Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ - ตอนที่ 100 Guardianship
หลังจากที่นากาโดนพาเทียซ์จับฝึกหนักไปยิ่งกว่าเดิมด้วยการเริ่มพลิกแพลงใช้ท่วงท่าของคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของอาวุธชิ้นที่เธอจำลองขึ้นมาฝึกฝนกับนากาในวันนั้นๆ เข้าไปด้วยแถมเผลอๆ ก็ยังเปลี่ยนอาวุธไปมาระหว่างการต่อสู้เพื่อโจมตีเขาทีเผลอทีมันก็แทบจะทำให้การฝึกซ้อมในฝันของนากากลายเป็นฝันร้ายไปในทันทีจนทำให้เขาต้องใช้เวลาพักฟื้นความมั่นใจไปสักพักใหญ่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของทางโรงเรียน
ซึ่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้เองนากาก็ได้คอนแนลที่ใช้ดาบเป็นอาวุธเช่นกันมาเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ ในขณะที่ทางด้านโมโกะกับพรีมูล่านั้นก็ถูกนากาขอร้องให้มาแอบลอบยิงเขาทีเผลอในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อที่นากาจะได้ฝึกประสาทสัมผัสเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นนากาเองก็ยังรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขายังคงมีการเคลื่อนไหวผิดพลาดที่เกิดจากความเคยชินในร่างกายในความฝันที่แข็งแรงกว่าร่างกายเบื้องนอกอยู่หนึ่งสัปดาห์อยู่ดี
และถึงแม้ว่านากาจะมีความรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างที่เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ดั่งใจคิด แต่ว่าลึกๆ แล้วเขาก็ยังคงรู้สึกยินดีกับมัน เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันหมายความว่าร่างกายของเขายังคงสามารถพัฒนาต่อไปได้อยู่อีก และการที่พาเทียซ์แสดงให้เขาเห็นถึงผลของการฝึกฝนล่วงหน้าแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขามีกำลังใจที่จะฝึกฝนมากยิ่งขึ้นอีกซะด้วยซ้ำ
แต่ว่าในขณะที่นากากำลังรู้สึกยินดีและมีกำลังใจอยู่นั้น ทางด้านพรีมูล่าที่สังเกตเห็นอาการขยับติดๆ ขัดๆ ของพี่ชายของตนในตอนที่เธอกำลังหาจังหวะยิงปืนใส่เขาในทีเผลอนั้นกลับหน้าซีดจนปากสั่นเพราะคิดว่าพี่ชายของเธอฝืนฝึกฝนเกินตัวจนทำให้เขาแทบจะขยับตัวไม่ไหวแต่ก็ยังจะมาฝืนฝึกต่อไปอีก
ซึ่งพรีมูล่าที่เข้าใจผิดไปไกลนั้นก็ถึงกับร้องโวยวายจะไปตามอารอนมาทำการรักษาให้กับเขาจนกระทั่งได้นากาพูดอธิบายกลบเกลื่อนว่าเขาแค่กำลังฝึกใช้วิชาใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินอยู่จนดูติดๆ ขัดๆ เท่านั้นเองเธอจึงได้ยอมสงบลงแต่โดยดี
และเมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์แรกหลังจากการเปิดภาคเรียนจบลง การเรียนการสอนในช่วงเช้าวันจันทร์ก็เริ่มต้นขึ้นด้วยวิชาควบคุมพาร์ทและยูนิตของอลิซเฉกเช่นเดียวกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“นักเรียกทุกคนทำความเคา—”
“นักเรียนคนที่ถูกเรียกชื่อช่วยเดินออกมาหน้าห้องด้วย!”
เสียงพูดสั่งให้เด็กนักเรียนทำความเคารพอาจารย์ผู้สอนอันเป็นหน้าที่ของอัลเบิร์ตผู้เป็นหัวหน้าห้องได้ถูกพูดขัดเอาไว้ด้วยเสียงร้องสั่งของอาจารย์อลิซที่สวมใส่ยูนิตสำหรับบันทึกภาพเดินเข้ามาข้างในห้องและดูเหมือนว่าจะไม่สนใจในกฏระเบียบที่เธอคิดว่ามันทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เลยแม้แต่น้อยจนทำให้อัลเบิร์ตที่ถูกขัดขวางการทำหน้าที่ถึงกับต้องหันไปมองอลิซตาขวาง
แต่ว่าอลิซก็กลับไม่มีท่าทีว่าจะสนใจในท่าทางของอัลเบิร์ตที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคำว่ามารยาทอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อยและร้องเรียกชื่อของนักเรียนที่เธอหมายตาเอาไว้ในวันนี้ขึ้นมา
“โมโกะ ออกมาหน้าห้อง”
“หะ— ค—ค่ะ!!”
โมโกะที่กำลังจะร้องโวยวายออกไปตามความเคยชินนั้นได้รีบยั้งปากของเธอเอาไว้ในทันทีที่นึกขึ้นมาได้ว่าในขณะนี้เธอเป็นนักเรียนอยู่ในโรงเรียนและอลิซที่สนิทสนมกับเธอดีนั้นก็กำลังทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ ส่วนทางด้านอลิซนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อยและกำลังกวาดตาไล่มองดูเหล่าเด็กนักเรียนในห้องเพื่อหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมให้กับโมโกะอยู่
“ธาตุดิน… ธาตุดิน… พิเน๊ะ! ออกมา!”
“…..”
“…พิเน๊ะ?”
เป๊าะ เป๊าะ
อลิซที่ได้รับคำตอบเป็นความเงียบนั้นได้เดินเข้าไปหาพิเน๊ะตรงที่นั่งของเธอที่อยู่ติดกับหน้าต่างและดีดนิ้วไปสองสามทีพร้อมกับเอ่ยปากเรียกชื่อของเด็กสาวประหลาดคนนี้ไปด้วยเพื่อเรียกความสนใจของเธอ
ซึ่งการกระทำของอลิซนั้นก็ได้ทำให้พิเน๊ะละสายตาออกมาจากหมู่เมฆเบื้องบนและหันกลับมาเบิ่งตาจ้องมองอลิซด้วยรอยยิ้มกว้างชวนสยอง
“เฮะ…?”
“ได้ยินที่ฉันเรียกหรือเปล่า? วันนี้เป็นคิวการสอบของเธอกับโมโกะน่ะ เพราะงั้นก็ไปหยิบอาวุธหรืออุปกรณ์อะไรที่จะใช้ในการต่อสู้ให้พร้อมแล้วก็ออกไปเจอฉันที่หน้าห้องด้วย”
“ฮิฮิฮิ~ กับโมโกะจังงั้นหรอคะ~”
พิเน๊ะที่ได้ยินว่าเธอจะได้จับคู่ต่อสู้กับโมโกะได้หลุดเสียงหัวเราะชวนขนหัวลุกออกมาจนถึงกับทำให้โมโกะต้องแอบเบียดตัวเองเข้าไปด้านหลังอลิซด้วยความหวาดผวา แต่ว่าอลิซก็กลับไม่สนใจท่าทีสยองขวัญของโมโกะเลยแม้แต่น้อยและหันไปพูดกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ในห้องแล้วจึงเดินออกไปรออยู่ด้านนอกในทันที
“คนอื่นๆ ถ้าอยากจะดูการสอบก็ไปเกาะขอบระเบียงดูกันเหมือนคราวที่แล้วก็แล้วกัน แต่ว่าในเมื่อคราวนี้ไม่มีอาจารย์เอริซาเบธคอยคุมแล้วถ้าเกิดว่ามีอาจารย์คนไหนแจ้งมาว่าพวกเธอโวยวายส่งเสียงดังรบกวนล่ะก็เตรียมตัวโดนลงโทษกันทั้งห้องได้เลย!”
“นี่ๆ พี่นากาๆ พวกเราออกไปดูโมโกะจังเขาสู้กันเถอะ!”
“อ่า… มันก็ได้แหล่ะมั้ง”
“ถ้ายังไงเดี๋ยวผมขอออกไปดูด้วยคนละกันนะครับ”
“เดี๋ยวพวกเธอเดินไปหาอาจารย์อารอนตรงนู้นให้เขาจัดการเรื่องความปลอดภัยให้ก่อนเลยก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวฉันจัดการเรื่องยูนิตนี่เสร็จแล้วจะตามไป”
ในขณะเดียวกันทางด้านอลิซที่กำลังเดินนำเด็กนักเรียนผู้โชคร้ายทั้งสองคนไปเข้าสู่ลานประหารที่กลางสนามหญ้านั้นก็ได้พูดบอกเด็กนักเรียนทั้งสองคนของเธอขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปทางอารอนที่ยืนรออยู่บนถนนริมสนามหญ้า
และที่ข้างกายของเขาเองก็ยังมีคาร์เทียร์ที่ใช้แขนข้างหนึ่งกอดกล่องพยาบาลประจำตัวเอาไว้ในขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งของเธอก็กำลังยกคริสตัลสีใสก้อนหนึ่งที่กำลังส่องแสงวูบวาบออกมาเป็นระยะขึ้นมาส่องดูด้วยความสนอกสนใจ
“อ—อื้อ! เข้าใจแล้ว—ค่ะ! / ค่าาาา~”
โมโกะที่เหมือนว่าจะยังไม่ค่อยชินกับการปฏิบัติตัวกับอลิซที่เป็นคนสนิทของเธอให้เหมือนกับอาจารย์คนหนึ่งนั้นได้พูดตอบอลิซกลับไปอย่างตะกุกตะกักในขณะที่ทางด้านพิเน๊ะนั้นกลับพูดตอบอลิซกลับไปด้วยเสียงลากยาวและยื่นมือของเธอไปจับมือของโมโกะเอาไว้แล้วจึงพาโมโกะออกเดินไปทางอารอนกับคาร์เทียร์ที่ยืนรออยู่ที่ด้านข้างสนามหญ้าในทันที
และเมื่ออลิซเห็นว่าเด็กนักเรียนทั้งสองคนของเธอเดินจากไปแล้วเธอก็ได้เลื่อนมือขึ้นมาแตะเครื่องสื่อสารขนาดเล็กของเอริกะเพื่อติดต่อไปหาเจ้าของเครื่องสื่อสารในทันที
“ฮัลโหลเอริกะ ทางฝั่งฉันใกล้จะพร้อมเริ่มแล้วนะทางฝั่งเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ก็ถ้าไม่นับเรื่องที่ว่าเขากำลังตกตะลึงกับของเล่นในห้องของฉันก็ไม่มีปัญหาแหล่ะจ้ะ~ ถ้ายังไงก็เอาเป็นว่าระหว่างการสอบเธอก็พยายามอย่าขยับไปมาจนกล่องมันเขย่ามากนักละกัน เอาล่ะ~ คุณพ่อพร้อมจะรับชมภาพการสอบของคุณลูกสาวแบบถ่ายทอดสดตามเวลาจริงแล้วรึยังล่ะคะ~?”
“นี่อย่าบอกนะครับว่าภาพที่เห็นนี่มันคือภาพที่เกิดขึ้นในโรงเรียนในตอนนี้จริงๆ น่ะครับ…?”
“แหม่~ ก็ฉันกลัวว่าถ้าเกิดคุณพ่อเข้าไปตามดูโมโกะจังเขาถึงข้างในโรงเรียนมันอาจจะมีปัญหาขึ้นมาได้ ฉันก็เลยขุดเอาของสิ่งนี้ขึ้นมาให้คุณพ่อรับชมโดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย~”
“เฮ้อ… มันก็จริงนั่นล่ะครับ เพราะถ้าขืนผมโผล่หน้าเข้าไปข้างในโรงเรียนจริงๆ มีหวังโมโกะเขาได้โดนเพื่อนๆ ล้อเลียนแน่ๆ ล่ะ… ยังไงผมก็ขอขอบคุณคุณเอริกะมากนะครับที่อุตส่าห์ยอมทำตามคำขอร้องเห็นแก่ตัวของผมแบบนี้น่ะครับ…”
“สรุปเอาเป็นว่าทางเธอก็พร้อมแล้วละกันนะ… เอาเป็นว่าถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาเธอก็ช่วยๆ พูดเกลี้ยกล่อมคุณพ่อของโมโกะเขาสักหน่อยก็แล้วกัน เพราะฉันคิดว่าเธอคงจะไม่อยากให้ยัยแมวขโมยนั่นต้องกลับไปที่หมู่บ้านคนเดียวจนยัยเอ๋อพรีมูล่าโวยวายบ้านแตกหรอกใช่มั้ยล่ะ”
บทสนทนาของเอริกะและคุณพ่อของโมโกะที่ฟังดูแล้วอาจจะพูดคุยกันจนยาวยืดนั้นได้ทำให้อลิซตัดสินใจที่จะพูดตัดบทขึ้นมาในทันทีและเอ่ยปากเตือนถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าเกิดว่าคุณพ่อของโมโกะเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวลูกสาวขึ้นมา
และเมื่ออลิซพูดเตือนเอริกะจนเสร็จแล้วเธอก็ได้กดตัดสายของเครื่องสื่อสารขนาดเล็กลงไปและเดินเข้าไปสอบถามอารอนที่กำลังจ้องมองดูคาร์เทียร์ที่กำลังใช้คริสตัลสีใสเคลือบคมบนอาวุธของพิเน๊ะที่ดูแล้วไม่ได้ต่างไปจากมีดทำครัวธรรมดาๆ เลยแม้แต่น้อยอยู่
“เป็นยังไงบ้างอารอน พร้อมกันแล้วใช่หรือเปล่า?”
“จะว่าอย่างนั้นมันก็ไม่ผิดล่ะมั้ง…”
อารอนพูดตอบอลิซกลับไปก่อนที่เขาจะละสายตาจากคาร์เทียร์ไปจ้องมองทางพิเน๊ะด้วยสายตาพิจารณาแทนเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดแผกไปจากเด็กนักเรียนคนอื่นมาจากเด็กสาวผมสีเหลืองแซมเขียวคนนี้
“หื๊ม~?”
ซึ่งพิเน๊ะที่เหมือนจะสัมผัสได้ถึงสายตาของอารอนก็ได้ละความสนใจไปจากคาร์เทียร์ที่กำลังพูดอธิบายเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยในระหว่างสอบให้เธอฟังอยู่เพื่อหันไปจ้องมองอารอนกลับไปแทนจนทำให้คาร์เทียร์ต้องพูดเตือนขึ้นมาในทันที
“นี่คุณพิเน๊ะตั้งใจฟังหน่อยสิคะ! อ่ะ—อาจารย์อารอนมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เปล่า… ไม่มีอะไรหรอก… ว่าแต่เธอจัดการลบคมเสร็จแล้วหรือเปล่า…?”
“ค่ะ! เมื่อกี้นี้หนูกำลังอธิบายเรื่องขอบเขตที่คริสตัลลบคมนี่มันทำได้อยู่น่ะค่ะ ถึงหนูจะไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ว่าคุณพิเน๊ะเขาเข้าใจหรือเปล่าก็เถอะ…”
“ฮิฮิฮิ~”
คำพูดบ่นของคาร์เทียร์ได้ทำให้พิเน๊ะที่เพิ่งจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆ โมโกะส่งเสียงหัวเราะที่ฟังดูน่าขนลุกออกมาเบาๆ จนทำให้คาร์เทียร์ที่ได้ยินแบบนั้นได้แต่พูดบ่นขึ้นมาเบาๆ ให้อารอนฟัง
“ถ้าคุณพิเน๊ะหัวเราะแบบนั้นงั้นก็เอาเป็นว่าเขาเข้าใจแล้วก็แล้วกันนะคะ…”
อารอนที่ได้ยินคาร์เทียร์ทำหน้ามุ่ยพูดบ่นออกมาแบบนั้นได้เดินเข้าไปลูบหัวของเด็กสาวผมสีเทาไปเบาๆ แล้วจึงเดินเข้าไปบอกอลิซที่ยืนรออยู่อีกทางหนึ่ง
“เตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะอลิซ…”
“อ่า… ถ้างั้นเดี๋ยวพวกเธอทั้งสองคนเดินไปที่กลางสนามหญ้าแล้วก็เว้นระยะกันสักสิบเมตรแล้วก็รอสัญญาณเริ่มสอบจากฉันได้เลย”
“ฮิฮิฮิ…เข้าใจแล้วค่ะ…”
“หึ้ย… ต่อให้ฟังสักกี่รอบฉันก็ทำใจให้ชินกับเสียงหัวเราะของเธอไม่ได้จริงๆ นะเนี่ย”
โมโกะที่ได้ยินเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ของพิเน๊ะได้พูดบ่นขึ้นมาให้เจ้าตัวฟังเล็กน้อยและเดินถือปืนกลเบาทั้งสองกระบอกไปยังกลางสนามหญ้าภายใต้สายตาของพิเน๊ะที่ยังคงจับจ้องเธออยู่แบบไม่วางตา
“โล่งไปหมดจนไม่มีที่ให้หลบเลยแฮะ…”
โมโกะที่หันไปมามองซ้ายมองขวาเพื่อดูสภาพสนามสอบได้แต่พูดบ่นขึ้นมาเบาๆ เพราะว่าใจกลางสนามหญ้าแห่งนี้ไม่มีที่กำบังให้หลบซ่อนตัวเลยแม้แต่น้อยและการต่อสู้ซึ่งๆ หน้ากับคนอื่นแบบนี้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอถนัดเลยแม้แต่สักนิดเดียว
“หืม…?”
ในขณะที่โมโกะกำลังพูดบ่นออกมาอยู่นั้นเธอก็เหลือบไปเห็นแสงสว่างสีเหลืองจางๆ ที่ลอดผ่านออกมาจากแขนเสื้อยาวเกินตัวของพิเน๊ะข้างที่ไม่ได้ถือมีดทำครัวเอาไว้อยู่เป็นสัญญาณบอกว่าอีกฝ่ายกำลังเตรียมพร้อมเพื่อที่จะได้ใช้วิซออกมานั่นเอง
แต่ถึงแม้ว่าโมโกะจะเห็นพิเน๊ะแอบเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มการสอบแบบนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะว่าตัวเธอเองก็ได้แอบเตรียมความพร้อมของปืนกลทั้งสองกระบอกในมือเพื่อที่จะได้สาดกระสุนเข้าใส่คู่ต่อสู้ในจังหวะที่อลิซประกาศให้เริ่มการสอบเช่นเดียวกัน
ส่วนทางด้านอลิซที่มีความสามารถในการสัมผัสพลังวิซที่ดีกว่าคนทั่วไปนั้นก็ได้แต่ลอบส่ายหน้าไปมากับการกระทำของเด็กนักเรียนทั้งสองคนของเธอแล้วจึงตะโกนประกาศเริ่มการสอบขึ้นมา
“ถ้างั้นก็…เริ่มได้เลย!!”
ปังปังปังปังปังปังปัง!!
ทันทีที่สิ้นเสียงของอลิซ โมโกะที่เฝ้ารอจังหวะเล่นทีเผลอก็ได้ลั่นกระสุนจากปืนกลเบาในมือทั้งสองข้างเข้าใส่พิเน๊ะที่ไม่ทันตั้งตัวอย่างต่อเนื่องในทันที
แต่ว่าพิเน๊ะที่เห็นห่าฝนกระสุนกำลังพุ่งเข้าใส่นั้นก็กลับยืนยิ้มแบบไม่กะพริบตาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งฝนกระสุนของโมโกะเข้ามาใกล้ตัวเธอนั่นเองพิเน๊ะจึงได้สะบัดมือข้างที่ไม่ได้ถืออาวุธเอาไว้ออกไปเบื้องหน้าพร้อมๆ กับที่แสงสว่างที่ลอดผ่านออกมาจากด้านในแขนเสื้อของเธอจะส่องแสงสว่างจ้าออกมา
ครื่นนนนน!
ทันใดนั้นเองพื้นดินเบื้องหน้าของพิเน๊ะก็ได้ดันตัวเองขึ้นมาจนก่อให้เกิดกำแพงดินที่ดูหนาแน่นทนทานตั้งตระหง่านขวางอยู่ระหว่างตัวของเธอกับฝนกระสุนที่โมโกะสาดเข้ามาใส่ และเจ้ากำแพงดินนั้นก็สามารถป้องกันร่างของพิเน๊ะจากกระสุนปืนกลเบาของโมโกะที่ค่อนข้างจะมีพลังทำลายน้อยกว่าปืนแบบอื่นๆ เพื่อแลกกับปริมาณกระสุนที่ถูกยิงออกมาได้อย่างง่ายดายโดยที่แทบจะไม่มีร่องรอยความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
“ก็กะเอาไว้แล้วล่ะ…!”
โมโกะที่คาดเอาไว้อยู่แล้วว่าการโจมตีทีเผลอของเธอคงจะไม่ได้ผลอะไรกับเด็กนักเรียนของโรงเรียนรีมินัสที่ค่อนข้างจะเรียกได้ว่ามีมาตรฐานสูงนั้นก็ได้รีบออกฝีเท้าวิ่งตีโค้งไปอีกทางเพื่อสาดกระสุนอีกชุดหนึ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้จากมุมที่ไม่มีกำแพงดินขวางทางอยู่ในทันที
ปังปังปังปังปังปัง—
ครื่นนนนน!!
แต่ว่าพิเน๊ะที่ยังคงยืนโยกไปมาและเบิ่งตากว้างจับจ้องอยู่ที่โมโกะแบบไม่ละสายตานั้นก็ทำเพียงแค่สะบัดมือเล็กน้อยเพื่อสร้างกำแพงดินขึ้นมาขวางเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งโมโกะที่เห็นว่าพิเน๊ะสามารถสร้างกำแพงดินขึ้นมารับมือกับเธอได้ถึงสองครั้งด้วยกันก็ได้ตัดสินใจที่จะยืนปักหลักอยู่กับที่และลองสาดกระสุนจำนวนมากเข้าใส่กำแพงดินของพิเน๊ะเพื่อทดสอบความทนทานของมันดู
ปังปังปังปังปังปัง— เพล้ง!!
เสียงของคริสตัลแตกกระจายที่ดังออกมาจากตลับกระสุนของโมโกะนั้นได้ทำให้ห่าฝนกระสุนของโมโกะหยุดชะงักลงไปในทันที ซึ่งโมโกะก็ได้รีบใช้โอกาสนี้สำรวจดูสภาพของกำแพงดินดูและได้พบว่าถึงแม้กำแพงดินของพิเน๊ะจะถูกยิงกระหน่ำจนแหว่งไปบางส่วน แต่ว่ามันก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิมโดยไม่มีท่าทีว่าจะพังทลายลงมาเลยแม้แต่น้อย
และเมื่อโมโกะได้เห็นแบบนั้นเธอก็รีบกดไปที่ปุ่มบนด้ามจับปืนเพื่อให้มันปล่อยตลับกระสุนที่คริสตัลแตกกระจายไปแล้วออกมาจากจากตัวปืนพร้อมกับรีบดึงเอาตลับกระสุนอันใหม่ออกมาจากเข็มขัดเพื่อที่จะได้บรรจุมันเข้าไปใหม่ในทันที
“……”
แต่ว่าในขณะที่โมโกะกำลังจะยัดตลับกระสุนเข้าไปในตัวปืนนั้นเธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างขึ้นมา เพราะถ้าเกิดว่าเป็นตัวเธอเองที่ถูกยิงกดดันอย่างหนักจนต้องสร้างที่กำบังขึ้นมาหลบกระสุนแบบเมื่อสักครู่นี้ล่ะก็เธอไม่มีทางที่จะปล่อยโอกาสดีๆ ที่ศัตรูหยุดยิงไปเฉยๆ แบบนี้ไปอย่างแน่นอน
“—–!?”
โมโกะที่คิดได้แบบนั้นได้พยายามที่จะเพ่งมองดูเบื้องหลังกำแพงดินที่พิเน๊ะสร้างขึ้นมาเป็นที่กำบังอยู่สักพักหนึ่งก่อนทีเธอจะรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงพลังวิซที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาทางเธอผ่านทางผืนดิน และนั่นก็ทำให้โมโกะได้ตัดสินใจที่จะกระโดดหลบออกมาจากจุดเดิมในทันที
ครืดดดด—ปึ้ก!!
“โอ๊ย—!?”
ถึงแม้ว่าโมโกะจะสามารถสัมผัสได้ถึงการโจมตีที่กำลังจะพุ่งเข้ามาได้ก่อนแล้วก็ตาม แต่ว่าความว่องไวของเธอก็กลับไม่มากพอที่จะสามารถกระโดดหลบการโจมตีของพิเน๊ะได้จนทำให้เธอถูกเสาดินที่พิเน๊ะสร้างขึ้นมาโจมตีใส่เธอกระแทกเข้าใส่ที่สีข้างเต็มๆ จนตลับกระสุนที่เธอกำลังจะยัดมันเข้าใส่ตัวปืนกระเด็นหลุดมือไป
“—!!”
โมโกะที่สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าในมือข้างที่ถือตลับกระสุนอยู่เมื่อสักครู่ได้รีบกวาดตามองหาตลับกระสุนที่เธอเผลอทำมันหลุดมือปลิวหายไปในทันทีที่เธอสามารถตั้งหลักได้ และเมื่อเธอได้พบว่าบัดนี้มันกำลังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศและกำลังร่วงหล่นลงสู่พื้นนั้นเธอก็ได้รีบยื่นมือไปทางมันและส่งวิซของเธอเข้าใส่ก้อนคริสตัลสีเหลืองอันเล็กๆ ที่เธอพันมันติดเอาไว้กับตลับกระสุนอย่างลวกๆ ในทันที
ฟุ๊บ!
ซึ่งการกระทำของโมโกะนั้นก็ได้ทำให้ก้อนคริสตัลสีเหลืองหยุดนิ่งชะงักค้างอยู่กลางอากาศก่อนที่มันจะพุ่งตรงเข้าใส่โมโกะผู้เป็นเจ้าของอย่างรวดเร็ว และโมโกะก็ได้พลิกตัวปืนของเธอเข้ารับตลับกระสุนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงอันนั้นจนทำให้ตลับกระสุนที่กำลังพุ่งเข้ามาเสียบเข้าไปในช่องใส่กระสุนเข้าพอดิบพอดีจนทำให้เธอสามารถเล็งมันเข้าใส่พิเน๊ะที่น่าจะยังคงหลบอยู่ที่เดิมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาเสียบตลับกระสุนเข้าไปด้วยตัวเอง
แกร๊ก!
“ไม่กะจะให้พักกันบ้างเลยหรือไงยะ!?”
แต่ว่าทันใดนั้นเองโมโกะก็ได้ตะโกนออกมาเสียงดังและรีบกระโจนตัวหลบไปอีกทางก่อนที่ทันใดนั้นเองจะมีเสาดินแบบเดียวที่กระแทกโมโกะจนกระเด็นไปในทีแรกผุดขึ้นมาจากผืนดินอย่างต่อเนื่องไล่หลังโมโกะไปติดๆ
ตึ้ง–ตึ้ง–ตึ้ง!!
“ยัยแมวระเบิดนั่นทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยหรอเนี่ย…”
“ซวยแล้วไง… ใครจะไปคิดว่ายัยตัวประหลาดพิเน๊ะนั่นจะเก่งได้ขนาดนี้กันเนี่ย แล้วฉันก็ดันแอบนินทายัยนั่นเอาไว้ซะเยอะซะด้วยสิ”
“ไปเลยพิเน๊ะจัง!! สู้ๆ น๊าาา!!”
ในขณะเดียวกันที่ทางด้านบนอาคารเรียน เหล่าเด็กนักเรียนห้องสามที่ออกมาเฝ้าชมเรื่องสนุกๆ เองก็กำลังจับกลุ่มพูดคุยวิเคราะห์การต่อสู้เบื้องล่างกันอยู่อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีเด็กนักเรียนซนๆ บางคนอย่างซิลเวสที่ได้ร้องตะโกนเชียร์อย่างเมามันจนเหมือนกับลืมไปแล้วว่าอลิซเพิ่งจะเอ่ยปากเตือนเรื่องของการส่งเสียงดังเอาไว้ว่ายังไง
ส่วนทางด้านพรีมูล่าที่เห็นโมโกะแสดงความสามารถในการควบคุมตัวคริสตัลธาตุดินที่ติดอยู่กับตัวตลับกระสุนจากระยะไกลออกมาจนสามารถทำให้ตลับกระสุนที่หลุดมือออกไปแล้วพุ่งกลับเข้าไปหาตัวเองได้ก็ได้ร้องถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
“โหว~ ตะกี้นี้โมโกะจังเขาเพิ่งจะใช้วิซควบคุมให้ตัวคริสตัลธาตุดินที่พันประดับเอาไว้บนตลับกระสุนพุ่งกลับไปหาตัวเองใช่มั้ยอ่ะ!? เดี๋ยวนี้นี่โมโกะจังเขาทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยหรอ? นี่พี่คอนแนลแอบจับโมโกะจังไปฝึกอะไรมาหรือเปล่าเนี่ย!?”
“หา? ผมไม่เกี่ยวนะครับเรื่องนี้… แต่ว่าช่วงสัปดาห์ที่แล้วผมเห็นโมโกะเขาชอบแอบหลบไปฝึกด้วยตัวคนเดียวอยู่บ่อยๆ แล้วก็มีเสียงโครมครามดังลั่นออกมาน่ะครับ อย่างตอนช่วงหลังอาหารเย็นที่นากากลับไปฝึกต่อในห้องแล้วนั่นน่ะครับ”
“ยัยนั่นเองก็พยายามพัฒนาตัวเองอยู่เหมือนกันงั้นสินะ… แต่พอเห็นโมโกะทำได้ถึงขั้นนั้นก็ค่อยเข้าใจได้หน่อยว่าทำไมถึงยังกล้ายิงกระสุนเล่นทิ้งขว้างอีกทั้งๆ ที่ฉันกับอลิซเคยเตือนเรื่องนั้นไปแล้วน่ะ”
“นั่นสินะครับ เพราะถึงปืนของโมโกะเขาจะยิงได้รัวๆ ในระยะเวลาสั้นๆ ก็เถอะ แต่ว่าโมโกะเขาก็มักจะมีปัญหาเรื่องของการเปลี่ยนตลับกระสุนที่เป็นช่องว่างอยู่บ่อยๆ นี่นะครับ”
คอนแนลที่ได้ยินนากาพูดอธิบายขึ้นมาเองก็ได้พูดถึงจุดอ่อนของโมโกะที่เขาสังเกตเห็นมาสักพักหนึ่งแล้วขึ้นมาเช่นเดียวกัน แต่ว่าทันใดนั้นเองคอนแนลก็เหลือบไปเห็นพรีมูล่าที่กำลังทำแก้มป่องอยู่เนื่องจากว่าทั้งๆ ที่เธอเป็นคนเอ่ยปากพูดเปิดประเด็นขึ้นมาก่อนแต่ว่าพี่ๆ ทั้งสองคนของเธอก็ดันหันไปคุยกันเองซะอย่างงั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้คอนแนลต้องรีบหาทางพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาในทันที
“อ—เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรามาตั้งใจดูการสอบของโมโกะเขากันต่อดีกว่าเถอะครับ! ขืนยังมัวแต่คุยกันอยู่แบบนี้เดี๋ยวจะพลาดฉากที่โมโกะเขาแสดงฝีมือเอานะครับ!”
“บู่วววววว!”
ตึ้ง–ตึ้ง–ตึ้ง!!
“ใช้เป็นชุดๆ จริงๆ ด้วยสินะ”
ทางด้านโมโกะที่ยังคงวิ่งหนีเสาดินที่พิเน๊ะเสกขึ้นมาโจมตีเธอเรื่อยๆ นั้นได้สังเกตเห็นถึงรูปแบบการโจมตีของพิเน๊ะที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการโจมตีต่อเนื่องเป็นชุดๆ ด้วยการดันเสาดินขึ้นมาครั้งละสามถึงสี่เสาต่อการโจมตีหนึ่งชุดแล้วจึงหยุดพักไปประมาณหนึ่งถึงสองวินาทีเพื่อรวบรวมพลังโจมตีใหม่อีกครั้งนั้นสามารถหลบหลีกเสาดินที่อีกฝ่ายดันขึ้นมาได้อย่างไม่ยากลำบากอะไรนักและเริ่มต้นที่จะคิดหาวิธีการโจมตีสวนกลับไปบ้าง
ซึ่งนั่นก็ต้องขอบคุณความสามารถส่วนตัวของโมโกะที่เธอไม่เคยเห็นคุณค่าของมันมาก่อนเลยอย่างความสามารถในการสัมผัสถึงพลังวิซตามธรรมชาติที่เธอเคยคิดว่ามันมีดีแค่รบกวนสมาธิของเธอนั่นเอง
โดยถ้าเกิดว่าโมโกะไม่มีความสามารถที่ว่านั่นเธอก็คงจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิซของพิเน๊ะที่อีกฝ่ายส่งออกมาเพื่อดันแท่นดินขึ้นมาโจมตีใส่เธอได้อย่างแม่นยำจนสามารถหลบการโจมตีได้อย่างไม่ยากเย็นนักแบบนี้
“ถ้าเกิดคิดจะปิดหมดทุกทางแบบนี้ล่ะก็นะ…!!”
โมโกะที่วิ่งวนไปทั่วสนามหญ้าเพื่อหลบการโจมตีของพิเน๊ะพร้อมกับพยายามหาช่องทางการโจมตีสวนกลับไปด้วยได้กัดฟันพูดขึ้นมาเมื่อเธอได้พบว่าจุดที่พิเน๊ะสร้างเสาดินขึ้นมารับกระสุนของเธอในตอนแรกนั้นบัดนี้มันได้กลายเป็นก้อนดินทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ปิดล้อมป้องกันพิเน๊ะที่อยู่ข้างในจากการโจมตีทุกทิศทุกทางไปซะแล้ว
“งั้นก็ต้องใช้ไม้แข็งกันหน่อยล่ะ!!”
ปึ๊ก!!
โมโกะที่ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้จุดหลบภัยของพิเน๊ะพร้อมกับหลบการโจมตีของอีกฝ่ายไปด้วยได้ร้องตะโกนออกมาก่อนที่เธอจะคว้าเอาตลับกระสุนออกมาอันหนึ่งและปักมันเข้าไปในจุดที่ดูแล้วน่าจะบอบบางที่สุดของกำแพงดินอย่างแรงจนทำให้มันปักคาเอาไว้บนนั้น และหลังจากนั้นโมโกะก็ได้รีบดีดตัวถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตลับกระสุนของเธอที่ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังก็ได้ส่งเสียงแตกร้าวออกมา
เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—เพล้ง—
ตู้ม!!
ซึ่งสิ่งที่โมโกะทำนั้นก็คือการอัดวิซจำนวนมากเข้าไปในตลับกระสุนจนเกินกว่าที่ตัวคริสตัลที่ถูกบรรจุเอาไว้ภายในจะรับได้ไหวจนทำให้มันเกิดการระเบิดขึ้นมานั่นเอง และถึงแม้ว่าแรงระเบิดมันจะไม่ได้รุนแรงอะไรมากนักเนื่องจากว่ามันเป็นคริสตัลสำหรับฝึกซ้อมแต่ว่ามันก็สามารถทำให้กำแพงดินตรงส่วนที่ถูกตลับกระสุนปักเอาไว้ถล่มลงมาได้ในทันที อีกทั้งยังต้องขอบคุณที่โมโกะเหมือนจะเริ่มรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้วเธอจึงไม่ได้อัดพลังวิซเข้าไปในตลับกระสุนมากเกินไปจนถึงขั้นสลบไปในทันทีเหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่เธอใช้วิธีเดียวกันนี้ในการจัดการคู่ต่อสู้
“หืม— หายไปไหนแล้ว!?”
แต่ว่าเมื่อโมโกะได้รีบพุ่งตัวกลับเข้าไปยังกำแพงดินเบื้องหน้าที่เพิ่งจะถล่มลงมาเธอก็ได้แต่หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเธอไม่พบกับพิเน๊ะที่ควรจะหลบภัยอยู่ข้างในและใช้พลังโจมตีออกมายังเบื้องนอกแถมเธอยังต้องรีบถอยห่างออกมาจากกำแพงดินอีกครั้งหนึ่งโดยที่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบดูให้ดีอีกด้วยเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงพลังวิซของพิเน๊ะที่แผ่ออกมาจากด้านในของกำแพงดินอีกครั้งหนึ่ง
ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง!
“ยังอยู่แถวนี้จริงๆ ด้วยสินะ—!?”
หมับ—
“ว๊าย—!?”
ในชั่วพริบตาที่โมโกะกำลังคิดจะกระโดดหลบพลังวิซที่กำลังพุ่งตรงมาเข้ามาใส่เธอเหมือนกับทุกๆ ครั้งนั้น อยู่ๆ ก็ได้มีชายผ้าสีขาวที่มีลักษณะเหมือนกับแขนเสื้อชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนรีมินัสผุดขึ้นมาจากพื้นแทนที่จะเป็นเสาดินเหมือนกับทุกครั้งและฝ่ามือที่ถูกซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อยาวเกินตัวนั้นก็ได้ตวัดคว้าข้อเท้าของโมโกะเอาไว้อย่างแม่นยำจนทำให้โมโกะถึงกับเสียหลักหน้าทิ่มลงไปกับพื้นในทันที
“โม~โกะ~จัง~”
“—!?”
ซึ่งเจ้าของมือที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นไปนอกซะจากพิเน๊ะที่กำลังใช้แขนอีกข้างหนึ่งยันเอาไว้กับพื้นเพื่อดันร่างกายส่วนอื่นๆ ของเธอออกมาจากผืนดินด้วยดวงตาเบิ่งกว้างและรอยยิ้มชวนสยองอันเป็นเอกลักษณ์ของเด็กสาวหัวเหลืองแซมเขียวคนนี้นั่นเอง
และถึงแม้ว่าพิเน๊ะจะเพิ่งดันร่างของเธอออกมาจากพื้นหญ้าราวกับว่าพื้นสนามที่ทุกคนใช้เดินเล่นและฝึกซ้อมกันทุกวันมันเป็นของเหลวเหมือนผืนน้ำ แต่ว่าตามเสื้อผ้าและร่างกายของเธอก็กลับไม่เปื้อนเศษดินเศษหญ้าเลยแม้แต่น้อยซะจนราวกับว่าเศษดินเหล่านั้นต่างก็เกรงกลัวรอยยิ้มของพิเน๊ะจนหลบทางให้เธออย่างไรอย่างนั้น
หมับ!!
“โอ๊ย–!?”
และในขณะที่โมโกะกำลังหวาดผวากับการปรากฏตัวอันน่าสยดสยองของเด็กสาวเบื้องหน้าอยู่นั้น พิเน๊ะก็ได้ใช้จังหวะนี้ในการจับล็อกตัวของโมโกะเอาไว้กับพื้นและนั่งทับลงไปบนตัวโมโกะแบบไม่คิดที่จะให้เธอได้มีโอกาสขยับตัวหนีเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับก้มหน้าลงมาพูดกับโมโกะใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงชวนสยองไม่แพ้วิธีการปรากฏกายของเธอ
“นี่… ทั้งๆ ที่โมโกะจังเองก็เป็นธาตุดินเหมือนกันแท้ๆ … แต่ทำไมถึงใช้มันได้แค่นั้นล่ะ…? ทำไมล่ะ…? ทำไมกันนะ…? ทำไมกันล่ะ…”
“ทั้งๆ ที่คิดว่าจะได้เจอคนที่เป็นเหมือนกันแล้วแท้ๆ … แต่ว่าทำไมกันล่ะ…? ทำไมกันนะ…?”
“ถ้าเกิดว่าเป็นธาตุดินเหมือนกันล่ะก็เรื่องแค่นี้ก็น่าจะทำได้ไม่ใช่หรอ…? แต่ทำไมโมโกะจังถึงทำได้แค่นั้นกันล่ะ…? ทำไมกันล่ะ…?”
“ในเมื่อโมโกะจังไม่ยอมเอาจริงแบบนี้… ถ้างั้นล่ะก็…”
พิเน๊ะที่พูดพัมพำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยแววตาเบิ่งกว้างได้ยกมีดทำครัวที่เธอใช้เป็นอาวุธประจำตัวขึ้นสูงด้วยความหวังที่ว่าถ้าเกิดเธอใช้มันปักเข้าใส่โมโกะทั้งๆ อย่างนี้มันก็อาจจะทำให้เด็กสาวหูแมวคนนี้เริ่มที่จะเอาจริงขึ้นมาได้บ้าง
ซึ่งการกระทำของพิเน๊ะนั้นก็ถึงกับทำให้โมโกะเป็นฝ่ายเบิ่งตากว้างบ้างและรีบเค้นสมองหาวิธีเอาตัวรอดในทันที
“ย—ยังหรอก–หน่า!!”
ฟวับ!!
เคล๊ง!!
ใบมีดของมีดทำครัวที่พิเน๊ะใช้ทั้งสองมือจับมันเพื่อปักลงมาใส่โมโกะเต็มแรงได้เสียบทะลุเข้าไปในตลับกระสุนของโมโกะที่ลอยพุ่งเข้ามาขวางใบมีดเอาไว้ได้ทันในวินาทีสุดท้ายพอดีจนทำให้พิเน๊ะที่เห็นว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้ถึงกับหยุดชะงักไปด้วยความประหลาดใจ
“เอ๋—”
เปรี๊ยะ—
เสียงของคริสตัลที่กำลังปริแตกได้ดังขึ้นมาเบาๆ ท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นจากความตกตะลึงปนสยองขวัญของทั้งกรรมการคุมสอบอย่างอลิซและอารอนรวมถึงเหล่าเด็กนักเรียนห้องสามที่เคยส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามันนั้นถึงกับทำให้อลิซชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะรีบพุ่งตัวเข้าไปหาเด็กสาวทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่กลางสนามหญ้าในทันทีที่เธอคาดเดาถึงสิ่งที่เด็กสาวหูแมวกำลังคิดจะทำได้
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะโมโกะ!!”
“ระเบิดไปซะยัยสับปะรด!!”