Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก - ตอนที่ 114
เสียงระเบิดสร้างความโกลาหลให้กับบรรดาแขกในงาน แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะพยายามควบคุมสถานการณ์ก็ไม่เป็นผล
“ท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน! ขอความกรุณาอยู่ในความส… ”
ศีรษะของหน่วยรักษาความปลอดภัยถูกบีบแตกกระจายก่อนจะประกาศเสร็จ ภาพสยดสยองของฝูงชนที่ถูกเหล่าชนเถื่อนสังหาร เสียงกรีดร้องที่ดังเคล้าคลอกับเสียงระเบิดจากเปลวไฟ ราวกับอารัมภบทของภาพยนต์แบบบู๊ก็มิปาน
ฝูงชนที่เสียขวัญต่างวิ่งแตกกระจาย เหล่าชนเถื่อนสังหารทุกชีวิตเบื้องหน้าอย่างไม่แยกแยะ หน่วยรักษาความปลอดภัยที่พยายามระงับความวุ่นวาย เพียงช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีงานประมูลได้กลายเป็นงานประจันบาน
“องค์ชาย!”
คารัคร้องขึ้นอย่างร้อนรน อินกองรีบมองสำรวจแผนที่ย่อของเขา
จุดแรกที่เกิดการระเบิดอยู่นอกลานประมูล หรือก็คือความวุ่นวายเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วหัวเมืองทาก้า มิใช่แค่ ณ สถานที่จัดงาน
‘หน่วยโจรกรรม?’
หากชนเถื่อนจำนวนมากเคลื่อนพลเข้าใกล้ หน่วยลาดตระเวนของเมืองทาก้าย่อมเห็นความผิดปกติ ทำให้อินกองได้ข้อสรุปว่าเหล่าชนเถื่อนแบ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กกระจายตัวปะปน
จุดสีแดงในแผนที่ย่อของอินกองแสดงถึงศัตรูหรือเหล่าชนเถื่อน จุดสีน้ำเงินแสดงถึงมิตรหรือคณะเดินทางของเขา และจุดสีเทาฝ่ายกลางหรือผู้อาศัยในเมืองทาก้า
จุดสีแดงส่องสว่างมากที่สุดแสดงตำแหน่งของเพราโตส น้องชายของราชาชนเถื่อน และคาดว่าเป็นหัวโจกจัดงานสังสรรค์ให้กับชาวเมืองทาก้า
เพราโตสเดินยิ้มกริ่มไปยังเวทีกลางงานประมูล แสดงเจตนาอย่างชัดเจน
ของวิเศษเลิศเลอปานใดที่ทำให้ต้องเอิกเกริกเยี่ยงนี้?
เรื่องนี้ย่อมรู้ถึงหูวัลคาโน่ เจ้าเมืองทาก้าผู้ไม่ยอมใคร และเขาย่อมตอบโต้อย่างแน่แท้
สถานการณ์วิกฤติทำให้อินกองไม่มีเวลาคิดให้รอบคอบ อีกหนึ่งปัจจัยก็คือจุดสีน้ำเงินที่โผล่ขึ้นอย่างกระทันหัน
จุดสีน้ำเงินที่ว่าปรากฏไม่ห่างจากคณะของอินกองและกำลังพุ่งตรงไปยังเวทีลานประมูล นอกจากคณะของอินกองแล้ว มีบุคคลเพียงหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นมิตรกับอินกอง
‘นาตาช่า!’
ซัคคุบัสสาวในชุดรัดรูปสีดำเปลือยต้นขา อินกองสติหลุดลอยนึกถึงความทรงจำจากในเกมชั่วครู่ก่อนจะตั้งสติอีกครั้ง แน่นอนว่าใบหน้าของนาตาช่าแสดงให้เห็นถึงความสับสนกับสิ่งที่เกิดเช่นกัน
“องค์ชาย!”
ในที่สุดการตะโกนเรียกเตือนสติจากคารัคก็เป็นผล อินกองรีบนำยุทโธปกรณ์ออกจากช่องเก็บของแล้วแต่งตัว
ไวท์อีเกิ้ลติดแขนซ้าย พสุธากัมปนาทสวมแขนขวา และฮูกคุ้มภัยคลุมไหล่
เนื่องจากพสุธากัมปนาทได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับอินกอง เสียงคำรามจึงไม่ดั่งสนั่นอย่างเคย ทว่าประกายแสงตามอักขระกลับเรืองขึ้นเจิดจรัสกว่าที่ผ่านมา
“ขอรบกวนด้วยครับนูนะ”
เคทลินเตรียมตัวในทันที นางพับชุดราตรีเพื่อให้ขยับร่างกายได้คล่องแคล่วแล้วเคลื่อนลมปราณ
ผิดกับเฟลิซีถามถึงคำไหว้วานอย่างสับสน
“ฉัตร?”
“พวกชนเถื่อนจากนอกเขตแดน!”
อินกองตะโกนตอบพลางรีบมุ่งหน้าไปยังเวทีประมูล มีเสียงจากเฟลิซีดังขึ้นเล็กน้อย แต่ในตอนนี้นาตาช่าสำคัญกว่า
เวลาไม่เคยรอใคร ในขณะที่อินกองมัวเตรียมตัว เพราโตสก็อยู่กลางเวทีเรียบร้อย เขาสังหารเหล่าเจ้าหน้าที่ก่อนจะโยนม้วนกระดาษระเบิดเพิ่ม จากนั้นก็เดินเข้าด้านหลังเวที
ด้านนาตาช่าก็พุ่งเป้าไปที่ด้านหลังเวทีเช่นกัน ดูเหมือนนางพยายามสะกดรอยเพราโตส
อินกองกระโดดฝ่าเปลวไฟขึ้นไปบนเวที เสียงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายดังขึ้นจากด้านหลังของเวทีเป็นระยะ
“เพราโตส!”
อินกองไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดด้านหลังเวที เขาทำได้เพียงร้องตะโกนดึงความสนใจที่ไม่ได้ผลสักเท่าไร เมื่อเขามาถึงบริเวณที่เก็บของเตรียมประมูล เขาก็พบว่าพนักงานและยามส่วนใหญ่ล้วนเสียชีวิตตามคาด
แน่นอนว่าเพราโตสที่กำลังใช้มือบีบศีรษะยกตัวพนักงานขึ้นหยุดชะงัก ก่อนจะหันชำเลืองมองมาทางอินกอง
แววตาคู่นั้นจดจ้องมาแต่อินกองไม่สนใจ อินกองมองสำรวจสิ่งของเตรียมประมูลตรงหน้าพลางชำเลืองมองแผนที่ย่อของเขา จุดที่แสดงถึงนาตาช่าได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย คาดว่าเป็นผลจากทักษะบางอย่างของนาง ถึงกระนั้นสมบัติตรงหน้าไม่สามารถหลุดลอดสายตาของเขาได้
‘หมวกมังกรทองแห่งราชา!’
ของวิเศษชิ้นนี้มีมูลค่าที่พิเศษในตัวต่างไปจากของระดับ A ทั่วไป นั่นทำให้อินกองจดจำมันได้
หมวกที่ว่าถูกแกะสลักด้วยทองเป็นรูปมังกรตรงตามชื่อของมัน
หมวกมังกรทองแห่งราชา สัญลักษณ์ที่แสดงถึงราชาเทราโตส ราชาชนเถื่อนในอดีตผู้เลื่องลือ
#เท-รา-โตส
ในที่สุดอินกองก็เข้าใจว่าทำไมเพราโตสถึงเปิดตัวอย่างเอิกเกริก
สำหรับบุคคลทั่วไปสิ่งนี้คงเป็นเพียงหมวกทองคำธรรมดา แต่สำหรับเหล่าชนเถื่อนแล้ว สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอำนาจ สัญลักษณ์แห่งผู้นำที่ไร้ข้อกังขา สัญลักษณ์ของราชาชนเถื่อน!
เพราโตสบีบกะโหลกยามจนแตกแล้วขว้างใส่อินกองราวกับสิ่งของ นี่ไม่ใช่การจู่โจมแต่เป็นเพียงคำขู่ หรืออีกนัยหนึ่งคือการทักทาย แน่นอนว่าอินกองสามารถหลบได้โดยง่าย เขาชำเลืองมองแผนที่ย่ออีกครั้ง
“กีวี่!”
โล่ไวท์อีเกิ้ลแตกออกเป็นสองบินจู่โจม ภาพตรงหน้าทำให้เพราโตสประหลาดใจเล็กน้อย อินกองอาศัยช่องโหว่ที่เกิดขึ้นพุ่งกระโจนเข้า
เคล้ง!
อินกองถีบพื้นอีกครั้งระหว่างพุ่งกระโจนเพื่อเปลี่ยนทิศทางแทนที่จะโจมตี เพราโตสคาดเดาความคิดของอินกองออกและพยายามกระโดดเข้าตะครุบตัว แต่ก็ถูกโล่บินทั้งสองสะกัดเอาไว้
อินกองเงื้อมมือออกไปหยิบกล่องแก้วชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าภายในกล่องนี้ก็คือหมวกมังกรทองแห่งราชา เวทมนตร์สัญญาณกันขโมยทำงานขึ้นแต่อินกองก็ใช้พลังแห่งอาณัติเข้าสยบมันไว้ จากนั้นเขาก็ส่งสมบัติชิ้นนี้เข้าช่องเก็บของ
เพราโตสพยายามพุ่งหาอินกองโดยไม่สนใจโล่ทั้งสอง ทว่าไวท์อีเกิ้ลและแบล็คอีเกิ้ลไม่ได้มีเจตนาโจมตี โล่ทั้งสองคอยสะกัดกั้นและบดบังสายตา การฝ่าไปจึงมิใช่เรื่องง่าย
อินกองอาศัยโอกาสนี้หยิบของวิเศษชิ้นอื่นเพิ่ม เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นของวิเศษเหล่านี้ย่อมเสียหาย เช่นนั้นหากมันจะหายไปสักชิ้นสองชิ้นก็คงไม่ส่งผลอะไร แน่นอนว่าในบรรดาสิ่งของเหล่านี้ย่อมมีสิ่งของที่นาตาช่าเล็งเป้าไว้เช่นกัน
#ข้ออ้างอันชอบธรรม(?)ของหัวขโมย
‘งานรองของนาตาช่าคือโจร!’
ถึงนางจะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในองครักษ์ของแซเฟียร์ แต่นางชำนาญด้านงานโจรกรรมข้อมูล
ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข่าวสารหรือการปล่อยข่าวลวง เรียกได้ว่านางเป็นเพียงองครักษ์แค่ในนามเท่านั้น
นอกจากนี้ความสามารถในการซ่อนตัวของนางก็เป็นที่เลื่องลือในหมู่ผู้เล่น
อินกองใช้นาตาช่าในเกมอยู่บ่อยครั้งโดยมิได้คิดอะไร แต่เมื่อลองคิดดูแล้วนาตาช่าเรียนรู้ทักษะเหล่านี้จากที่ใดกัน? หรือจะเป็นทักษะตั้งแต่ก่อนตกเป็นทาส?
บางทีนาตาช่าอาจเข้ามาลอบขโมยสิ่งของในงานประมูล แต่ถูกจับได้จึงตกเป็นทาส
การคาดเดาอย่างไม่มีเบาะแส
ราวกับพิสูจน์สมมติฐานของอินกอง มีเสียงครางดังเล็ดรอดออกมาแผ่วเบา สิ่งของเตรียมประมูลหายไปในพริบตาที่สัมผัสมือของอินกอง ภาพนี้สร้างความประหลาดใจให้กับโจรสาว
“สารเลวเอ๊ย!”
‘นายท่าน!’
เสียงสบถดังจากเพราโตสพร้อมเสียงเรียกจากกรีนวินด์ นาตาช่ากลับหลังวิ่งในทันทีที่นางรู้ตัวว่าเสียงนางเล็ดรอดออกไป แต่อินกองใช้ทักษะพิเศษของฮูกคุ้มภัยเคลื่อนย้ายเข้าคว้าแขนของนางเอาไว้ทันการ
‘นายท่าน!’
กรีนวินด์ร้องบอกอีกครั้ง นางไม่สามารถสะกัดกั้นเพราโตสไปได้มากกว่านี้
“คารัค!”
อินกองดึงตัวนาตาช่าเข้ามาแล้วใช้ทักษะรับสั่งเรียกตัวคารัค
“พาตัวนาตาช่าออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด!”
“ด เดี๋ยวสิ!”
นาตาช่าส่งเสียงคัดค้านอย่างงงงวย เจ้าออร์คทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว มันเงยหน้ามองเพดานพลางอุทานอย่างตกใจ
“เฮือก! ไอ้นั่นมันอะไรกัน!”
ความโกลาหลทำให้ทั้งนาตาช่ากับเพราโตสต่างมองตามคารัคอย่างไม่ทันตั้งตัว
พริบตานั้นเองที่คารัคใช้สันมือของมันฟาดใส่ท้ายทอยของซัคคุบัสสาว
“อ๊า?”
นาตาช่าครางออกมาอย่างเจ็บปวด แผนการตีให้สลบไม่เป็นไปดั่งที่วางไว้แต่เจ้าออร์คก็มิสนใจ นางอาจยังมีสติแต่นางก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ เจ้าออร์คคว้าตัวนางแบกพาดไหล่แล้วเริ่มออกวิ่ง
อินกองกับเพราโตสต่างตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายความหมาย
นี่เป็นครั้งแรกที่เพราโตสเห็นซัคคุบัสนางนี้ แม้หลายสิ่งอย่างกำลังเกิดขึ้นแต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญสำหรับเพราโตสมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือหมวกมังทองแห่งราชา
การเล่นตลกของคารัคกับนาตาช่าทำให้อินกองชะงักไปชั่วครู่ วิธีการอาจจะผิดพลาาดไปบ้างแต่ผลลัพธ์ที่เกิดถือว่าสำเร็จลุล่วง
‘นายท่าน!’
กรีนวินด์ร้องเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความเสียใจที่ถูกเมินเฉย ในครั้งนี้อินกองเค้นลมปราณของเขาออกมาเตรียมต่อสู้
สายตาของเพราโตสจดจ้องมายังอินกองอย่างคลุ้มคลั่ง เขาไม่สนใจเรื่องที่ว่าใครจะมาช่วยปกป้องเมืองทาก้า ที่เขาสนใจคือหมวกมังกรทองแห่งราชาตกไปอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่น
โล่อีเกิ้ลทั้งสองที่คอยสะกัดกั้นเพราโตสบินกลับมาที่แขนซ้ายของอินกอง เสียงคำรามอันคุกรุ่นยังคงดังขึ้นจากพสุธากัมปนาท สิ่งที่ผิดแปลกคือเกล็ดของมันเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬและเริ่มกลืนกินแขนขวาของอินกอง
เพราโตสระเบิดเสียงคำรามศึกออกมา อินกองรู้สึกราวกับยืนอยู่ต่อหน้าสิงโตที่กำลังแผดเสียงคำราม เขาไม่สามารถละสายตาออกไปได้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด เขากำหมัดแน่นขึ้นพลางกระตุ้นไอพลังมังกรในร่างให้ไหลเวียน
ศัตรูตรงหน้าคือเพราโตส น้องชายของราชาชนเถื่อน ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นนักรบระดับหัวกะทิ
อินกองสูดหายใจเข้าอีกครั้ง แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น