วยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะชนแก้วไวน์กับคิง “ขอให้เราร่วมมือกันต่อไปได้อย่างแฮปปี้นะครับ”
“ขอให้ความร่วมมือของเราแฮปปี้” แววตาของคิงขรึมลง ราวกับสำรวจอีกฝ่าย
เวลานี้ ภาพในคลิปเปลี่ยนไป เป็นฉากที่ป๋อจิ่วไปหาคิงที่ปลอมตัวเป็นคุณหมอประจำโรงเรียนตามลำพัง โดยภาพนั่นปรากฏต่อหน้าทุกคนอย่างชัดแจ๋ว คิงในคลิปภาพดูสง่ามาก เขากำลังวัดอุณหภูมิให้เด็กคนนั้นอย่างสุภาพ ราวกับบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งป๋อจิ่วไม่ได้ระแวงสักนิด จากนั้นคิงก็มองดูป๋อจิ่วที่ถูกเช็คอุณหภูมิเสร็จ ก็ลุกขึ้นเดินไปยังข้างตู้น้ำร้อน ไม่มีใครรู้ว่าเขาปรุงยาอะไร
แต่ตอนที่เขาลุกขึ้นมา คุณหมอทหารเองก็เดาได้ว่าหากป๋อจิ่วดื่มลงไปจะต้องมีอันตรายแน่ เพราะคิงในเวลานั้นรู้ตัวแล้วว่าอีกฝ่ายมีปัญหา ไม่งั้นคงจัดอุปกรณ์สะกดจิตไว้บนโต๊ะหรอก…
…………………………………………………..
ตอนที่ 1695-1
คุณหมอทหารเห็นฉากในคลิปนั้น ก็หันไปมองฉินมั่วทันที ทหารใหม่หมายเลข 10 สำคัญต่อบอสต่างจากคนอื่นจริงๆ
คุณหมอทหารจำได้ดีว่า ตอนอยู่ในกองทัพ บอสแหกกฎหลายข้อเลยทีเดียว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กนั่น เขายังคิดไม่ถึงเลยว่า จะได้เห็นรอยยิ้มเช่นนั้นบนใบหน้าของบอส ยิ้มที่บริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน เพราะคิดถึงเด็กคนนั้น แต่เวลานี้เจ้าทหารใหม่กลับหนีไม่รอด
คลิปนั่นฉายภาพที่คิงหันมายื่นยาให้ป๋อจิ่ว แล้วฝ่ายหลังรับมา แต่จู่ๆ คลิปก็หยุดค้างที่ภาพนั่น
นัยน์ตาของเจ้าชายน้อยแดงก่ำ แต่กลับไม่อาจเงยหน้าให้คนอื่นเห็นความผิดปกติของตน ส่วนคิงกลับรินเหล้าให้ตัวเองอย่างอารมณ์ดี ถามขึ้นด้วยเจตนาไม่ชัด “ประธานหรงคิดว่าผมจะทำยังไงกับเด็กนั่น?”
ฉินมั่วนั่งอยู่กับที่ รู้สึกแค่หัวใจเย็นยะเยือก เวลาที่เราเจ็บปวดถึงขั้นหนึ่ง จะถึงกับไร้ความรู้สึกใช่หรือไม่ เขาเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไปทีละนิดๆ แต่มุมปากยังคงยกยิ้ม “ผมเดาความโหดของคุณไม่ออกหรอกครับ เพราะถ้าเป็นพวกผมก็คงตัดแขนตัดขา”
“สำหรับหมอที่อ่อนแอขนาดที่จับไก่ก็ยังไม่ได้อย่างผม วิธีนั้นมันเหม็นคาวเกินไป ผมแค่ชอบอะไรๆ ที่มันสะอาด” คิงพูดมาถึงตรงนี้ ก็เขย่าเหล้าในแก้ว “เมื่อกี้ในคลิปมีสระน้ำอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะครับ มันเป็นสนามกีฬาในร่มที่อยู่ใกล้ๆ โรงเรียน ผมก็แค่ผูกก้อนอิฐสองก้อนที่ขาเด็กนั่น แล้วโยนลงน้ำ พอโดนน้ำ เด็กนั่นก็ตื่นขึ้นมา ตะเกียกตะกายอยู่นานก็ลอยตัวไม่ขึ้น นอนจมที่ใต้น้ำเลย”
ฉินมั่วได้ยินเสียงข้างหู สิ่งที่ประเมินได้เตือนให้เขาอย่าเชื่อคำพูดของคิง แต่ตอนนี้สมองกลับทื่อ ร่างเหมือนจะอ่อนแรง เขาไม่กล้าคิดให้มาก เพราะหากคิด ภาพที่อีกฝ่ายบรรยายจะผุดขึ้นมาเต็มสมอง แม้จะเคยฝันซ้ำๆ หลายครั้ง แต่กลับไม่อยากจะเชื่อ
ร่างที่ลางเลือนผลุบขึ้นผลุบลงกลางสายน้ำ ไม่ว่าเขาจะยื่นมือยังไงก็จับตัวอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะอยู่ห่างกันมาก เขายังไม่ทันได้เห็นหน้าเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“บอส ตรวจสินค้าเสร็จแล้วครับ” คุณหมอทหารเดินมา พลันกระแทกถ้วยชาบนโต๊ะราวกับไม่ตั้งใจ
เขาทำท่าตกใจ ราวกับทำความผิดขึ้น “บอส ผมสมควรตายครับ” ส่วนฉินมั่วมือเย็น ขยับปลายนิ้ว แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ถ้วยชาที่นายทำแตกเป็นของคิง ไม่ใช่ของฉัน” ซึ่งเมื่อคุณหมอทหารได้ยินแล้ว รีบหันไปขออภัยต่อคิง ซึ่งคิงเพียงแค่โบกมือ ยิ้มให้อย่างสุภาพ “ก็แค่ถ้วยชา ต่อไปประธานหรงยังต้องมาที่นี่อีกหลายครั้ง เรื่องเล็กน่ะ”
แมงป่องพิษได้ยินคำพูดของเจ้านาย ก็รู้ว่าธุรกิจนี้ไม่มีปัญหา สถานะของอีกฝ่ายผ่านการทดสอบจากคิงแล้ว
ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ คิงมองดูประธานหรงที่สนใจแต่เรื่องการส่งมองสินค้า ถึงกับขจัดสิ่งที่ตัวเองคาดเดาไว้ในก่อนหน้านี้จนเกลี้ยง
การปลุกคำสั่งทางจิตเริ่มต้นแล้ว แต่ชายคนนี้กลับไม่แสดงอะไรออกมา แสดงว่าคนในคลิปไม่สำคัญสำหรับเขา หรือบางทีเขาอาจจะไม่ใช่ฉินมั่ว
คิงโน้มเอียงไปยังประเด็นหลัง เพราะเด็กนั่นถือเป็นอาวุธลับสำหรับจัดการฉินมั่ว ไม่มีวันที่จะไร้ความสำคัญอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเสียดายที่ไม่ได้ฉากที่ตนเองต้องการ แต่ด้านอื่นกลับไม่เป็นประเด็น เช่นคนพวกนี้ไม่มีปัญหา สามารถร่วมค้าขายกันได้
คิงช้อนสายตามองฝานเจีย โดยฝานเจียเข้าใจความหมายอีกฝ่ายจึงออกมาพิสูจน์เงิน “คิง เขาเอาเงินมาแค่หนึ่งในสองของเงินมัดจำ”
…………………………………………………