Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ - ตอนที่ 1706-4 vs 1707 vs 1708-1
ตอนที่ 1706-4 เทพฉินดูแลน้องจิ่ว หวานจัง
ป๋อจิ่วจึงได้รับรู้ถึงจุมพิตที่ประทับบนหัวไหล่ตน จนเกิดความรู้สึกชาทั่วตัว ตามมาด้วยกัดเบาๆ ส่งผลให้หัวใจเต้นรัว สมองพลอยว่างโพลน
อุณหภูมิในห้องทวีขึ้นเรื่อย จนเมื่อเปียกน้ำไปทั้งตัว ป๋อจิ่วถึงได้รู้ว่าเขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ เขายังจูบเธออยู่ ชายหนุ่มแย้มเรียวปากราวกับพึงพอใจต่อปฏิกิริยาของเธอ จนเมื่อเธอหมดแรง ต้องอิงร่างเขา ซึ่งนอกจากจูบแล้ว ชายหนุ่มไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้
ทว่าความวาบหวามที่นิ้วของชายหนุ่มสรรสร้าง ทำให้ป๋อจิ่วตัวสั่นหน่อยๆ
แต่เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาหยุดทำไม โดยเฉพาะตอนที่เขาคว้าเอวเธอหมับ แต่กลับกัดที่ไหล่เธอเท่านั้น จากนั้นลมหายใจของเขาก็จางลง รวมถึงผ้าขนหนูที่เขาดึงมา “เมื่อก่อนเราก็ทำแบบนี้กันหรือ?”
หยดน้ำยังคงไหลจากเส้นผมสีดำของเขา ลงมาสู่แอ่งชีพจรของเธอ จนเมื่อป๋อจิ่วที่ถูกผ้าเช็ดตัวพันตอบรับ ความร้อนฉ่าบนร่างคลายลง
ฉินมั่วยิ้ม แต่ไม่เลยไปถึงสีหน้า “ใช่ไหม?”
ป๋อจิ่วคิดว่าเขาไม่น่าจะแสดงปฏิกิริยาดังกล่าวออกมา กำลังจะเอ่ย ทว่าชายหนุ่มกลับช้อนสายตาขึ้นมาก่อน ความร้ายกาจล้นออกมาทางหางตา “ตอนแรกก็คิดว่าป๋าชอบแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเธอไม่อยู่ในสภาพที่พร้อม ไม่งั้น…”
ฉินมั่วก้มตัวลง ฟันขาวๆ งับบนใบหูเธอ ลมหายใจร้อนระอุ ทว่านัยน์ตากลับไม่เหลือความอบอุ่น “จะทำอะไรยังไงก็ได้”
ป๋อจิ่วไม่ตอบ เพราะเสียงเคาะประตูดังขึ้น สถานที่แบบนี้ ระบบกันเสียงย่อมไม่ดี แม้เสียงดังกล่าวจะถูกประตูกันไว้ถึงสองชั้น ก็ยังได้ยินอยู่ดี ซึ่งเป็นเสียงจากเฮียเจ้าของโรงแรมนั่นเอง “อาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณลูกค้าตื่นแล้ว รบกวนมารับที่หน้าประตูด้วยนะครับ”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วถึงกับเลิกคิ้ว “ที่แบบนี้มีอาหารเช้าให้ด้วย?” ใช่ว่าเธอจะไม่เคยพักในโรงแรมเล็กๆ แบบนี้ อุตส่าห์มีน้ำร้อนให้ก็เลิศแล้ว แต่นี่ยังมีอาหารเช้า แถมเจ้าของโรงแรมยังมาเสิร์ฟเองอีกต่างหาก
น้องจิ่วที่แสนจะใสซื่อ จะไปรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อคืนเฮียเขาโดนท่านเทพเขย่าขวัญเข้าให้ อย่าว่าแต่อาหารเช้า กระทั่งอาหารชาวฮั่นและแมนจูที่จัดวางในงานเลี้ยงอย่างมากมายขนาดที่กินกันสามวัน ก็ยังทำให้ได้
“ฉันไปเอาเอง”
ผัวะ! ฉินมั่วเปิดประตูห้องน้ำ ก่อนจะโยนเสื้อผ้าเข้ามาให้สองตัว จากนั้นจึงสวมกางเกงสีดำ ทุกกิริยาของเขาล้วนแต่เท่มาก ทั้งฉับไวและแสนสง่า ซึ่งหากเทียบกับฉินมั่วในยามปกติ เรียกว่าต่างกันเลยทีเดียว
ในระหว่างที่เปิดประตู เฮียที่อยู่นอกประตูก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ มือที่แบกถาดอาหารที่ทำจากเนื้อไม้ถึงกับสั่นเทา
เฮียขอยอมรับว่า ตนเองไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อลากดินเช่นนี้มาก่อน โดยเฉพาะตอนที่หยดน้ำไหลจากเส้นผมของชายหนุ่มด้วย สภาพเช่นนี้แหละ ถึงได้เหมือนกับพวกจอมมารในการ์ตูนอย่างไรล่ะ แววตาของชายหนุ่มที่เย็นจนแทบจะจับเป็นน้ำแข็ง และดูเหมือนเจ้าตัวจะอารมณ์ไม่ดี
น่าไม่หรอกมั้ง
เขาคงไม่โดนไพ่ปักมือเหมือนเมื่อวานหรอกนะ?
“ไปได้แล้ว” เวลาที่ของเล่นไม่ได้อยู่ด้วย ฉินมั่วก็ไม่แคร์ที่จะปล่อยความเหี้ยมออกมาทางสีหน้า ส่งผลให้เฮียตัวสั่นเทา รีบส่งถาดอาหารให้อีกฝ่ายโดยไม่พูดพล่ำทำเพลง แล้วเดินจากไปทันที
เวลานี้เขาอดนับถือเด็กคนที่พยุงชายหนุ่มเข้ามาในโรงแรมไม่ได้ จะว่าไป ตอนนั้นเด็กคนนั้นทำท่าเหมือนกับว่า เพื่อนที่พามาอ่อนแอหนักหนาสาหัสสากรรจ์ ชนิดที่หากมีอะไรมาชน ชายหนุ่มก็จะเจ็บปวดมหันต์ เล่นเอาเฮียเข้าใจว่าอีกฝ่ายบอบบางราวกับแจกันดอกไม้ที่แพงระยับ แต่หมอนี้เหมือนแจกันดอกไม้ที่ตรงไหนไม่ทราบ เป็นจอมมารชัดๆ!
แต่เจ้าเด็กนี้กลับทำอย่างกับว่า หมอนี่เป็นเจ้าชายที่เปราะบาง เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าวะ…
……………………………………………..
ตอนที่ 1707
อาหารเช้ามื้อนี้มากมายเป็นพิเศษ ทั้งขนมปัง ผลไม้ และนม ล้วนแต่สดใหม่
ป๋อจิ่วถือแก้วนม มองดูท่านเทพที่นั่งตรงข้าม ที่นี่ไม่น่าจะอำนวยความสะดวกให้ถึงขนาดมีอาหารแบบฝรั่งให้
แสงอาทิตย์กำลังดี แม้ว่าคนหนึ่งจะนั่งอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งกำลังยืน ต่างกินอาหารของตัวเองไป มุมปากก็ยังฉายแววหวาน ช่างเป็นชีวิตที่เรียบง่าย คงเพราะที่นี่ไม่มีใครรู้จักพวกเธอ ดังนั้นจึงไม่ต้องปลอมตัว แถมยังเป็นธรรมชาติได้สบาย ๆ
ฉินมั่วเปลือยท่อนบน ยืนอิงตรงนั้น ทว่าขาทั้งสองกลับยาวมาก จึงดูหล่อเป็นพิศษ แถมความสง่าจากเจ้าตัว
แค่เห็นก็เป็นสุขแล้ว เขาฉีกขนมปังแต้มแยมแล้วป้อนให้อีกคน คนบางคนก็รู้สึกว่าอร่อยมาก เขาถึงได้ลองบ้าง
ป๋อจิ่วไม่คิดเลยว่า ตัวเองจะกลายเป็นหนูทดลองอาหารให้ท่านเทพ เธอกินคำโตจนแก้มพอง
กิน เป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุขที่สุด
แล้วฉินมั่วได้พบว่า ไม่ว่าจะป้อนอะไรให้เธอ เธอก็รู้สึกอร่อยไปหมด กระทั่งชายหนุ่มยังไม่รู้สึกตัวว่า มุมปากของตนกำลังแยกยิ้ม
ฉินมั่วที่ไม่ได้อยากอาหารสักเท่าไร กลับกินเข้าไปไม่น้อย เขาหาข้อดีอีกข้อของของเล่นชิ้นนี้เจอแล้ว มองแล้วเจริญอาหารดี
วิธีการกินแบบนี้ ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็สิ้นสุด ป๋อจิ่วดื่มนมจนหมด จึงคว้าไดร์เป่าผมแล้วกดร่างฉินมั่วที่จะลุกขึ้น
ฉินมั่วเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร ก็รู้สึกถึงลมร้อนบนศีรษะ แถมด้วยนิ้วมือของยัยคนนี้ที่กำลังแหวกเส้นผมเขา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเธอจะทำอะไร ชายหนุ่มนั่งพิงเช่นนั้น สายตาปะทะกับเสื้อสเวตเตอร์ที่หลวมๆ บนร่างเธอ กลิ่นสะอาดสดชื่นจากการอาบน้ำ ลอยมาตามลมจากไดร์เป่าผมอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงอาทิตย์กำลังดี หรือว่าแรงของเธอกำลังเหมาะ ทำเธอขยับข้อมือไปเรื่อยๆ ฉินมั่วจึงไม่อยากผลักอีกฝ่ายออก ประกายแสงพาดผ่านนัยน์ตา
สีหน้าของป๋อจิ่วเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นท่านเทพว่าง่ายเช่นนี้ มันไม่ง่ายเลยนะ
ฉินมั่วไม่คุ้นต่อการที่ถูกคนอื่นยุงกับผมตัวเอง จึงขมวดคิ้ว เบือนหน้าหล่อๆ ออกไป
“อย่าหลบสิ” ป๋อจิ่วกดร่างเขาอีกครั้ง ยิ้มขึ้น “เมื่อก่อนพี่ออกจะชอบให้ฉันเป่าผมให้นี่ สระผมทีไรต้องเข้ามาอ้อนให้ฉันเป่าผมให้ทุกที”
ฉินมั่วได้ยินแล้ว แววตาขรึมทันที ไม่แฮปปี้หรอก แต่ไม่มีท่าทางโกรธอะไร แค่เขาไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องอดีต เพราะมันรู้สึกว่าเขาในตอนนี้ไม่มีตัวตน จากนั้น ฉินมั่วก็คว้าข้อมือเธอ ก้มจูบปลายนิ้วด้วยสัมผัสที่แผ่วเบา ทั้งยังดูเจ้าเล่ไปทั้งร่าง “ป๋าของฉันนี่เก่งจริง ๆ” ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกขึ้น แล้วยื้อเอาไดร์มาไว้ในมือ ก่อนจะโยนเข้าไปในห้องน้ำ ไม่แคร์ว่ามันจะพังหรือไม่
ป๋อจิ่วเองสังเกตเห็นความอ่อนโยนที่หายไปจากแววตาที่เย็นชาขึ้นของเขา ทว่าสีหน้าเขากลับไม่แสดงปัญหาใดใด ทั้งยังโอบให้เธอเข้าหา “ได้เวลาแล้ว อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องเล็กๆ อย่างนี้เลย ฉันสงสัยว่าเมื่อก่อนฉันเป็นคนยังไงกันแน่ พาฉันไปที่ที่คุ้นเคย ก็น่าจะช่วยฟื้นความทรงจำได้ ฉันรู้สึกสนใจเมืองเจียงเฉิงที่เธอพูดขึ้นมาแล้วล่ะ”
ควรจะต้องบอกว่า เขาอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอในอดีตมากกว่า แววตาฉินมั่วแดงขึ้น แฝงแววอันตราย โดยความอันตรายที่ว่านี้ ไม่ชัดแจ้งนักหรอก มันซ่อนอยู่ในก้นบึ้งนัยน์ตา
…………………………………
ตอนที่ 1708-1 รอวันกลับคืนสู่ทีมไดมอนด์
ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของท่านเทพ ล้วนแต่อยู่ในสายตาของป๋อจิ่ว ตั้งแต่ที่ต่อต้านในตอนแรกจนมาถึงการเอ่ยถึงในตอนนี้ แววตานั่นไม่เหลือความอุณหภูมิใดเลย เธอแค่ไม่เปิดเผยออกมาเท่านั้น ขอเพียงท่านเทพอยากกลับเมืองเจียงเฉิง ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดย่อมไม่เป็นไร
เหลืออีกไม่ถึงสามวันก็จะได้เวลาแข่งระดับเอเชียแล้ว เธอเคยเช็คกฎการแข่ง รวมถึงคู่แข่งที่ต้องเจอ
ทีมไดมอนด์ต้องการท่านเทพมาก กว่าจะมาถึงตรงนี้ไม่ง่ายเลยนะ เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว หากพลาดโอกาสที่จะได้ชัยชนะอีกครั้ง เพราะไม่อาจเข้าแข่งขันตามเวลาที่กำหนดได้ ทุกคนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่
หากเทียบกับทีมที่เพิ่งเปิดตัว ทีมไดมอนด์ไม่อยู่ในวัยสดใสอีกแล้ว แถมในสนามแข่งขันยังไม่เคยขาดผู้เล่นที่ทั้งเยาว์วัยและเก่งฉกาจ
คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบทีมหนึ่งๆ ตามที่ปากว่าจริงๆ หรอก การแข่งขันเพื่อคัดเลือกอย่างหฤโหด ถือเป็นหลักการพื้นฐานของวงการนี้ ไม่เพียงแต่ป๋อจิ่วที่เข้าใจ กระทั่งอวิ๋นหู หลินเฟิง เหราหรง หรือพวกนักกีฬาที่เล่นกันมานานล้วนแต่รู้ซึ้งเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอินอู๋เย่า ถึงปากจะบอกว่า อายุไม่ได้เป็นตัวรับประกันความเก่ง แต่ยังเข้าใจดีว่า นี่ไม่ใช่ยุครุ่งเรืองของตน
หลังจากที่แข่งในครั้งนี้เสร็จจะแข่งต่ออีกปีไหวไหม การเดินบนเส้นทางนี้ต่อไปหรือเปล่า ล้วนแต่เป็นชะตาที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้ พวกเขาสู้ทีมที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่ได้ คนพวกนั้นทั้งอายุยังน้อย ทั้งยังมีความสามารถชนิดไร้ขีดจำกัด ดังนั้นป๋อจิ่วถึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะพาท่านเทพกลับมาให้ได้ เธอรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ แม้ว่าเขาในตอนนี้จะลืมไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร เธอจะช่วยให้เขาจำได้เอง
หากเทียบกับบริเวณชายแดนที่ไร้กฎหมายควบคุมอันล้าหลังแล้ว เมืองเจียงเฉิงที่เจริญรุ่งเรืองได้ทำประกาศการแข่งขันระดับเอเชียไปทั่ว ไม่ว่าจะในโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ ขอเพียงแค่เป็นเกมเมอร์ก็ล้วนแต่รู้ว่า การแข่งขันระดับเอเชียที่น่าตื่นตาตื่นใจ จะถูกจัดในเมืองเจียงเฉิง
ไฟในคลับตระกูลฉินสว่างทั้งคืน เหยาเย่าเองก็ทำราวกับอาศัยในอินเทอร์เน็ตบาร์ไปเสียแล้ว พนักงานส่งอาหารเดลิเวอร์ลี่ส่งอาหารที่อินเทอร์เน็ตบาร์ตลอด อาหารชุดราดข้าวราคาเพียงสิบหยวน แต่มีกับข้าวหลายประเภทเช่น เนื้อผัดพริกไทยดำ หมูผัดพริกหยวก ผัดสามสหาย[1]เป็นต้น ลูกค้าในช่วงกลางวันมีไม่ค่อยเยอะ จนเมื่อถึงตอนกลางคืนที่ล้วนแต่มาเล่นแบบไม่หลับไม่นอน ก็จะสั่งมาทานกันตอนเที่ยงคืน
เมื่อก่อนเหยาเย่าลดความอ้วน จึงไม่กินอาหารมื้อเย็น แต่ตอนนี้เพื่อให้ตัวเองคุ้นเคยกับสนามแข่ง เธอฝึกเล่นมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า เวลาหิวก็สั่งมากินชุดหนึ่งเหมือนคนอื่นๆ ในร้าน ตอนนี้เธอพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ทั้งยังมีแฟนคลับในโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน อินอู๋เย่าจึงเตรียมหมวกให้เธอใบหนึ่งเป็นพิเศษ เฟิงซ่างที่นั่งอยู่ข้างเธอก็พลอยสวมหมวกไว้เช่นกัน
ตอนแรกโคโค่กะจะมาขอข้าวกิน จึงแปลงโฉมตัวเองตรงหน้ากระจกเต็มที่ หลังจากเสร็จสิ้น หนุ่มน้อยน่ารักสายแมวเหมียวก็ค่อยๆ เดินผ่านเหล่าแฟนคลับสาวๆ ที่รอตนเองใต้ตึกถึงสิบกว่าคนออกมาจนสำเร็จ แววตาเจ้าตัวก็ถึงกับยิ้มแย้ม หยิบมือถือมาส่งข้อความเสียงให้อินอู๋เย่า “เฮีย ฉันอยากเล่ามาก ฉันโคตรจะเก่งเลย ไม่มีใครจำได้สักคน เดี๋ยวจะถึงแล้วนะ!”
ส่วนเฮียคาบบุหรี่ไว้ในปาก กดข้อความเสียงฟังก็เงยหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอะไร คนอย่างโคโค่ ต่อให้แปลงโฉมอย่างไร คนเขาย่อมจำได้อยู่ดี แต่ก็จนใจ เพราะโคโค่ไม่เคยรู้ถึงปัญหาที่ว่า เอาแต่ดีอกดีใจแสดงท่าทีน่ารักออกมา เขาปิดกระทั่งดวงตาตัวเอง แต่ดันลืมถอดหูกระต่ายขนนุ่ม
ก็ใกล้จะถึงวันคริสมาตร์แล้วนี่นะ ในฐานะที่เป็นผู้ชายติดบ้าน เขาย่อมอยากรู้อยากเห็นต่อทุกเรื่อง
…………………………………………….
[1] ผัดสามสหายประกอบไปด้วยพริก มันฝรั่ง และมะเขือยาว