Complete Martial Arts Attributes – คุณสมบัติแห่งนักสู้ - ตอนที่ 122
บทที่ 122: ช่างเป็นคนดีจริงๆ
เมื่อชายหนุ่มเสียชีวิต นกที่เขานั่งอยู่ก็ลอยขึ้นไปในอากาศและ… บินจากไป
มันบินหนีไปแล้ว!
มันบินหนีไปโดยทิ้งเจ้าของไว้
นี่คือสัตว์เลี้ยงวิญญาณที่ไร้หัวใจ
หวังเต็งมีช่วงเวลาแห่งความเงียบงันสําหรับชายหนุ่ม
ผู้ชายคนนี้ล้มเหลว!
แม้แต่สัตว์เลี้ยงวิญญาณของมันก็ยังทอดทิ้งมัน นี่มันน่าเศร้าแค่ไหนกัน!
ทุกอย่างจบลงแล้ว หวังเต็งถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นกตัวนั้นทําให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง ถ้าเขาทําได้ เขาก็อยากจะเก็บมันให้จบๆไปซะที่นี่เลย แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้แล้ว
หลังจากถอนหายใจอย่างโล่งอก จิตใจที่ตึงเครียดของเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง วินาทีต่อมาคลื่นแห่งความเจ็บปวดก็เข้าจู่โจมจิตใจของเขา ราวกับว่าค้างคาวกําลังก่อกวนสมองของเขาอย่างชั่วร้าย
เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อต่อต้านการโจมตีของปืนใหญ่เทพอัคคี เขาจึงได้ปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณของเขาเพื่อสร้างกําแพงป้องกัน
หลังจากนั้นเขาก็ยังได้เรียกพลังทั้งหมดที่เหลือของเขาเพื่อเอาชนะชายหนุ่มระดับทหาร 3 ดาวคนนี้อีก
และนั่นคือสาเหตุที่พลังแห่งจิตวิญญาณของเขาถูกใช้ไปจนหมดในตอนนี้
ผลที่ตามมาเกือบจะทําให้หวังเต็งเป็นลมจากความเจ็บปวด
มันใช้เวลานานกว่าความเจ็บปวดจะบรรเทาลง และแม้ว่ามันจะไม่เจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกเหมือนกําลังจะตาย
หวังเต็งรักษาจิตวิญญาณของเขาและเริ่มมองหาเพื่อนร่วมทีมของเขา
เขาค้นหาอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะพบทุกคนในที่สุด
พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป และไม่ว่าหวังเต็งจะเรียกพวกเขายังไง พวกเขาก็ไม่ยอมตื่น
พลังแห่งจิตวิญญาณของพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่ากับของหวังเต็ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถรับมือกับแรงกระแทกจากการระเบิดได้
หยางเฟยอยู่ในสภาพที่เลวร้ายที่สุด
ขาข้างหนึ่งของเขาขาดเนื่องจากการระเบิด เลือดมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และความเจ็บปวดก็ทําให้ร่างกายของเขากระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
หวังเต็งทําได้เพียงช่วยเข้ามเลือด และใช้ยาอะไรก็ตามที่เขาสามารถใช้ได้
เขาปฏิบัติต่อผู้อื่นในลักษณะเดียวกัน
มันมีบาดแผลมากมายบนร่างกายของพวกเขา หลายพื้นที่ถูกเผาจนกลายเป็นสีดํา ดังนั้นเขาจึงใช้ยาทั้งภายในและภายนอก เขาหวังว่าพวกเขาจะสามารถผ่านพ้นความเจ็บปวดนี้ไปได้
เขาไม่มีเวลาดูฟองสบู่ค่าคุณสมบัติทั้งหมดรอบตัวเขาในตอนแรก ดังนั้นเขาจึงเพิ่งหยิบมันขึ้นมา
เขาลากร่างที่เหนือยล้าของเขาและวางเพื่อนร่วมทีมไว้ในที่ปลอดภัย
หลังจากค้นศพของชายหนุ่มแล้ว เขาก็เผาชายคนนั้นเป็นเถ้าถ่านเพื่อลบร่องรอย
ณ ปัจจุบันในถ้ํา
หวังเต็งกินยารักษาและพักอยู่สักสองสามชั่วโมง ร่างกายและจิตใจของเขาค่อยๆดีขึ้น และแม้ว่าเขาจะไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ แต่เขาก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
หลินซานและสมาชิกในทีมคนอื่นๆยังไม่ตื่น
เขาตรวจสอบปืนใหญ่เทพอัคคีในมือของเขาและพบว่ามันไม่น่าเชื่อ
ปืนใหญ่เทพอัคคีกระบอกนี้หนาพอๆกับต้นขาของผู้ใหญ่ และมันก็ประดับด้วยลวดลายที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนบนพื้นผิว มันดูเหมือนปืนใหญ่ที่ปรากฏขึ้นในยุคไอน้ําบนโลกเมื่อหลายร้อยปีก่อน
แน่นอนว่าพลังของพวกมันนั้นเทียบกันไม่ได้
ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่ดูธรรมดาๆนี้มีพลังพิเศษเช่นนี้!
ทีมพยัคฆ์นักรบเกือบตายเพราะการโจมตี และหากนักสู้ในทีมของเขามีสิ่งนี้ พวกเขาก็จะอยู่ยงคงกระพัน
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่สมจริง
ปืนใหญ่เทพอัคคีนั้นเป็นอุปกรณ์บีบอัดพลังฟอร์ส มันจะบีบอัดพลังฟอร์สจํานวนมหาศาลให้เป็นลูกบอลขนาดเล็ก จากนั้นก็ปล่อยมันออกไป
กล่าวกันว่าอุปกรณ์บีบอัดพลังฟอร์สนั้นเป็นสิ่งที่ถูกทิ้งไว้โดยคนของทวีปซินหวู่ในยุคก่อน มันเป็นการผสมผสานกลไก,อักษรรูน และทักษะอื่นๆ มากมายของอารยธรรมนั้นภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งมันก็ซับซ้อนมากในการสร้าง
นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ในการสร้างปืนใหญ่นี้ก็ยังต้องทนต่อแรงอัดอีกด้วย ถ้าไม่เช่นนั้น ปืนใหญ่ก็จะระเบิดก่อนที่พลังฟอร์สจะปล่อยออกมา
คุณจะโจมตีโดนตัวเองแทนที่จะเป็นศัตรูของคุณ
และโดยธรรมชาติแล้ว วัสดุประเภทนี้ก็ไม่ใช้ถูกๆ
ด้วยเหตุนี้เอง ปืนใหญ่เทพอัคคีจึงเป็นอะไรที่ยากมากที่จะสร้าง!
และคนธรรมดาก็ไม่สามารถใช้ได้!
ดังนั้นทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่าชายหนุ่มคนนี้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดายังไงล่ะ!
ลืมมันไปเถอะ ยังไงซะเขาก็ได้ได้ฆ่ามันไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคิดถึงสิ่งเหล่านี้ในตอนนี้
หวังเต็งส่ายหัว
นอกจากปืนใหญ่เทพอัคคีแล้ว หวังเต็งก็ยังพบแหวนเมื่อเขากําจัดศพ
พลังฟอร์สธาตุไฟไม่สามารถทําอะไรแหวนวงนี้ได้!
นี่คือแหวนมิติหรือเปล่า?
หวังเต็งนึกถึงความเป็นไปได้นี้และใช้พลังแห่งจิตวิญญาณของเขาเพื่อตรวจสอบแหวน เขารู้สึกได้ทันทีว่าวิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนไป เขาเห็นช่องมิติ
โอ้พระเจ้า มันเป็นแหวนมิติจริงๆ ฉันรวยแล้ว
หวังเต็งรู้สึกปลาบปลื้มใจ แหวนมิติไม่ใช่ของที่สามารถพบได้ในชีวิตประจําวัน แม้แต่หลินซานซึ่งเป็นนักสู้ระดับ 3 ดาวก็ยังไม่มีมัน
มันเนเรื่องปกติที่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้รอบครองมัน เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นอะไรที่มีค่าเป็นอย่างมาก
คุณสามารถบอกได้ว่ามันมีค่าแค่ไหน
บางทีความเข้าใจและจินตนาการของเขาก็อาจจะถูกจํากัดด้วยการขาดเงินของเขา
หวังเต็งส่ายหัวและเยาะเย้ยตัวเอง เขาเล่นกับแหวนมิติอย่างมีความสุขในขณะที่เขาตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายใน
มันมีหลายสิ่งหลายอย่างในนั้น: หินพลังงาน เม็ดยา เม็ดยาจิตวิญญาณ แร่ และอื่นๆ
ว้าว คนๆนี้ร่ํารวยมาก!
หวังเต็งอุทานในใจของเขา เขาใช้ความคิดของเขา และหยิบก้อนแร่ออกมาจากแหวนมิติ
ทําไมเขาถึงหยิบแร่นี้ออกมา?
ก็ช่วยไม่ได้ แร่นี้มันเปล่งประกายราวกับทองคําและดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
“เชี่ย มันหนักมาก!”
เมื่อแร่ตกลงบนมือของเขา หวังเต็งก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขากําลังจมลง
ความแข็งแกร่งของเขาค่อนข้างทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าแร่ก้อนนี้มีน้ําหนักค่อนข้างมาก
มันมีขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอล และมันก็ส่องประกายด้วยแสงสีทอง ในตอนแรกหวังเต็งก็คิดว่ามันน่าจะเป็นทอง อย่างไรก็ตาม เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ออกไป ทองไม่น่าจะหนักขนาดนี้
นี้จะต้องเป็นแร่พิเศษจากทวีปซินหว่อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่แร่ที่บันทึกอยู่ใน การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจําลองสามปี” นั้นล้วนเป็นแร่ที่พบเห็นได้ทั่วไป ดังนั้นแร่ก้อนนี้จึงไม่รวมอยู่ในรายการนั้น
หวังเต็งเก็บแร่ไปและหันความสนใจไปที่หน้าต่างคุณสมบัติของเขา
ความรู้แจ้ง: อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณ (0/100)
ค่าพลังวิญญาณ: อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณ (0.3/100)
ความสามารถ: พรสวรรค์ลมขั้นปานกลาง (6/500), พรสวรรค์ไฟขั้นเริ่มต้น (11/300) พรสวรรค์น้ําแข็งขั้นเริ่มต้น (13/300), พรสวรรค์ดินขั้นเริ่มต้น (12/300), สายตาแห่งจิตวิญญาณ (เริ่มต้น 1.4/10) , ร่างอสูรดอกบัวอสูร (41/10000), พรสวรรค์ธนขั้นเริ่มต้น (5/100), มิติ (0.8/10000)
พลังฟอร์ส: 11/500 (ไฟ 2 ดาว), 70/100 (น้ําแข็ง 1 ดาว), 53/100 (พิษ 1 ดาว), 51/100 (ลม 1 ดาว), 27/100 (โลหะ 1 ดาว ), 42/100 (ดิน 1 ดาว), 3/100 (ไม้ 1 ดาว), 21/100 (น้ํา 1 ดาว)
คัมภีร์: คัมภีร์เพลิงแดง (รากฐาน 35/100), คัมภีร์เหมันต์เร้นลับ (รากฐาน 25/100),ทักษะปฐพีเหลือง โล่ปฐพี” (รากฐาน 29/100), Wind Soul คัมภีร์วิญญาณวายุ (1/100)
เทคนิคการต่อสู้: เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน (หมัด ดาบ มีด ฟุตเวิร์ค กระบองขั้นผู้รู้แจ้ง) ทักษะธนขั้นพื้นฐาน (พื้นฐาน) ปืนกังฟู (พื้นฐาน 4/10) ทักษะดาบเพลิงคิริน (พื้นฐาน 59/100) หมัดปีศาจเหมันต์ (พื้นฐาน 31/100), ทักษะมีดเร้าขุนเขา (พื้นฐาน 5/100), ก้าวแห่งวายุ (พื้นฐาน 1/100), กรงเล็บวายุเขียว (1/500)
วิชาพื้นฐาน (คะแนนเต็ม), การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจําลองสามปี” (คะแนนเต็ม)
พลังการต่อสู้โดยรวม: 342
ค่าคุณสมบัติเปล่า: 90
ในตอนที่หวังเต็งฆ่าชายคนนั้น เขาก็ได้เล็งไปที่ศีรษะของชายคนนั้น ดังนั้นนี่จึงอาจเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงมีค่าคุณสมบัติพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นมา 3 คะแนน
อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นในอาณาจักรแห่งจิตวิญญาณแค่ 0.3 คะแนนเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลย อัตราส่วนของค่าคุณสมบัติพลังวิญญาณปกติและค่าคุณสมบัติอาณาจักรแห่งจิตวิญญาณนั้นคือ 10:1
ถัดมาคือ พลังฟอร์ส
หลังจากเพิ่ม 23 แต้มให้กับค่าคุณสมบัติพลังฟอร์สธาตุไฟ เขาก็ได้ทําลายประตูระดับทหาร 1 ดาวและไปถึงระดับทหาร 2 ดาว
และตอนนี้เขาก็กลายเป็นนักสู้ระดับทหาร 2 ดาวแล้ว!
นิวเคลียสฟอร์สที่สองบนกระดูกสันหลังของเขาสว่างขึ้น จากนั้นพลังฟอร์สธาตุไฟก็เทลงไปในนิวเคลียสฟอร์สและหมุนวนไปมาอย่างมีความสุข
มันมีเพียงพลังฟอร์สธาตุไฟเท่านั้นในนิวเคลียสฟอร์สที่สอง พลังฟอร์สธาตุอื่นๆยังคงอยู่ในนิวเคลียสฟอร์สแรก พวกมันยังไปไม่ถึงขีดจํากัด ดังนั้นพวกมันจึงยังไม่สามารถเข้าสู่นิวเคลียสฟอร์สที่สองได้
เนื่องจากความก้าวหน้าของเขา อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาจึงหายเร็วขึ้นพอสมควร
เมื่อเขารู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลผ่านเส้นเลือดของเขา หวังเต็งก็ยิ้มออกมา
นี่คือฟ้าหลังฝนสินะ?
แต่ทําไมพลังฟอร์สธาตุไฟของฉันถึงเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้กัน? เป็นไปได้ไหมที่ปืนใหญ่เทพอัคคีจะดรอปค่าคุณสมบัติพลังฟอร์สธาตุไฟ?
เขาแปลกใจเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงคาดเดาอย่างโง่ๆ
นอกจากนี้ พลังฟอร์สธาตุดินของเขาก็เพิ่มขึ้นมา 10 พลังฟอร์สธาตุน้ํา 8 พลังฟอร์สธาตุโลหะ 12 และพลังฟอร์สธาตุลม 15 คะแนน
ค่าคุณสมบัติพลังฟอร์สของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อหวังเต็งตรวจสอบค่าคุณสมบัติเหล่านี้เสร็จ ในที่สุดเขาก็จ้องไปที่พรสวรรค์,คัมภีร์และเทคนิคการต่อสู้ของเขา
พรสวรรค์ลมขั้นปานกลาง*5
เขาได้รับพรสวรรค์ลมขั้นปานกลางอีกแล้ว!
ชายหนุ่มคนนี้สามารถเป็นนักสู้ระดับทหาร 3 ดาวได้ก่อนอายุ 30 ปี ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพรสวรรค์ของเขานั้นไม่เลวเลย หวังเต็งรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะพรสวรรค์ลมขั้นปานกลางของเขา
ตอนนี้ หวังเต็งสามารถสัมผัสพลังฟอร์สธาตุลมได้มากขึ้นรอบตัวเขา เมื่อเขาใช้พลังฟอร์สธาตุลมของเขา มันก็ราบรื่นกว่ามาก
เาในหัวของเขา พลังฟอร์สโผล่ออกมาจากนิวเคลียสฟอร์สของเขาและรว มตัวกันเป็นลูกบอลลมกรดสีเขียวในฝ่ามือของเขา
นี่คือพลังฟอร์สธาตุลมอย่างงั้นหรอ? งั้นมาลองใช้พลังของมันกันเถอะ!
เขาใช้ความคิดและควบคุมพลังฟอร์สสีเขียว และควบแน่นมันเป็นใบมีดลม
ไป!
ใบมีดลมบินออกไปและทิ้งรอยลึกไว้บนผนังหิน
“ไม่เลว ถ้าฉันสามารถบีบอีดมันให้เล็กมันก็จะมีพลังมากขึ้น” หวังเต็งติดกับตัว
หวังเต็งคิดกับตัวเองเงียบๆ
สายตาของเขาหันไปที่คัมภีร์และเทคนิคการต่อสู้ของเขา
คัมภีร์วิญญาณวายุ คัมภีร์ระดับมืดขั้นสูง!
กรงเล็บวายุเขียว เทคนิคการต่อสู้ระดับมืดขั้นสูง!
หวังเต็งรู้สึกดีใจยิ่งขึ้นไปอีก คัมภีร์และเทคนิคการต่อสู้ที่ชายหนุ่มดรอปออกมานั้นไปล้วนเป็นระดับมืดขั้นสูง หากดูตามราคาในเว็บของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้จีซินแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะมีราคาอย่างน้อยสองถึงสามร้อยล้าน
แม้ว่าหวังเต็งจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ชื่ออะไร แต่หวังดเต็งก็รู้สึกขอบคุณเขา
เขาเป็นคนดี!
เขามาเพื่อส่งปืนใหญ่เทพอัคคี,แหวนอวกาศ,พรสวรรค์,คัมภีร์และแม้แต่เทคนิคการต่อสู้
ดีกว่านี้มีอีกไหม?
นั่นคือเหตุผลที่การฆ่าใครซักคนและชิงทรัพย์สมบัติของพวกเขามานั้นเป็นหนทางที่ถูกต้องสู่การเป็นเศรษฐี!
หวังเต็งลูบไล้คางจของเขาขณะไตร่ตรองกับตัวเอง
ทันใดนั้น มันก็ดูเหมือนจะมีออร่าสีดําล้อมรอบร่างกายของเขา…
“หวังเต็ง…”
ในขณะนี้ เสียงที่อ่อนแอของหลินซานก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา..
ทันใดนั้นทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะปกติ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หัวหน้า คุณตื่นแล้ว!” หวังเต็งรีบลุกขึ้นและเดินเข้าไป เขามองหลินซานด้วยความเป็นห่วงและถามว่า “คุณโอเคขึ้นรึยัง?”
หลินซานส่ายหัว “ทุกคนเป็นยังไงบ้าง”
“เช่นเดียวกับคุณ อย่างไรก็ตาม หยางเฟยก็…” หวังเต็งหยุดพูด
หลินซานเริ่มมองหาร่างของหยางเฟยในถ้ําทันที เมื่อเห็นขาที่ขาด ตัวเขาก็สั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
“เฒ่าหยาง…”
หลังจากนั้นไม่นาน หยานจนหมิง,หลิวหยานและเพื่อนร่วมทีมที่เหลือก็เริ่มตื่นขึ้นมาทีละคน พวกเขารวมตัวกันรอบๆหยางเฟย บรรยากาศเงียบสงัด และบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
เมื่อหยางเฟยลืมตาขึ้น นี่ก็คือฉากที่เขาเห็น
การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขาทําให้หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น จากนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ขาของเขา
“ขาของฉัน…”
ดวงตาของหยางเฟยเบิกกว้าง เขาเกือบจะร้องตะโกนออกมา ความเจ็บปวดนี้มันใหญ่หลวงเกินไปสําหรับเขา
“ เฒ่าหยาง ใจเย็น!” หลินซานตะโกน