Crazy Leveling System - ตอนที่ 288
CLS ตอนที่ 288: ไม่ทราบว่านี่ใช้ได้ไหม
หลังจากที่อี้เทียนหยุนรับภารกิจ เขาก็พลันเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องยานั้นข้าสามารถช่วยเจ้ากลั่นให้ได้นะ!”
เขากะจะทักทายเย่ชิงเสวียน แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นก่อน ดังนั้นเขาจึงต้องวางเรื่องของตัวเองไว้ ในเมื่อได้เจอเย่ชิงเสวียนแล้ว โอกาสที่จะบอกกับยังไงก็ต้องมีอีก แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ค่อยดี คงต้องให้เรื่องนี้จบก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“เจ้ากลั่นโอสถได้อย่างงั้นเหรอ?” คนอื่นต่างพากันเงยหน้าขึ้น ในสายตาต่างเต็มไปด้วยความตกใจ
เย่ชิงเสวียนกับพวกพากันมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยความตกใจ ใครจะไปคิดว่าเขาจะสามารถกลั่นโอสถได้?
“เจ้าสามารถกลั่นโอสถได้จริงๆ?” เย่ชิงเสวียนคิด จากนั้นก็พูดว่า “ที่พวกเราต้องการไม่ใช่เม็ดยาชั้นต่ำ แต่เป็นชั้น 3 เป็นอย่างต่ำ ทั้งยังมีชั้น 4 ด้วย เจ้าสามารถทำมันได้จริงๆ?”
“ขอแค่มีวัตถุดิบ ก็ไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนไม่อยากจะพูดนัก
เขาในตอนนี้มีระดับในการกลั่นโอสถไปถึงขั้นสูงแล้ว เขาสามารถกลั่นโอสถชั้น 5 ได้ตั้งนานแล้ว! เพียงแต่โอสถชั้น 5 จะมีอัตราสำเร็จค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าได้ทำหลายๆ ครั้ง หรือเปิดใช้งานโชคดี ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรนัก
“ถ้างั้นข้าคงต้องขอให้เจ้าช่วยกลั่นโอสถให้พวกเราอย่างเร่งด่วนด้วย!” เย่ชิงเสวียนพูดออกมา
“ท่านนักบุญหญิง ท่านจะให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามากลั่นโอสถให้จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ๆ ทนไม่ได้ พูดออกมา
คำพูดของผู้อาวุโสคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล พวกเขากลัวว่าจะมีบางคนปลอมตัวเข้ามา จากนั้นก็วางยาลงในเม็ดยา จากนั้นเมื่อพวกเขากินเข้าไป งั้นพวกเขาคงถึงจุดจบแล้ว
“แล้วท่านมีวิธีอื่นไหมล่ะ?” เย่ชิงเสวียนมองไปที่ผู้อาวุโสคนนั้นแล้วถามเบาๆ
“นี่…. ไม่มี” ผู้อาวุโสคนนั้นยิ้มอย่างอึดอัด พวกเขาไม่มีวิธีจริงๆ ร้านยาปฏิเสธที่จะขายยาให้กับพวกเขา แค่พวกเขาไม่ถูกจับไปก็ดีแค่ไหนแล้ว อย่าว่าแต่จะมียาสำรองเลย
“ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องพูด” เย่ชิงเสวียนไม่อยากจะเถียงกับพวกเขา จากนั้นก็หันมาพูดกับอี้เทียนหยุนว่า “งั้นคงต้องรบกวนเจ้าแล้ว ส่วนวัตถุดิบพวกเราจะเตรียมให้”
“ท่านนักบุญหญิง ในเมื่อผู้อาวุโสมีความสงสัยในตัวข้า เรื่องนี้แก้ปัญหาได้ง่ายมาก ยามข้ากลั่นโอสถ พวกท่านสามารถดูได้ตามใจ และเมื่อยาเสร็จแล้ว ข้าจะเป็นคนลองเป็นคนแรก วิธีนี้ท่านว่าไง?” อี้เทียนหยุนรู้ว่าในใจพวกเขากังวลเรื่องอะไร
ตอนนี้อยู่ในช่วงคับขัน อย่าว่าแต่คนต่างเผ่า ต่อให้เป็นคนเผ่าเดียวกันยังมีคนทรยศเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้กังวลได้ยังไง? ถ้าเขาเป็นเผ่าภูต เขาก็ต้องระแวงเหมือนกัน
ที่เย่ชิงเสวียนตัดสินใจอย่างนี้ไม่ใช่ว่าไม่ระแวง เพียงแต่ในตอนนี้คนในเผ่ามีคนบาดเจ็บสาหัสอยู่ ถ้าไม่มียาพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน! ยิ่งกว่านั้น ถ้าเธอไม่เสี่ยงกับเรื่องนี้ เธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วเช่นกัน
“นี่……”
คำพูดของอี้เทียนหยุนทำให้ทุกคนพากันตกใจ นัยน์ตาคู่งามของเย่ชิงเสวียนเป็นประกาย คำพูดนี้ของเขาทำให้เธอหมดความระแวงในทันที มีคนจับตาดูอยู่ข้างๆ ทั้งเขายังเป็นคนลองกินคนแรกอีก นี่ย่อมให้พวกเขารู้สึกวางใจอย่างไม่ต้องสงสัย
นี่เขาจะให้คนดูเขายามกลั่นโอสถจริงๆ อย่างงั้นเหรอ? นักกลั่นโอสถส่วนมากมักจะปิดบังวิธีกลั่นโอสถของพวกตน ด้วยกลัวว่าคนอื่นจะเห็นวิธีการของพวกเขา แต่อี้เทียนหยุนกลับต่างออกไป ไม่เพียงแต่จะยอมทำต่อหน้าผู้คนแล้ว เขายังยินดีจะลองให้ก่อนเป็นคนแรกอีกด้วย!
“ดี ในเมื่อพูดอย่างนี้คงต้องขอรบกวนแล้ว จากนี้ไปพวกเราจะต้องตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน!” เย่ชิงเสวียนพลันโบกมือแล้วพูดขึ้น “งั้นก็ไปที่สถูปวิญญาณกัน วัตถุดิบอยู่ในนั้น”
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับเย่หว่านเอ๋อว่า “ไปกันเถอะ ไปที่สถูปวิญญาณด้วยกัน”
“แต่ แต่ข้า…..” เย่หว่านเอ๋อตกใจ สถูปวิญญาณไม่ใช่ที่ที่พวกเธอจะไปกันได้ตามใจ
“ไปด้วยกันเถอะ” เย่ชิงเสวียนตบหลังเธอ บอกให้เธอไปด้วยกัน
“อืม!” เย่หว่านเอ๋อตื่นเต้น สามารถไปด้วยได้ถือว่าดีที่สุด ทั้งเธอยังมีโอกาสได้เจอกับพี่สาวของเธอด้วย
จากนั้น ภายใต้การนำของเย่ชิงเสวียน พวกเขาก็ได้มาถึงตรงหน้าสถูปวิญญาณอย่างรวดเร็ว เมื่อมองเข้าไปยังสถูปวิญญาณที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้าก็ต่างจากที่เห็นไกลๆ นัก ทั่วทั้งสถูปวิญญาณต่างก็เต็มไปด้วยค่ายกลที่สลักอยู่ ทั้งค่ายกลยังพากันเปล่งแสงวิบวับจับตา ทำให้ทั่วทั้งสถูปวิญญาณราวกับเปล่งแสงได้
ทั่วทั้งอาณาเขตนี้ล้วนแต่ถูกสลักไปด้วยค่ายกลโดยสมบูรณ์ ทั้งหมดรวมเป็นค่ายกลใหญ่! โดยมีสถูปวิญญาณเป็นแกนกลางค่ายกล ถ้าสถูปวิญญาณถูกทำลาย ก็เท่ากับเผ่าภูตจะไม่สามารถซ่อนตัวได้อีก ทั้งยังไม่สามารถโจมตีตอบโต้ได้อีกด้วย
สถูปวิญญาณนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นที่นี่แบบสุ่ม แต่เกิดจากคำนวณอย่างดี ด้วยความที่เป็นแกนกลางของค่ายกล มันจึงถูกสร้างขึ้นมาให้งดงามจับตาเป็นพิเศษ ล่อตาให้ใจให้เข้ามาทำลายซะเหลือเกิน ยังไงก็ตาม เพื่อที่จะไม่ให้สถูปวิญญาณนี้ถูกทำลายได้ง่ายๆ วัตถุดิบที่ใช้สร้างจึงเป็นวัตถุดิบหายากมากสุดๆ
แค่มองด้วยตาเปล่าอี้เทียนหยุนก็รู้ได้แล้วว่า ถ้าไม่ใช่ระดับราชาวิญญาณขึ้นไปล่ะก็ ไม่มีทางทำลายสถูปวิญญาณนี้ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
หลังจากเดินเข้ามาในสถูปวิญญาณนี้ ด้านในยิ่งมอบความตื่นตะลึงให้ยิ่งกว่า รอบๆ ล้วนแต่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณซึ่งเข้มข้นกว่าโลกภายนอกไม่รู้กี่เท่า ยังไงก็ตาม มันก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาหินวิญญาณหยกอยู่ จำเป็นต้องส่งพลังวิญญาณจากหินวิญญาณหยกเข้ามาในสถูปวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ถึงจะสามารถคงความเข้มข้นของพลังวิญญาณนี้ไว้ได้
อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็เข้ามาถึงยังห้องกลั่นโอสถ ที่นี่เป็นที่ที่นักกลั่นโอสถไว้ใช้กลั่นโอสถ ระดับของพวกเขาก็ไม่ได้ต่ำ เพียงแต่ยาที่เขาสร้างออกมากลับไม่ได้สูงนัก พวกเขามีพลังระดับก่อแกนวิญญาณ แต่ยาที่พวกเขาทำออกมาได้เป็นเพียงเม็ดยาชั้น 2 ชั้น 3 เท่านั้น ทั้งยังเป็นแบบที่พอกล้อมแกล้มอีกด้วย
นี่คือนักกลั่นโอสถของพวกเขา เนื่องเพราะเป็นเผ่าที่เด่นทางด้านค่ายกล ทำให้มีส่วนน้อยที่เลือกจะทำการเป็นนักกลั่นโอสถ ทั้งพรสวรรค์ในด้านกลั่นโอสถยังมีอย่างจำกัด ทำให้สามารถสร้างเม็ดยาได้เพียงบางชนิดเท่านั้น ทั้งยังเป็นแบบที่พอจะกล้อมแกล้มผ่าน
“ท่านนักบุญหญิง” เมื่อพวกเขาเห็นเย่ชิงเสวียนก็พากันเอ่ยทักทาย
ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเย่ชิงเสวียนจะโด่งดังมากทีเดียว กระทั่งที่นี่ยังมีคนเคารพนับถือ
“อืม ลำบากพวกเจ้าแล้ว” เย่ชิงเสวียนพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นก็พูดว่า “นี่คือผู้ช่วยที่ข้าเชิญมา เขาจะทำการกลั่นโอสถร่วมกับพวกเจ้า เจ้าวางเตาปรุงยาลงก่อน จากนั้นก็ให้เขาใช้เตาปรุงยาของเจ้า”
“ผู้ช่วยอย่างงั้นเหรอ?” พวกเขาพากันมองอี้เทียนหยุนแล้วขมวดคิ้วออกมา คนนอกสำหรับพวกเขาแล้ว ไม่มีความประทับใจใดใดแม้แต่น้อย
“เขาสามารถกลั่นโอสถถึงชั้นไหน แล้วอัตราสำเร็จอยู่ที่เท่าไหร่?”
“ใช่ ถ้าชั้นต่ำเกินไป หรือว่าความเร็วช้าเกินไป สู้ให้พวกเราทำกันเองดีกว่า”
พวกเขาพากันส่งคำถามออกมา ไม่เชื่อในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่เพียงแต่จะอายุน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นคนต่างเผ่าอีก
“เขาสามารถกลั่นโอสถชั้น 4 ได้” เย่ชิงเสวียนตอบออกมา
“สามารถกลั่นโอสถชั้น 4 ได้?” พวกเขาพากันตกใจ งั้นเด็กหนุ่มคนนี้ก็เป็นนักกลั่นโอสถชั้น 4 น่ะสิ?
“ก็ได้ งั้นข้าจะมอบที่นั่งของข้าให้กับเขา หวังว่าเขาจะสามารถกลั่นโอสถชั้น 4 ออกมาได้ ไม่ใช่ว่าเป็นแค่เม็ดยาขยะกลุ่มหนึ่ง”
ผู้จัดการคนนั้นทำได้เพียงลุกขึ้นอย่างไม่ยินยอม จากนั้นก็สละเตาปรุงยาที่ตนใช้อยู่ มอบให้อี้เทียนหยุนใช้การกลั่นโอสถ ทั่วทั้งห้องกลั่นโอสถนี้มีเตาปรุงยาอยู่แค่สามเตาเท่านั้น เมื่อต้องสละเตาปรุงยานี้ไป แน่นอนว่าเขาต้องอยู่กลายเป็นคนว่างงานไป
“ไม่ต้องหรอก เจ้าทำการกลั่นโอสถของเจ้าต่อไปเถอะ ข้ามีเตาปรุงยาของข้าเอง” อี้เทียนหยุนหยิบเอาเตาหลอมม่วงเทวะออกมา แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว
“เจ้ามีเตาหลอมของตัวเองก็ดี แล้วเปลวไฟหลอมยาล่ะ? ที่นี่มีเปลวไฟใต้พิภพบริสุทธิ์อยู่ เมื่อเทียบกับเปลวไฟทั่วไป มันโดดเด่นกว่ามากนัก” เย่ชิงเสวียนถามขึ้น
ที่เตาปรุงยาถูกตั้งอยู่ที่นี่ใช่ว่าจะไร้ที่มาที่ไป เพราะมีเปลวเพลิงใต้พิภพอยู่ จึงทำให้สามารถกลั่นโอสถที่มีระดับสูงขึ้นได้
“พรึบ!”
เปลวเพลิงไร้สิ้นสุดผุดขึ้นมา เทียบกับเปลวเพลิงในเตาหลอมของพวกเขาแล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากี่เท่า ทำให้พวกเขาพากันตกใจ
“ไม่ทราบว่านี่ใช้ได้ไหม?” อี้เทียนหยุนถามด้วยรอยยิ้ม