Black Tech Internet Cafe System - ตอนที่ 212
ตั้งแต่ซงฉิงเฟิงดูขี่พายุทะลุฟ้าตอนล่าสุดจบเขายังคงตื่นเต้นทุกครั้งที่เล่าถึงมัน
“ทรงพลังหรอ!?” ถึงแม้ว่าตำนานเกี่ยวกับนักรบที่ทรงพลังจะสามารถทำลายภูเขาแม่น้ำหรือพื้นพิภพได้อย่างง่ายได้ แต่ก็ไม่มีใครเคยได้ยินเทคนิคดาบที่ทรงพลังเช่นนั้นมาก่อนแม้แต่นาหลัยฮงวูเองก็เช่นกัน
ทุกอย่างถูกตรึงราวกับเวลาหยุดลง ดูเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถทำได้!
ใครจะไปเชื่อ .. แม้แต่นาหลันฮงวูยังไม่เชื่อ นอกจากนี้เขาเองยังบอกว่าละครเรื่องนี้มีประโยชน์สำหรับนักรบที่ต้องการพื้นฐานแค่นั้น
เขา่เชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง
“ข้าเห็นด้วย!” ตงชิงลี่ที่เพิ่งรู้สึกตัวจากอาการตกใจ “เทคนิคดาบระดับยี่สิบสามมันไม่ใช่ของมุนษย์ มันช่างน่ากลัวจริงๆ”
“ข้าเห็นด้วย!”
“ข้าก็ด้วย!”
พวกเขาเป็นอาจารย์ของบ้านหวังจากสำนักหลิงหยวน พวกเขาอยู่ในระดับที่ยังไม่สูงมากนัก
นาหลันฮงวูทำหน้าเซ็งเขาหันไปหาฟางฉีเพื่อขอความเห็น “นี่เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดยังไง?”
“ท่านหมายถึงเทคนิคดาบระดับยี่สิบสามน่ะหรอ?” ฟางฉีเกาหัวและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านรู้มั้ยทำไมข้าถึงยังดูละครขี่พายุทะลุฟ้า เพราาะเทคนิคการควบคุบดาบของข้าเริ่มเข้าสู่ระดับสูงขึ้นแล้ว”
นาหลันเงียบ “…”
ทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการดูละครเรื่องนยี้ทำหน้าเซ็ง
“มัน .. จริงหรอ!?”
จากนั้นพวกเขาก็ตะโกนตามๆ กัน “ท่าน! เปิดใช้งานละครขี่พายุทะลุฟ้าให้ข้าที!”
“มันอยู่ตอนไหน ข้าจะดู!”
“หรือเพราะพวกเจ้ายังอยู่ในระดับต่ำเลยมองผิดไป!?” นาหลันฮงวูยังคงไม่เชื่อว่าจะมีเทคนิคแบบนี้บนโลก
นักรบระดับต่ำ? เช่นนั้นหากคำกล่าวอ้างเป็นจริงว่าดาบระดับยี่สิบสามเป็นจริงแม้พวกเขาจะมีระดับต่ำหรือสูงก็สามารถเรียนรู้ได้น่ะสิ
หลายคนแน่ใจว่าหากเทคนิคดาบนี้ปรากฏขึ้นโลกทั้งใบจะต้องพลิกผันไปอย่างแน่นอน
“ช่วงสุดท้ายของตอนที่สิบสอง!” มีคนตะโกนขึ้นในไม่ช้าหลายคนที่สงสัยก็ตามไปเฝ้าดู
พวกเขาที่เฝ้าดูเห็นฉากที่นักบวชกำลังเดินขึ้นบันไดของสหภาพโลกในตอนแรกหลายคนยังคงไม่เข้าใจว่าชายชราคนนี้น่ะหรอที่จะสามารถใช้เทคนิคดาบทำลายล้างโลกได้ .. แต่อย่างไรก็ตามไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเขาต้องตกใจจนอ้าปากค้า
เมื่อเห็นว่านักบวชได้แสดงเทคนิคดาบระดับยี่สิบสาม .. สิ่งที่ทุกคนเห็นทำให้พวกเขาตะลึง สมองของพวกเขาว่างเปล่าเนื้อตัวสั่นเทา
“เขา .. เขาเป็นนักรบหรือ? ถ้าเช่นนั้นพวกเขาคืออะไร!?” นาหลันฮงวูและนักรบคนอื่นตัวแข็ง
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักรบท่านนี้จะมีพลังอำนาจมากกว่าคนอื่นๆ เป็นไปได้อย่างไร!?
“นี่เจ้าหนุ่ม .. เราจะเรียนรู้เทคนิคดาบนี้ได้มั้ย?” คราวนี้นาหลันฮงวูเปลี่ยนใจที่จะหันมาสนใจเทคนิคดาบในละครเรื่องนี้
เขารู้สึกว่านักบวชได้พัฒนาเทคนิคดาบนี้ในตอนนี้เขาก้าวพ้นขอบเขตแห่งความตาย แต่ .. คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงหรือคัดลอกความตายในแบบที่เขาทำได้!
ฟางฉีถามกลับ “ท่านคิดเห็นอย่างไร?” ถ้าข้าเรียนรู้ไม่ได้ข้าจะดูมันไหมละ .. ฟางฉีคิด
ฉากที่นักบวชได้แสดงถึงเทคนิคดาบระดับยี่สิบสามนั้นมันเป็นเหมือนกับตำราเรียนของเทคนิคดาบนี้ กล่างอีกอย่างคือเทคนิคนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่องจาก นักบวชพบว่าเขาเริ่มเข้าใจชีวิตและความตายแต่ถึงมันจะมีการพัฒนามันก็มีข้อจำกัดในการใช้อยู่ดี
“มันหมายความว่าไง ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเรียนรู้ได้หรือ?” นาหลันฮงวูถาม
ฟางฉีตอบ “ใช่! เทคนิคนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้!”
แม้แต่เขานักรบแห่งจักรพรรดิเองยังคงไม่เข้าใจเลย .. นาหลันฮงวูคิดในใจ สำหรับเขาอาจมีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะพอเข้าใจแนวคิด
“ข้าตัดสินใจแล้ว!” นาหลันฮงวูพูดขึ้น “ข้าจะมุ่งความสนใจไปที่ละครเรื่องนี้!”
“เปิดใช้งานทั้งสิบสองตอนของละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าให้ข้าที!” เหลียงเหอหูตะโกนขึ้นเสริม
“ขณะที่พวกเราดูมัน” นาหลันหมิงสื่อพูดขึ้น “ข้าว่าเราควรจะแนะนำให้แก่ผู้ปลูกฝัง เพราะเมื่อพวกเขาถูกหันเหความสนใจแล้ว เราจะได้มีโอกาสชนะพวกเขาในการแข่งขัน!”
เหลียงเหอหู “…”
ซงฉิงเฟิง “…”
ทุกคนมองเธอด้วยความงุนงง
ฟางฉีกลอกตา “นี่เป็นการแข่งขันสนุกๆ เจ้าต้องการทำสงครามจิตวิทยาหรือ?”
“หืม? ทุกอย่างคือสงคราม!” นาหลันหมิงสื่อยิ้มเยาะ “ไม่มีกฏนี่”
“ก็คงงั้น”
“ไปกันเถอะหลันยัน!” นาหลันหมิงสื่อชี้นิ้วไปที่ส่วนอีกมุมของร้าน ที่ซัวเต๋าและเหล่าสาวกของสำนักหลิงหยุนพักผ่อนอยู่ “เราจะไปนั่งแถวนั้นเพื่อคุยหารือเกี่ยวกับเทคนิคดาบระดับยี่สิบสามในเรื่องขี่พายุทะลุฟ้ากัน!”
จากนั้นเธอชี้นิ้วไปที่อีกมุมซึ่งมีคนจากกลุ่มโอเชียนอยู่ “หลินเซียวและซูเหลียว พวกเจ้าไปนั่งแถวนั้นเพื่อคุยเรื่องละคร หากพวกเขาถามก็แนะนำละครให้พวกเขาฟัง”
“เราจะไปที่คาเฟ่ฝั่งนู้น” องค์หญิงจียูเอ่ย
“…”
ฟางฉีทำหน้าเพลียขณะที่ดูพวกเขากระจายคนตามแผน
ในไม่ช้าเขาก็เห็นความก้าวหน้าในภารกิจของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว!
สองวันต่อมาผู้ปลูกฝังที่เคยอ้างว่าเรื่องขี่พายุทะลุฟ้านั้นไม่เห็นมีอะไรที่น่าสนใจ ในตอนนี้พวกเขาหลายคนมีรอยคล้ำใต้ตาจากการจับกลุ่มพูดคุยกันในช่วงดึก
“เจ้าของร้าน! ตอนที่สิบสามของขี่พายุทะลุฟ้าอยู่ไหน!?”
“การแข่งของพวกท่านกำลังจะเริ่มในหนึ่งวัน ทำไมพวกท่านมาสนใจละครกันตอนนี้!” ฟางฉีขมวดคิ้ว “จะทำการเพิ่มตอนในอาทิตย์หน้า!”
“ไม่นะ! มันไม่ยุติธรรม! นักรบจะมีเทคนิคดาบที่ทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร? แม้แต่คาถาจิตวิญญาณในกระบี่เทพสังหารยังไม่สามารถเทียบได้”
“กระบี่เทพสังหารมีราคาแพงกว่าขี่พายุทะลุฟ้า แต่ทำไมขี่พายุทะลุฟ้านั้นทรงพลังกว่า!?”
ฟางฉีไม่มีคำตอบ
ขณะเดียวกันหลันโมหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรวู่เว้ย, หัวหน้ากลุ่มบลูเฟรม, เยซงเต๋าและซัวเต๋าพวกเขารวมตัวนั่งอยู่กันบนโซฟา ท่าทางของพวกเขาดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
พวกเขาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันคนละหนึ่งถ้วย
“ท่านอาจารย์หลัน! ท่านเย! พวกท่านได้รับข้อความเช่นนี้หรือไม่?” ซัวเต๋ากล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
หลันโมกินไปคำหนึ่งก่อนจะตอบ “พวกเขาตัดทรัพยากรทั้งหมด ครอบครัวการเพาะปลูกขนาดใหญ่ในหยุนเตียนกำลังร่วมมือกันกดดันเรา!”
ผู้อาวุโสหยินหลงที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาเอ่ย “ท่านอาจารย์พวกท่านมีความคิดอย่างไร ข้ารอฟังอยู่!”
เยซงเต๋าที่ยุ่งกับการกินถามต่อ “ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรหรือท่านหลันโม?”
“หากก่อนหน้านี้เราไมม่เห็นเทคนิคดาบระดับยี่สิบสาม เราคงต้องทบทวนกลยุทธ์ของเราว่าเราจะสามารถหยุดพวกเขาได้มั้ย” หลันโมกล่าว
พวกเขาพยักหน้าตามคำพูดของหลันโม
“อย่างไรก็ตามข้าขอให้พวกเจ้าพูดคุยเรื่องนี้แค่ที่นี่เท่านั้น พวกเจ้าต้องรู้ว่าข้ากำลังจะวางแผนทำอะไร” เขากล่าวต่อ
“ยังไงก็ตามตั้งแต่ผู้อาวุโสสามารถสร้างเทคนิคที่น่ากลัวระดับยี่สิบสามได้ ใครจะไปรู้ว่าเขามีพลังมากถึงเปลี่ยนแปลงโลกของเราได้”
คนอื่นพยักหน้าและคิดว่าที่เข้าพูดมีประเด็น
“ดังนั้นข้าเลือกที่จะอุดหนุนร้านนี้ต่อไป ในส่วนของทรัพยากรของพันธมิตตรของวู่เว้ยของเรายังไม่มีแผนสำรอง!” หลันโมบอกพวกเขาว่าไม่ต้องกังวลล
เขาคิดในใจกับตัวเองว่าอย่างร้อยทรัพยากรของเราส่วนหนึ่งก็น่าจะค้ำจุนเราได้ซักพัก!
“พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลกับมันในตอนนี้! มากินกันต่อเถอะ”
“ซู้ดๆ ซู้ดๆ”
“…”