Black Tech Internet Cafe System - ตอนที่ 477 : ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนที่ 477 : ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
[มนุษย์เหล่านี้ยังกับขยะ] หนิงไปโพสต์ภาพหน้าจอที่เธอกําลังถูกล้อมด้วยเผ่าเซิร์ก
ซูเทียนจิถาม [เจ้ามาถึงส่วนนี้แล้วหรอ?]
นาหลันหมิงสื่อแทรก [ข้าเพิ่งต่อสู้เสร็จ ข้าไม่สามารถแบกมนุษย์เหล่านี้ได้]
ซุนหยุนพิมพ์ [พวกท่านเคยสังเหตไหมว่าคนส่วนใหญ่ในเกมนี้ดูคล้ายคนเถือนที่อยู่แถบตะวันตก?]
การพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของสตาคราฟในตอนนี้เป็นที่ฮอทฮิตที่สุด พวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราวการต่อสู้ในโหมดเนื้อเรื่อง ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบของแต่ละเผ่า
ณ ร้านที่หยวนหยางนอกเหนือจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วผู้เล่นหลายค้นเองเริ่มฝึกเล่นโหมดผู้เล่นที่สามารถจับคู่กับคนอื่นๆ ได้ บนหน้าจอมีการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 2 ทั้งสองฝ่ายคือกูถิงหยุน, หวังซี, ซงวูและถังหยู
หลายคนยืนให้กําลังใจหลังเก้าอี้
“เกมนี้ไม่เพียงทดสอบกลยุทธ์และยุทธวิธีเท่านั้น ระวังตัวให้ดี!” กูถิงหยุนดูมีประสบการณ์ขึ้นมากหลังจากพ่ายแพ้อย่างทรมานโดยเจ้าของร้าน
“โพรทอสแข็งแกร่งมาก มันจําต้องแยกทั้งความคิดและการทํางานหลายๆ อย่างพร้อมกัน” พวกเขาพูดคุยกัน
พลังของแต่ละเผ่านั้นกําลังก่อตัวราวกับว่าพวกเขารู้จิตใจและเข้าถึงพลังอย่างกับว่านั้นคือ พลังของพวกเขาอย่างแท้จริง พายุไซออนกลืนกินพื้นที่ขนาดใหญ่ตรงหน้าพวกเขาในทันที
ขณะเดียวกันมีบางสิ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืด มันคลื่นที่ด้วยความรวดเร็วในฐานก่อให้เกิดพายุรุนแรง
“เผ่าโพรทอสเชื่อมต่อกันด้วยพลังภายในเหมือนกันการสื่อจิตนั้นทําให้พวกเขาสามารถทํางานได้อย่างเรียบง่ายแถมเป็นหูเป็นตาได้ดี”
เงาดําแวบวาบ พลังงานกระบี่เงามืดเจาะเข้าไปยังเกาะป้องกันระดับสูง
“พระเจ้า!” ผู้ชมอุทาน หลายคนล้อมรอบเฝ้าดูการต่อสู้
เหล่าทหารโพรทอสที่เพิ่งฝึกใหม่มีระดับแข็งแกร่งต่ําสุด พวกเขาถูกควบคุมโดยซงวู กูถิงหยุนก็ไม่ต่างกันเขากําลังบังคับเหล่านาวิกของเขาเพื่อหลบคลื่นกระแทกจากการโจมตี
ซงวูกล่าวว่า “เกมนี้สามารถฝึกฝนกลยุทธ์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีการฝึกฝนพลังจิตอย่างมีประสิทธิภาพ”
ทหารที่อยู่ใต้การควบคุมของซงวูได้รับความเสียหายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ กูถิงหยุนได้ออกคําสั่งอย่างรวดเร็วให้เรียกทั้งกําลังเสริมและย้ายนักรบระดับสูงไปยังจุดอื่นโดยเครื่องบินกระสวย การดําเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น
เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกฝนเหล่านี้เรียนรู้ได้รวดเร็วและแข็งแกร่งมาก
ฟางฉีแอบแปลกใจเล็กน้อยจากการสังเกตการณ์จากด้านหลัง ชายชราคนนี้สามารถเรียนรู้ได้อย่างวรวดเร็วหลังจากเรียนรู้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ
“อื้อ! นักรบระดับสูงของข้าตกน้ํา” การดําเนินงานเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว เขาตบต้นขา
“…..”
ผู้ชมมองดูทหารฝึกของเขาที่ตกลงน้ําอย่างทุรนทุราย
ใบหน้าของกูถิงหยุนเปลี่ยนสี “เกมนี้มีประโยชน์มากในการเสริมสร้างพลังจิต!”
….
“ฮะ!?” บนห้องชั้นาสองของฟางฉี เขากําลังยืดเหยียดกาย แต่ภาพข้างหน้าทําให้แววตาของเขาเปลี่ยนไป
ข้างหน้าเขาคือชายหนุ่มคนหนึ่งยืนสวมมงกุฎสีม่วงทองพร้อมดาบสีม่วงเข้มในมือ
เขาคือจิงเทียนที่สามารถเอาชนะดาบปีศาจในเซียนกระบี่พิชิตมารสาม บางทีข้าอาจจะลองต่อสู้กับเขา ฟางฉีกําดาบแน่นและมองหน้าคู่ต่อสู้ด้วยความตั้งใจ
เขาสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณดาบที่เฉียบคมของคู่ต่อสู้ เทคนิคการใช้ดาบของจิงเทียนนั้นค่อนข้างหยาบ การเคลื่อนที่ของเขาเหมือนปรมาจารย์
เทคนิคดาบของฟางฉีนั้นซับซ้อนขึ้นมาก สไตล์ของเขาเป็นการผสมผสานเทคนิคจากทั้งตะวันออกและตะวันตก เทคนิคทางภูเขาชูและดาบสวรรค์ของวู่หมิง ซึ่งมีความแข็งแกร่งลึกล้ําและสง่างาม นอกจากนี้ยังมีท่าดาบสองมือของดันเต้อันกว้างและว่องไว
พลังดาบปะทะกันพวกเขาแลกเปลี่ยนการโจมตีหลายสิบครั้ง ภูเขาทั้งสองถูกเปิดออก
“เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่องๆ ” การแสดงออกอันน่ากลัวของฟางฉี เขายังคงบล็อกพลังดาบด้วยท่าทางอันว่องไวราวกับฟ้าแลบ
(ผู้แปล : จากแปลอิ้งเหมือนกับว่าฟางฉีฝัน)
….
ท้องฟ้าสีจาง คลื่นขุ่นขนาดใหญ่พุ่งขึ้น
ท้องฟ้าเหนือชายฝั่งทะเลเปลี่ยนจากแสงแดดส้มแดงกลับกลายเป็นความมืดในชั่วพริบตาราวกับว่ามันคืออีกโลกหนึ่ง
ดูเหมือนมีเสียงใครบางคนกําลังกระซิบอยู่ในเงามืด
“คนนั้น มาจากอีกฟากหนึ่งของทะเลสวรรค์”
“การโคจร”
“ซีจ่าวตายไปแล้ว ตระกูลเจียงจําต้องเข้าพื้นที่ต้องห้ามในตอนนี้หรือ?”
“เขาฆ่าทาสดาบของตระกูลหนานกงแถมยังทําลายดาบอมตะ”
“ความสามารถของเขาเป็นสิ่งที่กลุ่มนักโทษอาจโหยหา”
“โดยแท้จริง ความสามารถในการเข้าพื้นที่นี้มีเพียงแค่ทาสดาบเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นจะสร้างการเชื่อต่อระหว่างเขตต้องห้าม เขาทําในสิ่งที่ซีจ่าวเคยทํามาก่อน”
“ฆ่ามัน! เราต้องตัดการเชื่อมต่อในสถานที่ภายในเขตต้องห้าม”
“ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถหนีออกจากเราได้”
“ไม่.. เราไม่จําเป็นต้องยืมมือใคร”
เมืองเล็กๆ บนชายฝั่งอันเงียบเหงา แม้จะมีเสียงคลื่นดังแต่ก็ไม่สามารถปลุกขึ้นจากการหลับใหลในตอนนี้ได้ ร่างสองร่างที่ยืนอยู่บนหน้าผากําลังกระซิบกระซาบอะไรกันบางอย่าง
“หนานกง หลินแห่งวังดาบดูหยิ่งทนง”
“ดาบที่หักไม่กี่เล่มของตระกูลหนานกงกําลังจะตื่น”
“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขา ตระกูลโบราณจะไม่ปล่อยให้เขาผ่านไปแน่”
“บางทีเราอาจจะทําให้พวกมันเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม”
“เป็นความคิดที่ดี”
“….”
เสียงนั้นแผ่วเบาและห่างไกล ร่างทั้งสองหายไปพร้อมกับสายลมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น