Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ - ตอนที่ 159 Long Overdue
ตู้ม!!
“ท่านผู้ใหญ่บ้าน!?”
ในชั่วขณะที่โมโกะเพิ่งจะโยนร่างของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านขึ้นไปบนฟากฟ้าและระเบิดเขาจนไหม้เกรียมนั้นเอง ทางด้านหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคที่ได้ยินเสียงระเบิดก็ได้หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะหันไปมองทางด้านต้นเสียงด้วยความเป็นห่วง
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ทำให้เดรคหลุบตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพุ่งตัวเข้าไปเหวี่ยงดาบยักษ์ในมือใส่คู่ต่อสู้ในทันที
เคล๊ง—!
“อั๊—-!?”
โคร๊ม—
ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคจะหันกลับมาใช้ดาบยักษ์ของเธอกระแทกเข้าปะทะกับดาบยักษ์ของเดรคได้ก็ตามที แต่ว่าร่างกายของเธอก็กลับถูกกระแทกจนปลิวกระเด็นเข้าไปในกองซากบ้านของรีซาน่าอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ทางด้านเดรคที่เพิ่งจะหวดผู้หญิงคนหนึ่งปลิวกระเด็นไปก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาสั้นๆ
“อ่อนแอ…”
“คนที่ทิ้งหมู่บ้านของพวกเราไปอย่างแกไม่มีสิทธิจะพูดคำนั้น!!”
โคร๊ม!!!
คำพูดของเดรคนั้นได้ทำให้กองซากไม้ที่ทับถมร่างของหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเดรคระเบิดออกอย่างแรงพร้อมๆ กับที่มีร่างของเธอพุ่งตัวออกมาเหวี่ยงดาบยักษ์เข้าใส่ชายหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง
เก๊ง!
แต่ถึงอย่างนั้นเดรคก็กลับสามารถที่จะใช้ดาบยักษ์ที่มีลักษณะเดียวกันในมือของเขาเข้ารับการโจมตีได้อย่างสบายๆ และเอ่ยปากพูดสั่งสอนหญิงสาวที่มีตำแหน่งเดรคขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ตำแหน่ง ‘เดรค’ เป็นเสมือนกับตัวแทนของเทพมังกร… เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงห้ามเอ่ยปากพูดสิ่งที่ตนคิดออกมาถ้าหากมันไม่จำเป็น…”
“ก็แล้วแกคิดว่ามันเป็นเพราะใครฉันถึงต้องมารับตำแหน่งบ้าๆ นี่กันหะ!!
คำพูดของเดรคนั้นได้ทำให้หญิงสาวขึ้นเสียงตวาดกลับไปใส่เขาและเหวี่ยงดาบยักษ์ที่เธอจับมันเอาไว้ด้วยสองมือเข้าใส่เขาอย่างรุนแรง
เคร๊ง!!
“…….”
เสียงตวาดของหญิงสาวนั้นได้ทำให้เดรคที่เข้าปะทะอาวุธกับเธอนิ่งเงียบไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะง้างมืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ขึ้นมาเหวี่ยงหมัดอัดเข้าใส่ที่กลางลำตัวของอีกฝ่ายอย่างแรง
“—!?”
ผลั๊ก!!
ถึงแม้ว่าหญิงสาวที่มีตำแหน่งเดรคจะเห็นการกระทำของคู่ต่อสู้ของเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถที่จะรับมือการโจมตีของเขาได้เลยแม้แต่น้อย เพราะถึงแม้ว่าเธอจะใช้พลังจากแขนทั้งสองข้างในการถืออาวุธเข้าปะทะกับเขาแล้วก็ตาม แต่ว่าเธอก็สามารถสัมผัสได้ว่าเรี่ยวแรงจากแขนทั้งสองข้างของเธอนั้นสู้อีกฝ่ายที่ถืออาวุธแบบเดียวกันอยู่ด้วยมือเพียงข้างเดียวไม่ได้ซะด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่เธอจะต้องปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากอาวุธเพื่อไปรับหมัดของเขาเลย
“อุ๊—!!”
หญิงสาวที่มีตำแหน่งเดรคที่รับหมัดของชายหนุ่มเข้าไปจังๆ นั้นได้ปลิวกระเด็นออกจากจุดเดิมไปไกลและตกกระแทกกับพื้นจนกลิ้งกระเด็นคลุกฝุ่นไปอีกสักพักหนึ่งจนกระทั่งเธอตั้งหลักได้และเสียบดาบของเธอลงกับพื้นเพื่อใช้เป็นหลักในการยันตัวเองให้ลุกขึ้นมาพลางไอสำลักออกมาอย่างรุนแรง
“แค่ก!! แค่ก!!”
“ฮึ่ม…”
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้ทำให้เดรคพ่นลมหายใจออกมาสั้นๆ เหมือนกับที่เขาชอบทำเป็นประจำและลดดาบยักษ์ในมือลงพลางเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่มีตำแหน่งเดรคอย่างช้าๆ พร้อมกับเอ่ยปากพูดถามขึ้นมาไปด้วย
“…เธอชื่อว่าอะไร?”
“ด…เดรค—”
“ไม่ใช่…! นั่นมันก็แค่ชื่อของตำแหน่งในหมู่บ้านนี้… ชื่อจริงๆ ของเธอมีชื่อว่าอะไร…”
“ชื่อ… ชื่อของฉัน…”
หญิงสาวที่ถูกพูดถามขึ้นมาตรงๆ นั้นได้ชะงักไปเล็กน้อยและเอ่ยปากพูดพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงสับสน
“ฉ…ฉันชื่อ…. ฉัน…. ฉันคือ…”
ในขณะที่หญิงสาวกำลังเอ่ยปากพูดตอบเดรคกลับไปด้วยท่าทีสับสนแตกต่างจากท่าทีแข็งกร้าวเย็นชาที่เธอแสดงออกภายใต้หน้ากากของตำแหน่งที่ถูกเรียกว่า ‘เดรค’ อยู่นั้นเอง ทางด้านชายหนุ่มมีที่ชื่อว่า เดรค ก็ได้เดินตรงมาจนถึงจุดที่เธอกำลังใช้ดาบยักษ์ช่วยพยุงร่างกายของตนเองเอาไว้
ซึ่งเงาดำที่เกิดจากร่างกายสูงใหญ่ของเดรคที่ยืนค้ำอยู่เบื้องหน้าจนบดบังแสงสว่างสีนวลจากดวงจันทร์จนมืดมิดและแสงสะท้อนจากมุมขอบของดาบยักษ์สีดำในมือของอีกฝ่ายนั้นก็ได้ทำให้หญิงสาวเบิ่งตากว้างและก้าวถอยหลังกลับไปเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัวก่อนที่เธอจะชะงักไปและกัดฟันแน่นแล้วจึงตวาดขึ้นมาเสียงดัง
“ช…ชื่อของฉันก็คือเดรค!!!”
ทันทีที่หญิงสาวร้องตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งราวกับว่าชื่อและตำแหน่งที่ถูกเรียกว่า ‘เดรค’ มันเป็นตัวตนที่เธอต้องยึดติดและสูญเสียมันไปไม่ได้เป็นอันขาดจนจบนั้น เธอก็ได้กระชากดาบยักษ์สีดำของเธอขึ้นมาจากพื้นและเหวี่ยงมันเข้าใส่ชายหนุ่มร่างยักษ์เบื้องหน้าเต็มแรงจนเกิดเสียงแหวกอากาศอย่างรุนแรงราวกับว่ามันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายที่เธอได้ทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างไปกับการโจมตีครั้งนี้แล้ว
ฟวับ!!—-หมับ!!
“…..”
แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีสุดตัวของเธอก็กลับถูกชายหนุ่มเบื้องหน้าคว้าจับมันเอาไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวจนทำให้เธอได้แต่เบิ่งตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง ในขณะที่ชายหนุ่มเบื้องหน้าก็ได้เริ่มต้นที่จะออกแรงบีบใบดาบยักษ์สีดำที่เขาจับเอาไว้ในมือจนมันเริ่มที่จะเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา
แกร๊ก—
“ไม่ใช่…”
“ม…ไม่…”
คำพูดของเดรคและเสียงของดาบยักษ์ประจำตำแหน่งของเธอที่เกิดรอยร้าวขึ้นมาแทบจะทั่วทั้งใบดาบนั้นได้ทำให้หญิงสาวเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาและพยายามที่จะพูดขอร้องให้เขาหยุดการกระทำนั้นซะ
แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านเดรคก็กลับไม่คิดที่จะหยุดการกระทำของตนเองและออกแรงบีบมันมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดแล้ว ใบดาบยักษ์สีดำก็ได้แตกร้าวก่อนที่มันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมๆ กับที่เขาได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา
“เด็กอย่างเธอไม่คู่ควรกับชื่อนั้น…!”
เพล้ง!!!
“—!?”
เสียงของใบดาบที่แตกเป็นเสี่ยงๆ นั้นได้ทำให้หญิงสาวเบิ่งตากว้างมองมันด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนที่ร่างของเธอจะทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้นราวกับว่าสิ่งที่แตกสลายไปเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เพียงแค่อาวุธประจำกายของเธอ แต่ว่ารวมไปถึงจิตใจที่ยึดมั่นของตัวเธอเองด้วย
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ทำให้แววตาที่มักจะนิ่งเฉยของเดรคเผยแววสงสารขึ้นมาชั่วขณะก่อนที่เขาจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอไม่ใช่เดรค… แล้วก็ไม่มีวันจะเป็นได้… สิ่งที่เธอทำมาตลอดมันก็แค่การพยายามจะสวมเงาของคนอื่นแบบที่ผู้ใหญ่บ้านกำหนดให้เธอเป็น… ก็เท่านั้น…”
“………”
คำพูดของเดรคนั้นได้ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของเขาด้วยแววตาเหม่อลอยอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่ในดวงตาของเธอจะค่อยๆ ปรากฏหยาดน้ำสีใสพร้อมๆ กับที่เธอเอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
“ล…แล้วถ้าฉันไม่ใช่เดรค… แล้วฉันจะเป็นใครกันล่ะ… แล้วฉันคนนี้จะมีค่าอะไร… ฉันคนนี้…จะเป็นตัวอะไรไปได้กัน…”
“………”
คำพูดและเสียงสะอื้นของหญิงสาวไร้นามได้ทำให้เดรคชะงักนิ่งไปเล็กน้อย เพราะว่าเขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะสามารถพูดปลอบใจคนอื่นได้ และนั่นก็ทำให้เขาตัดสินใจที่จะยกมือขึ้นไปลูบหัวเธอเบาๆ ทีหนึ่งก่อนที่เขาจะเลื่อนมือไปกระชากคอเสื้อของเธอจากทางด้านหลังและออกแรงเหวี่ยงอีกฝ่ายไปยังบริเวณที่รีซาน่าและโมโกะกำลังสอบสวนหัวหน้าหมู่บ้านอยู่แทน
ฟุ๊บ—โคร๊ม!!
“——!?”
เสียงของอะไรบางอย่างที่พุ่งแหวกอากาศและร่างของหญิงสาวไร้นามที่ถูกเหวี่ยงมาจนไถลกับพื้นและหยุดอยู่ที่ข้างๆ ร่างของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านพอดีนั้นได้ทำให้โมโกะที่นั่งอยู่กับพื้นสะดุ้งตกใจจนตัวแข็งไป ในขณะที่ทางด้านรีซาน่านั้นก็ได้เอ่ยปากพูดต่อว่าขึ้นมาเมื่อเธอได้เห็นสภาพของหญิงสาว
“ค—คุณเดรคทำเกินไปหน่อยหรือเปล่าคะนั่น!?”
“พูดมาก…”
เดรคที่เดินตามมาและได้ยินคำพูดต่อว่าของรีซาน่าเข้าพอดีนั้นได้พูดตอบเธอกลับไปสั้นๆ ในขณะที่ทางด้านหญิงสาวไร้นามที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นนั้นก็ได้สังเกตเห็นร่างไหม้เกรียมของหัวหน้าหมู่บ้านที่นอนกองอยู่ข้างๆ กันขึ้นมา เธอจึงไม่รอช้าที่จะรีบผุดลุกขึ้นมาพูดขอคำตอบจากเขาอย่างมีความหวัง
“ท…ท่านผู้ใหญ่บ้าน…!! บอกฉันสิคะว่าที่เขาพูดนั่นมันไม่จริงน่ะ!! บอกฉันมาสิคะว่าฉันไม่ใช่แค่ตัวแทนที่ท่านหามาแทนเขาเฉยๆ น่ะ!!”
“เหอะ… สุดท้ายก็สู้มันไม่ได้งั้นหรอ… สมกับที่เป็นขยะไร้ค่าซะจริง…”
“……!!”
คำพูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดูแคลนของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นได้ทำให้รอยยิ้มอย่างมีความหวังบนใบหน้าของหญิงสาวไร้นามนิ่งค้างไปก่อนที่เธอจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยากโดยไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรขึ้นมาอีก
ซึ่งภาพเบื้องหน้านั้นก็ได้ทำให้รีซาน่าขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดถามหัวหน้าหมู่บ้านขึ้นมาตรงๆ
“ในวันนั้นที่ฉันถูกไล่ออกจากหมู่บ้านไป… ที่คุณบอกว่าฉันเป็นคนลงมือฆ่าคุณแม่กับเดรคในตอนนั้นที่จริงแล้วมันเป็นฝีมือของคุณหรือเปล่าคะ?”
“เอ๋ะ? จริงหรอรีซาน่า?”
คำถามของรีซาน่านั้นได้ทำให้โมโกะต้องหันไปพูดถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่ทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านนั้นก็กลับยังคงปิดปากเงียบเอาไว้โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาจนทำให้รีซาน่าต้องพูดชี้แจงข้อสันนิษฐานของเธอออกมาให้ทุกคนฟัง
“ค่ะ ฉันคิดเรื่องนี้มาได้สักพักนึงแล้ว… ก็อย่างที่ทุกคนเห็นว่าบ้านของฉันมันอยู่ติดกับเขตหวงห้ามที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้สักเท่าไหร่ เพราะงั้นเวลามีใครมีธุระอะไรกับคุณแม่พวกเขาก็มักจะนัดคุณแม่ออกไปพบที่กองไฟประจำหมู่บ้านซะมากกว่าน่ะค่ะ… แต่ว่าในวันนั้นกลับมีทั้งเดรคในตอนนั้นทั้งคุณผู้ใหญ่บ้านไปโผล่ที่บ้านของฉันมันจึงเป็นเรื่องที่แปลกมากน่ะค่ะ”
“เรื่องทั้งหมดนั่นมันก็เป็นเพราะแม่ของแกนั่นแหล่ะยัยเด็กต้องสาป!!”
ในทันทีที่รีซาน่าเอ่ยปากพูดขึ้นมาจนจบ ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านที่นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นก็ได้ตวาดขึ้นเสียงขึ้นมาแบบไม่สนใจสภาพร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสิ่งที่เขาพูดขึ้นมานั้นก็ได้ทำให้ทุกคนชะงักไปด้วยความแปลกใจในขณะที่ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านนั้นก็ยังคงเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ
“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันเป็นฝีมือของฉันเองยังไงล่ะ!! ทุกอย่างมันเป็นเพราะนังนั่งทำตัวนอกรีตไปแต่งงานกับคนนอกแล้วก็โดนพวกมันเป่าหูกลับมาจนหมดศรัทธานั่นล่ะ!! ทั้งๆ ที่ถ้าเกิดว่านังนั่นทำตัวดีๆ สักหน่อยมันก็คงจะไม่ต้องลากคนอื่นไปตายด้วยกันแบบนั้นแล้วแท้ๆ!!”
“หมดศรัทธา… หมายถึงเรื่องเทพเจ้ามังกรนั่นน่ะหรอ…?”
คำพูดของชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านได้ทำให้โมโกะต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดถามเขากลับไป ซึ่งนั่นก็ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านต้องเหลือบตาไปมองโมโกะและเค้นเสียงพูดตอบเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงดูถูก
“ก็แล้วมันจะมีอะไรอย่างอื่นอีกล่ะนังเด็กนอกรีต!! ท่านเทพมังกรน่ะมีอยู่จริง! แล้วท่านก็เป็นคนคอยอวยพรให้หมู่บ้านของพวกเราอุดมสมบูรณ์ไม่ขาดแคลนผลผลิตตลอดทั้งปีแบบนี้!! หรือต่อให้เป็นในยามที่หมู่บ้านเผชิญกับความยากลำบาก ท่านก็มอบคริสตัลวิซสีชมพูแสนหายากให้พวกเรานำไปแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือได้มาหลายครั้งหลายคราแล้ว!!”
ชายแก่ตวาดขึ้นเสียงออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่เขาค่อยๆ ใช้ไม้เท้าประจำตัวช่วยยันตัวเองขึ้นมานั่งและชี้ไม้เท้าของเขาตรงไปยังรีซาน่าด้วยความอาฆาตแค้นก่อนที่เขาจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ
“แล้วทีนี้มันเป็นยังไง!! อยู่มาวันนึงอยู่ๆ แม่ของแกก็กลับมาที่หมู่บ้านพร้อมกับผัวที่มันหามาจากข้างนอกนั่นเสร็จแล้วก็คอยพูดเป่าหูคนอื่นให้เสื่อมศรัทธาในตัวของท่านเทพมังกรยังไงล่ะ!! เพราะฉะนั้นโทษของมันก็คือการที่มันต้องตายสถานเดียว!!”
ในขณะที่ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านกำลังตวาดขึ้นเสียงขึ้นมาอยู่นั้นเอง สีหน้าของรีซาน่าที่ยืนฟังอยู่ก็ได้เริ่มที่จะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธอีกทั้งเขาสีดำทั้งสองข้างของเธอเองก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงและแผ่ความร้อนออกมาอันเกิดจากการที่วิซธาตุไฟของเธอกำลังพุ่งพล่านอย่างไร้การควบคุมจนมันไปอัดแน่นอยู่ที่บริเวณเขาของเธอ
“แถมแค่นั้นยังไม่พอ!! แกที่มีตำแหน่งเป็นถึงเดรคก็ยังหนีออกจากหมู่บ้านไปเงียบๆ จนทำให้เจ้าลาด้อนที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเกิดความสงสัยในตัวของท่านเทพมังกรขึ้นมาอีก!! จนสุดท้ายเจ้าลาด้อนก็ต้องมาตายตามนังมารร้ายนั่นไปด้วยไงล่ะ!!”
ชายแก่หัวหน้าหมู่บ้านที่เห็นท่าทีโกรธแค้นของรีซาน่านั้นไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจเธอเลยแม้แต่น้อยและชี้ไม้เท้าของเขาไปทางด้านเดรคที่ยืนนิ่งเงียบอยู่จนทำให้ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วน้อยๆ กับสิ่งที่เขาพูดขึ้นมา
ซึ่งการแสดงออกของทั้งสองคนนั้นก็ได้ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านแสยะยิ้มออกมาด้วยท่าทีสาแก่ใจก่อนที่เขาจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ
“แล้วพวกแกคิดว่าจะมีวิธีไหนที่จะช่วยจัดการพวกนอกรีตไปพร้อมกับการเพิ่มศรัทธาในตัวท่านเทพเจ้ามังกรให้กับทุกๆ ได้อีกล่ะ…! ที่ฉันต้องทำก็แค่แอบใส่ยานอนหลับจากเมืองนอกรีตที่พวกมันชอบไปนักชอบไปหนาลงไปในอาหารของนังนั่นกับเจ้าลาด้อน เสร็จแล้วก็แค่เฉือนพวกมันให้เป็นชิ้นๆ แล้วก็เอาไปบอกทุกคนว่ามันเป็นคำสาปที่เปลี่ยนได้แม้แต่กระทั่งเด็กน้อยคนนึงให้กลายเป็นปีศาจกินคนได้ยังไงล่ะ!!”
“แก!!!”
รีซาน่าที่ได้ยินน้ำเสียงสะใจของหัวหน้าหมู่บ้านได้หลุดเสียงตวาดออกมาเสียงดังด้วยความโกรธแค้นก่อนที่เธอจะเหวี่ยงขวานศึกที่ร้อนจนกลายเป็นสีแดงฉานเข้าใส่เขาในทันที
ฟุ๊บ—หมับ!
“—-!!?”
แต่ทว่าขวานศึกของรีซาน่าก็กลับขยับออกไปได้เพียงนิดเดียวก่อนที่มันจะถูกหยุดเอาไว้ด้วยมือของเดรคที่ยืนอยู่ข้างกายเธอจนทำให้รีซาน่าต้องหันไปมองเขาด้วยสายตาเอาเรื่องและกัดฟันพูดสั่งขึ้นมา
“รบกวนช่วยปล่อยด้วยค่ะ คุณเดรค…!”
“……..”
เดรคที่ได้ยินคำสั่งของรีซาน่านั้นได้จ้องมองเธอด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยมือออกจากขวานของเธอ
แต่ถึงอย่างนั้นก็เดรคกลับไม่ได้เดินถอยออกไปเพื่อปล่อยให้รีซาน่าได้ลงมือล้างแค้นอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เมื่อเขาได้ก้าวเท้าตรงเข้าไปหาหัวหน้าหมู่บ้านและออกแรงกระชากคอเสื้อของชายแก่ขึ้นมาแล้วจึงพุ่งหมัดใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
กร๊อก!!!
“อั๊—”
เสียงของกำปั้นที่กระทบกับใบหน้าของชายแก่ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนั้นไม่ได้ดังออกมาเหมือนกับเสียงของหมัดที่กระทบกับเนื้อ แต่ทว่ากลับเป็นเสียงเหมือนกับอะไรแตกหักแทนจนทำให้อารมณ์เกรี้ยวกราดของรีซาน่าจางหายไปในทันทีราวกับถูกสาดน้ำเย็นเข้าใส่
ผลั๊ก—ปึ๊ก—!
แต่ทว่าเดรคนั้นก็ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้นเมื่อเขาได้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านที่สะบัดไปตามแรงหมัดเข้าอีกครั้งก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากคอเสื้อของหัวหน้าหมู่บ้านและเหวี่ยงกำปั้นเข้าเสยใส่ที่กลางลำตัวของหัวหน้าหมู่บ้านจนร่างของเขาลอยขึ้นกลางอากาศและปิดท้ายด้วยการจับศีรษะของหัวหน้าหมู่บ้านที่ลอยอยู่กลางอากาศลงมากระแทกกับพื้นที่ข้างๆ ตัวของรีซาน่าอย่างแรง
ตึ้ง—!!
“………”
และหลังจากที่เดรคจัดการลงไม้ลงมือกับหัวหน้าหมู่บ้านเสร็จแล้วเขาก็ได้ละสายตาออกมาจากหัวหน้าหมู่บ้านที่นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นดิน และเดินไปตบไหล่ของรีซาน่าเบาๆ ราวกับจะบอกว่าทีนี้ก็เป็นตาของเธอแล้วจนทำให้รีซาน่าที่เห็นการลงมือที่จะบอกว่ารุนแรงกว่าเธอหลายเท่าได้แต่ยืนนิ่งอยู่ด้วยความสับสนเหมือนกับเธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไงดี
“ฉันพาคนมาช่วยแล้ว!!”
แต่แล้วในขณะที่รีซาน่ากำลังทำตัวไม่ถูกอยู่นั้นเอง อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงร้องตะโกนของเบรนสันดังโหวกเหวกออกมาจากแนวต้นไม้ก่อนที่จะมีร่างของเขาและกลุ่มชาวบ้านวิ่งออกมาพร้อมกับอาวุธแหลมคม คริสตัลวิซประจำกาย หรือไม่ก็พวกอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ ที่น่าจะใช้เป็นอาวุธได้
ซึ่งเบรนสันและชาวบ้านเหล่านั้นก็ได้ชะงักไปเมื่อเขาได้เห็นสภาพที่อยู่เบื้องหน้าก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยปากพูดพึมพัมกันออกมา
“เฮ้ยๆ ไหนแกบอกว่าผู้ใหญ่บ้านกำลังจะทำร้ายพวกเด็กๆ ก็เลยให้พวกเรารีบมาช่วยห้ามไม่ใช่เรอะเบรนสัน…”
“นั่นมันเดรคคนก่อนไม่ใช่หรือไงน่ะ!? ไหนผู้ใหญ่บ้านบอกว่าเขาโดนเด็กต้องสาปฆ่าตายไปแล้วนี่!?”
“นี่ข้าแก่จนตาฝาดแล้วมั้ง… คนที่มีตำแหน่งเดรคไม่น่าจะอยู่ฝั่งเดียวกับเด็กต้องสาปได้น่า…”
“ท…ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงฉัน…!! เจ้าหมอนั่นมันเป็นตัวปลอมที่ยัยเด็กต้องสาปพามากะจะทำให้พวกเราสับสนเฉยๆ …!! รีบจัดการพวกมันเพื่อปกป้องหมู่บ้านของพวกเราซะ…!! อย่าปล่อยให้ยัยเด็กต้องสาปนั่นทำลายหมู่บ้านของพวกเราได้…!!”
เสียงพูดพึมพำด้วยความสับสนของเหล่าชาวบ้านนั้นได้ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะผุดลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่สะบักสะบอมและเอ่ยปากพูดชักนำเหล่าชาวบ้านขึ้นมา
ซึ่งคำพูดที่ดูหนักแน่นน่าเชื่อถือของหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นที่นับหน้าถือตานั้นก็ได้ทำให้เหล่าชาวบ้านแตกฮือออกจากรอบกายของเบรนสันและกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาก่อนจะหันอาวุธในมือไปทางพวกเขาด้วยสายตาเคลือบแคลงในทันที
“นี่แกหลอกพวกฉันเรอะเบรนสัน!?”
“แกโกรธแค้นอะไรก็บอกกันดีๆ สิวะเบรนสัน! ทำไมถึงต้องวางแผนถึงขนาดจะทำให้หมู่บ้านล่มจมไปกันแกด้วยกัน!? ถ้าเกิดเทพมังกรโกรธขึ้นมาพวกเราได้ตายกันหมดนี่เลยนะโว้ย!!”
“จะว่าไปเห็นพวกแกดีใจทุกครั้งที่จะได้ออกไปขายของเลยไม่ใช่หรือไง…? นี่อย่าบอกนะว่าพวกแกคิดจะทำให้ท่านเทพมังกรโกรธขึ้นมาจนหมู่บ้านของพวกเราล่มสลายจะได้ย้ายออกไปอยู่ในเมืองหลวงแทนน่ะ!?”
“หึ….”
เสียงร้องโวยวายของเหล่าชาวบ้านบางส่วนที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนั้นได้ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านหลุดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจและนั่นก็ทำให้โมโกะที่ลอบสังเกตท่าทีของหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ต้องส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความขุ่นเคือง
“นี่แก…!! จนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมหยุดอีกงั้นหรอ…!!”
“เหอะ… แล้วมันจะทำไมล่ะ… ถึงพวกแกจะรู้ความจริงแล้วแต่เจ้าพวกโง่นั่นมันยังไม่รู้นี่… ยิ่งถ้าพวกแกลงมือกับฉันตอนนี้ล่ะก็พวกมันก็จะยิ่งตราหน้าพวกแกว่าเป็นปิศา—”
ฟุ๊บ—
“อ๊อกกก—”
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน!?”
เสียงของหัวหน้าหมู่บ้านที่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสาแก่ใจนั้นได้ขาดห้วงไปกลางคันเมื่ออยู่ๆ เดรคที่ยืนมองท่าทีของเหล่าชาวบ้านมาได้สักพักหนึ่งแล้วได้กระชากคอเสื้อของเขากลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งถึงแม้ว่าการกระทำให้ของเดรคนั้นจะทำให้เหล่าชาวบ้านที่ยืนล้อมเบรนสันอยู่หันอาวุธมาทางพวกเขาแทนก็ตามที แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยและยกร่างของหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาใกล้ๆ เพื่อพูดข่มขู่ขึ้นมา
“ถ้างั้นเดี๋ยวชาวบ้านพวกนั้นก็จะได้ตามหลังแกไปหาเทพมังกรที่พวกแกนับถือนั่นเอง…!! รีซาน่า…”
ตุ๊บ—
หลังจากที่เดรคเอ่ยปากพูดขึ้นมาจนจบแล้วเขาก็ได้โยนร่างที่สะบักสะบอมของหัวหน้าหมู่บ้านไปที่แทบเท้าของรีซาน่าราวกับจะบอกว่าถ้าเธอไม่รีบๆ ลงมือล่ะก็ เขาก็จะเป็นคนลงมือทำมันเองซะเดี๋ยวนี้เลย
ซึ่งรีซาน่านั้นก็ได้จ้องมองร่างของหัวหน้าหมู่บ้านที่ไหม้เกรียมและเต็มไปด้วยเลือดอยู่ชั่วขณะก่อนที่เธอจะหันไปพยักหน้าให้กับเดรคและหยิบขวานศึกของเธอขึ้นมาจากพื้นอีกครั้งหนึ่ง
“เข้าใจแล้วค่ะ… ฉันจะเป็นคนลงมือเอง…”
“ด–เดี๋ยวก่อนสิรีซาน่า ถ้าเกิดว่าเธอทำแบบนั้นเดี๋ยวเธอก็ได้กลายเป็นเด็กต้องสาปที่ทำให้หมู่บ้านล่มสลายแบบที่ไอ้แก่นั่นพูดขึ้นมาจริงๆ หรอกนะ!!”
“…ฉันรู้อยู่แล้วล่ะค่ะโมโกะจัง”
รีซาน่าเอ่ยปากพูดตอบโมโกะกลับไปเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันไปมองเหล่าชาวบ้านที่กำลังถืออาวุธยืนล้อมพวกเธออยู่ด้วยแววตาเศร้าๆ แล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ
“แต่ถ้าเกิดว่าพวกเขาต้องการปิศาจร้ายสักตนเพื่อให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงล่ะก็… ขอให้ฉันได้เป็นปิศาจร้ายตัวนั้นเองเถอะค่ะ!!”
ฟวับ—
หลังจากที่รีซาน่าเอ่ยปากพูดขึ้นมาแล้วเธอก็ได้ง้างขวานศึกของเธอขึ้นสูงและเหวี่ยงมันลงใส่ร่างของหัวหน้าหมู่บ้านที่นอนกองอยู่เบื้องหน้าในทันที
“พูดได้ดี… แต่ว่าพวกเจ้าทุกคนน่ะหยุดมือเสียตั้งแต่ตอนนี้คงจะเป็นการดีกว่านะ…”
แต่ทว่าก่อนที่ใบขวานศึกที่ร้อนจัดจนกลายเป็นสีแดงจะได้ลิ้มรสเลือดของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นเอง อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นมาที่ข้างกายของเธอ พร้อมๆ กับที่ด้ามขวานศึกของเธอได้ถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้อีกครั้ง
กึ๊ก–!
“——!?”
เสียงของหญิงสาวผู้ที่มีเขาสีชมพูอ่อนส่องประกายระยิบระยับในร่างที่ถูกปกคลุมด้วยชุดเดรสสีเดียวกันที่ปรากฏขึ้นมาที่ข้างๆ กายของรีซาน่าและใช้มือเรียวสวยของเธอเหนี่ยวรั้งด้ามขวานที่กำลังพุ่งลงไปสังหารหัวหน้าหมู่บ้านนั้นได้ทำให้ทุกคนหยุดชะงักไปด้วยความตกตะลึงก่อนที่หัวหน้าหมู่บ้านจะค่อยๆ เอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ท—ท่าน—”
“ท่านเทพมังกร!!”
ยังไม่ทันที่หัวหน้าหมู่บ้านจะได้เอ่ยปากพูดออกมาจนจบ อยู่ๆ หญิงสาวไร้นามที่มีตำแหน่งเดรคก็ได้เงยหน้ากลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและร้องออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านเทพมังกร ชิโยะ ก็กลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ให้ความสนใจในตัวหญิงสาวเลยแม้แต่น้อยในขณะที่ทางด้านเดรคนั้นก็ได้ยกมือขึ้นมากอดอกและพูดบ่นออกมาเบาๆ
“ยอมออกมาจนได้สักทีนะ…”
“นั่นคือท่านเทพมังกรงั้นหรอ!?”
“ไม่ผิดแน่… เขาสีชมพูเป็นประกายสดใสแบบนั้นเหมือนกับในเรื่องเล่าไม่มีผิดเลย…”
“นี่ที่ตาแก่เล่าให้ฟังว่าท่านเทพมังกรแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เป็นเรื่องจริงงั้นหรอเนี่ย!?”
คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านและหญิงสาวไร้นามรวมกับถึงท่าทางของเดรคที่ดูเหมือนว่าจะเป็นที่รู้จักดีในหมู่บ้านนั้นได้ทำให้เหล่าชาวบ้านพากันพูดพึมพำออกมาด้วยความตกใจก่อนที่พวกเขาจะพากันคุกเข่าลงเพื่อเป็นการทำความเคารพในตัวของเทพเจ้าประจำหมู่บ้าน
และนั่นก็ทำให้ทุกคนได้เห็นนากาที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาทางพวกเขาโดยมีอีฟขี่อยู่บนหลังด้วยสีหน้ายิ้มร่าราวกับว่าเธอกำลังเล่นสนุกอยู่
“โมโกะ! เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย!?”
“ทำไมถึงกลับมาช้านักหะ!? ไหนนายบอกว่าจะไปตามตัวอีฟแล้วรีบกลับมาไม่ใช่หรือไง…!?”
โมโกะที่ได้ยินคำพูดสอบถามของนากานั้นได้ขึ้นเสียงตอบเขากลับไปจนทำให้นากาต้องรีบพูดอธิบายขึ้นมา
“ก็ยัยตัวแสบนี่เล่นวิ่งไปถึงถ้ำของชิโยะเขาเลยน่ะสิ แถมยังทำท่าเหมือนกับว่าจะไม่ยอมกลับมาดีๆ ถ้าไม่ได้เข้าไปข้างในอีกต่างหาก ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีก็เลยต้องเข้าไปข้างในนั้นด้วยน่ะ”
“……!”
อีฟที่ขี่อยู่บนหลังของนากานั้นได้ยื่นหน้าออกมาพยักหน้าเหมือนกับเป็นการยืนยันคำพูดของเขา แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านโมโกะก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่ได้ให้ความสนใจในคำอธิบายของนากาสักเท่าไหร่นัก และเอ่ยปากพูดถามชื่อของผู้หญิงคนที่นากาพูดขึ้นมาแทนด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
“ชิโยะงั้นหรอ…?”
คำถามด้วยน้ำเสียงน่ากลัวของโมโกะนั้นได้ทำให้นากาสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปทางเทพมังกรชิโยะที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ รีซาน่า
ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะได้พบว่าในขณะนี้หญิงสาวคนที่มีชื่อว่าชิโยะนั้นกำลังจ้องมองรีซาน่าอยู่ด้วยท่าทีสนอกสนใจก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดขึ้นมา
“เจ้าคือแม่หนูผมสีน้ำเงินที่เคยหลงไปที่ถ้ำของเราเมื่อตอนนั้นสินะ… โตขึ้นเยอะเลยนี่นา… ส่วนเจ้าน่ะเดรค ถอยออกไปจากตัวของเจ้าเดรโค่เดี๋ยวนี้เลย”
“……..”
ถึงแม้ว่าเดรคจะได้ยินคำสั่งของชิโยะผู้เป็นเทพเจ้ามังกรไปแล้วก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นก็คือการคว้าดาบประจำตัวของเขาขึ้นมาปักลงที่ข้างกายโดยไม่ยอมขยับตัวออกจากจุดเดิม ซึ่งสิ่งที่เดรคทำนั้นก็ได้ทำให้ชิโยะต้องเผยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาให้เขาได้ยิน
“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกน่า เดี๋ยวเราจัดการเอง”
“……”
คำพูดของชิโยะนั้นได้ทำให้เดรคต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงและดึงร่างของหญิงสาวไร้นามที่ดำรงตำแหน่งเดรคที่ยังคงจ้องมองเทพมังกรชิโยะอยู่ตาไม่กะพริบให้ลุกขึ้นตามเขาไปเพื่อเปิดทางให้ชิโยะได้เดินเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ที่ข้างๆ ร่างที่หายใจรวยรินของหัวหน้าหมู่บ้านแต่โดยดี
ซึ่งชิโยะนั้นก็ได้นั่งมองหัวหน้าหมู่บ้านที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยแววตาเลื่อมใสอันเปี่ยมไปด้วยศรัทธาอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ… ว่าไงเจ้าเดรโค่… ทั้งๆ ที่เมื่อตอนที่เจ้าเข้าไปข้างในถ้ำเพื่อรับตำแหน่งเจ้าจะไม่ได้พบกับตัวเราแท้ๆ … แต่ว่าผ่านมาจนป่านนี้เจ้าก็ยังคงเชื่อในตำนานที่กล่าวขานถึงตัวเราอยู่อีกอย่างงั้นหรือ…?”
“แน่นอนอยู่แล้วสิครับท่านเทพมังกร!! ทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ ทั้งประเพณีพิธีกรรม ทั้งกฎของหมู่บ้าน ทั้งหมดนั่นมันก็มีไว้เพื่อท่านเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นครับ!!”
“งั้นหรอ… เราเข้าใจแล้วล่ะ”
เทพมังกรชิโยะที่ได้รับคำตอบที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธาจากหัวหน้าหมู่บ้านได้เผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมาก่อนที่เธอจะยื่นมือออกไปพยุงร่างของหัวหน้าหมู่บ้านให้ลุกขึ้นมานั่งแล้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาต่อ
“ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้น… ตัวเราก็ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมามันจบลงไปพร้อมกับชีวิตของเจ้าเถอะนะ…”
สวบ!!
“อ—เอ๋ะ…..”