Crazy Leveling System - ตอนที่ 233
CLS ตอนที่ 233: มอบของขวัญ
ความโอหังของอี้เทียนหยุนทำให้หลายคนพากันมองมาด้วยความตกตะลึง กระทั่งตัวประมุขมาเอง เขาก็ยังไม่กลัวแม้แต่น้อย ทั้งยังยิ่งโอหังกว่าเดิมด้วย
ไม่มีใครรู้ว่าไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนนั้นโอหัง แต่เป็นเพราะวังเสินเหวินทำเกินไป! อี้เทียนหยุนนั้นไม่ใช่คนเริ่มหาเรื่อง ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเฟิงนั้นอวดดีเกินไป เขาก็คงไม่ยอมเปลืองมือโจมตีหลินเฟิง ซึ่งทำให้มือของตัวเองสกปรกหรอก
เขาคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนถ่อมตัวอย่างมาก แต่ถ้าต้อนให้เขาต้องลงมือแล้วล่ะก็ เขาจะไม่มีทางออมมือให้อย่างแน่นอน
หลายคนพากันส่ายหัว คิดในใจว่าวังเทียนจี๋จบสิ้นแล้ว ด้วยเด็กหนุ่มที่ไม่กลัวตายคนนี้ วังเทียนจี๋จะต้องตอบแทนด้วยราคาที่ไม่สามารถประเมินได้ ถ้าไม่มีค่าชดใช้ที่มากพอ แล้วจะสะกดความโกรธแค้นของวังเสินเหวินได้ยังไง
“เจ้าหนุ่ม เจ้าใจกล้ามาก!” หนานเฟิงหยุนจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็พูดกับผู้อาวุโสใหญ่วังเทียนจี๋ว่า “พวกเจ้าทำได้ดีมาก ดูท่าคงจะมีคนหนุนหลังที่ดีล่ะสิ?”
ผู้อาวุโสใหญ่กับพวกพากันเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา พวกเขามีผู้หนุนหลังที่ไหนกัน ตอนนี้ได้แต่เชื่อฟังคำแนะนำของอี้เทียนหยุนเท่านั้นล่ะ
“ประมุขหนาน เรื่องนี้ท่านไม่จำเป็นต้องรู้” สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างล้วนกระทำตามวิธีการของอี้เทียนหยุน
“ดีมาก!” หนานเฟิงหยุนพูดอย่างเย็นชา “หลังจากจบงานนี้เมื่อไหร่ ข้าจะไปเยือนวังเทียนจี๋ด้วยตัวเอง ดูสิว่าพวกเจ้ามีใครหนุนหลังอยู่!”
จ้าวอวี่ที่อยู่ใกล้ๆ สนใจเหตุการณ์นี้อย่างมาก ทำให้อดไม่ได้ต้องวิจารณ์ออกมา
“ศิษย์พี่ เจ้าหนุ่มนั้นอวดดีเกินไปแล้ว เขาไม่กลัวประมุขหนานจริงๆ?” ในดวงตาที่งดงามของจ้าวอวี่เต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอคงไม่กล้าอย่างนี้
“บางทีอาจจะเพราะถูกกระตุ้น หรือไม่ก็มีผู้หนุนหลังอยู่จริงๆ” อวี่ชีเชียนส่ายหัว แต่ให้สุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง เธอก็คิดว่าวังเทียนจี๋จะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน
ทางตำหนักซิงเฉินยิ่งตกใจยิ่งกว่า ตอนแรกพวกเขาคิดจะออกหน้าให้อี้เทียนหยุน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าแล้ว คำพูดที่อี้เทียนหยุนพูดเมื่อกี้นี้ เท่ากับกำหนดทางตายของตนเอาไว้แล้ว ถ้าพวกเขาออกหน้า ก็เท่ากับพวกเขาต้องการเป็นศัตรูกับวังเสินเหวิน แล้วอย่างนี้พวกเขาจะกล้าได้ยังไง
“เจ้าตำหนักหลี่ อี้เข่อชิงผู้นี้….. โอ้” ผู้อาวุโสหยุนส่ายหัว ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากช่วย แต่อี้เทียนหยุนฆ่าศิษย์โดยตรงของอีกฝ่าย เรื่องนี้ไม่มีทางประนีประนอมได้อย่างแน่นอน
“ไม่คิดเลยว่าอี้เข่อชิงคนนี้จะสร้างปัญหานี้ขึ้นมา….” หลี่เทียนหงยิ้มขมขื่นออกมา ถ้าเป็นเรื่องของผู้จัดการเมื่อก่อนหน้า เขาคงหาทางยุติเรื่องราวได้ แต่เรื่องสังหารศิษย์สายตรงของอีกฝ่าย เขาไม่มีวิธีจัดการกับเรื่องนี้จริงๆ
ตำหนักซิงเฉินเป็นกลางเสมอ ถ้าเป็นเรื่องผิดใจกันธรรมดาก็ดีไป แต่เรื่องการสังหารศิษย์ของอีกฝ่าย ไม่ง่ายที่จะจัดการ ทั้งยังไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกด้วย แม้ตำหนักซิงเฉินคิดจะหนุนหลังอี้เทียนหยุน แต่เรื่องนี้พวกเขารับไว้ไม่ไหวจริงๆ
และในตอนนี้เอง ก็ได้มีชายวัยกลางคนรูปร่างหล่อเหลาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ เขาก็คือต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพ เฉิงเฟิง! ท่วงท่าดูแล้วทรงอำนาจ เพียงออกมาก็ปลดปล่อยแรงกดดันกระจายออกทุกที่ ทำให้พวกเขารู้สึกกดดันอย่างมาก
หลังจากเดินมา เขาก็กวาดสายตามองรอบๆ คราหนึ่ง พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ด้วยท่าทางพึงพอใจ
“คารวะเฉิงต้าเหริน!”(นายท่านเฉิง)
ในตอนนี้เอง ทุกสำนักต่างพากันกล่าวทักทาย แม้จะมีบางสำนักที่ไม่เต็มใจ แต่ก็ยังต้องกล่าวออกมา ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นการไม่ไว้หน้าอาณาจักรใต้พิภพ
แม้กระทั่งตัวประมุขยังต้องเผชิญหน้ากับเฉิงเฟิงคนนี้ด้วยความเคารพ นี่คือความต่างระหว่างขุมอำนาจ แม้กระทั่งยามทั่วไปของอาณาจักรใต้พิภพยังไม่สามารถสังหารใต้ตามใจ ดังคำกล่าวที่ว่า จะตีสุนัขต้องดูเจ้าของ นี่คือความจริง ถ้าทำให้อาณาจักรใต้พิภพโกรธ ผลที่ตามมาต้องน่าสะพรึงอย่างแน่นอน
“อืม ยินดีต้อนรับเหล่าประมุขทั้งหลาย ข้ารู้สึกพึงพอใจมาก” เฉิงเฟิงสีหน้าเฉยชา มองมาที่พวกเขาแล้วก็พูดเนิบๆ ว่า “ครั้งนี้ข้าเชิญ 15 สำนักเข้าร่วม แต่หนึ่งในนั้นกลับไม่สนใจ ทั้งยังทำร้ายคนส่งสารของพวกเรา ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม อีกฝ่ายก็ได้ถูกพวกเราจัดการไปแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีสำนักนี้อีก ดังนั้นจึงทำให้ข้ามาช้า”
สีหน้าเรียบๆ ของเขาเอ่ยเรื่องที่น่าตระหนกออกมา บอกว่าทำลายก็ทำลาย นี่มันขุมอำนาจชั้น 3 เชียวนะ? อาณาจักรใต้พิภพเชิญเฉพาะขุมอำนาจชั้น 3 เท่านั้น ขุมอำนาจชั้น 2 ไม่มีสิทธิ์ ดังนั้น ขุมอำนาจชั้น 3 ทั่วทั้งทวีปเทียนจิ่งจึงมีเพียงแค่ 15 สำนักเท่านั้น
เมื่อดูรอบๆ แล้ว ก็มีกลุ่มคนทั้งเล็กและใหญ่ 14 กลุ่มจริงๆ ซึ่งตำหนักนี้รองรับได้อย่างสบาย
นี่ทำให้อี้เทียนหยุนนึกไปถึงตอนที่เพิ่งเข้าเมืองมา ตอนนั้นมีอินทรีย์ยักษ์ถูกทำร้าย คิดดูแล้วคงจะเป็นการต่อต้านของขุมอำนาจชั้น 3 ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายก็ย่อมไร้ปรานี ถูกทำลายทิ้งทั้งสำนัก
“ที่ข้าเชิญทุกคนมาวันนี้ เพื่ออยากจะคุยเรื่องบางอย่าง เรื่องนี้เป็นคำสั่งที่องค์จักรพรรดิมอบหมายให้ข้ามา” เขาเน้นหนักตรงคำว่า “องค์จักรพรรดิ” สองคำนี้ คำสั่งขององค์จักรพรรดิ ถ้าใครขัดคำสั่ง ผลลัพธ์คงไม่ต้องพูดถึง
ผู้คนพากันใจสั่น หัวใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรกัน?
“ใช่แล้ว พอดีเลย วันนี้เป็นวันเกิดของข้า…..” เฉิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะว่ายุ่งๆ ข้าก็เลยลืมไปเลย”
ผู้คนพากันตาโต ทำไมอยู่ๆ ก็พูดเรื่องวันเกิดขึ้นมา ทำไมไม่พูดเรื่องงานก่อน?
ในตอนนี้เอง บางคนก็พลันได้สติอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรีบกล่าวอวยพร “ยินดีกับเฉิงต้าเหรินด้วย นี่คือโสมร้อยปีที่พวกเราเตรียมมามอบให้เฉิงต้าเหริน กินแล้วช่วยบำรุงเลือดฉี ช่วยให้อายุยืนยาว ทำให้พื้นฐานฝึกตนมั่นคง”
จากนั้น ประมุขคนนั้นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมอบโสมร้อยปีให้
“หืม น่าสนใจขนาดนั้นเชียว….. โสมร้อยปีนี้เป็นของดี ข้าชอบมาก” เฉิงเฟิงพลันเต็มไปด้วยความสุข มองไปยังประมุขคนนี้คราหนึ่ง ด้วยความรู้สึกชื่นชม สามารถได้รับความสนใจจากเฉิงเฟิงนับเป็นเรื่องดี
ในตอนนี้ คนทั้งหลายก็พากันตอบสนอง เฉิงเฟิงคนนี้ช่างหน้าหนาจริงๆ เป็นอาณาจักรใต้พิภพเองแท้ๆ ที่ให้เขามาประกาศ แต่กลับเอ่ยเรื่องวันเกิดของตนขึ้นมา เพราะอยากฉวยโอกาสรับของขวัญจากพวกเขา!
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังได้เตรียมของขวัญไว้ก่อนแล้ว แม้จะบอกว่าปุบปับ แต่ก็ไม่ปุบปับเช่นกัน แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือเรื่องวันเกิดของเฉิงเฟิง เพราะว่าตนเกิดวันนี้ จึงได้ให้พวกเขามารวมตัวกันอย่างงั้นเหรอ?
นี่ออกจะเกินไป ฉวยโอกาสที่ตนเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ จัดงานวันเกิดของตนขึ้นซะเลย ช่างเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบนัก
โชคดีที่บางคนตอบสนองไว จึงได้มอบของขวัญเป็นคนแรกๆ ทำให้ประมุขหลายคนรู้สึกอิจฉา นี่หมายความว่าคนๆ นั้นจะต้องได้รับความสนใจมากอย่างแน่นอน
“เฉิงต้าเหริน นี่คือศาสตราจิตวิญญาณระดับสูงที่มีสายเลือดมังกร สามารถปลดปล่อยพลังของมังกรเพื่อจัดการกับศัตรูได้!”
“เฉิงต้าเหริน นี่คือสมุนไพรวิญญาณหยกอายุ 300 ปี สามารถ…..”
แต่ละคนต่างเร่งรีบมอบของขวัญออกไป เหตุการณ์นี้ทำให้อี้เทียนหยุนต้องขมวดคิ้ว หนังหน้าของเฉิงเฟิงคนนี้ช่างหนาจริงๆ ถ้าให้ของไม่ดีล่ะก็ เท่ากับว่าไม่ไว้หน้าต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพ