Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก - ตอนที่ 39
#ลาเมีย(lamia) ตามตำนานเป็นหนึ่งในภรรยาของเทพซุส ก่อนจะถูกเทพีเฮร่าสาปให้กลายเป็นอสูรกายกินเด็ก ในเวลาต่อมาแผลงเป็นคำเรียกอสูรกายที่สามารถจำแลงแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ ก่อนจะแผลงเป็นคำเรียกอสูรกายจำพวกหนึ่งที่มีร่างครึ่งบนเป็นหญิงสาว ร่างครึ่งล่างเป็นงูในเวลาต่อมา
ดูเหมือนว่าต่อจากนี้เขาจะต้องเดินทางตามลำพัง
‘ไม่สิ เรายังมีคารัคอยู่นี่หว่า’
สักพักเฟลิซีก็หายไปพร้อมกับเหล่าสาวก พื้นที่รอบค่ายกลจึงเริ่มสงบขึ้น
แม้จะยังเหลือผู้ติดตามของคริสต์และเคทลินอยู่ แต่ก็มีจำนวนไม่มากและเป็นพวกเคร่งขรึมเสียมากกว่า คริสต์กระซิบบางอย่างกับเคทลิน ทั้งคู่หันมาชำเลืองมองอินกองก่อนจะเดินแยกไป
อาจจะดูเหมือนละเลย แต่ทั้งเฟลิซี คริสต์ และเคทลินต่างบอกเขาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้อินกองไม่คิดติดใจอะไรมาก
เขามีเพียงการประชุมสภาวันพรุ่งนี้ในตารางกำหนดการ เพราะที่นี่คือวังจอมมาร ทำให้ตารางของเจ้าชายกลับดูเรียบง่ายจนเหลือเชื่อ
อิสระเสรี แต่ถ้ามองในอีกแง่ก็คือการปล่อยปละละเลย
คริสต์กับเคทลินไม่ว่างเพราะต้องพบปะเหล่าขุนนาง ต่างกับฉัตรที่ไม่มีใครเลย
‘เรามีนัดกันตอนเย็น’
ทำให้เขามีเวลาให้ใช้ตามใจชอบในตอนนี้
‘ในที่สุดก็เงียบสงบ’
เหล่าผู้ติดตามรวมถึงประชากรที่มามุงดูต่างก็แยกย้ายกันไปทั้งหมด
คารัคมองไปรอบตัวราวกับหาอะไรบางอย่าง
“แกเป็นเจ้าชายใช่ไหม? รึว่าข้าเข้าใจอะไรผิดไป?”
“ผมเป็นเจ้าชาย”
ถึงจะไม่มีผู้ติดตามซักตน แต่เขาก็เป็นเจ้าชายอย่างไม่ผิดเพี้ยน
“ตามผมมา อย่างแรกเราต้องเก็บสัมภาระ”
“รับทราบ”
คารัคยกกระเป๋าขึ้นแบกเตรียมเคลื่อนย้าย
“ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายเก้าเพคะ”
มีเสียงเรียกดังขึ้นจากเอลฟ์รัตติกาลรูปงามในเครื่องแบบที่ปรากฏตัวขึ้นตรงประตูทางออก
‘อาฮ์ ในที่สุด’
ไม่ว่าจะอย่างไร มันดูผิดธรรมเนียมอย่างมากหากเจ้าชายไม่มีผู้รับเสด็จ
“ผู้ติดตามองค์ชายสินะ? ถ้างั้นแกก็คือเพื่อนร่วมงานข้า”
คารัคถามออกมาพร้อมรอยยิ้ม แต่เอลฟ์รัตติกาลนางนั้นเมินมันแล้วเดินเข้าหาอินกอง
‘สวยแฮะ’
ด้วยผมสั้นตรงสีม่วงและเรือนรางอันผอมเรียวของเอลฟ์รัตติกาล นางดูเสมือนสาวงามตามชนเผ่าตะวันตก
‘แต่ก็แปลกที่เป็นเอลฟ์รัตติกาลไม่ใช่คนธรรพ์’
สิ่งสำคัญคือการที่เขามีผู้ติดตาม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสตรีโฉมงามอีกด้วย!
อินกองระงับความตื่นเต้นทั้งหมดเอาไว้พร้อมกับกระแอมวางมาดให้สมเป็นเจ้าชาย เอลฟ์นางนั้นมองสำรวจตัวเขาก่อนจะกล่าวบางสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมา
“ใต้ฝ่าพระบาทใช่องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณาสินะเพคะ?”
“หืม? ทำไมรึ?”
หรือว่าเขาไม่ใช่ฉัตร? หรือว่านางจะไม่ใช่ผู้ติดตามของเขา?
“ข้าพระพุทธเจ้ามีนามว่าฟลอร่า เซเว่นโซร์ดจากกรมบ้านและที่ดิน เป็นบุญญาธิการอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าใต้ฝ่าพระบาทเพคะ”
ฟลอร่ายังคงกล่าวรายละเอียดต่อไป
“ข้าพระพุทธเจ้าได้รับข้อมูลความสำเร็จมาว่า ใต้ฝ่าพระบาททรงสามารถเลือกที่พำนักแห่งใหม่ได้เพคะ”
“ฮะ?”
บ้านใหม่?
สาเหตุที่เขาแปลกใจนั้นง่ายมาก แม้สามารถใช้ความสำเร็จแลกสิทธิ์ได้หลายอย่างในบทกวีแห่งผู้กล้า แต่ไม่เคยมีบ้านหรือที่ดินให้เขาเลือกเลยสักครั้ง
‘สงสัยเพราะเป็นแซเฟียร์’
แซเฟียร์พักในคฤหาสน์ที่ได้รับจากญาติฝั่งแม่ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องย้ายที่อยู่ และในความเป็นจริง คฤหาสน์ของเขาก็เรียกได้ว่าดีที่สุดในเขตพระราชวังจอมมาร
ทว่าต่างออกไปในกรณีของฉัตร มีคฤหาสน์หรูหรามากมายที่ดีกว่าบ้านของเขาในปัจจุบัน
‘ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ’
อินกองตัดสินใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยินดี
“เราเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราควรไปยังกระทรวงเกียรติยศเพื่อเลือกใช่หรือไม่?”
“ถูกต้องแล้วเพคะ ใต้ฝ่าพระบาทประสงค์ให้ข้าพระพุทธเจ้านำทางหรือไม่เพคะ?”
“เชิญ”
อินกองรู้ตำแหน่งที่ตั้งของกระทรวงเกียรติยศดีอยู่แล้ว แต่เขาเลือกให้ฟลอร่านำทาง เผื่อกรณีสถานที่ตั้งอยู่ต่างไปจากในบทกวีแห่งผู้กล้า
“รับทราบเพคะ”
ฟลอร่าตอบรับก่อนเริ่มเดินนำทาง
คารัคมองแผ่นหลังนางแล้วหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่า แกเป็นเจ้าชายจริงด้วย”
“ก็ผมเป็นเจ้าชาย”
อินกองยักไหล่ก่อนเดินตามฟลอร่าไปพร้อมเจ้าออร์ค
&
วังจอมมารไม่ได้ใหญ่โตและอึมครึมน่ากลัวอย่างในเกมทั่วไป
นอกจากมีพระราชวังและป้อมปราการแล้ว ยังมีบ้านพักคฤหาสน์หลากหลาย เรียงรายตามถนนทางเดิน จนดูเสมือนเมืองเสียมากกว่า
เลยไปทางทิศเหนือจากวังจอมมาร ผ่านทางคดเคี้ยวในป่า จึงปรากฏหอคอยอันเป็นที่ตั้งของกระทรวงเกียรติยศ ในหอคอยมีการติดตั้งค่ายกลเคลื่อนมิติไว้ ทำให้พวกเขาเดินทางไปได้ง่าย
‘ค่ายกลอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ห้องกระทรวงอยู่ที่ชั้นสอง เหมือนกับในบทกวีแห่งผู้กล้า เป๊ะ’
ถึงกระนั้น การเห็นของจริงด้วยตาก็ต่างจากที่เห็นผ่านเกม
ฟลอร่านำทางพวกเขาจนถึงหน้ากระทรวงก่อนจะลากลับ ท่ามกลางความเสียดายของอินกอง แต่นางก็ทำหน้าที่เสร็จสิ้น
อินกองมองไปยังป้ายที่เขียนว่า ‘กระทรวงเกียรติยศ’ บนประตูขนาดใหญ่ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด
‘คิดถึงจริงๆ’
หากพูดถึงสถานที่อันคุ้นเคยมากที่สุดของเขาในบทกวีแห่งผู้กล้า นั่นย่อมเป็นกระทรวงเกียรติยศแน่นอน นอกจากนี้อิซเบล เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงแห่งนี้ ยังสร้างความประทับใจให้เขาอย่างมาก
อินกองพึงพอใจในความหลังเหมือนตอนที่เขาจดจ้องแวนเดล ก่อนจะตัดสินใจก้าวผ่านประตู
ภายในกระทรวงไม่ได้โอ่อ่ามากมาย เป็นเหมือนห้อง VIP ตามธนาคาร มีโต๊ะตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบพร้อมเจ้าหน้าที่ตนหนึ่ง
ลาเมียผมแดงที่ดูชาญฉลาด
นางคืออิซเบลที่อินกองคิดถึง
ชุดของนางดูเรียบง่ายเหมาะกับลาเมีย นางกำลังจัดการเอกสารบางอย่างอยู่ก่อนจะเหลือบมาเห็นอินกอง
เขาเดินไปหานางที่โต๊ะ
“องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณา”
อิซเบลอุทานขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนมาดมืออาชีพของนางจะกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
“อิซเบลแห่งกระทรวงเกียรติยศน้อมรับองค์ชายเก้า”
นางทักทายเขาอย่างนอบน้อมก่อนจะกล่าวต่อ
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้ามีโอกาสต้อนรับการมาเยือนครั้งแรกของท่าน”
‘เหมือนนางจะไม่รู้จักเราสินะ’
นางบอกว่านี่เป็นการมาเยือนครั้งแรกของฉัตร หรือก็คือเขาไม่เคยมีผลงานเลย
มันน่าเสียใจจนเขาอยากร้องไห้ออกมา ทว่าเวลาทุกนาทีมีค่า เขาวางมาดเจ้าชายก่อนนั่งลงที่เก้าอี้รับรองอย่างสง่างาม
“เรามาตรวจสอบความสำเร็จ มีผู้มาแจ้งข่าวว่าเราสามารถเลือกที่อยู่แห่งใหม่ได้”
“กรุณารอสักครู่”
อิซเบลวาดนิ้วของนางไปบนอากาศก่อนจะมีภาพจำลองแสดงรายละเอียดปรากฏขึ้น
[องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณา]
[เกียรติยศ ขั้น 0 → 5]
[แต้มผลงานสะสม: 0 → 15,000]
[แต้มผลงานคงเหลือ: 15,000]
[ความดีความชอบจากปฏิบัติการปราบกบฏเผ่าสายฟ้าชาด]
ค้นพบถ้ำของดวอฟ/ประตูมิติ
เอาชนะกองกำลังของผู้นำไคชิน
สังหารไคชิน/ไคดุม หนึ่งในผู้นำเผ่าสายฟ้าชาด
ช่วยชีวิตเจ้าหญิงเฟลิซี ดูมเบลด
ทำลายคลังเสบียงของเผ่าสายฟ้าชาด
ค้นพบ/ยึดครองทั่งวัชรกร
เหรียญเกียรติยศระดับสูงสุดจากปฏิบัติการ
[ระดับเกียรติยศเปลี่ยนเป็นขั้น 5]
[สิทธิ์ใช้งานสิ่งปลูกสร้างในเขตราชวังเพิ่มขึ้น]
[เงินประจำเดือนเพิ่มขึ้นจาก 5 โกลด์ เป็น 500 โกลด์]
‘แค่ 5 โกลด์?’
นี่อธิบายการตกแต่งในกระโจมของเขาได้อย่างดี แม้แต่คารัคยังมีเบี้ยเลี้ยงประจำเดือนสูงกว่าเขา
แต่ในตอนนี้เงินประจำเดือนได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 500 โกลด์ และเกียรติยศเขาก็ขึ้นมาเป็นระดับห้า
สิ่งที่เพิ่มขึ้นยังไม่หมดเพียงแค่นี้
“น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ!”
อิซเบลอุทานออกมาอย่างชื่นชม แก้มของนางแดงระเรื่อ
“องค์ชายสร้างความดีความชอบจำนวนมากในภารกิจครั้งแรก นี่เป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดมาก อาจจะดูเสียมารยาทไปบ้าง แต่ในตอนแรกที่ได้รับรายงาน ข้าคิดว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น”
ราวกับเคทลินที่เอ่ย ‘สุดยอด’ ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน อินกองยิ้มรับคำชื่นชมก่อนจะตอบกลับไปอย่างสบายอารมณ์
“ขอบใจมากอิซเบล ทีนี้เราต้องการเลือกที่พักแห่งใหม่ทันทีได้ไหม?”
“รับทราบ กรุณารอสักครู่”
อิซเบลตอบพลางวาดนิ้วของนางอีกครั้ง สิ่งที่แสดงในครั้งนี้เป็นภาพจำลองขนาดใหญ่ของวังจอมมาร คล้ายคลึงกับภาพจำลองเทือกเขาจิชก้าที่เขาเห็นตอนใช้ประตูมิติ
“ท่านสามารถเลือกใช้หนึ่งในสามคฤหาสน์ที่ว่างอยู่ได้ ทั้งหมดเป็นคฤหาสน์ระดับสอง”
อิซเบลเลื้อยออกจากอีกฟากของโต๊ะมายังบริเวณแผนที่จำลอง มีแสงสีฟ้าลอยขึ้นมาจากสามจุดในแผนที่
ระดับของสิ่งก่อสร้างในวังจอมมารสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง เช่นพลังเวทที่สามารถรองรับได้ สิ่งปลูกสร้างที่สามารถแต่งเติมได้
อินกองคิดตัดสินใจระหว่างมองแบบจำลองตรงหน้า คฤหาสน์ทั้งสามอยู่ห่างออกไปในคนละทิศทาง ตะวันออก ตะวันตก ใต้
‘ถ้าอยู่ใกล้คริสต์ เคทลิน และเฟลิซีได้จะดีมาก’
คฤหาสน์ของเคทลินอยู่ทางทิศตะวันออก เฟลิซีอยู่ทางตะวันตก ทำให้ทิศใต้ถูกตัดทิ้งในทันที
‘ส่วนอนาสทาเชียกับแซเฟียร์ ให้ห่างสุดเท่าที่เป็นไปได้… ’
ท้ายที่สุดเขาก็เลือกคฤหาสน์ทางทิศตะวันออกก่อนจะเงยหน้ามองอิซเบล
“หลังนั้น”
“รับทราบ ข้าจะส่งเรื่องให้กรมบ้านและที่ดินดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้องค์ชาย”
จากนั้นอิซเบลก็ถามเขาเพิ่มเติม
“ท่านจะจัดการรางวัลความสำเร็จอย่างไร? ท่านต้องการรับในตอนนี้เลยหรือไม่?”
นั่นเพราะอินกองเลื่อนเกียรติยศจากขั้นศูนย์มาขั้นห้าในทันที และรางวัลในการเลื่อนระดับเพียงหนึ่งขั้นก็มีจำนวนมาก
‘รางวัลอาจไม่ใช่เงินทองหรือสิ่งของเสมอไปก็ได้’
เมื่อตอนเล่นแซเฟียร์ มีบ้างที่เขาได้รับรางวัลเป็นสัตว์พาหนะเช่นกริฟฟ่อน ฮิปโปกริฟ คิเมร่า
“เป็นไปได้ไหมหากเราต้องการให้ส่งไปยังคฤหาสน์ใหม่?”
“รับทราบ ข้าจะจัดการให้ตามความต้องการของท่าน”
อิซเบลยังคงตรงไปตรงมาเหมือนในบทกวีแห่งผู้กล้า
“ทีนี้ก็คำถามสุดท้าย องค์ชายฉัตร ท่านต้องการใช้แต้มผลงานในตอนนี้หรือไม่?”
คารัคสับสนเล็กน้อยเมื่ออิซเบลพูดถึง ‘แต้มผลงาน’ แต่อินกองเข้าใจในทันที
หน้าที่ของกระทรวงเกียรติยศไม่ใช่แค่เพียงจัดการความสำเร็จเพียงเรื่องเดียว
เมื่อระดับเกียรติยศเพิ่มขึ้นสายตาจากรอบข้างย่อมดีขึ้น และไม่เพียงแค่นั้น
แต้มผลงานยังสามารถนำมาใช้แลกสิ่งของตามร้านค้าได้ โดยการเสียแต้มผลงานผ่านวิธีนี้จะไม่ทำให้ระดับเกียรติยศลดลงแต่อย่างใด
อินกองใช้ความคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจ
“เราต้องการบ่าวรับใช้เพิ่ม เราขอดูรายชื่อทีสิ?”
“รับทราบ กรุณารอสักครู่”
อิซเบลกลับไปที่โต๊ะของนางก่อนจะวาดนิ้วอีกครั้ง คารัคเดินเขามาใกล้เพื่อกระซิบถามอินกอง
“บ่าวรับใช้? หรือว่าแกจะหมายถึงพวกแรงงานทำสวน?”
“ทำนองนั้น นั่นก็เป็นหนึ่งในบ่าวรับใช้”
ถ้าเป็นเพียงแรงงานรับใช้ทั่วไป อินกองไม่มีทางใช้แต้มผลงานแลกแน่นอน สิ่งที่เขาต้องการคือผู้ช่วยดูแลคฤหาสน์ในยามที่เขาไม่อยู่
“นี่คือรายชื่อผู้ที่สามารถย้ายไปประจำคฤหาสน์ขององค์ชายเก้าได้”
หน้าจอแสดงรายชื่อทั้งหลายปรากฏขึ้นตามปลายนิ้วของอิซเบล เมื่ออินกองชี้ไปที่หนึ่งในชื่อ ก็มีภาพและรายละเอียดของบุคลากรนั้นแสดงเพิ่มขึ้นมาอีกจอ
‘ที่เราต้องการคือผู้ดูแลบ้าน หรือว่าเราจะหาจากรายชื่อเมด/บัตเลอร์เลยดี?’
คฤหาสน์ของแซเฟียร์มีบัตเลอร์คอยดูแลอยู่แล้ว ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหาตัวบุคลากร
‘ความสามารถก็เหมือนๆกัน รึว่าเราจะสัมภาษณ์เพิ่มเองดี?’
เขาพินิจพิเคราะห์รายชื่อทีละบุคคล
“องค์ชาย นี่ใช้เอลฟ์ตะกี้รึเปล่า?”
นิ้วของเจ้าออร์คชี้ไปยังด้านล่างของรายชื่อ เขารีบมองตามมันก่อนจะเห็นชื่อที่คุ้นตา
[ฟลอร่า เซเว่นโซร์ด]
[สามารถทำงานเป็นเมด/บัตเลอร์ได้]
[เอกลักษณ์: สาวกผู้ติดตามคาอีล่า เทพีแห่งความฝันและเงามืด]
‘นี่แหละ’
อินกองมองไปยังคารัคก่อนทั้งคู่จะพยักหน้าพร้อมกัน
&
“เป็นบุญญาธิการที่ได้พบใต้ฝ่าพระบาทอีกครั้งเพคะ”
หลังจากเวลาล่วงเลยไป 15 นาที
ฟลอร่าทักทายพวกเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่สับสน
อินกองยิ้มให้นางก่อนจะบอกให้นางนำทางไปยังคฤหาสน์
“รับทราบเพคะ ข้าพระพุทธเจ้าจะเดินนำทางใต้ฝ่าพระบาทไปยังที่พำนักเพคะ”
นางเดินนำทางอย่างสง่างาม อินกองหันไปลาอิซเบลก่อนจะออกจากกระทรวงเกียรติยศ
คารัคเดินตามออกมาแล้วยักไหล่ให้เขา
“มีอะไร?”
“องค์ชาย แกเป็นเจ้าชายจริงๆด้วย”
“ถูกต้อง ฉะนั้นรับใช้ผมให้สุดความสามารถซะ”
อินกองและคารัคตามฟลอร่าผ่านทางเดินและอาคารหลายแห่ง แต่เนื่องจากคฤหาสน์อยู่ค่อนข้างไกลออกไป ทำให้การเดินเท้าเป็นไปอย่างเหนื่อยอ่อน
‘เวลาเหลือเฟือกว่าจะถึงเย็น’
เขายังเหลือนัดกับเคทลินในตอนเย็น
แต่อินกองไม่คิดที่จะอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน
ที่นี่คือวังจอมมาร สถานที่รวมตัวของเหล่าอมนุษย์ที่แสวงหาโอกาสและอำนาจ
‘แต่จะทำยังไงให้พวกนั้นหันมาสนใจเรานี่สิ?’
รอยยิ้มอันแยบคายเผยขึ้นบนใบหน้าอินกอง